จิตวิทยาครอบครัว

วันนี้เราจะมาวิเคราะห์จิตวิทยาครอบครัวและวัยรุ่นของสามีตัวเอง

พ่อสามีตอนนั้นอายุเท่าไหร่ไม่แน่ใจแต่ว่าเจอกับแม่ของสามีตอนที่แม่อายุ 17 น่าจะไม่ม. 5 ก็ม. 6 นี่แหละเป็นช่วงปีสุดท้ายที่แม่เรียน high school ส่วนพ่อจบไฮสคูลไปนานแล้วแล้วก็ทำงานแล้วด้วยเพราะเป็นผู้จัดการร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง ส่วนแม่ก็เป็นพนักงานหรือเป็นเด็กพาร์ทไทม์ที่ไปหางานทำพร้อมกับเรียนไปด้วย คบกับแม่ได้แป๊บเดียวก็ทำให้แม่ท้องก็คือมีสามีของเราเกิดขึ้นมา พอแม่เรียนจบม. 6 แม่ก็อยากจะไปเรียนพยาบาลต่อ แต่ช่วงนั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรียนไปแล้วครึ่งทางหรือว่ายังไงแต่ว่ายังไม่ทันจะได้เป็นพยาบาลแม่ก็เจอว่าตัวเองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แล้วแม่ก็เสียชีวิตตอนอายุ 27 ปีซึ่งตอนนั้นสามีเราเขาบอกว่าเขาอายุ 8 ขวบ แสดงว่าแม่มีเขาตอนแม่อายุ 19 แล้วพ่อก็ไม่ได้มีลูกจากบ้านนี้บ้านเดียวนะพ่อก็ยังมีลูกติดกับเมียคนก่อนหน้า เขาเล่าให้เราฟังว่าตอนพ่อเรียนจบมัธยมใหม่ๆก็คือม. 6 บ้านเรานั่นแหละสิ่งแรกที่พ่อทำก็คือได้เมียแล้วก็ทำเมียท้องด้วย ทั้งที่ไม่มีปัญญาที่จะเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่กันเอง พ่อก็พาเมียอุ้มท้องมาอยู่บ้านย่าฝากย่าดูแลแล้วตัวเองก็ไปทำงานไม่ได้เรียนต่อ พอคลอดลูกมาคนแรกเป็นลูกสาวให้ชื่อว่าคริสตัล ต่อมาไม่ถึงปีก็มีลูกคนที่สองชื่อว่าเกรดี้จูเนียร์ ซึ่งพ่อมีลูกหัวปีท้ายปีเลยทั้งๆที่สถานะการเงินไม่เอื้ออำนวย พ่อก็เลยต้องทำงานเสริมทำงานเยอะมากจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ส่วนเมียของพ่อนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไรก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ ตอนนี้พ่อพาเมียออกมาอยู่กันเองแล้วไม่ได้พึ่งย่าแล้ว แต่ด้วยความที่พ่อทำงานยุ่งมากเมียของพ่อคนนี้ก็เลยเล่นชู้กับคนข้างบ้านพอพ่อจับได้ ก็ทะเลาะกันใหญ่โต แล้วพ่อก็เลือกที่จะเดินออกมา แล้วก็มาเจอแม่ของสามีเราซึ่งเป็นเด็กม. ปลายณตอนนั้น ซึ่งพ่อได้ตัดสินใจแล้วที่จะเลิกกับเมียคนแรกแล้วก็มาคบกับแม่ของสามีเรา ทำให้พ่อจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร 2 คนที่มีกับเมียคนแรกพ่อก็เลยต้องทำงานหนักมากเพราะนอกจากจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับลูกของเมียคนแรกแล้วก็ต้องดูแลเมียและลูกคนปัจจุบันด้วย แต่ไม่รู้ด้วยนิสัยหรือสันดานอะไรของพ่อช่วงที่พ่อกลับไปหาไปเยี่ยมลูกกับเมียคนก่อนพ่อก็ไปทำเมียคนก่อนท้องเป็นลูกคนที่ 3 อีก ซึ่งเกิดจากหลังจากสามีของเราได้เกิดมาแล้วปีนึง พ่อก็ตั้งชื่อลูกคนนี้ว่าอาเล็ก ซึ่งในมุมมองของเมียคนปัจจุบันก็คือเป็นอะไรที่รับไม่ได้น่าโมโหมันเป็นการหักหลังกันมากๆคุณบอกว่าคุณไปหาลูกแต่คุณดันไปทำเมียเก่าคุณท้องเนี่ยนะ สามีเราบอกว่าจำได้ว่าพ่อแม่ทะเลาะกันหนักมากช่วงนั้น แต่พ่อกับแม่ก็ยังอยู่ด้วยกันแล้วก็มีน้องสาวให้โคลี่ชื่อว่ามาริสา ทำให้ครอบครัวนี้กลายเป็นครอบครัวใหญ่ก็คือพ่อจะพยายามไปเอาลูกจากเมียคนแรกมาเลี้ยงบ้างบางครั้ง ลูกจากเมียแรก 3 คนกับลูกปัจจุบันอีก 2 เป็น 5 ก็เลี้ยงอยู่ด้วยกันเป็นพี่น้องกันเล่นด้วยกันในสนามเด็กเล่น แต่เมียคนแรกก็ยังอิจฉาไม่เลิกก็จะหาเรื่องทะเลาะกับพ่อและแม่ของสามีเราอยู่เรื่อยๆ จนในที่สุดเมียคนแรกก็สั่งห้ามไม่ให้ลูกของตัวเองมาเจอกับพ่อ ทำให้กลายเป็นพี่น้องไม่รักกัน แล้วแม่ก็ไปเป่าหูเด็ก ว่าพ่อรักลูกคนใหม่มากกว่าพวกเธอทำให้พี่น้องจากเมียคนแรกนั้นเกลียดชังสามีของเรากับน้องสาวของเขามากๆ เขาอิจฉาคิดว่าสามีเรามีชีวิตที่ดีกว่าเพราะได้อยู่กับพ่อ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย พ่อทำงานหนักมาก 3 งานพร้อมกันในวันเดียวแทบจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อเลยแต่แม่รักเขาและน้องสาวมากๆ ไม่ว่าแม่จะพูดอะไรพ่อก็จะทำตามหมดพ่อไม่มีสิทธิ์แตะเนื้อต้องตัวเขาเลยเพราะแม่ปกป้องเขามากๆ แต่ในวันที่แม่เริ่มป่วยแม่เป็นมะเร็งเขาก็เริ่มจะไม่เห็นหน้าแม่แล้วเพราะแม่ต้องไปนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนๆ และในช่วงสุดท้ายของชีวิตแม่เขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเจอ พ่ออ้างว่าสภาพของแม่นั้นดูไม่ดีมากๆจนกลัวว่าลูกจะตกใจและกลัวจึงไม่ให้ไปเจอ วันสุดท้ายก่อนที่แม่จะไปแม่ก็ได้โทรศัพท์มาหาเขาบอกรักเขาบอกให้เขาดูแลตัวเองและดูแลน้อง แล้วแม่ก็จากไป ในงานศพของแม่พ่อไม่อนุญาตให้เปิดโลงศพด้วยซ้ำเขาจึงไม่สามารถจะเห็นได้ว่าแม่หน้าตาเป็นยังไง แล้วหลังจากที่แม่ตายยังไม่ถึงปีพ่อก็ได้พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในบ้าน ในตอนแรกพ่อแนะนำแค่ว่าเป็นพี่เลี้ยงจะมาดูแลพวกเขาแต่สุดท้ายก็คือเมียใหม่พ่อนั่นแหละ พ่อให้เหตุผลว่าผู้หญิงคนนี้จะมาช่วยดูแลพวกเขาพวกเขาจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวมากขึ้นไม่ต้องไปอยู่บ้านย่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยพ่อกับเมียใหม่ออกไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อยๆจนต้องส่งพวกเขาสองคนไปอยู่บ้านย่าเกือบจะทุกวันและทุกสุดสัปดาห์ด้วยซ้ำไป ตอนนี้พ่ออาจจะได้เรียนรู้บทเรียนอะไรมาบ้างแล้วหลังจากที่มีลูก 5 คนพ่อก็ตัดสินใจที่จะไม่มีลูกเพิ่มกับผู้หญิงคนใหม่นี้ แต่ในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตตั้งแต่อายุ 8 ขวบจนเป็นวัยรุ่นอายุ 15 คือเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีความสุขเลย เพราะด้วยความที่ว่าหนึ่งพ่อไม่มีเวลาให้  เขาต้องอยู่กับแม่เลี้ยงหรืออยู่กับคนอื่นตลอด ไม่ได้อยู่กับแม่ตัวเองความรักความอบอุ่นก็ไม่ได้ อยากจะได้จากพ่อของตัวเองพ่อก็ไม่ให้ พยายามที่จะทำดีพยายามที่จะทำตัวเป็นเด็กดีพ่อก็ไม่เห็นความดี พ่อได้แต่มองในจุดบกพร่องของเขาและเอาจุดบกพร่องของเขานั้นมานั่งด่าเขาอยู่เป็นวันๆ พออายุถึงเกณฑ์ที่จะทำงานพิเศษได้เขาก็ไปทำงานพิเศษซึ่งมันอยู่ไกลบ้านมากๆเขาต้องเดินหลายกิโลเมตรพ่อก็ไม่เคยที่จะไปรับไปส่งเลย พอถึงวันศุกร์ที่เป็นวัน pizza ของครอบครัวเป็นวันดูหนังเขาก็อุตส่าห์ไปซื้อโกเซอรี่ซื้อของเข้าบ้านซื้อของกินซื้อพิซซ่ามากะว่าจะมานั่งดูด้วยกันเป็นครอบครัว พอพ่อกับแม่เลี้ยงกลับมาที่บ้านแล้วเห็นว่าห้องน้ำมีรอยนิดหน่อยก็โวยวายทำให้เป็นเรื่องใหญ่หาว่าสามีของเราไม่ช่วยดูแลความสะอาดในบ้านนี่คือเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้สามีเราตัดสินใจออกมาจากบ้านทั้งๆที่อายุยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องออก ตอนที่เขาตัดสินใจออกมาจากบ้านเขาอายุแค่ 17 ก็คือ มอ 5 นี่แหละเรียนยังไม่จบ high school เลย เขาก็เลยไปขออยู่บ้านลุงซึ่งลุงคนนี้เป็นลุงแท้ๆของแม่ของเขาเอง ซึ่งลุงก็ใจดีมากๆลูกของลุงนั้นได้โตออกไปอยู่ข้างนอกกันหมดแล้วลุงอ่ะอยู่คนเดียวกับป้าที่เป็นเมียคนไทย เขาก็ไปอาศัยอยู่บ้านลุง เรียนไปด้วยทำงานพิเศษไปด้วยอยู่ที่แจ็คสันวิลล์ ลุงคนนี้เป็นทหารเรือมาก่อนลุงก็เลยได้ให้คำแนะนำกับเขาในการที่จะไปสมัครเป็นทหารเรือเพื่อให้ได้สวัสดิการและการศึกษา เอาเป็นว่าเราจะตัดจบในเรื่องของสามีเรากับลุงไปแค่นี้ก่อน เพราะเราอยากจะย้อนกลับไปที่พฤติกรรมของพ่อ คือ 1 พ่อไม่ให้เวลาสามีของเราในการ grieving หรือกระบวนการเสียใจเรียนรู้การจากไปของแม่ เขาบังคับให้ลูกเขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์สูญเสียโดยที่ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้สอนไม่ได้คุยอะไรกันเลย ทำเหมือนกับว่าลูกจะสามารถรักษาใจของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องคุยกัน พอเด็กมันไม่ได้รับการคุยไม่ได้รับการรักษาหัวใจจากการสูญเสียแม่ เขาก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา ไม่เข้าเรียน หรือชวนเพื่อนทะเลาะกลายเป็นเด็กที่มีอารมณ์รุนแรง พ่อก็ยิ่งรุนแรงกว่าแทนที่จะเข้าใจลูกหรือพาลูกไปเจอจิตแพทย์พ่อกับด่าทอแล้วก็ตีเขา พ่อตีเขาหนักมากมากขนาดที่ว่าเขาเป็นวัยรุ่นแล้วนะแบบอายุ 12 13 แล้วพ่อยังใช้เข็มขัดตีเขาอยู่เลยซึ่งตอนที่เราเป็นวัยรุ่นแล้วอ่ะพ่อแม่เราไม่ตีเราแล้วนะเพราะเขาถือว่าเราอ่ะโตมาระดับนึงแล้วไม่ควรที่จะต้องมานั่งตีกันแล้วไงน่าจะคุยกันได้แต่พ่อของสามีเราคือยังตีลูกอยู่เลยอ่ะมันเป็นความสัมพันธ์ที่ abusive มากๆ

ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจสามีเรานะว่าจะเกลียดพ่อตัวเองอะไรขนาดนั้นเราก็คิดว่าอ๋ออาจจะเป็นเพราะว่าพ่อหลังจากที่แม่ตายไปได้ยังไม่ถึงปีก็พาเมียใหม่เข้าบ้านเขาอาจจะไม่ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อก็เลยเกลียดพ่อ

ซึ่งจริงๆมันมีอะไรมากกว่านั้นการที่พ่อตีเขาลงไม้ลงมือทั้งๆที่เขาก็โตแล้วเป็นวัยรุ่นแล้วอันนี้คือเป็นอะไรที่รับไม่ได้สุดๆเลย ตั้งแต่นั้นมาเราก็รู้สึกเกลียดพ่อสามีไปเลย รู้สึกสะอิดสะเอียนว่าผู้ชายคนนี้เคยทำอะไรดีบ้างในชีวิต ตั้งแต่เรียนจบก็หาเรื่องหาเหาใส่หัวไม่เลิก แทนที่จะตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานก็รีบมีลูกมีเมียทั้งๆที่ยังดูแลตัวเองก็ไม่ได้ มีลูกมีเมียกับเมียคนเดียวไม่พอยังต้องมีเมีย 2 เมีย 3 อีก ไม่ประเมินไม่ดูตัวเอง ไม่รู้จักเจียมสังขาร

ใครมีความคิดเห็นอย่างไรกับไดนามิกของครอบครัวนี้บ้าง มาแชร์กัน การที่คนคนนึงเติบโตมาเป็นบุคคลที่เราเห็นในทุกวันนี้บางทีเราก็อยากจะย้อนกลับไปว่าในอดีตตอนเขาเป็นเด็กนั้นเขาถูกเลี้ยงมายังไงทำไมโตมาถึงเป็นคนแบบนี้ และนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงอยากจะเอาเรื่องราวของสามีมาแชร์ให้ฟัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่