แฉ'หมอ'ร่วมขบวนการ ยาลดอ้วน'สวยสังหาร'นางแบบ

แฉ'หมอ'ร่วมขบวนการ ยาลดอ้วน'สวยสังหาร'นางแบบ
จันทร์ที่ 11 มีนาคม 2562 เวลา 13.30 น.

แฉยาลดความอ้วน "สวยสังหาร" นายทุนร่วมมือกับแพทย์ในเครือข่าย ลอบนำวัตถุออกฤทธิ์ออกจากระบบการควบคุม อย. โดยไม่ได้มีการจ่ายให้แก่ผู้ป่วยในสถานพยาบาลที่เป็นสถานที่รับอนุญาตฯ แบ่งขายทางอินเทอร์เน็ต ไลน์ ไอจี  และเฟซบุ๊ก รวมทั้งส่งออกนอกประเทศ

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.) นำทีมโดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. แถลงข่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบนำยาลดความอ้วนที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตัวยา Phentermine (เฟนเตอร์มีน) ชื่อการค้า Duromine (ดูโรมีน)    และ Panbesy (แพนบีซี่) ออกนอกระบบ จึงได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด ในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มนายทุนร่วมมือกับแพทย์ในเครือข่าย ลักลอบนำวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวออกจากระบบการควบคุมของ อย. โดยไม่ได้มีการจ่ายให้แก่ผู้ป่วยในสถานพยาบาลที่เป็นสถานที่รับอนุญาตฯ สำหรับวัตถุออกฤทธิ์ที่นำออกนอกระบบนี้ ส่วนหนึ่งมีการขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต และอีกส่วนหนึ่งขายให้กับผู้ค้ารายย่อยนำไปขายต่อผ่านทางแอปพลิเคชัน ไลน์ ไอจี  และเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น จีน แคนาดา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการสมคบ ร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำงาน เพื่อเอาวัตถุออกฤทธิ์ออกนอกระบบโดยอาศัยใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ของแพทย์เป็นใบเบิกทางนำมาหลอก อย. ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท

“ยาลดน้ำหนัก” หรือ “ยาลดความอ้วน” มักจะประกอบไปด้วยยาหลายชนิดเพื่อให้เห็นผลเร็วในการ  ลดน้ำหนัก เช่น ยาลดความอยากอาหาร ยาไทรอยด์ฮอร์โมน ยาขับปัสสาวะ และยาระบาย ซึ่งการรับประทานยาเหล่านี้ด้วยกัน อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายได้ สำหรับยาลดความอยากอาหาร “เฟนเตอร์มีน” เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและทำให้เกิดการติดยาได้ ดังนั้นจึงถูกจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ภายใต้ พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559  ซึ่งมีการควบคุมการขาย โดย อย. และจะขายให้เฉพาะสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เพื่อจ่ายให้กับผู้ป่วยที่แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยแล้วเท่านั้น ยานี้ควรใช้ในระยะสั้น คือ 4 - 6 สัปดาห์ ไม่เกิน 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน เนื่องจากมีผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งผลข้างเคียง  อื่น ๆ เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง กระวนกระวาย หัวใจเต้นเร็ว หากใช้ไปนาน ๆ อาจถึงขั้นติดยาได้ หรือทำให้น้ำหนักที่ลดลงคืนกลับมาอีก นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการอื่น ๆ อีก เช่น ปากแห้ง อาเจียน ท้องผูก เหงื่อออก ตื่นเต้น ม่านตาขยาย ประสาทหลอน อาจทำให้เกิดโรคจิตได้ ในรายที่มีอาการรุนแรง  จะพบว่ามีไข้สูง เจ็บหน้าอก การไหลเวียนของเลือดล้มเหลว ชัก โคม่า และตายได้ จะเห็นได้ว่าการใช้   ยาเฟนเตอร์มีนอาจก่อให้เกิดอันตรายโดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคต้อหิน ผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน มีประวัติการใช้ยาในทางที่ผิด เป็นโรคจิตหรือโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ผู้ป่วยที่กำลังได้รับยากลุ่ม monoamine oxidase inhibitors (MAOI) รวมทั้งที่เคยได้รับ MAOI มาก่อนหน้านี้ไม่เกิน 14 วัน ซึ่งภาวะเหล่านี้ ถือเป็นข้อห้ามใช้ของยาเฟนเตอร์มีน เนื่องจากผลข้างเคียงจากยา  จะมีผลทำให้โรคประจำตัวของผู้ป่วยมีสภาวะเลวลง

เลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า การรับประทานยาลดความอ้วนเฟนเตอร์มีนติดต่อกันเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการทางจิตและประสาทได้ คล้ายกับคนเสพยาบ้า ดังนั้นจึงต้องใช้ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น ประชาชนไม่ควรหาซื้อมารับประทานเอง เพราะมีผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้ การรักษาโรคอ้วนที่ดี ประหยัด และปลอดภัยที่สุด คือ การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารอย่างถูกวิธี    การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม.

https://www.dailynews.co.th/crime/697842
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่