ถ้าคนไทยมีนิสัยเหมือนคนญี่ปุ่น,เยอรมัน ก็คงทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ดีกว่านี้

  ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้คนทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้มีวินัยการเงินดี ก็คือ ความเป็นผู้มีระเบียบวินัย ซึ่งคนชาติไหนมีสิ่งนี้ ย่อมส่งผลให้ประพฤติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ง่ายและสม่ำเสมอ

  คนได้ที่ฝึกฝนอบรมตัวเองด้านวินัยมาทุกเรื่อง ก็ทำให้เป็นผู้มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตทุกเรื่อง รวมถึงวินัยการเงินด้วย ซึ่งเมื่อมามองดูประเทศที่มีประชากรเก็บเงินเก่ง มีตังค์เหลือเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น 2 ชาติที่กล่าวถึงในที่นี้ คือ ญี่ปุ่นกับเยอรมัน เพราะ 2 ชาตินี้ถูกฝึกอบรมด้านวินัยมาเป็นอย่างดี คนของเขาส่วนใหญ่มีคุณภาพ

บีบีซีของอังกฤษ ทำการสำรวจชาวเยอรมันทั้งประเทศ เพื่อรู้ว่าทำไมเยอรมันถึงเป็นประเทศเดียวในโลกที่สำเร็จการเป็น Fully industrialized country ประเทศเดียวในโลก คือ ประเทศอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ

1. ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต
2. ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่ายๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่ายๆเช่นกัน
3. คนเยอรมันสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน
4. ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี
5. คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่
6. คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า
7. การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
8. เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน อีเมลล์ส่วนตัว Facebook และโทรศัพท์มือถือ …เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน
9. นักข่าวชาวอังกฤษที่ไปทำงานในโรงงาน Faber & Castel ที่เยอรมนี ถูกต่อว่าจากเพื่อนร่วมงานทันทีที่หยิบโทรศัพท์เพื่อต้องการส่ง SMS แค่ครั้งเดียว
10. ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน
11. การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพ เพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร
12. สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจ หากจะได้เป็น Housewife
13. รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ
14. ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง
15. ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
16. อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอดของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด
17. พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด
18. ทีมชาติฟุตบอลของเยอรมนี จะไม่ค่อยมีดาวเด่นที่โด่งดังระดับโลก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัย ด้วยทักษะการเล่นอย่างเป็นทีมเวิร์คมากกว่าความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะบุคคล
19. การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา

[เทคนิคแม่บ้านญี่ปุ่น] ประหยัดค่าอาหารอย่างไรให้มีเงินเก็บล้านเยน
https://www.shufuchan.com/เทคนิคประหยัด-แม่บ้าน/

เรียนรู้วิถีเก็บเงินแบบคนญี่ปุ่น
1. ค้นหาเงินที่จะใช้ได้ ด้วยการจดรายรับและรายจ่ายประจำออกมาก่อน ส่วนต่างระหว่างสองรายการนี้ คือเงินที่จะนำไปจัดสรรเพื่อใช้จ่ายต่อ
2. กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการจะเก็บ แล้วแยกเงินจำนวนนั้นออกไปเลย
3. ตั้งเป้ารายจ่ายในหมวดหมู่ต่าง ๆ โดยแยกเป็น รายจ่ายจำเป็น (ค่าอาหาร ค่าเดินทาง) รายจ่ายเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ (หนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง) รายจ่ายฟุ่มเฟือย (ค่าสันทนาการต่าง ๆ อย่าง กินข้าวนอกบ้าน สังสรรค์กับเพื่อน ช้อปปิ้ง) รายจ่ายพิเศษ (ของขวัญ ซ่อมแซม ซื้อเฟอร์นิเจอร์)
4. เขียนคำมั่นสัญญากับตัวเองในแต่ละเดือน เช่น เดือนนี้จะประหยัดค่าน้ำมันลงจากเดือนก่อนให้ได้ XX บาท, จะลดการออกไปกินข้าวนอกบ้านให้เหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นต้น
5. คำนวณส่วนต่างทุกสิ้นสัปดาห์/ทุกเดือน แล้วทบทวนว่าเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้เมื่อต้นเดือนหรือไม่
https://money.kapook.com/view186952.html

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า 2 ประเทศนี้ ประชากรมีตังค์เหลือเก็บไว้ใช้ส่วนที่ต้องการจะจ่ายได้
   แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ต้องเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบของเยอรมัน คือ ถึงเวลาที่ต้องใช้จ่าย ก็จ่ายออกไปตามสถานะ ตามความจำเป็น ของญี่ปุ่นดูเหมือนยังงกเงิน ไม่ยอมจ่ายอยู่มาก หากเปรียบเทียบเศรษฐกิจระหว่างเยอรมันกับญี่ปุ่น เศรษฐกิจของเยอรมันจะแข็งแกร่งกว่า มีเงินหมุนเวียนในระบบดีกว่า

   การสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียงที่ดีสุด คงต้องเรียนรู้รูปแบบและการฝึกฝนของเยอรมันมาว่า เขาทำกันอย่างไร ถึงได้คุณภาพออกมาเช่นนี้ ซึ่งคนไทยก็ทำได้ เพียงแต่ว่าคนไทยที่มีระเบียบวินัยมีน้อย คนไทยที่ทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้จึงมีแค่ไม่กี่กลุ่ม  คนไทยส่วนใหญ่จะชอบทำอะไรตามใจตัวเองมากกว่า ทำให้การเงินคนไทยส่วนมากค่อนย่ำแย่ถึงอยู่ที่สุด

  ถ้าจะฝึกให้คนไทยทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คงต้องฝึกให้มีวินัยมาแต่เด็กๆเหมือนคนเยอรมันกับญี่ปุ่น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้างที่จะทำให้คนไทยส่วนมากมีระเบียบวินัยที่ดีได้ แต่ก็ต้องเริ่มทำล่ะ ถ้าไม่ทำไม่แก้ไข คนไทยจำนวนมากก็จะต้องประสบปัญหาทางการเงินไม่รู้จบ

   การศึกษาเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ แบบอย่างของเยอรมนีและญี่ปุ่น
https://thaipublica.org/2017/07/pridi56/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่