กติกาเดิม นายกต้องมาจาก สส. เท่านั้น เลือกครั้งก่อนมันมีให้เรากา 2 ใบ
คือเลือก สส.เขต กับ เลือก นายกโดยตรงผ่านปาตี้ลิสต์
บางคนชอบ สส.เขต กาให้พรรคนึง แต่อยากให้คนจากอีกพรรคเป็นนายกก็กาให้ได้
แต่อันปัจจุบันมันกาหมายถึงรวมกันทั้งเขตทั้งพรรค มันเลยพูดยาก ถ้าคะแนนเป็นแบบก่อน ข้างต้นที่ว่ามา
พลังประชารัฐจะอ้างเรื่องป็อปปูล่าโหวต ผมว่ามีน้ำหนักกว่าตอนนี้ เพราะอย่างน้อยอันก่อน
มันระบุชัดเจนว่าใบนี้เป็นการเลือกนายกโดยตรงนะ ไม่เกี่ยวเขต
แต่ไม่ใช่ว่าปัจจุบันอ้างไม่ได้นะ แค่คิดว่ามันไม่เต็มปากอ่ะ เพื่อไทยก็เลี่ยงไปถึงแทคติคที่นั่ง
ลึกๆพูดได้ไม่เต็มปากเหมือนกัน คือแต่ละฝั่งตอนนี้เหมือนอ้างแต่ไม่เต็มปาก แล้วแต่กองเชียร์จะตีความกันเอง
สำหรับผมแล้ว สรุปเลยคือคนร่างกติกาพิสดารนี้ขึ้นมา เจตนาเขาไม่ได้สนเลยว่าความชอบธรรมของคนได้ที่ 1 จะออกมาในแง่ไหน
เขาสนแค่ฆ่าพรรคใหญ่ เพิ่มที่นั่งให้พรรคกลางพรรคเล็ก ให้เกิดรัฐบาลผสม แค่นั้นเอง ในเมื่อเจตนาจริงๆของคนร่างมันอยู่ตรงนี้ชัดเจนมาก
ก็ไม่น่าเถียงกันเรื่องที่ 1 อะไรนี่นะ
ว่าตรงๆ ทั้งเพื่อไทย ทั้งพลังประชารัฐอ้างชอบธรรมที่ 1 ได้ไม่เต็มปากเต็มคำทั้งคู่นั่นแหละ เพราะกติกามันพิสดาร
คือเลือก สส.เขต กับ เลือก นายกโดยตรงผ่านปาตี้ลิสต์
บางคนชอบ สส.เขต กาให้พรรคนึง แต่อยากให้คนจากอีกพรรคเป็นนายกก็กาให้ได้
แต่อันปัจจุบันมันกาหมายถึงรวมกันทั้งเขตทั้งพรรค มันเลยพูดยาก ถ้าคะแนนเป็นแบบก่อน ข้างต้นที่ว่ามา
พลังประชารัฐจะอ้างเรื่องป็อปปูล่าโหวต ผมว่ามีน้ำหนักกว่าตอนนี้ เพราะอย่างน้อยอันก่อน
มันระบุชัดเจนว่าใบนี้เป็นการเลือกนายกโดยตรงนะ ไม่เกี่ยวเขต
แต่ไม่ใช่ว่าปัจจุบันอ้างไม่ได้นะ แค่คิดว่ามันไม่เต็มปากอ่ะ เพื่อไทยก็เลี่ยงไปถึงแทคติคที่นั่ง
ลึกๆพูดได้ไม่เต็มปากเหมือนกัน คือแต่ละฝั่งตอนนี้เหมือนอ้างแต่ไม่เต็มปาก แล้วแต่กองเชียร์จะตีความกันเอง
สำหรับผมแล้ว สรุปเลยคือคนร่างกติกาพิสดารนี้ขึ้นมา เจตนาเขาไม่ได้สนเลยว่าความชอบธรรมของคนได้ที่ 1 จะออกมาในแง่ไหน
เขาสนแค่ฆ่าพรรคใหญ่ เพิ่มที่นั่งให้พรรคกลางพรรคเล็ก ให้เกิดรัฐบาลผสม แค่นั้นเอง ในเมื่อเจตนาจริงๆของคนร่างมันอยู่ตรงนี้ชัดเจนมาก
ก็ไม่น่าเถียงกันเรื่องที่ 1 อะไรนี่นะ