หลังจากความสำเร็จในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามมุ่งไปยังดวงดาว
พวกเขาตั้งเป้าไปยังเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์และมุ่งไปยังฟุตบอลโลก
ในเดือนมิถุนายนก็จะรู้ว่าจะมีเพิ่มจำนวนทีมที่จะเล่นจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีมหรือไม่ ถ้ามีเพิ่มทีม เวียดนามรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่จะที่จะได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก
ประธาน FIFA Gianni Infantino แจ้งในที่ประชุมประจำปีของ Asian Football Confederation ในตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มจำนวนทีมจากเอเชียเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกจาก 4.5 ทีมเป็น 8.5
"คุณจะมีโอกาสมากขึ้น" Gianni Infantino พูดกับ guardian.com "มันมีโอกาส...มันเป็นไปได้ เรากำลังคุยกับเพื่อน Qatari ของเรา เรากำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ของเราในภูมิภาค เราหวังว่ามันจะเกิดขึ้น เราต้องพยายาม" เขาเสริมด้วยว่า "ส่วนใหญ่" ของสหพันธ์ฟุตบอลสนับสนุนความคิดนี้
นายกสมาคมฟุตบอลเวียดนาม (VFF) Lê Khánh Hải บอกว่า "ฟุตบอลเวียดนามประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2018 มันจะต้องดีขึ้นในปีต่อไป ความสำเร็จแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพที่จะโตขึ้นได้เรื่อยๆ ภายใต้แผนงานที่เหมาะสมและสอดคล้อง เราตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็น Top 15 เอเชียในปี 2020 และเป็น Top 10 ในปี 2030"
"ก็เหมือนชาวเวียดนามหลายๆ คน ผมยังหวังว่าจะเห็นทีมของเราได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกในซักวันนึง และเมื่อฟุตบอลโลกมีขยายทีมที่เข้าแข่งขันเป็น 48 ทีม เอเชียจะมีโอกาสเข้าไปเล่นได้ถึง 9 ทีม เพื่อที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นเราจะต้องได้อันดับ 8 และแน่นอนว่ามันเป็นเป้าที่ยากมาก เราต้องทำงานหนักมาก ว่ากันสั้นๆ เราต้องทำให้ดีที่สุดที่จะได้เข้าไปแข่งโดยตัวเราเอง"
รองนายกสมาคมฟุตบอล Trần Quốc แชร์ความคิดของเขาว่า "มีหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนทีมที่เล่นในฟุตบอลโลกครั้งหน้า"
"ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้ช่องว่างระหว่างเอเชียกับทวีปอื่นแคบลง"
"นอกจากนั้น หลายๆ ประเทศก็เห็นโอกาสนี้เหมือนกันและจะพยายามกันมากขึ้น มันจะทำให้รอบคัดเลือกมีการแข่งขันกันมากขึ้นและน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเวียดนามก็ได้รับโอกาสนั้นเหมือนกัน"
เขาเสริมว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้การเตรียมตัวก็สำคัญ
"ยิ่งเราใส่ใจมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมากขึ้น"
"มันเป็นไปได้ที่จะทำนายผลการแข่งขันแต่ถ้าปราศจากการเตรียมตัวเราคงหวังผลให้ออกมาดีไม่ได้ ตั้งแต่ปลายปี 2018 สมาคมฟุตบอลเวียดนามได้ทำแผนของปี 2019 มันเป็นแผนงานที่ใหญ่และกดดันมาก เราหวังว่าเราจะได้การสนับสนุนมากขึ้นจาก partner และผู้สนับสนุนทั้งหลายเพื่อให้ทีมได้มีโอกาสมากขึ้นในการเข้าโปรแกรมฝึกและได้มีแมตซ์อุ่นเครื่อง มันจะช่วยทีมได้มากก่อนที่จะแข่งจริง"
"ปี 2019 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเวียดนาม เรามีเป้าหมายสำคัญๆ 3 เป้าคือ : การแข่งขันรอบคัดเลือก Asian U23 Championship 2020, การแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 และ ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ซึ่งเป้าแรกก็ได้สำเร็จไปแล้ว สมาคมฟุตบอลเวียดนามจะทำงานร่วมกับทีมโค้ชเพื่อทำแผนสำหรับอีก 2 เป้าที่เหลือ"
ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิกของ Promotion Fund for Vietnamese Football Talent ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมต่างชาติที่มาช่วย อดีตโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นกล่าวว่าการเตรียมทีมเป็นเวลา 7 ปีเพื่อเข้าแข่งฟุตบอลโลกในปี 2026 นั้นไม่เป็นแผนงานที่สั้นไปหรือยาวไป เขาจะใช้ประสบการณ์ที่มีและจะเรียกตัวผู้เชี่ยวชาญและโค้ชมาช่วยเพิ่มอีก
เวียดนามเป็นแชมป์ AFF Suzuki Cup 2018 และได้เข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศใน AFC Asian Cup 2019 และอันดับ FIFA ได้อยู่ในกลุ่ม top 100
อันดับของเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 99 จากการจัดอันดับในเดือนกุมภาพันธ์
อยู่อันดับ 16 ในเอเชียและเป็น Top ของอาเซี่ยน ความสำเร็จเหล่านี้ก็ต้องยกให้โค้ชชาวเกาหลีใต้ ปาร์ค ฮัน ซอ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับฟุตบอลเวียดนาม
การมาในประเทศนี้ในช่วงเกือบ 2 ปี ปาร์ค สัญญาว่าจะทำทีมให้อยู่ในอันดับ top 100 และทำได้สำเร็จ เขายังพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกอีกด้วย
ขณะที่เกาหลีใต้พูดอย่างถ่อมตัวว่าเวียดนามต้องใช้เวลา 10 ปีเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก นักบอลที่มีความสามารถอย่างเหงียนคองเฟืองศรัทธาและมีความเชื่อในทีมที่เขาเล่นให้
"ผมเชื่อในทีมชาติเวียดนามเสมอ ด้วยพลังที่ไม่มีวันหมด, ความพยายามที่ต่อเนื่อง และโชค อย่างที่เรามีใน Asian Cup เราสามารถทำทุกอย่างให้เป็นไปได้"
"เราในฐานะผู้เล่นที่ลงแข่งด้วยสปิริตที่สูงและภายใต้บังเหียนของโค้ชปาร์"ค เราจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022"
"มีคลื่นลูกใหม่ของผู้เล่นเก่งๆ ได้เข้ามาในช่วงหลากหลายอายุ ประเทศได้พัฒนาเยาวชนมาเป็นเวลา 10 ปี และได้รับผลตอบแทนที่หอมหวาน"
SEA Games ต้องเหรียญทองเท่านั้น
ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาของรายการแข่งขันฟุตบอลที่จัดขึ้นทุก 2 ปี เวียดนามไม่เคยได้ยืนอยู่บนสุดของโพเดี้ยมเลย ปาร์คและทีมของเราต้องการที่จะนำเหรียญรางวัลกลับบ้านในครั้งนี้
คณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ได้ประกาศว่าผู้เล่นในทีมฟุตบอลจะต้องเป็นผู้เล่น U22 และมีอายุเกิน 22 ได้ 2 คน ข่าวนี้ทำให้ทั้งประเทศคิดว่าพวกเขาต้องทำได้แน่
ผู้เล่นที่มีความสามารถอย่าง striker เหงียน คอง เฟือง, กองกลาง เลือง ซวน เจือง, กองหน้า เหงียน อันห์ ดุ๊ก และ อดีตกัปตัน เหงียน วาน เกวียต ได้ติดเข้ามาในทีม
และจะมีดาราหน้าใหม่อย่าง กองกลาง เหวียน กวาง ไฮ, กองหลัง Trần Đình Trọng และ ดวาน วาน เฮา, ผู้รักษาประตู บุ่ย เตี๋ยน ดุ๋ง และกองหน้า ห่า ดึ๊ก จิง ผู้ซึ่งเป็นตัวผู้เล่นสำคัญให้กับทีมชาติและทีมเยาวชนมาหลายปีมาร่วมทีมด้วย
มีผู้เล่นที่ได้เหรียญเงินใน Asian U23 Championship ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา, อันดับ 4 ใน Asian Games ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้เข้าเล่นรอบรองชนะเลิศในรายการ Asian Cup ที่พึ่งผ่านไป
"ผมสนับสนุนการตัดสินใจในการใช้ตัวผู้เล่น U22 และอายุเกินมันจะทำให้การแข่งขันน่าสนใจมากขึ้น" Vũ Quang Huy ผู้บรรยายมืออาชีพกล่าว
"ในความคิดเห็นของผม ตัวผู้เล่นอายุเกิน 22 2 คนในทีมจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและมีรูปแบบที่ทรงพลังขึ้น, ทำให้การแข่งขันมีคุณภาพมากขึ้น"
"แผน U22+2 จะทำให้โค้ชปาร์คได้มาตัวเลือกมากขึ้นในการจัดแผน ในการแข่งขัน Asian Games ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในทีมประกอบด้วยตัวผู้เล่นหลายช่วงอายุและก็ประสบความสำเร็จได้อันดับ 4 มา"
โค้ชปาร์คกล่าวว่าเขามีแรงกดดันที่จะต้องได้เหรียญทองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับผิดชอบดูแลทั้งทีมชาติและทีม U22 ในเวลาเดียวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
"มีแรงกดดันในการทำงาน ผมต้องทำงานกับทีมเวียดนามในตลอด 4 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ไม่มีงานไหนเลยที่ง่าย แต่สำหรับผมแล้ว แรงกดดันหมายถึงผมต้องทำงานให้หนักขึ้น ผมจะไม่ถอยเพราะแค่ว่ามีแรงกดดันในการทำงานหรอก"
และระหว่างที่เขาหวังถึงความสำเร็จ มันก็ยังมีเรื่องที่ต้องคิด
"ผู้เล่น U22 หลายคนที่เป็นแกนหลักในทีม SEA Games ไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงเล่นในลีกท้องถิ่นเท่าไหร่ และนั่นทำให้ฟอร์มของพวกเขาไม่คงที่"
"มันทำให้ผมกังวลมาก ผมเห็นช่องว่างใหญ่มากระหว่างตัวจริงกับตัวสำรอง ในซีเกมส์เราแข่งทุกๆ 2 วันและแข่งอย่างน้อย 4 ถึง 5 แมตซ์ (กว่าจะถึงรอบชิง) มันยากที่จะเลือกตัวผู้เล่นที่จะลงแข่งในแต่ละแมตซ์ ผมจะทดสอบความสามารถของผู้เล่นและเลือกคนที่ดีที่สุด แต่ต้องแน่ใจด้วยว่าจะเล่นได้ดีตลอดการแข่งขันที่กินระยะเวลาอย่างน้อย 5 สัปดาห์ตลอดทัวร์นาเมนต์"
รองนายกสมาคมฟุตบอล Tuấn เสริมว่า "ฟุตบอลโลกและ SEA Games เป็นเป้าหมายที่ชาวเวียดนามให้ความสำคัญ เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่โค้ชต้องการ"
"โค้ชปาร์คจะได้เวลาและทีมที่จะมีคอร์สเทรนนิ่งและแมตซ์อุ่นเครื่อง นักบอลจะได้การดูแลสุขภาพและการโภชนาการที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีสภาพร่างกายที่ดีตลอดทัวร์นาเมนต์"
การแข่งขัน SEA Games ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ผู้เล่นเยาวชนได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างประเทศไทยไป 4-0 ทำให้ได้ไปเล่นรอบ Finals ของการแข่งขัน U23 Championship ปีหน้าที่กรุงเทพ
ด้วยชัยชนะ 2 ครั้งใน 1 ปี โค้ชปาร์คยืนยันว่าเวียดนามไม่กลัวประเทศไทยที่เป็นแชมป์ SEA Games แล้ว
"ตั้งแต่ผมเป็นโค้ชให้เวียดนาม ผมยังไม่เคยเจอทีมชาติไทย"
"แต่เราได้ชัยชนะจากไทยใน U22 และ U23 พวกเขาเตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ (Asian U23 รอบคัดเลือก) มาเป็นปี ในขณะที่ผู้เล่นเวียดนามทำงาน 2 อาทิตย์ และได้รวมตัวกันเต็มทีมแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น จากนี้ไป เราจะไม่กลัวพวกเขาแล้ว"
ทีมของเขาได้อยู่ร่วมในโถ 1 ร่วมกันกับแชมป์เก่าอุซเบกิสถาน, ประเทศไทย เจ้าภาพ, และทีมที่ได้อันดับ 3 ในปีที่แล้ว กาตาร์
การมุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนก็มีส่วนในความสำเร็จเหมือนกัน
"แผนการพัฒนาเยาวชนระยะยาวเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของสมาคมฟุตบอลเวียดนามในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของทีมชาติ" Tuấn กล่าว
"โครงสร้างการจัดการฟุตบอลแห่งชาติไม่เพียงแต่ช่วยเหลือและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสโมสรฟุตบอลเท่านั้นแต่ยังกระตุ้นให้พวกเขาร่วมมือกับสโมสรต่างชาติเพื่อให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วย มันจะทำให้พวกเขาได้นักบอลที่เก่งจริงและฝึกฝนพวกเขาซึ่งก็จะมาเป็นตัวผู้เล่นให้กับทีมชาติต่อไป"
"เรายังมีแผนที่จะพัฒนาการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ซึ่งจะทำให้นักบอลเยาวชนได้แสดงความสามารถของพวกเขา ผู้เล่นเยาวชนควรจะได้ลงแข่งอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มประสบการณ์และความสามารถ ทีมชาติจะสามารถเข้าแข่งในฟุตบอลโลกได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเยาวชนได้มีแมตซ์แข่งขันอย่างต่อเนื่อง"
"ทีม U20 เราได้เข้าแข่งฟุตบอลโลกในปี 2017 เป็นครั้งแรก เรายังต้องทำงานหนักอีกมากเพื่อให้ U16, U17, U19 และ U20 ได้มีการแข่งขันระดับทวีปอย่างต่อเนื่องทุกปี"
โค้ชปาร์คเห็นด้วยและเสร็จด้วยว่าสภาพร่างกายและรูปร่างของนักบอลเป็นส่วนที่จะผลักดันให้นักฟุตบอลเวียดนามเข้าแข่งขันในฟุตบอลโลกได้
ภายใต้การควบคุมของโค้ชปาร์ค รูปร่างนักบอลได้มีการพัฒนาขึ้นด้วยการเข้าฟิตเนส
ความสำเร็จของทีมก็ยังแสดงให้เห็นได้ด้วยว่ามีผู้เล่นบางคนได้ไปเล่นยังลีคต่างชาติที่มีระดับ
ต้นปีนี้มีผู้เล่น 3 คนได้ไปเล่นในประเทศไทยและเกาหลีใต้ และคนอื่นๆ ก็ถูกจับตามองอยู่
ด้วยทัวร์นาเมนต์ที่ทีมชาติยังต้องเจออีกมาก ตัวผู้เล่นและโค้ชปาร์คก็ยังจะถูกพูดถึงอีกต่อไปในตลอดปีนี้
http://en.vff.org.vn/news/viet-nam-dreams-big-1884.html
ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเวียดนาม
พวกเขาตั้งเป้าไปยังเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์และมุ่งไปยังฟุตบอลโลก
ในเดือนมิถุนายนก็จะรู้ว่าจะมีเพิ่มจำนวนทีมที่จะเล่นจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีมหรือไม่ ถ้ามีเพิ่มทีม เวียดนามรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่จะที่จะได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก
ประธาน FIFA Gianni Infantino แจ้งในที่ประชุมประจำปีของ Asian Football Confederation ในตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มจำนวนทีมจากเอเชียเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกจาก 4.5 ทีมเป็น 8.5
"คุณจะมีโอกาสมากขึ้น" Gianni Infantino พูดกับ guardian.com "มันมีโอกาส...มันเป็นไปได้ เรากำลังคุยกับเพื่อน Qatari ของเรา เรากำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ของเราในภูมิภาค เราหวังว่ามันจะเกิดขึ้น เราต้องพยายาม" เขาเสริมด้วยว่า "ส่วนใหญ่" ของสหพันธ์ฟุตบอลสนับสนุนความคิดนี้
นายกสมาคมฟุตบอลเวียดนาม (VFF) Lê Khánh Hải บอกว่า "ฟุตบอลเวียดนามประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2018 มันจะต้องดีขึ้นในปีต่อไป ความสำเร็จแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพที่จะโตขึ้นได้เรื่อยๆ ภายใต้แผนงานที่เหมาะสมและสอดคล้อง เราตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็น Top 15 เอเชียในปี 2020 และเป็น Top 10 ในปี 2030"
"ก็เหมือนชาวเวียดนามหลายๆ คน ผมยังหวังว่าจะเห็นทีมของเราได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกในซักวันนึง และเมื่อฟุตบอลโลกมีขยายทีมที่เข้าแข่งขันเป็น 48 ทีม เอเชียจะมีโอกาสเข้าไปเล่นได้ถึง 9 ทีม เพื่อที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นเราจะต้องได้อันดับ 8 และแน่นอนว่ามันเป็นเป้าที่ยากมาก เราต้องทำงานหนักมาก ว่ากันสั้นๆ เราต้องทำให้ดีที่สุดที่จะได้เข้าไปแข่งโดยตัวเราเอง"
รองนายกสมาคมฟุตบอล Trần Quốc แชร์ความคิดของเขาว่า "มีหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนทีมที่เล่นในฟุตบอลโลกครั้งหน้า"
"ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้ช่องว่างระหว่างเอเชียกับทวีปอื่นแคบลง"
"นอกจากนั้น หลายๆ ประเทศก็เห็นโอกาสนี้เหมือนกันและจะพยายามกันมากขึ้น มันจะทำให้รอบคัดเลือกมีการแข่งขันกันมากขึ้นและน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเวียดนามก็ได้รับโอกาสนั้นเหมือนกัน"
เขาเสริมว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้การเตรียมตัวก็สำคัญ
"ยิ่งเราใส่ใจมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมากขึ้น"
"มันเป็นไปได้ที่จะทำนายผลการแข่งขันแต่ถ้าปราศจากการเตรียมตัวเราคงหวังผลให้ออกมาดีไม่ได้ ตั้งแต่ปลายปี 2018 สมาคมฟุตบอลเวียดนามได้ทำแผนของปี 2019 มันเป็นแผนงานที่ใหญ่และกดดันมาก เราหวังว่าเราจะได้การสนับสนุนมากขึ้นจาก partner และผู้สนับสนุนทั้งหลายเพื่อให้ทีมได้มีโอกาสมากขึ้นในการเข้าโปรแกรมฝึกและได้มีแมตซ์อุ่นเครื่อง มันจะช่วยทีมได้มากก่อนที่จะแข่งจริง"
"ปี 2019 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเวียดนาม เรามีเป้าหมายสำคัญๆ 3 เป้าคือ : การแข่งขันรอบคัดเลือก Asian U23 Championship 2020, การแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 และ ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ซึ่งเป้าแรกก็ได้สำเร็จไปแล้ว สมาคมฟุตบอลเวียดนามจะทำงานร่วมกับทีมโค้ชเพื่อทำแผนสำหรับอีก 2 เป้าที่เหลือ"
ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิกของ Promotion Fund for Vietnamese Football Talent ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมต่างชาติที่มาช่วย อดีตโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นกล่าวว่าการเตรียมทีมเป็นเวลา 7 ปีเพื่อเข้าแข่งฟุตบอลโลกในปี 2026 นั้นไม่เป็นแผนงานที่สั้นไปหรือยาวไป เขาจะใช้ประสบการณ์ที่มีและจะเรียกตัวผู้เชี่ยวชาญและโค้ชมาช่วยเพิ่มอีก
เวียดนามเป็นแชมป์ AFF Suzuki Cup 2018 และได้เข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศใน AFC Asian Cup 2019 และอันดับ FIFA ได้อยู่ในกลุ่ม top 100
อันดับของเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 99 จากการจัดอันดับในเดือนกุมภาพันธ์
อยู่อันดับ 16 ในเอเชียและเป็น Top ของอาเซี่ยน ความสำเร็จเหล่านี้ก็ต้องยกให้โค้ชชาวเกาหลีใต้ ปาร์ค ฮัน ซอ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับฟุตบอลเวียดนาม
การมาในประเทศนี้ในช่วงเกือบ 2 ปี ปาร์ค สัญญาว่าจะทำทีมให้อยู่ในอันดับ top 100 และทำได้สำเร็จ เขายังพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกอีกด้วย
ขณะที่เกาหลีใต้พูดอย่างถ่อมตัวว่าเวียดนามต้องใช้เวลา 10 ปีเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก นักบอลที่มีความสามารถอย่างเหงียนคองเฟืองศรัทธาและมีความเชื่อในทีมที่เขาเล่นให้
"ผมเชื่อในทีมชาติเวียดนามเสมอ ด้วยพลังที่ไม่มีวันหมด, ความพยายามที่ต่อเนื่อง และโชค อย่างที่เรามีใน Asian Cup เราสามารถทำทุกอย่างให้เป็นไปได้"
"เราในฐานะผู้เล่นที่ลงแข่งด้วยสปิริตที่สูงและภายใต้บังเหียนของโค้ชปาร์"ค เราจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022"
"มีคลื่นลูกใหม่ของผู้เล่นเก่งๆ ได้เข้ามาในช่วงหลากหลายอายุ ประเทศได้พัฒนาเยาวชนมาเป็นเวลา 10 ปี และได้รับผลตอบแทนที่หอมหวาน"
SEA Games ต้องเหรียญทองเท่านั้น
ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาของรายการแข่งขันฟุตบอลที่จัดขึ้นทุก 2 ปี เวียดนามไม่เคยได้ยืนอยู่บนสุดของโพเดี้ยมเลย ปาร์คและทีมของเราต้องการที่จะนำเหรียญรางวัลกลับบ้านในครั้งนี้
คณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ได้ประกาศว่าผู้เล่นในทีมฟุตบอลจะต้องเป็นผู้เล่น U22 และมีอายุเกิน 22 ได้ 2 คน ข่าวนี้ทำให้ทั้งประเทศคิดว่าพวกเขาต้องทำได้แน่
ผู้เล่นที่มีความสามารถอย่าง striker เหงียน คอง เฟือง, กองกลาง เลือง ซวน เจือง, กองหน้า เหงียน อันห์ ดุ๊ก และ อดีตกัปตัน เหงียน วาน เกวียต ได้ติดเข้ามาในทีม
และจะมีดาราหน้าใหม่อย่าง กองกลาง เหวียน กวาง ไฮ, กองหลัง Trần Đình Trọng และ ดวาน วาน เฮา, ผู้รักษาประตู บุ่ย เตี๋ยน ดุ๋ง และกองหน้า ห่า ดึ๊ก จิง ผู้ซึ่งเป็นตัวผู้เล่นสำคัญให้กับทีมชาติและทีมเยาวชนมาหลายปีมาร่วมทีมด้วย
มีผู้เล่นที่ได้เหรียญเงินใน Asian U23 Championship ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา, อันดับ 4 ใน Asian Games ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้เข้าเล่นรอบรองชนะเลิศในรายการ Asian Cup ที่พึ่งผ่านไป
"ผมสนับสนุนการตัดสินใจในการใช้ตัวผู้เล่น U22 และอายุเกินมันจะทำให้การแข่งขันน่าสนใจมากขึ้น" Vũ Quang Huy ผู้บรรยายมืออาชีพกล่าว
"ในความคิดเห็นของผม ตัวผู้เล่นอายุเกิน 22 2 คนในทีมจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและมีรูปแบบที่ทรงพลังขึ้น, ทำให้การแข่งขันมีคุณภาพมากขึ้น"
"แผน U22+2 จะทำให้โค้ชปาร์คได้มาตัวเลือกมากขึ้นในการจัดแผน ในการแข่งขัน Asian Games ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในทีมประกอบด้วยตัวผู้เล่นหลายช่วงอายุและก็ประสบความสำเร็จได้อันดับ 4 มา"
โค้ชปาร์คกล่าวว่าเขามีแรงกดดันที่จะต้องได้เหรียญทองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับผิดชอบดูแลทั้งทีมชาติและทีม U22 ในเวลาเดียวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
"มีแรงกดดันในการทำงาน ผมต้องทำงานกับทีมเวียดนามในตลอด 4 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ไม่มีงานไหนเลยที่ง่าย แต่สำหรับผมแล้ว แรงกดดันหมายถึงผมต้องทำงานให้หนักขึ้น ผมจะไม่ถอยเพราะแค่ว่ามีแรงกดดันในการทำงานหรอก"
และระหว่างที่เขาหวังถึงความสำเร็จ มันก็ยังมีเรื่องที่ต้องคิด
"ผู้เล่น U22 หลายคนที่เป็นแกนหลักในทีม SEA Games ไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงเล่นในลีกท้องถิ่นเท่าไหร่ และนั่นทำให้ฟอร์มของพวกเขาไม่คงที่"
"มันทำให้ผมกังวลมาก ผมเห็นช่องว่างใหญ่มากระหว่างตัวจริงกับตัวสำรอง ในซีเกมส์เราแข่งทุกๆ 2 วันและแข่งอย่างน้อย 4 ถึง 5 แมตซ์ (กว่าจะถึงรอบชิง) มันยากที่จะเลือกตัวผู้เล่นที่จะลงแข่งในแต่ละแมตซ์ ผมจะทดสอบความสามารถของผู้เล่นและเลือกคนที่ดีที่สุด แต่ต้องแน่ใจด้วยว่าจะเล่นได้ดีตลอดการแข่งขันที่กินระยะเวลาอย่างน้อย 5 สัปดาห์ตลอดทัวร์นาเมนต์"
รองนายกสมาคมฟุตบอล Tuấn เสริมว่า "ฟุตบอลโลกและ SEA Games เป็นเป้าหมายที่ชาวเวียดนามให้ความสำคัญ เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่โค้ชต้องการ"
"โค้ชปาร์คจะได้เวลาและทีมที่จะมีคอร์สเทรนนิ่งและแมตซ์อุ่นเครื่อง นักบอลจะได้การดูแลสุขภาพและการโภชนาการที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีสภาพร่างกายที่ดีตลอดทัวร์นาเมนต์"
การแข่งขัน SEA Games ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ผู้เล่นเยาวชนได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างประเทศไทยไป 4-0 ทำให้ได้ไปเล่นรอบ Finals ของการแข่งขัน U23 Championship ปีหน้าที่กรุงเทพ
ด้วยชัยชนะ 2 ครั้งใน 1 ปี โค้ชปาร์คยืนยันว่าเวียดนามไม่กลัวประเทศไทยที่เป็นแชมป์ SEA Games แล้ว
"ตั้งแต่ผมเป็นโค้ชให้เวียดนาม ผมยังไม่เคยเจอทีมชาติไทย"
"แต่เราได้ชัยชนะจากไทยใน U22 และ U23 พวกเขาเตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ (Asian U23 รอบคัดเลือก) มาเป็นปี ในขณะที่ผู้เล่นเวียดนามทำงาน 2 อาทิตย์ และได้รวมตัวกันเต็มทีมแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น จากนี้ไป เราจะไม่กลัวพวกเขาแล้ว"
ทีมของเขาได้อยู่ร่วมในโถ 1 ร่วมกันกับแชมป์เก่าอุซเบกิสถาน, ประเทศไทย เจ้าภาพ, และทีมที่ได้อันดับ 3 ในปีที่แล้ว กาตาร์
การมุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนก็มีส่วนในความสำเร็จเหมือนกัน
"แผนการพัฒนาเยาวชนระยะยาวเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของสมาคมฟุตบอลเวียดนามในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของทีมชาติ" Tuấn กล่าว
"โครงสร้างการจัดการฟุตบอลแห่งชาติไม่เพียงแต่ช่วยเหลือและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสโมสรฟุตบอลเท่านั้นแต่ยังกระตุ้นให้พวกเขาร่วมมือกับสโมสรต่างชาติเพื่อให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วย มันจะทำให้พวกเขาได้นักบอลที่เก่งจริงและฝึกฝนพวกเขาซึ่งก็จะมาเป็นตัวผู้เล่นให้กับทีมชาติต่อไป"
"เรายังมีแผนที่จะพัฒนาการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ซึ่งจะทำให้นักบอลเยาวชนได้แสดงความสามารถของพวกเขา ผู้เล่นเยาวชนควรจะได้ลงแข่งอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มประสบการณ์และความสามารถ ทีมชาติจะสามารถเข้าแข่งในฟุตบอลโลกได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเยาวชนได้มีแมตซ์แข่งขันอย่างต่อเนื่อง"
"ทีม U20 เราได้เข้าแข่งฟุตบอลโลกในปี 2017 เป็นครั้งแรก เรายังต้องทำงานหนักอีกมากเพื่อให้ U16, U17, U19 และ U20 ได้มีการแข่งขันระดับทวีปอย่างต่อเนื่องทุกปี"
โค้ชปาร์คเห็นด้วยและเสร็จด้วยว่าสภาพร่างกายและรูปร่างของนักบอลเป็นส่วนที่จะผลักดันให้นักฟุตบอลเวียดนามเข้าแข่งขันในฟุตบอลโลกได้
ภายใต้การควบคุมของโค้ชปาร์ค รูปร่างนักบอลได้มีการพัฒนาขึ้นด้วยการเข้าฟิตเนส
ความสำเร็จของทีมก็ยังแสดงให้เห็นได้ด้วยว่ามีผู้เล่นบางคนได้ไปเล่นยังลีคต่างชาติที่มีระดับ
ต้นปีนี้มีผู้เล่น 3 คนได้ไปเล่นในประเทศไทยและเกาหลีใต้ และคนอื่นๆ ก็ถูกจับตามองอยู่
ด้วยทัวร์นาเมนต์ที่ทีมชาติยังต้องเจออีกมาก ตัวผู้เล่นและโค้ชปาร์คก็ยังจะถูกพูดถึงอีกต่อไปในตลอดปีนี้
http://en.vff.org.vn/news/viet-nam-dreams-big-1884.html