ผมขอตั้งต้น season 2 ด้วยเรื่องนี้นะครับ
ความรัก เป็นสาเหตุของทุกๆ อย่างก็ว่าได้ ขอเสนอมุมมองของแต่ละคน
เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณา ค่อยๆ อ่านไปนะครับ อย่าเพิ่งสรุป
จนกว่าคุณจะทราบ season 2 ครบทุกองค์ประกอบ
เรื่อง ที่ผมจะเขียนนี้ ผมได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องมาแล้ว
วางโครงการกันเอาไว้ว่า จะขอมาเขียนเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อไป
ในเรื่องที่ดี ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องร้าย
และในเรื่องร้าย ก็อาจจะเป็นเรื่องดี
ดังนั้น ...ไม่มีอะไรแน่นอนนะครับ ^^
สาเหตุเพราะรัก...
ผู้หญิงคนนึง เป็นหญิงสาวชนบทธรรมดา พ่อแม่ของเธอ ก็มีอาชีพทำไร่ทำสวนทั่วไป
แต่ด้วยเพราะความขยันของพ่อแม่ ความประหยัดอดออมจนความมั่นคงพอสมควร
หญิงคนนี้ได้พบกับความรักจากชายหนุ่มในเครื่องแบบ
เขารับราชการ เป็นหนุ่มสุภาพ อนาคตไกล ทั้งสองตกลงแต่งงาน พ่อแม่ก็พลอยอิ่มใจ
ลูกจะเป็นฝั่งเป็นฝา กับคนที่ดูแล้วน่าจะดี ลูกก็ดูแล้วน่าจะมีความสุข
พอแต่งกัน ก็มีลูกด้วยกัน พร้อมๆกับ คนเป็นพ่อของลูก ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
เงินเดือนข้าราชการนั้น ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก (สมัยเมื่อ 30 -40 ปีก่อน)
คนเป็นแม่นั้นก็ต้องหาอาชีพเสริม เพื่อช่วยสามีทำงานหาเลี้ยงลูก ที่เกิดแล้วและเกิดมาอีก
ครอบครัวนี้มีลูก 3 คนด้วยกัน ดังนั้น การจะได้อะไรมาสักอย่างนึง ไม่ใช่เร่ื่องง่าย
เพราะถูกสอนมาให้ประหยัด และก็ไม่ใช่มีที่มีทางแล้วขายทิ้งเพื่อให้ตัวเองสบาย
คนสมัยก่อนนั้น รักษาสมบัติกันได้ เพราะรู้จักอดออม และที่สำคัญ ความอดทนเป็นเลิศ
แม่ของลูกทั้ง 3 นี้ ก็ออกไปยึดอาชีพค้าขายปลาในตลาด ขายไปขายมาเริ่มมีสตางค์
เพราะเป็นคนที่คิดถึงลูกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือดีๆ
อยากให้ลูกไม่ลำบากเหมือนตัวเอง ส่วนสามีที่รับราชการ แม้จะมีตำแหน่งที่ดีขึ้น
แต่เงินก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก คนเป็นแม่จึงเป็นแบกภาระทั้งหมดไว้บนสองบ่า
ที่เขาว่า ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก อันนั้นก็น่าจะจริง เพราะแม่คนนี้ผลักดันให้ลูก
เรียนหนังสือสูงๆ และเรียนในโรงเรียนที่ดี ลูกของแม่ทั้ง 3 คน จบมาจากสถานการศึกษา
ที่มีชื่อเสียง เรียกว่า เรียนดี แม่ก็สบายใจ มีความสุขไปกับลูกแม้จะลำบากตรากตรำแค่ไหน
แม่คนนี้ ก็เพียรพยายามเหลือเกิน เพื่อส่งลูกให้ถึงฝั่ง
แต่ก่อนที่ลูกจะถึงฝั่ง........
ในทะเลอันแสนกว้าง มันก็ต้องมีคลื่นลมแรง และพายุเสมอ
เมื่อแม่จับได้ว่าพ่อของลูก มีคนอื่น พร้อมๆกับมีเสียงฤา เสียงเล่าอ้าง จากผู้ปรารถนาดี
แม่เลือกจะเงียบเสีย ไม่ได้ถามอะไรออกไปมาก เพราะไม่อยากจะให้ครอบครัวมีปัญหา
แม่เลือกใช้วิธีไปหาหมอดูตามตำหนักทรง
ไต่ถามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ได้ความว่า สามีนั้น ถูกคุณไสย เสน่ห์อย่างนึง ชู้ของสามีนั้นเล่นของต่ำใส่สามี
คนเป็นเมียก็ไปหาหมอแก้ไข คนนั้นที คนนี้ที ไปเรื่อยๆ ตรงไหนว่าดีก็ไป
ไปบนบานศาลกล่าวตรงไหนที่ได้ไปก็มาก
พร้อมๆกับขอให้ช่วยให้การค้าขายเจริญๆ ขึ้นไปด้วย
จนในวันนึง ได้รับข่าวว่า สามีนั้น ฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดน้ำจากสะพาน
ทั้งตัวเอง และลูกๆ ต่างช็อคเพราะคาดไม่ถึงว่า สามีและพ่อของตนจะทำแบบนี้
ไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย สามีนั้นก็ดูไม่มีวี่แววเลยว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้
ไม่มีคำสั่งเสียใดๆ ไว้ให้ เรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจอะไร ก็มองไม่เห็นว่ามีเค้าลางใดๆ
ได้แค่มีคำถามในใจเกิดขึ้นในทุกดวงใจ ของคนในครอบครัว ว่า "ทำไม?"
เรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องโศกเศร้ากลับตะละปัด เมื่อมีหญิงสาว มาบอกว่าเป็นเมีย
ของสามีตน ในงานศพ คนแล้วคนเล่า ความรักที่ดูเหมือนจะจบลงด้วยความเศร้า
แม้จะมีเรื่องคลางแคลงใจกัน ก็ไม่ใช่เสียแล้ว เพราะราชการ มีสลิปเงินเดือน มามอบให้พร้อมกับ
เงินที่ควรได้หลังจากพนักงานราชการควรได้
เรื่องทุกอย่าง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สลิปเงินเดือนที่แจ้งว่า สามีตนเองมีรายได้ หลักหมื่น
และเพ่ิมขึ้นทุกปี ต่างจากที่เคยบอกตนเอง และหนำซ้ำยังแบมือขอตนก่อนไปทำงานเสมอ
ภาพความจำเป็นต้องใช้เงินต่างๆที่ผุดขึ้นในความทรงจำ ของตน เกี่ยวกับชายคนรัก
ย้อนกลับมาให้กระแทกหัวใจคนเป็นเมีย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ความอับอาย ความเจ็บปวด
ความเสียใจ นานาชนิด ประเดประดังเข้าสู่หัวใจคนเป็นแม่ และเป็นเมีย
ชนิดที่ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวกันบ้างเลย
คำถามมากมาย เกิดขึ้นในใจ ความกังวลนานาประการที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับรู้ว่า
สามีของตน และพ่อของลูกได้ลาโลกไปในสภาพที่ทิ้งคำถามให้คนในครอบครัว
เป็นผู้ตอบ ก็ว่าหนักแล้ว แล้วนี่หรือ ? ผลของการตอบแทนของคนเป็นเมียที่ซื่อสัตย์
เจ็บเกินจะกล่าวอะไรออกมา แต่ก็ต้องอดทนเพื่อลูก ๆ
แม้มองไม่เห็นว่า อะไรจะอยู่ข้างหน้า หรือวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
คนเป็นแม่ ก็ต้องเดินต่อไป หัวใจในตอนนี้ ได้สลายกลายเป็นผุยผงไปแล้ว
ความรักที่เคยมี ตอนนี้ได้แปรสภาพกลายเป็นความร้าย ความเกลียดชัง
และ --------------------ความแค้น------------------ที่ไม่อาจลืม
-----------------------------------------------------------------------------------------
ถัดมาหลายปี หลายปีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (5555555555)
ผมได้พบกับเพื่อน คนนึง เพื่อนผมคนนี้ มาปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ
(ครับ ...เมื่อก่อน ผมเปิดช่วยคนอยู่นะ รู้กันในกลุ่ม คนหมู่มากเหมือนกัน)
ผมไม่ได้ออกตัวหรอกว่าผมจะช่วยใครเป็นเรื่องคนปากต่อปากมากกว่า
ทีนี้ ผมกับกลุ่ม (เมื่อก่อนมีกลุ่มนะ) ก็นัดเจอกัน แม่ของเพื่อนก็มาทำอาหารให้กินด้วย
แม่ของเพื่อนเป็นคนทำอาหารอร่อยมาก อร่อยไปเสียทุกอย่างเลย
ผมก็เป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย ขอให้มีคนเลี้ยง ก็ไปหมด กินได้555555555555
ในขณะที่ทุกคนกำลังรุมล้อมตั้งวงเล่าเรื่องผี ผมก็เลือกจะเป็นตัวของเอง
ลงไปนอนผ่าวงอยู่คนเดียว (คุณคงรู้นะครับ ว่าผมมีกิริยาเป็นคนสบ๊าย สบาย 55555555)
เพราะหลายคนนั่งพับเพียบเรียบร้อย สำรวมกิริยา
เขาเล่าไปผมก็นอนกินขนมที่แม่เพื่อนนำมาฝาก
ในขณะที่นอนกิน(เสวยบุญ)เพลินๆ ผมได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมาเตะจมูก
ผมก็ยังเลือกไม่พูดอะไร ผมเห็นผู้ชายใส่เสื้อขาดๆ วิ่นๆ มีน้ำหยดๆ มายืน
(นึกภาพออกมะ ? คุณลองลงไปนอนบนพื้นซิครับ เอาขาก่ายขาข้างนึง กระดิกๆขานิดๆ
มีขนมพวก ฝอยทอง เม้ดขนุนบนพุงตัวเอง นอนหลับตาอย่างสบายอารมณ์)
ชายคนนั้นมายืนมองผมตรงๆ น้ำที่เกาะบนใบหน้าเขา ก็กำลังจะหยดลงบนหน้าผม
ใบหน้าที่ซีดเซียว ซีดระดับกระดาษเลยทีเดียว เป้าตาลึก คล้ำดำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ผมไม่รอช้าลุกขึ้นนั่งทันที ใครจะยอมให้น้ำบนหน้าเขาหยดใส่หน้า ใส่ปากผมล่ะ?
(เป็นคุณ คุณจะอ้าปากรอใช่มะครับ 55555555555?)
ผมรู้เลยว่าเขาเป็นใคร ผมเก็บอาการ นั่งคิดอยู่สักครู่หนึ่ง...........
ตอนนั้นผมและคนในกลุ่ม เพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก ทุกๆคนเคยคุยกันบ้างแล้ว
แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวต่อกันมากนัก
เรื่องนี้ก็ไม่เคยถูกพูดขึ้นมาเลย ผมเดินออกไปหาแม่ของเพื่อนทันที
แม่กำลังปรุงอาหารให้พวกเราอยู่ เพื่อนของผมก็เดินเข้ามา
ผมยิงคำถามใส่แม่เพื่อนทันที
"แม่ครับ ถ้ามีอะไร ถ้าเจถาม แม่จะตอบเจตรงๆ ใช่มั้ย?ครับ" แม่รับคำ
"แม่ให้อภัยพ่อหรือยังครับ? เท่านั้นเอง จวักในมือแม่ก็แทบจะหล่นลงพื้น
อาหารที่แม่กำลังปรุงสุดฝีมือก็แทบจะไม่มีใครได้กิน
แม่ทำท่าจะเป็นลม หน้าแม่ซีด มือเย็น แม่ช็อกในคำถามนี้หนักมากครับ
เพื่อนผมน้ำตาปริ่มรัวคำถามเป็นปืนอาก้าใส่ผม
ผมบอกว่า ผมเห็นอะไร ผมอยากหาคำอธิบายจากแม่บ้าง
"แม่ปฏิเสธเสียงระรัว ว่าแม่ไม่เคยคิดอะไรในเรื่องนี้แล้ว"
แต่จะให้อภัยแม่ก็ไม่รู้จะอภัยเรื่องอะไร
แม่เล่าแบบกระท่อนกระแท่นให้ผมฟัง
รวมแล้วก็มีแค่นี้ล่ะ 5 ประโยคจบแล้วครับ
แต่สิ่งที่ผมเห็นมันมากกว่านั้น ผมเห็นย้อนไปในส่ิงที่แม่ไม่ได้เล่า
ว่าแม่เองก็พยายามเล่นคุณไสยนั้นกลับเหมือนกัน
แม่พยายามทั้งแก้ทั้งเล่น อีรุงตุงนังไปหมด
ภาพความเจ็บแค้นของแม่ ประเดประดังใส่สมองผม
ความรู้สึกของแม่ถูกถ่ายเทลงมาที่ใจของผม
ผมเห็นใจแม่เหลือเกิน ผู้ชายเจ้าชู้ มีจุดจบแบบอนาถแล้ว
ความตายนี้เป็นผลของการกระทำของเขาแล้ว
แต่ความตายนี้ยังไม่พอสำหรับใจของหญิงคนที่เคยผูกรักกัน
ชาติปัจจุบันของชายคนนี้จบลงแล้ว
แต่ยังคงทิ้งความเจ็บช้ำจนหาทางออกไม่เจอให้ผู้หญิงคนนี้อีกนานเท่านาน
แม่จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ว่าต้องอโหสิกรรมอะไร
อภัยตรงไหน ถ้าเขาจะไปไม่ดี ก็เรื่องของเขา
ดูท่าแล้ว แม่จะสะใจด้วยซ้ำ ถึงสิ่งที่ผมเล่าออกไป
เพื่อนผมดึงผมออกมาจากแม่ พร้อมๆกับร้องไห้
เพื่อนผมสงสารพ่อ อยากช่วยพ่อ ต้องทำอะไรเพื่อนก็พร้อมจะทำ
เมื่อแม่ให้อภัยพ่อไม่ได้ ผมจึงถามเพื่อนว่า แล้วตัวเขาคิดยังงัยล่ะ
ให้อภัยพ่อได้มั้ย? เพื่อนผมก็ช็อคไปนานครับ คำพูดถึงพ่อในรูปแบบสั้นๆ
ทำให้ผมรู้ว่าเขากับพ่อไม่มีอะไรผูกพันกันสักเท่าไรเลย
ผ่านไปนาน กว่าเพื่อนจะตั้งตัวได้ ผมก็เกินจะพูดจาอะไรออกไป
เห็นใจผู้ถูกกระทำ แม้เพื่อนจะกล่าวอโหสิกรรมแล้ว แต่ใจก็ยังให้ไม่หมด
ยกให้ไม่หมดหรอกครับ ทั้งแม่ทั้งเพื่อน ผมเข้าใจครับ ...จึงไม่ได้เรียกร้องให้ใครต้องฝืนใจ
ทุกอย่างจึงค่อยเป็นค่อยไป ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ ในทุกฝ่าย
เวลานั้นผ่านมา8ปีแล้วครับ
เมื่อวันก่อนในขณะที่ผมสวดมนต์อยู่ ภาพพ่อของเพื่อนคนนี้ก็ปรากฎ
ผมของเพื่อนทักทายผมยิ้มแจ่มใสดี
พ่อใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีเทาอ่อนๆ ซึ่งพ่อก็อาศัยอยู่ในบ้านของเพื่อนผมที่ต่างจังหวัดนั่นเอง
ผมยิ้มทักทายพ่อด้วยความรู้สึกชื่นใจ
ผลของการที่เพื่อนเชื่อผม ให้อภัยพ่อ พยายามนั่งสมาธิ ทำบุญ ทำทานส่งไปให้พ่อนั้น
พ่อของเขาได้รับและสุขสบายขึ้นต่างจากตอนที่มาหาผมครั้งแรกลิบลับ
ความจริง ผีในทีวี เขาก็เก่งจะครับ บางทีเขาก็สร้างได้คล้ายเกือบเหมือนกับของจริงเลย
เล่นเขาผมกลัวในทีวีมากกว่าด้วยซ้ำ บางครั้งหลอนจนไม่กล้าไปอาบน้ำ
เพื่อนผมใจคลายแล้ว เหลือแต่แม่เพื่อนผมนี่ล่ะครับ ... ที่ยังยึดอยู่กับชายคนที่เคยผูกพันกันในชาตินี้
ละครเรื่องความรักของแม่เพื่อนผม ดูจะจบโหดร้ายเหลือทนใช่มั้ยครับ?
แต่ละครความรักของแม่เพื่อนผมก็จบไปแล้ว เหลือแค่แม่เพื่อนผมนี่ล่ะครับ ที่ยังไม่ยอมจบ
อะไรที่ยังไม่จบมักจะมีภาคต่อเสมอ เหมือนผมก็เหมือนกัน
ผมคิดจะจบการเขียนของผมหลายพันครั้งในการเขียน
ผมมีความกลัวในหลายๆเรื่อง และการเขียนของผม ก็ยากกว่าของคนอื่น ข้อแม้ในการเขียน
ของผม เขาตั้งไว้ยากจนผมเริ่มท้อ แต่วันนี้ สามารถถ่ายทอดมุมมองความรักได้ 1 มุม ผมก็ดีใจครับ
มุมความรักของแม่เพื่อนนั้น....ป่านนี้ก็ยังสางปมไม่ออกเลยครับ
ไม่ใช่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผม ผมจะสางปมให้ใครได้หมด
มีหลายต่อคลายครั้งทีเดียว ที่นำมาพาซึ่งความทุกข์ใจเหลือจะกล่าวให้แก่ใจผม
และสุดท้ายกลายเป็นผมเอง ที่ต้องทุกข์ใจเพราะ กรรมของคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของผม
คนที่ผูกใจไม่ยอมคลาย ไม่ยอมรับว่า ละครจบแล้ว จนหาจุดอภัยไม่เจอ
ในวันใดวันนึง พ่อและแม่ของเพื่อน จะต้องไปเจอกันอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ที่ไหน และเป็นอย่างไร แต่ต้องไปเจอกันแน่นอนครับ เป็นคุณจะเสี่ยงมั้ยครับ?
เสี่ยงไปรัก เสี่ยงไปรักก่อนแล้วเกลียด
เสี่ยงไปเกลียดก่อนแล้วรัก
เสี่ยงไปฆ่าก่อนแล้วค่อยมารัก
เสี่ยงไปรักก่อนแล้วค่อยเกลียด
หรือ จะยอมรับแต่ชาตินี้ ว่าจบแล้ว ไม่ผูกใจไปกับใคร
ยอมจบ เพื่อให้เจอสิ่งที่ดีกว่า
ยอมทิ้งความเจ็บปวดทั้งหมด ไว้ตรงนั้น วันนั้นแล้วเริ่มต้นใหม่ๆ
กับเรื่องราวต่างๆ ที่จะเข้ามา
หรือ เลือกจะเสี่ยง แบบแม่ของเพื่อนผม
เรื่องนี้ หากเกิดประโยชน์ กับผู้ใด ผมขอถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
ถวายต่อครูบาอาจารย์ ผุ้มีคุณ และเจ้าของเรื่องทั้งหมดนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ ^^
ผม และกรรมของเขา season 2.1 ตอน ความรัก ความร้าย
ความรัก เป็นสาเหตุของทุกๆ อย่างก็ว่าได้ ขอเสนอมุมมองของแต่ละคน
เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณา ค่อยๆ อ่านไปนะครับ อย่าเพิ่งสรุป
จนกว่าคุณจะทราบ season 2 ครบทุกองค์ประกอบ
เรื่อง ที่ผมจะเขียนนี้ ผมได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องมาแล้ว
วางโครงการกันเอาไว้ว่า จะขอมาเขียนเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อไป
ในเรื่องที่ดี ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องร้าย
และในเรื่องร้าย ก็อาจจะเป็นเรื่องดี
ดังนั้น ...ไม่มีอะไรแน่นอนนะครับ ^^
สาเหตุเพราะรัก...
ผู้หญิงคนนึง เป็นหญิงสาวชนบทธรรมดา พ่อแม่ของเธอ ก็มีอาชีพทำไร่ทำสวนทั่วไป
แต่ด้วยเพราะความขยันของพ่อแม่ ความประหยัดอดออมจนความมั่นคงพอสมควร
หญิงคนนี้ได้พบกับความรักจากชายหนุ่มในเครื่องแบบ
เขารับราชการ เป็นหนุ่มสุภาพ อนาคตไกล ทั้งสองตกลงแต่งงาน พ่อแม่ก็พลอยอิ่มใจ
ลูกจะเป็นฝั่งเป็นฝา กับคนที่ดูแล้วน่าจะดี ลูกก็ดูแล้วน่าจะมีความสุข
พอแต่งกัน ก็มีลูกด้วยกัน พร้อมๆกับ คนเป็นพ่อของลูก ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
เงินเดือนข้าราชการนั้น ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก (สมัยเมื่อ 30 -40 ปีก่อน)
คนเป็นแม่นั้นก็ต้องหาอาชีพเสริม เพื่อช่วยสามีทำงานหาเลี้ยงลูก ที่เกิดแล้วและเกิดมาอีก
ครอบครัวนี้มีลูก 3 คนด้วยกัน ดังนั้น การจะได้อะไรมาสักอย่างนึง ไม่ใช่เร่ื่องง่าย
เพราะถูกสอนมาให้ประหยัด และก็ไม่ใช่มีที่มีทางแล้วขายทิ้งเพื่อให้ตัวเองสบาย
คนสมัยก่อนนั้น รักษาสมบัติกันได้ เพราะรู้จักอดออม และที่สำคัญ ความอดทนเป็นเลิศ
แม่ของลูกทั้ง 3 นี้ ก็ออกไปยึดอาชีพค้าขายปลาในตลาด ขายไปขายมาเริ่มมีสตางค์
เพราะเป็นคนที่คิดถึงลูกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือดีๆ
อยากให้ลูกไม่ลำบากเหมือนตัวเอง ส่วนสามีที่รับราชการ แม้จะมีตำแหน่งที่ดีขึ้น
แต่เงินก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก คนเป็นแม่จึงเป็นแบกภาระทั้งหมดไว้บนสองบ่า
ที่เขาว่า ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก อันนั้นก็น่าจะจริง เพราะแม่คนนี้ผลักดันให้ลูก
เรียนหนังสือสูงๆ และเรียนในโรงเรียนที่ดี ลูกของแม่ทั้ง 3 คน จบมาจากสถานการศึกษา
ที่มีชื่อเสียง เรียกว่า เรียนดี แม่ก็สบายใจ มีความสุขไปกับลูกแม้จะลำบากตรากตรำแค่ไหน
แม่คนนี้ ก็เพียรพยายามเหลือเกิน เพื่อส่งลูกให้ถึงฝั่ง
แต่ก่อนที่ลูกจะถึงฝั่ง........
ในทะเลอันแสนกว้าง มันก็ต้องมีคลื่นลมแรง และพายุเสมอ
เมื่อแม่จับได้ว่าพ่อของลูก มีคนอื่น พร้อมๆกับมีเสียงฤา เสียงเล่าอ้าง จากผู้ปรารถนาดี
แม่เลือกจะเงียบเสีย ไม่ได้ถามอะไรออกไปมาก เพราะไม่อยากจะให้ครอบครัวมีปัญหา
แม่เลือกใช้วิธีไปหาหมอดูตามตำหนักทรง
ไต่ถามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ได้ความว่า สามีนั้น ถูกคุณไสย เสน่ห์อย่างนึง ชู้ของสามีนั้นเล่นของต่ำใส่สามี
คนเป็นเมียก็ไปหาหมอแก้ไข คนนั้นที คนนี้ที ไปเรื่อยๆ ตรงไหนว่าดีก็ไป
ไปบนบานศาลกล่าวตรงไหนที่ได้ไปก็มาก
พร้อมๆกับขอให้ช่วยให้การค้าขายเจริญๆ ขึ้นไปด้วย
จนในวันนึง ได้รับข่าวว่า สามีนั้น ฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดน้ำจากสะพาน
ทั้งตัวเอง และลูกๆ ต่างช็อคเพราะคาดไม่ถึงว่า สามีและพ่อของตนจะทำแบบนี้
ไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย สามีนั้นก็ดูไม่มีวี่แววเลยว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้
ไม่มีคำสั่งเสียใดๆ ไว้ให้ เรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจอะไร ก็มองไม่เห็นว่ามีเค้าลางใดๆ
ได้แค่มีคำถามในใจเกิดขึ้นในทุกดวงใจ ของคนในครอบครัว ว่า "ทำไม?"
เรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องโศกเศร้ากลับตะละปัด เมื่อมีหญิงสาว มาบอกว่าเป็นเมีย
ของสามีตน ในงานศพ คนแล้วคนเล่า ความรักที่ดูเหมือนจะจบลงด้วยความเศร้า
แม้จะมีเรื่องคลางแคลงใจกัน ก็ไม่ใช่เสียแล้ว เพราะราชการ มีสลิปเงินเดือน มามอบให้พร้อมกับ
เงินที่ควรได้หลังจากพนักงานราชการควรได้
เรื่องทุกอย่าง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สลิปเงินเดือนที่แจ้งว่า สามีตนเองมีรายได้ หลักหมื่น
และเพ่ิมขึ้นทุกปี ต่างจากที่เคยบอกตนเอง และหนำซ้ำยังแบมือขอตนก่อนไปทำงานเสมอ
ภาพความจำเป็นต้องใช้เงินต่างๆที่ผุดขึ้นในความทรงจำ ของตน เกี่ยวกับชายคนรัก
ย้อนกลับมาให้กระแทกหัวใจคนเป็นเมีย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ความอับอาย ความเจ็บปวด
ความเสียใจ นานาชนิด ประเดประดังเข้าสู่หัวใจคนเป็นแม่ และเป็นเมีย
ชนิดที่ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวกันบ้างเลย
คำถามมากมาย เกิดขึ้นในใจ ความกังวลนานาประการที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับรู้ว่า
สามีของตน และพ่อของลูกได้ลาโลกไปในสภาพที่ทิ้งคำถามให้คนในครอบครัว
เป็นผู้ตอบ ก็ว่าหนักแล้ว แล้วนี่หรือ ? ผลของการตอบแทนของคนเป็นเมียที่ซื่อสัตย์
เจ็บเกินจะกล่าวอะไรออกมา แต่ก็ต้องอดทนเพื่อลูก ๆ
แม้มองไม่เห็นว่า อะไรจะอยู่ข้างหน้า หรือวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
คนเป็นแม่ ก็ต้องเดินต่อไป หัวใจในตอนนี้ ได้สลายกลายเป็นผุยผงไปแล้ว
ความรักที่เคยมี ตอนนี้ได้แปรสภาพกลายเป็นความร้าย ความเกลียดชัง
และ --------------------ความแค้น------------------ที่ไม่อาจลืม
-----------------------------------------------------------------------------------------
ถัดมาหลายปี หลายปีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (5555555555)
ผมได้พบกับเพื่อน คนนึง เพื่อนผมคนนี้ มาปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ
(ครับ ...เมื่อก่อน ผมเปิดช่วยคนอยู่นะ รู้กันในกลุ่ม คนหมู่มากเหมือนกัน)
ผมไม่ได้ออกตัวหรอกว่าผมจะช่วยใครเป็นเรื่องคนปากต่อปากมากกว่า
ทีนี้ ผมกับกลุ่ม (เมื่อก่อนมีกลุ่มนะ) ก็นัดเจอกัน แม่ของเพื่อนก็มาทำอาหารให้กินด้วย
แม่ของเพื่อนเป็นคนทำอาหารอร่อยมาก อร่อยไปเสียทุกอย่างเลย
ผมก็เป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย ขอให้มีคนเลี้ยง ก็ไปหมด กินได้555555555555
ในขณะที่ทุกคนกำลังรุมล้อมตั้งวงเล่าเรื่องผี ผมก็เลือกจะเป็นตัวของเอง
ลงไปนอนผ่าวงอยู่คนเดียว (คุณคงรู้นะครับ ว่าผมมีกิริยาเป็นคนสบ๊าย สบาย 55555555)
เพราะหลายคนนั่งพับเพียบเรียบร้อย สำรวมกิริยา
เขาเล่าไปผมก็นอนกินขนมที่แม่เพื่อนนำมาฝาก
ในขณะที่นอนกิน(เสวยบุญ)เพลินๆ ผมได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมาเตะจมูก
ผมก็ยังเลือกไม่พูดอะไร ผมเห็นผู้ชายใส่เสื้อขาดๆ วิ่นๆ มีน้ำหยดๆ มายืน
(นึกภาพออกมะ ? คุณลองลงไปนอนบนพื้นซิครับ เอาขาก่ายขาข้างนึง กระดิกๆขานิดๆ
มีขนมพวก ฝอยทอง เม้ดขนุนบนพุงตัวเอง นอนหลับตาอย่างสบายอารมณ์)
ชายคนนั้นมายืนมองผมตรงๆ น้ำที่เกาะบนใบหน้าเขา ก็กำลังจะหยดลงบนหน้าผม
ใบหน้าที่ซีดเซียว ซีดระดับกระดาษเลยทีเดียว เป้าตาลึก คล้ำดำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ผมไม่รอช้าลุกขึ้นนั่งทันที ใครจะยอมให้น้ำบนหน้าเขาหยดใส่หน้า ใส่ปากผมล่ะ?
(เป็นคุณ คุณจะอ้าปากรอใช่มะครับ 55555555555?)
ผมรู้เลยว่าเขาเป็นใคร ผมเก็บอาการ นั่งคิดอยู่สักครู่หนึ่ง...........
ตอนนั้นผมและคนในกลุ่ม เพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก ทุกๆคนเคยคุยกันบ้างแล้ว
แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวต่อกันมากนัก
เรื่องนี้ก็ไม่เคยถูกพูดขึ้นมาเลย ผมเดินออกไปหาแม่ของเพื่อนทันที
แม่กำลังปรุงอาหารให้พวกเราอยู่ เพื่อนของผมก็เดินเข้ามา
ผมยิงคำถามใส่แม่เพื่อนทันที
"แม่ครับ ถ้ามีอะไร ถ้าเจถาม แม่จะตอบเจตรงๆ ใช่มั้ย?ครับ" แม่รับคำ
"แม่ให้อภัยพ่อหรือยังครับ? เท่านั้นเอง จวักในมือแม่ก็แทบจะหล่นลงพื้น
อาหารที่แม่กำลังปรุงสุดฝีมือก็แทบจะไม่มีใครได้กิน
แม่ทำท่าจะเป็นลม หน้าแม่ซีด มือเย็น แม่ช็อกในคำถามนี้หนักมากครับ
เพื่อนผมน้ำตาปริ่มรัวคำถามเป็นปืนอาก้าใส่ผม
ผมบอกว่า ผมเห็นอะไร ผมอยากหาคำอธิบายจากแม่บ้าง
"แม่ปฏิเสธเสียงระรัว ว่าแม่ไม่เคยคิดอะไรในเรื่องนี้แล้ว"
แต่จะให้อภัยแม่ก็ไม่รู้จะอภัยเรื่องอะไร
แม่เล่าแบบกระท่อนกระแท่นให้ผมฟัง
รวมแล้วก็มีแค่นี้ล่ะ 5 ประโยคจบแล้วครับ
แต่สิ่งที่ผมเห็นมันมากกว่านั้น ผมเห็นย้อนไปในส่ิงที่แม่ไม่ได้เล่า
ว่าแม่เองก็พยายามเล่นคุณไสยนั้นกลับเหมือนกัน
แม่พยายามทั้งแก้ทั้งเล่น อีรุงตุงนังไปหมด
ภาพความเจ็บแค้นของแม่ ประเดประดังใส่สมองผม
ความรู้สึกของแม่ถูกถ่ายเทลงมาที่ใจของผม
ผมเห็นใจแม่เหลือเกิน ผู้ชายเจ้าชู้ มีจุดจบแบบอนาถแล้ว
ความตายนี้เป็นผลของการกระทำของเขาแล้ว
แต่ความตายนี้ยังไม่พอสำหรับใจของหญิงคนที่เคยผูกรักกัน
ชาติปัจจุบันของชายคนนี้จบลงแล้ว
แต่ยังคงทิ้งความเจ็บช้ำจนหาทางออกไม่เจอให้ผู้หญิงคนนี้อีกนานเท่านาน
แม่จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ว่าต้องอโหสิกรรมอะไร
อภัยตรงไหน ถ้าเขาจะไปไม่ดี ก็เรื่องของเขา
ดูท่าแล้ว แม่จะสะใจด้วยซ้ำ ถึงสิ่งที่ผมเล่าออกไป
เพื่อนผมดึงผมออกมาจากแม่ พร้อมๆกับร้องไห้
เพื่อนผมสงสารพ่อ อยากช่วยพ่อ ต้องทำอะไรเพื่อนก็พร้อมจะทำ
เมื่อแม่ให้อภัยพ่อไม่ได้ ผมจึงถามเพื่อนว่า แล้วตัวเขาคิดยังงัยล่ะ
ให้อภัยพ่อได้มั้ย? เพื่อนผมก็ช็อคไปนานครับ คำพูดถึงพ่อในรูปแบบสั้นๆ
ทำให้ผมรู้ว่าเขากับพ่อไม่มีอะไรผูกพันกันสักเท่าไรเลย
ผ่านไปนาน กว่าเพื่อนจะตั้งตัวได้ ผมก็เกินจะพูดจาอะไรออกไป
เห็นใจผู้ถูกกระทำ แม้เพื่อนจะกล่าวอโหสิกรรมแล้ว แต่ใจก็ยังให้ไม่หมด
ยกให้ไม่หมดหรอกครับ ทั้งแม่ทั้งเพื่อน ผมเข้าใจครับ ...จึงไม่ได้เรียกร้องให้ใครต้องฝืนใจ
ทุกอย่างจึงค่อยเป็นค่อยไป ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ ในทุกฝ่าย
เวลานั้นผ่านมา8ปีแล้วครับ
เมื่อวันก่อนในขณะที่ผมสวดมนต์อยู่ ภาพพ่อของเพื่อนคนนี้ก็ปรากฎ
ผมของเพื่อนทักทายผมยิ้มแจ่มใสดี
พ่อใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีเทาอ่อนๆ ซึ่งพ่อก็อาศัยอยู่ในบ้านของเพื่อนผมที่ต่างจังหวัดนั่นเอง
ผมยิ้มทักทายพ่อด้วยความรู้สึกชื่นใจ
ผลของการที่เพื่อนเชื่อผม ให้อภัยพ่อ พยายามนั่งสมาธิ ทำบุญ ทำทานส่งไปให้พ่อนั้น
พ่อของเขาได้รับและสุขสบายขึ้นต่างจากตอนที่มาหาผมครั้งแรกลิบลับ
ความจริง ผีในทีวี เขาก็เก่งจะครับ บางทีเขาก็สร้างได้คล้ายเกือบเหมือนกับของจริงเลย
เล่นเขาผมกลัวในทีวีมากกว่าด้วยซ้ำ บางครั้งหลอนจนไม่กล้าไปอาบน้ำ
เพื่อนผมใจคลายแล้ว เหลือแต่แม่เพื่อนผมนี่ล่ะครับ ... ที่ยังยึดอยู่กับชายคนที่เคยผูกพันกันในชาตินี้
ละครเรื่องความรักของแม่เพื่อนผม ดูจะจบโหดร้ายเหลือทนใช่มั้ยครับ?
แต่ละครความรักของแม่เพื่อนผมก็จบไปแล้ว เหลือแค่แม่เพื่อนผมนี่ล่ะครับ ที่ยังไม่ยอมจบ
อะไรที่ยังไม่จบมักจะมีภาคต่อเสมอ เหมือนผมก็เหมือนกัน
ผมคิดจะจบการเขียนของผมหลายพันครั้งในการเขียน
ผมมีความกลัวในหลายๆเรื่อง และการเขียนของผม ก็ยากกว่าของคนอื่น ข้อแม้ในการเขียน
ของผม เขาตั้งไว้ยากจนผมเริ่มท้อ แต่วันนี้ สามารถถ่ายทอดมุมมองความรักได้ 1 มุม ผมก็ดีใจครับ
มุมความรักของแม่เพื่อนนั้น....ป่านนี้ก็ยังสางปมไม่ออกเลยครับ
ไม่ใช่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผม ผมจะสางปมให้ใครได้หมด
มีหลายต่อคลายครั้งทีเดียว ที่นำมาพาซึ่งความทุกข์ใจเหลือจะกล่าวให้แก่ใจผม
และสุดท้ายกลายเป็นผมเอง ที่ต้องทุกข์ใจเพราะ กรรมของคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของผม
คนที่ผูกใจไม่ยอมคลาย ไม่ยอมรับว่า ละครจบแล้ว จนหาจุดอภัยไม่เจอ
ในวันใดวันนึง พ่อและแม่ของเพื่อน จะต้องไปเจอกันอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ที่ไหน และเป็นอย่างไร แต่ต้องไปเจอกันแน่นอนครับ เป็นคุณจะเสี่ยงมั้ยครับ?
เสี่ยงไปรัก เสี่ยงไปรักก่อนแล้วเกลียด
เสี่ยงไปเกลียดก่อนแล้วรัก
เสี่ยงไปฆ่าก่อนแล้วค่อยมารัก
เสี่ยงไปรักก่อนแล้วค่อยเกลียด
หรือ จะยอมรับแต่ชาตินี้ ว่าจบแล้ว ไม่ผูกใจไปกับใคร
ยอมจบ เพื่อให้เจอสิ่งที่ดีกว่า
ยอมทิ้งความเจ็บปวดทั้งหมด ไว้ตรงนั้น วันนั้นแล้วเริ่มต้นใหม่ๆ
กับเรื่องราวต่างๆ ที่จะเข้ามา
หรือ เลือกจะเสี่ยง แบบแม่ของเพื่อนผม
เรื่องนี้ หากเกิดประโยชน์ กับผู้ใด ผมขอถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
ถวายต่อครูบาอาจารย์ ผุ้มีคุณ และเจ้าของเรื่องทั้งหมดนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ ^^