[SR] รีวิว Jann Bistro สาขาอโศก ร้านอาหารไทย-ตะวันตก เดินทางสะดวก ราคาไม่แรง

สวัสดีค่ะ วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมชิมอาหารกับทีมงาน Pantip Review ที่ร้าน Jann Bistro (จันบิสโตร) สาขาอโศก
เลยขอมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ในวันนี้ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปกันค่ะ 


ร้าน Jann Bistro จะมีอยู่ 2 สาขา คือที่ถนนจันทน์เก่า และสาขาอโศก วันนี้เรามาทานกันที่สาขาอโศกกัน

เพี้ยนแว๊น
การเดินทางง่ายมากๆ ค่ะ สามารถนั่ง BTS มาลงสถานีอโศกหรือ MRT ลงสถานีสุขุมวิท
แล้วเดินมาทางถนนอโศกมนตรีไม่ถึง 5 นาที ร้านจะอยู่ที่ชั้นล่างของตึก Prime Tower ค่ะ
หรือหากใครขับรถส่วนตัวมา ทางร้านก็มีที่จอดรถให้นะคะ 


เดินเข้าไปในร้านจะมีการตกแต่งในบรรยากาศโทนอบอุ่น เป็นส่วนตัว มีจำนวนโต๊ะไม่เยอะมาก นั่งสบาย ไม่แออัดค่ะ




มาเริ่มทานอาหารกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นกันที่เครื่องดื่ม mocktail สีสันสดใส เพิ่มความกระชุ่มกระชวยกันก่อน รสชาติหวานอมเปรั้ยวนิดๆ หอมกลิ่นผลไม้  ดื่มแล้วสดชื่น  ถ้าใครมาทานสังสรรค์ก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไวน์ เบียร์ cocktail ต่างๆ สั่งได้เช่นกันค่ะ



สำหรับอาหารจานแรกขอเริ่มต้นเบาๆด้วย สลัดหนังปลาแซลมอนซอสงาขาวมิโสะ ราคา 225 บาท ค่ะ

ดูหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติน้ำสลัดที่ทางร้านปรุงมาอยากบอกว่าดีมากจริงๆ ค่ะ รสชาติมีความนุ่มนวลกลมกล่อม ไม่มีรสใดรสหนึ่งโดดจนเกินไป หอมกลิ่นมิโสะและงาขาว ผักสลัดก็สดกรอบ ชอบผักสลัดของร้านนี้ตรงที่ไม่เหม็นเขียวหรือติดขมเลย ใครทานผักไม่เป็นอยากให้ลองทานจานนี้ดูค่ะ ทานง่ายจริงๆ  ในส่วนของหนังปลาแซลมอนก็ทอดออกมาได้กรอบมาก ทิ้งไว้นานก็ยังกรอบอยู่ ไม่เหม็นหืน จานนี้แนะนำเลยค่ะ


ต่อไปเป็นจานอาหารฝรั่งที่หนักขึ้นมาบ้าง เมนูนี้ชื่อว่า กุ้งซอสกระเทียม เสิร์ฟในจานร้อนมาคู่กับขนมปังกรอบที่ทานร้านทำเอง ราคา 295 บาทค่ะ

จานนี้ให้กุ้งมาเยอะมากๆ และกุ้งที่ใช้เป็นกุ้งสดไม่ใช่กุ้งแช่แข็งค่ะ จึงทำให้เนื้อกุ้งมีความเด้งและหวานตามธรรมชาติ  นำมาทานคู่กับขนมปังกรอบที่เสิร์ฟคู่กัน ราดซอสกระเทียมหอมๆ  เป็น combination ที่เข้ากันมากค่ะ แนะนำให้ทานตอนที่ยังร้อนๆ อยู่จะอร่อยมากๆ ถ้าเย็นแล้วอาจจะเลี่ยนนิดๆ เพราะตัวซอสใช้เนยเยอะพอสมควรค่ะ


จานต่อไปมาดูสเต็กกันค่ะ วันนี้เราได้ลองชิมทั้งสเต็กหมูและสเต็กเนื้อเลย

มาเริ่มท่ี่สเต็กหมูกันก่อน ชื่อเมนู หมู (ออร์แกนิค) ย่างซอสฮันนี่-มัสตาร์ด ราคา 365 บาท

หั่นเนื้อหมูออกมารู้เลยว่าเชฟทำออกมาได้สุกพอดีมากๆ เนื้อหมูยังมีความชมพูนิดๆ โดยจุดเด่นของจานนี้เลยคือเนื้อมีความชุ่มฉ่ำสุดๆ ไม่แห้งกระด้างเลย ตัวสเต็กหมูรสชาติออกเค็มๆ จากเกลือ พอทานคู่กันกับซอสฮันนี่-มัสตาร์ด หอมๆหวานๆ ก็เลยทำให้รสชาติมันกลมกล่อมมากๆ  ไม่เหมือนเสต็กหมูทั่วไปที่เคยทานมาจริงๆค่ะ  ประทับใจจานนี้มาก แนะนำค่ะ


สำหรับสเต็กเนื้อที่ได้ลองชิมมีชื่อเมนูว่า สเต็กย่างซอสไวน์แดง ราคา 495 บาท ระดับความสุก medium rare ค่ะ

จานนี้เนื้อเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่มาก ดูรูปก็เห็นได้ถึงความชุ่มฉ่ำกันแล้วใช่มั้ยคะ สังเกตว่าตัวเนื้อแทบไม่มีมันแทรกเลย ตอนแรกก็กลัวว่าจะเหนียวมั้ย แต่กลับไม่เหนียวเลยค่ะ เคี้ยวง่ายมาก เนื้อมีความหอมในตัว จานนี้จะปรุงรสมาอ่อนๆ ได้รสชาติเนื้อจริงๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอาหารรสจัดๆ อยากลิ้มรสเนื้อที่แท้ทรู ผักที่เสิร์ฟมาเคียงกับสเต็กก็ทำได้ดีเช่นกันค่ะ จะมีมันหวาน ข้าวโพดหวาน  เห็ด ถั่วลันเตา ที่ปรุงรสมาได้ดี


ต่อไปมาดูในส่วนของอาหารไทยกันบ้างนะคะ 

เราได้ลองทาน  2 เมนู คือ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ราคา 295 บาท  และ แกงคั่วเนื้อปูใบชะพลู ราคา 295 บาท ทั้ง 2 เมนูเสิร์ฟคู่กับโรตีค่ะ

ตัวแกงทั้ง 2 ตัวมีจุดเด่นที่น้ำกะทิที่เข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องแกง โดยแกงของที่นี่รสชาติจะไม่เผ็ดค่ะ คนไม่ทานเผ็ดก็สามารถทานได้สบาย  ในส่วนแกงเผ็ดเป็ดย่างก็จะมีเนื้อน่องติดสะโพกของเป็ดชิ้นใหญ่มากมาให้ 1 ชิ้น เนื้อเป็ดเปื่อยนุ่ม ทานคู่กับโรตีราดน้ำแกงข้นๆ เข้ากันมากๆ ค่ะ ในแกงจะมีใส่สับปะรดกับมะเขือเทศราชินีมาด้วย   ส่วนแกงคัวเนื้อปูใบชะพลูก็ใส่เนื้อปูมาเป็นก้อนๆ จัดเต็ม เนื้อปูสดหวาน ไม่มีลิ่มแข็งๆของเปลือกปูมากวนใจ ใบชะพลูก็ใส่มาเยอะมาก ตอนยกมาเสิร์ฟกลิ่นหอมแตะจมูกเลยค่ะ


ซูมเนื้อปูให้ดูกันชัด ๆ

มาถึงจุดนี้เรียกว่าอิ่มกันมาก แต่กินคาวแล้วก็ขาดหวานไม่ได้ เลยขอขนมหวานล้างปากกันซักหน่อย เป็นเมนู Green tea lava cake ราคา 195 บาท

ในจานจะประกอบด้วยตัวเค้กลาวาชาเขียวที่อบมาร้อนๆ พอตัดเข้าไปด้านในไส้ลาวาชาเขียวก็ไหลทะลักออกมา ทานคู่กันกับไอศครีมช็อคโกแลตเย็นๆ และครัมเบิลชาเขียวกรุบๆ กรอบๆ เรียกว่าขนมหวานจานนี้มีครบทุกสัมผัสเลยค่ะ แนะนำให้ตัดทานร่วมกันทั้ง 3 ส่วน คือตักตัวเค้กลาวาพร้อมกับไอศครีมและครัมเบิล เอาเข้าปากในคำเดียวก็จะได้ความอุ่นของเค้กลาวาตัดกับความเย็นของไอศครีม พอเคี้ยวก็ได้ความกรุบกรอบของครัมเบิล ถือเป็นของหวานปิดท้ายที่ฟินยกกำลัง 3 ไปเลย  ตัวเค้กลาวาชาเขียวของร้านนี้ชาจะมีความหอมนิดๆ ไม่ติดขมเลย ใครไม่ชอบทานชาเพราะขมก็สามารถทานจานนี้ได้นะคะ  แต่ถ้าใครชอบชาเขียวเข้มๆ ชอบความเขียวความขม จานนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์มาก


ก็จบลงแล้วค่ะสำหรับอาหารที่ทานทั้งหมดในวันนี้ สรุปโดยรวมถือว่าประทับใจในคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้และการปรุงรสชาติส่วนใหญ่ทำออกมาได้ดี มีความกลมกล่อม  ในเรื่องของราคาส่วนตัวมองว่าไม่แพงเลยกับปริมาณและคุณภาพอาหารที่ได้ รวมถึงทำเลใจกลางอโศกนี้  สามารถมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ  หรือจะพาเพื่อนชาวต่างชาติมาเลี้ยงก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ เพราะมีทั้งอาหารตะวันตกและอาหารไทยที่รสชาติไม่เผ็ดจัด ทานได้สบายๆ และยังเดินทางสะดวกอีกด้วย

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเค้กต่างๆ ที่สามารถซื้อกลับบ้านไปทาน หรือซื้อไปเป็นของฝากได้อีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชีสเค้ก ชิฟฟ่อนเค้ก ฟรุ๊ตเค้ก โดยเค้กที่ทางร้านแนะนำและขายดีจะเป็นแมคคาเดเมียท๊อฟฟี่เค้กค่ะ

ชื่อสินค้า:   Jann Bistro (จันบิสโตร) สาขาอโศก
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่