Mimizuka: สุสานจมูกชาวเกาหลี 38,000 รายที่ญี่ปุ่น

.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
38,000 Ears and Noses
lay Buried here Mimizuka
.
.
1.

.
Mimizuka Mound in Kyoto
¢  twoKim images / Shutterstock.com
.
.


ท่ามกลางใจกลางย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ
แถบชานเมือง Kyoto ประเทศญี่ปุ่น
บริเวณเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหญ้าสูง 30 ฟุต
มีจมูกชายหญิงเด็กเล็กคนชรากว่า 38,000 ราย
ที่ถูกกองทัพญี่ปุ่นสังหารทิ้ง
ในช่วงการรุกรานเกาหลี  ปลายศตวรรษที่ 16

ในปี 1592
ขุนศึก Toyotomi Hideyosh แม่ทัพญี่ปุ่น
ยกทัพบุกเกาหลีเพื่อพิชิตคาบสมุทรเกาหลีและจีน
เกาหลีในตอนนั้นเป็นเมืองขึ้นของจีน
ในยุคราชวงศ์หมิง Ming dynasty 

ขุนศึกญี่ปุ่นคิดว่าเกาหลีกับจีน
น่าจะค่อนข้างอ่อนแอในช่วงนั้น
ในตอนแรก ๆ
กองทัพญี่ปุ่นประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในการยึดครองคาบสมุทรเกาหลี
แต่ก็ยังไม่สามารถรุกเข้าไปในดินแดนจีนได้
ขุนศึก Toyotomi Hideyosh จึงต้องถอยทัพกลับ
แม้ว่าจะพยายามรุกอีกในปีต่อมา
แต่ก็ไม่ประสพความสำเร็จแต่อย่างใด

ในปี 1597  การรุกรานครั้งใหญ่ครั้งที่ 2
ขุนศึก Toyotomi Hideyosh ได้นำทัพอีกครั้ง
แต่พบกับแนวป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างมาก
จากกองกำลังผสมจีนกับเกาหลี
ในนาม Ming และ Joseon of Korea
ที่โอบล้อมบีบบังคับโจมตีจนกองทัพญี่ปุ่น
ต้องถอนตัวออกจากคาบสมุทรทางตอนใต้
แม้ว่าก่อนหน้านี้กองกำลังผสมทั้งสองชาติ
จะถูกกองทัพญี่ปุ่นปิดล้อมอยู่นานนับ 10 เดือน

ในปี 1598
ขุนศึก Toyotomi Hideyoshi
ตายอย่างกะทันหันไม่ทันสั่งเสีย
สงครามจึงสิ้นสุดลงในเวลาต่อมา

.
.
2.

.
Statue of Toyotomi Hideyoshi
at Hokoku shrine, Osaka
¢ Pumidol / Shutterstock.com
.
.

 
ในครั้งนั้น พวกนักรบญี่ปุ่นมักจะตัดหัวศัตรู
เพื่อเป็นหลักฐานการฆ่าฝ่ายตรงข้าม
โดยหัวพวกศัตรูจะถูกใส่เกลือบรรจุในถัง
แล้วส่งกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น
สถานที่ซึ่งหัวพวกศัตรูจะถูกนับจำนวน
แล้วพวกนักรบญี่ปุ่นจะได้รับรางวัล
ตามจำนวนหัวพวกศัตรูที่ถูกฆ่าทิ้ง

แต่เมื่อการรบของญี่ปุ่นคืบหน้าไปมากแล้ว
การส่งหัวศัตรูจำนวนมากจากสนามรบกลับญี่ปุ่น
กลายเป็นเรื่องยากลำบากในการบริหารจัดการ
ทั้งด้านภาชนะที่บรรจุ เกลือที่ดองไม่ให้เน่า
(ในอดีตเกลือผลิตยาก และมีราคาค่อนข้าแพง)

ในที่สุดก็มีข้อสรุปว่า
จะเก็บเฉพาะจมูกพวกศัตรูญี่ปุ่นเท่านั้น
แม้ว่าพวกข้าศึกฝ่ายตรงข้ามจะยังคงถูกตัดหัว
แต่มีเพียงจมูกเท่านั้นที่ถูกเฉือนออกมา
แล้วดองเกลือใส่ไหส่งกลับไปยังญี่ปุ่น

คำสั่งของขุนศึก Toyotomi Hideyoshi
ในระหว่างการรุกคาบสมุทรเกาหลี คือ
“ ตัดหัวทุกคนให้หมด ไม่ต้องแบ่งแยกว่า
เป็นหญิง หรือ ชาย วัยรุ่น หรือ วัยชรา
พระภิกษุ หรือ ฆราวาส และยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า
เป็นนายทหารระดับสูงในสนามรบ
ให้ฆ่าตั้งแต่ชาวบ้านตามหุบเขา
แม้กระทั่งคนยากไร้  คนสำคัญ/ร่ำรวย "

Stephen R. Turnbull ในหนังสือ การรุกรานของซามูไร
Samurai Invasion : Japan's Korean War 1592 -1598
บอกเล่าเรื่องราวการจดบันทึก
ของนักบวชชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง
ซึ่งบรรยายถึงความโหดร้าย
ที่น่ากลัวที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านเกาหลี

" ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
พวกเราไล่ล่าและไล่ตามพวกมันในภูเขา
และรอบ ๆ  หมู่บ้านกินเวลาถึงหนึ่งวัน
เมื่อพวกมันถูกต้อนเข้ามุมแล้ว
เราได้ทำการสังหารหมู่พวกมันทั้งหมด
ในช่วงเวลา 10 วันนั้น
พวกเราจับศัตรูได้ราว 10,000 คน
แต่พวกเราไม่ได้ตัดหัวพวกมัน
พวกเราเฉือนจมูกของพวกมันออกมา
แทนการตัดหัวของพวกมัน
เพื่อนับแทนว่ามีจำนวนกี่หัว
เฉพาะของ  Yasuharu คนเดียว
ตัดจมูกรวมแล้วมากกว่า 2,000 คนทีเดียว "

จากข้อมูลของ Stephen R. Turnbull
กองทัพของขุนศึก Toyotomi Hideyoshi
ได้รวบรวมหัวคนเกาหลีได้ 185,738 คน
และเป็นหัวคนจีน 29,014 คน
ที่รู้ตัวเลขที่แน่นอนขนาดนี้ได้
เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้
ได้ทำการบันทึกจำนวนคนไว้อย่างละเอียด
พร้อมกับใบสำคัญการจ่ายเงินตามจำนวนหัวศัตรู
ซึ่งเอกสารบางส่วนยังคงเหลืออยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้

ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ยังไม่มีใครทราบจำนวนที่แท้จริงของชาวบ้าน
ที่บาดเจ็บล้มตายจากการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น
เพราะจมูกบางอันไม่ได้ตัดออกจากศพแต่อย่างใด
แต่เพื่อเพิ่มจำนวนศพที่นักรบญี่ปุ่นฆ่าได้กี่ราย
ก็ทำการเฉือนจมูกชาวบ้านเกาหลีทั้งเป็น
เพราะมีชาวเกาหลีอีกจำนวนมากที่รอดตาย
และใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากนานหลายปี
โดยไม่มีจมูกหรือใบหูแบบคนปกติเลย

(น่าจะมีการฉ้อโกงจำนวนศพของนักรบญี่ปุ่น
หรือแสดงสัญญลักษณ์ชัยชนะต่อศัตรู
ด้วยการเฉือนจมูกกับใบหูแทนการฆ่าทิ้ง
แล้วจับมาใช้แรงงาน/เป็นทาสบำเรอ)

จมูกราว 38,000 คนที่ส่งกลับญี่ปุ่น
จะถูกแยกฝังไว้ที่ Kyoto กับ Okayama

ที่ Kyoto
ขุนศึก Toyotomi Hideyoshi
ได้สั่งให้ฝังจมูกที่ถูกเฉือนออกมา
ในเนินดินใต้บริเวณวัด Hokoji
พฤติกรรมที่ผิดปกติ/โรคจิต
ของขุนศึก  Toyotomi Hideyoshi
เจ้าอาวาสอลัชชีบอกว่า
" สะท้อนถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่
ของ Toyotomi Hideyoshi "

(แนวคิดอุบาทว์/ตรรกวิบัติ
แบบทรมานคนก่อนฆ่าให้ตาย
แล้วฝังศพให้เป็นการตอบแทน/ปลอบโยน
หรือตีให้คนให้ขาหัก แล้วมอบไม้เท้าให้
พร้อมกับทวงบุญคุณว่า กูให้มึxแล้วนะ)

สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้
ตามความเชื่อคนใต้ว่า
ขุนศึก  Toyotomi Hideyoshi ถูก ขวง
มาหลอกหลอนจนต้องทำบุญล้างบาป
แต่มันไม่ใช่องคุลีมาลที่จะเป็นพระอรหันต์

แต่จริง ๆ ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า
ขุนศึกรายนี้ทำแบบนี้ไปทำไม
ทำไมจึงต้องให้เกียรติกับ
เหยื่อชะตากรรมที่พวกมันฆ่าทิ้ง
ด้วยการฝังศพแบบชาวพุทธมหายาน
แต่ขุนศึกรายนี้ก็สั่งให้ทำ
หรือต้องการแสดงสัญลักษณ์ชัยชนะ

นับเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว
ที่ Mimizuka Mound เป็นสถานที่แสวงบุญ
สำหรับชาวเกาหลีที่เดินทางไปญี่ปุ่น
ศาลเจ้าเป็นที่รู้จักกันในตอนแรกว่า
Hanazuka  หรือ กองจมูก

แต่หลายทศวรรษต่อมา
หลายคนคิดว่าคำนี้ฟังแล้วดูโหดร้ายเกินไป
จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Mimizuka  หรือ  เนินหู
ทำให้ชื่อใหม่ดูเหมือนว่า
จะช่วยลดความโหดร้ายลงอย่างน้อย
แต่อย่างน้อยฟังแล้วดูดีกว่าเดิมมาก
แทนการใช้ถ้อยคำแบบเดิมในอดีต

แต่ Mimizuka Mound
กลับไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวญี่ปุ่น
จนกระทั่งทศวรรษที่ผ่านมา
เพราะญี่ปุ่นมีนิสัยชอบบิดเบือนประวัติศาสตร์
ด้วยการทำให้ประเทศตนอยู่ในแง่ที่น่าสงสาร
แบบนางเอกคนแสนดีที่ถูกสหรัฐย่ำยีจนแพ้สงคราม

ในปี 1970
Park Chung Hee อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ได้เดินทางไปสักการะเนินดิน Mimizuka
มีบางคนเสนอความคิดเห็นว่า
น่าจะย้ายจมูกในสุสานทั้งหมดนี้
กลับไปยังเกาหลี
เพื่อปลอบโยนวิญญาณของผู้ตาย
แต่บางคนเสนอความคิดเห็นว่า
ตั้งอยู่ตรงนั้นและดีแล้ว
เพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำ
ที่เลวร้ายในอดีตของนักรบญี่ปุ่น
แต่สำหรับชาวเกาหลีจำนวนมาก
เนินดินดังกล่าวนี้ไม่มีอะไรมาก
ไปกว่าอนุสรณ์สถานแสดงชัยชนะ
ของ  ขุนศึก  Toyotomi Hideyoshi

เพราะพวกนี้คือ ผู้เหี้ยมโหด/มหาโจรในประวัติศาสตร์
ที่บางประเทศยกย่องเป็นมหาราช เช่น
อเล็กซานเดอร์  ซีซาร์  เจงกิสข่าน นโปเลียน
แต่จริง ๆ แล้วโลกอยู่เย็นเป็นสุข/สะดวกสบาย
เพราะคนอย่าง เฟลมมิง หลุยส์ ปาสเตอร์ วัตสัน
เอดิสัน เทสล่า ฟอร์ด สตีฟ จอฟ บิล เกตต์
ที่สร้างคุณูประการต่าง ๆ ตามนิยาม
ของนักประวัติศาสตร์ฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกา

.
.
3.
.
¢ twoKim images / Shutterstock.com
.
.


เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/2TOBnq2
https://bit.ly/1NKUfyK
https://bit.ly/2OEaJz9
https://bit.ly/2FNSvZ0

.
.
4.
.
.
5.
.
.
6.

.
.
7.
.
.



เรื่องเล่าไร้สาระ


การตัดหัวคนเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้สังหารแล้ว
ในสมัยก่อนของจีนจะใช้หัวศัตรูแช่น้ำผึ้ง
ซึ่งจะเก็บรักษาไม่ให้เน่าได้เป็นอย่างดี
และใช้รักษาบาดแผลบางประเภทได้ด้วย
ส่วนการใช้เกลือของญี่ปุ่นน่าจะหาน้ำผึ้งยาก
จึงใช้เกลือรักษาหัวของศัตรูแทน

ในสมัยสงครามเวียตนาม
ก็มีการตัดหัวเวียดกงโดยทหารสหรัฐ
เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการฆ่าศัตรูได้จริง
และเป็นการข่มขู่ศัตรูว่าเอาจริง

.
.
8.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
ในยุคล่าสุด ก็พวก ISIS
ใช้วิธีการนี้ในอีรัค ซีเรีย
ได้ผลดีมากในการข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม
.
.
9.
.
¢ ภาพประกอบการ์ตูนเสียดสี
.
.


ส่วนการโฆษณาชวนเชื่อของญี่ปุ่น
ที่มักจะผลิตวาทกรรม/ภาพซ้ำ ๆ ตลอดมา
ให้กลายเป็นประเทศน่าสงสาร
แบบนางเอกคนแสนดีถูกสหรัฐฯ ย่ำยี

ตามที่หลายประเทศเคยถูกญี่ปุ่นรุกราน
มักระบุว่า ญี่ปุ่นมักจะใช้ภาพซ้ำ ๆ
ภาพเด็กในตอนแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ที่ถูกสหรัฐอเมริกายำจนสิ้นสภาพ

ญี่ปุ่นรุกราน/ทำลายประเทศอื่น
จะไม่ยอมรับ/หลีกหนีความจริงตลอดมา
เช่นเรื่อง Comfort Woman ชาวเกาหลี
ที่บ้านทุ่งหาดใหญ่ก็เคยเป็นข่าวดัง
ที่เธอคนหนึ่งยอมเปิดเผยเรื่องราวในอดีต
เพื่อขอกลับไปบ้านเกิดตามหาญาติ
และได้พบน้องสาวเธอก่อนตาย

ในนานกิง จีน มีการฆ่า/ข่มขืนคนจีน
ในพม่า มีการฆ่า/ข่มขืนคนในอาณานิคมอังกฤษ
ในมาเลย์ มีการฆ่า/ข่มขืนคนจีน
เป็นการแบ่งแยกคนนายูกับคนจีน
ให้คนสองชาตินี้เกลียดกันเอง
แต่คนนายู(มลายู) ไม่ชอบคนจีนส่วนหนึ่ง
เลยไม่มีการบันทึกอย่างเป็นทางการ
ในสิงคโปร์ ก็มีการฆ่า/ข่มขืนทั้งจีนทั้งฝรั่ง

ในไทยที่สุสานพวกฝรั่งที่มาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว
ก็มีบันทึกที่ป้ายสุสานป้ายหนึ่งยังจำถ้อยคำที่จารึกไว้ว่า
วันผ่านพ้น ปีผันผ่าน แต่ความทรงจำเราไม่เคยลืม
Days go on. Years go by. But our memory never die.

.
.

.
.
.
.
.
¢ https://bit.ly/2UtYI4u
.
.

ภาพของญี่ปุ่นมักจะเป็นเรื่องหลัก ๆ คือ
.
ซาดาโกะ กับ นกกระเรียนพันตัว
.

.

ชาวนางาซากิเผยประสบการณ์จากระเบิดปรมาณู
.
.
.

¢ : คนบ้าสงคราม
สงครามระหว่างญี่ปุ่น VS โชซอน+ราชวงศ์หมิง
.
.

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่