เมื่อดูรายการปัญญาปันสุข ไมค์ปลดหนี้ ฯลฯ รู้สึกตัวเองแย่ เมื่อก่อนตอนเราเด็กๆ เราดูรายการประเภทนี้ ที่บอกเล่าเรื่องราวสุดรันทดที่ทุกคนเจอ ตายายที่ต้องเลี้ยงหลานที่ลูกเอามาฝากไว้ เด็กที่ต้องทำงานเพราะพ่อแม่เสียชีวิตจากไปหรือพ่อแม่มีฐานะยากจนหรือพ่อแม่เอามาฝากตายายเลี้ยง พ่อแม่ที่ต้องกัดฟันดิ้นรนหาเงินส่งเสียลูกเพราะฐานนะยากจน ไม่มีความสามารถมากพอที่จะส่งลูกเรียนได้ต้องให้ลูกลาออกหรือติดค่าเทอมโรงเรียนไว้ก่อน ฯลฯ
เรารู้สึกใจดำมาก เพราะเราดันมีความคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากหลายๆเคสที่มา มันบิดเบี้ยวตั้งแต่การไม่ประเมินความพร้อมของตนเองก่อนมีลูก และความคิดที่มีลูกไว้เพื่อไว้ใช้งานหรือตอบแทนบุญคุณเลี้ยงดูตอนชรา (ยกเว้นกรณีที่มีตอนมีลูกมีความพร้อมแต่เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ) หากเราประเมินฐานะการศึกษา ความรู้ ความสามารถ การเงิน เราน่าจะมีการวางแผนการมีลูกได้มากกว่านี้ วันนี้เราอาจจะไม่ต้องมาเลี้ยงลูกของลูก ไม่ต้องทุกข์ใจส่งลูกเรียนไม่ได้ ฯลฯ
เงิน อาจจะไม่ได้การรันตีความคนๆนั้นจะเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาได้เป็นคนดี แต่อยากน้อยเราว่า เขาไม่น่าจะต้องมาทุกข์ใจเรื่องเงินที่เอามาเลี้ยงลูกแน่ๆ เงินไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่หลายๆอย่าง ต้องใช้เงิน
การศึกษา ความรู้ ความสามารถ อาจจะไม่ได้การรันตีความคนๆนั้นจะเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาได้เป็นคนดี แต่อย่างน้อยสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานให้คนๆหนึ่ง คิดวิเคราะห์ก่อนจะมีลูกได้ไม่มากก็น้อย แต่พยายามหาลู่ทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น หรือ จัดการเงินได้บ้าง หรือย่างน้อยๆ ในกรณีที่เป็นพนักงานงานประจำ หรือ ทำงานราชการ หรือ ทำงานในรัฐวิสาหกิจ ก็จะมีสินเชื่อกู้เงินจากธนาคารให้เลือก มากกว่าจะมีเงินกู้นอกระบบ เป็นหนทางเดียวให้กู้เงินมาใช้จ่าย
เรายิ่งรู้สึกใจดำขึ้นไปอีก ในกรณีที่มีลูกแล้ว 1 คน แล้วยังมีคนที่ 2 คนที่ 3 ต่อมาอีก และมานั่งเศร้าใจกับชีวิตของตนเองที่ไม่มีฐานะมากพอที่จะส่งเสียลูกได้
ถ้าเจอเคสที่ การศึกษาไม่ได้สูง ชีวิตยังหาเช้ากินค่ำให้ได้พอกินไปวันๆ แต่ตัดสินใจที่จะมีลูกก็จะดูเป็นคนที่แย่มากกว่าเดิมอีก เพราะจะกลายเป็นว่า คนจนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมีลูก ประเทศนี้ช่างน่าเวทนา
เราไม่ได้คิดว่า ต้องรวยก่อนถึงจะมีลูกหรือต้องพร้อมก่อนถึงจะมีลูก เพราะรวยหรือพร้อม ของคนเราไม่เท่ากัน คนมีเงิน 5 ล้าน อาจจะบอกว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูก แต่อีกคนมีเงิน 100 ล้านอาจจะบอกยังไม่พร้อม
แต่เราอยากให้ลองประเมินตัวเองก่อนมีลูกว่าพร้อมจริงๆใช่หรือไม่ อยากมีลูกเพราะอะไร เน้นปริมาณแล้วมีคุณภาพไหม มองลูกเป็นคนที่จะเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพแก่สังคม ประเทศชาติ หรือเป็นเพียงการลงทุนระยะยาวที่เอาไว้กินดอกกินผลตอนชรา ถ้าอยากมีลูก อาจจะต้องมองหาลู่ทางที่จะพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อให้ support เด็กคนนึงที่ไม่ได้ขอเราเกิดมา ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
มันน่าสังเกตตรงที่ คนมีฐานะการเงินดี หรือ คนมีการศึกษา มักกจะไม่มีลูกเลย หรือ มีแค่คนเดียว เสียเป็นส่วนใหญ่ คำนวณหน้าหลังทุกอย่าง แต่คนที่บ่นว่าขาดโอกาส ไม่มีจะกิน กลับมีลูก หลายคนมีมากกว่า 1 คน
และสิ่งที่น่าคิดเวลามีเคสเหล่านี้ที่มาออกรายการ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนหรอ ทำไมหลุดมาถึงมือเอกชนได้
เราอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่อยู่ในวัยเหล่าเรียนของกลุ่มคนเหล่านี้มาก ให้เขาได้รับการศึกษาให้สู่ที่สุด อย่างน้อยขั้นต่ำต้องจบปริญญาตรี เพราะการศึกษามันเปลี่ยนชีวิตหรือความคิดของคนๆนึงได้ และได้รับข้อมูลเรื่องการวางแผนชีวิต การเงิน การมีลูก ให้กับเด็กเหล่านี้ อย่างน้อยสิ่งที่ควรรับรู้คือเรื่องการมีลูกเมื่อพร้อม เมื่อไหร่ที่เรียกว่าพร้อม มีลูกต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ความเสี่ยงที่อาจจะจะเกิดขึ้นและต้องมีการวางแผนเตรียมไว้เมื่อมีลูกมีอะไรบ้าง (สามีภรรยาแยกทางเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวอาจจะเกิดจากการหย่าร่างหรือเสียชีวิต , ตกงานหรือธุรกิจล้ม , ค่าใช่จ่ายที่เกิดจากความเจ็บป่วยกับเด็กหรือตนเองโดยเฉพาะโรคที่หายากหรือเบิกจ่ายไม่ได้ รัฐไม่ Support ค่าใช้จ่าย , เด็กพิการ หรือ ตนเองพิการ) และให้สะท้อนถึงไปที่ตัวของเขาด้วย ว่า ชีวิตทีเกิดมาจากพ่อแม่ที่ไม่สามารถ Support ลูกได้ คนเป็นลูกพบเจอความลำบากอย่างไรบ้าง และเขาควรจะหยุดวงจรนี้ได้อย่างไร
ดูรายการปัญญาปันสุข ไมค์ปลดหนี้ ฯลฯ รู้สึกตัวเองแย่
เรารู้สึกใจดำมาก เพราะเราดันมีความคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากหลายๆเคสที่มา มันบิดเบี้ยวตั้งแต่การไม่ประเมินความพร้อมของตนเองก่อนมีลูก และความคิดที่มีลูกไว้เพื่อไว้ใช้งานหรือตอบแทนบุญคุณเลี้ยงดูตอนชรา (ยกเว้นกรณีที่มีตอนมีลูกมีความพร้อมแต่เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ) หากเราประเมินฐานะการศึกษา ความรู้ ความสามารถ การเงิน เราน่าจะมีการวางแผนการมีลูกได้มากกว่านี้ วันนี้เราอาจจะไม่ต้องมาเลี้ยงลูกของลูก ไม่ต้องทุกข์ใจส่งลูกเรียนไม่ได้ ฯลฯ
เงิน อาจจะไม่ได้การรันตีความคนๆนั้นจะเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาได้เป็นคนดี แต่อยากน้อยเราว่า เขาไม่น่าจะต้องมาทุกข์ใจเรื่องเงินที่เอามาเลี้ยงลูกแน่ๆ เงินไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่หลายๆอย่าง ต้องใช้เงิน
การศึกษา ความรู้ ความสามารถ อาจจะไม่ได้การรันตีความคนๆนั้นจะเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาได้เป็นคนดี แต่อย่างน้อยสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานให้คนๆหนึ่ง คิดวิเคราะห์ก่อนจะมีลูกได้ไม่มากก็น้อย แต่พยายามหาลู่ทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น หรือ จัดการเงินได้บ้าง หรือย่างน้อยๆ ในกรณีที่เป็นพนักงานงานประจำ หรือ ทำงานราชการ หรือ ทำงานในรัฐวิสาหกิจ ก็จะมีสินเชื่อกู้เงินจากธนาคารให้เลือก มากกว่าจะมีเงินกู้นอกระบบ เป็นหนทางเดียวให้กู้เงินมาใช้จ่าย
เรายิ่งรู้สึกใจดำขึ้นไปอีก ในกรณีที่มีลูกแล้ว 1 คน แล้วยังมีคนที่ 2 คนที่ 3 ต่อมาอีก และมานั่งเศร้าใจกับชีวิตของตนเองที่ไม่มีฐานะมากพอที่จะส่งเสียลูกได้
ถ้าเจอเคสที่ การศึกษาไม่ได้สูง ชีวิตยังหาเช้ากินค่ำให้ได้พอกินไปวันๆ แต่ตัดสินใจที่จะมีลูกก็จะดูเป็นคนที่แย่มากกว่าเดิมอีก เพราะจะกลายเป็นว่า คนจนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมีลูก ประเทศนี้ช่างน่าเวทนา
เราไม่ได้คิดว่า ต้องรวยก่อนถึงจะมีลูกหรือต้องพร้อมก่อนถึงจะมีลูก เพราะรวยหรือพร้อม ของคนเราไม่เท่ากัน คนมีเงิน 5 ล้าน อาจจะบอกว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูก แต่อีกคนมีเงิน 100 ล้านอาจจะบอกยังไม่พร้อม
แต่เราอยากให้ลองประเมินตัวเองก่อนมีลูกว่าพร้อมจริงๆใช่หรือไม่ อยากมีลูกเพราะอะไร เน้นปริมาณแล้วมีคุณภาพไหม มองลูกเป็นคนที่จะเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพแก่สังคม ประเทศชาติ หรือเป็นเพียงการลงทุนระยะยาวที่เอาไว้กินดอกกินผลตอนชรา ถ้าอยากมีลูก อาจจะต้องมองหาลู่ทางที่จะพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อให้ support เด็กคนนึงที่ไม่ได้ขอเราเกิดมา ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
มันน่าสังเกตตรงที่ คนมีฐานะการเงินดี หรือ คนมีการศึกษา มักกจะไม่มีลูกเลย หรือ มีแค่คนเดียว เสียเป็นส่วนใหญ่ คำนวณหน้าหลังทุกอย่าง แต่คนที่บ่นว่าขาดโอกาส ไม่มีจะกิน กลับมีลูก หลายคนมีมากกว่า 1 คน
และสิ่งที่น่าคิดเวลามีเคสเหล่านี้ที่มาออกรายการ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนหรอ ทำไมหลุดมาถึงมือเอกชนได้
เราอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่อยู่ในวัยเหล่าเรียนของกลุ่มคนเหล่านี้มาก ให้เขาได้รับการศึกษาให้สู่ที่สุด อย่างน้อยขั้นต่ำต้องจบปริญญาตรี เพราะการศึกษามันเปลี่ยนชีวิตหรือความคิดของคนๆนึงได้ และได้รับข้อมูลเรื่องการวางแผนชีวิต การเงิน การมีลูก ให้กับเด็กเหล่านี้ อย่างน้อยสิ่งที่ควรรับรู้คือเรื่องการมีลูกเมื่อพร้อม เมื่อไหร่ที่เรียกว่าพร้อม มีลูกต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ความเสี่ยงที่อาจจะจะเกิดขึ้นและต้องมีการวางแผนเตรียมไว้เมื่อมีลูกมีอะไรบ้าง (สามีภรรยาแยกทางเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวอาจจะเกิดจากการหย่าร่างหรือเสียชีวิต , ตกงานหรือธุรกิจล้ม , ค่าใช่จ่ายที่เกิดจากความเจ็บป่วยกับเด็กหรือตนเองโดยเฉพาะโรคที่หายากหรือเบิกจ่ายไม่ได้ รัฐไม่ Support ค่าใช้จ่าย , เด็กพิการ หรือ ตนเองพิการ) และให้สะท้อนถึงไปที่ตัวของเขาด้วย ว่า ชีวิตทีเกิดมาจากพ่อแม่ที่ไม่สามารถ Support ลูกได้ คนเป็นลูกพบเจอความลำบากอย่างไรบ้าง และเขาควรจะหยุดวงจรนี้ได้อย่างไร