[CR] [#Review] #Shazam - มิติใหม่ของหนัง #Superheroes สายเกรียนจาก #DC ที่ไม่ดาร์คและไม่บ้าพลัง

ก่อนหน้านี้ถ้าพูดถึงหนัง Superheroes จากค่าย DC หลายคนต้องนึกภาพถึง Batman Begins, Superman Man of Steel, Justice League ที่หนังจะมาแนวดาร์คๆ และอัดแน่นไปด้วยความบ้าพลังจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของค่ายไปแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งคนชอบก็ชอบสุดๆ คนไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลย แต่มารอบนี้ DC เหมือนพยายามจะพลิกมิติใหม่ของ Superhero คนนี้ให้จับกลุ่มได้กว้างขึ้นและให้คนดูได้พบความสดใหม่ของหนังจากค่ายตัวเอง

หนังเล่าถึง “บิลลี่ แบทสัน” ที่พยายามค้นหาแม่ตัวเองที่หายสาบสูญไป แต่จับพลัดจับผลูได้ไปพบกับพ่อมดที่กำลังตามหาคนที่มีหัวใจบริสุทธิ์เพื่อมารับสืบทอดอำนาจแห่ง Superhero ด้วยการตะโกนคำว่า SHAZAM! ซึ่งพลังเขายังคงความเป็นเด็กน้อยด้วยหัวใจที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายดั่ง ชาแซมมุ่งมั่นที่จะทดสอบขีดความสามารถของเขา ด้วยความบ้าระห่ำอันแสนสุขของเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เขาก็ต้องการที่จะเชี่ยวชาญการใช้พลังเหล่านี้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะไปต่อกรกับพลังอำนาจอันร้ายกาจที่ถูกควบคุมโดย “ดร. แธดิอุส ซิวานา”

ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ ของ DC ที่ผ่านมา ดูเหมือนหนังเรื่องนี้จะมี scale ที่เล็กแทบจะที่สุดแล้วมั๊ง เพราะหนังแทบจะไม่ได้มีฉากที่ดูหวือหวาอลังการอะไรมากมาย หนังแทบจะไปเน้นโฟกัสที่เรื่องราวของความสัมพันธ์ของตัวละครกับครอบครัว และการเรียนรู้ในการใช้พลังมากกว่าด้วยซ้ำ เราจะเห็นพัฒนาการของตัวละครทั้ง บิลลี่ และ ชาแซม อย่างละเอียดเจาะลึก เหมือนกับหนังต้องการปูทางไว้ไปสู่เส้นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นในภาคต่อไป เพียงแต่ผมติดอยู่นิดเดียวตรงที่ คาแรคเตอร์ที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไหร่ระหว่าง บิลลี่ เด็กที่เก็บตัวเงียบ กับ ชาแซม ที่ดูจะเกรียนออกนอกหน้า

เอกลักษณ์ของหนัง DC ที่ยังถูกเก็บไว้ก็คือเรื่องของตัวร้ายที่ต้องมีพลังอำนาจเก่งสูสีพอๆ กับพระเอกแทบจะทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็เช่นกัน หนังปูให้เห็นที่มาที่ไปของตัวร้ายตัวนี้ตั้งแต่เปิดเรื่อวง ทำให้คนดูรู้ว่าเหตุใดตัวร้ายตัวนี้ถึงได้มีความเคียดแค้นและอยากได้พลังแห่งพ่อมดชาแซมมากขนาดนั้น ซึ่งความเก่งและความโหดของเขา มันก็เป็นเหตุผลพอที่จะทำให้หนังดึงตัวละครลับออกมาได้แบบสมเหตุสมผล

อย่างที่เกริ่นไป ว่าฉากแอ็คชั่นระเบิดตึกเผาเมือง หรือฉากโปรดัคชั่นเด็ดๆ ของหนังมีไม่ได้เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นฉากที่ดูเหมือนแฟนตาซีคาร์นิวัลมากกว่า เพราะหนังเล่นอยู่ในช่วงเวลาของวันคริสมาสต์ ภาพที่ออกมามีสีสันสวยงาม งานภาพถือว่าดูกันอิ่ม แต่งานแอ็คชั่น หลายคนอาจจะผิดหวังเล็กๆ เพราะมันไม่ได้มีฉากใหญ่ๆ ให้จดจำเท่าไหร่

โดยส่วนตัวผมมีทั้งความชอบและไม่ชอบในหนังเรื่องนี้ ตัวผมเองอยากเห็นฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ ในสไตล์ DC Superheroes มากกว่านี้ แต่หนังเรื่องนี้มันก็ย่อยง่าย ไม่อึดอัดและมันเป็นหนังที่บอกเล่าถึง coming of age ของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม มันเป็นหนังที่เด็กดูให้สนุกได้ ผู้ใหญ่ก็ดูให้มันส์ได้เช่นกัน หนังมีเอนด์เครดิต 2 ช่วงนะครับ อยู่รอดูกันล่ะ