ตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้File 8 : ฆาตกรรมวันหยุด [บทปัญหา]
https://pantip.com/topic/38616378
แนะนำตัวละคร
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 4 -
สารวัตรสุธีและมีนได้กลับมาที่บ้านพักของต้นอีกครั้ง เนื่องจากปลายได้โทรไปบอกว่าทราบตัวฆาตกรแล้ว เพราะสารวัตรสุธีได้ให้สัญญาว่าจะกลับมาทบทวนคดีอีกครั้ง ถ้าปลายไขคดีได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ซึ่งปลายก็ทำได้ใน 1 ชั่วโมงจริง ๆ ดังนั้น เขาจึงต้องมา
หนุ่มผมตั้งนั่งแทนที่สารวัตรสุธีเมื่อครั้งก่อน เพราะครั้งนี้เขาจะเป็นคนไขคดีหาความจริงว่ามีนไม่ใช่ฆาตกรเอง ซึ่งคราวนี้หนุ่มผมตั้งมีทีท่ามั่นใจขึ้นมากทีเดียว ดูท่าจะรู้แล้วว่าฆาตกรคือใครและใช้วิธีอะไร แต่สารวัตรสุธีที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลับไม่คิดเช่นนั้น ดูเหมือนนายตำรวจยังเชื่อว่ามีนเป็นฆาตกรไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนมีนที่กลับมานั้นก็นั่งอยู่ไม่ห่างสารวัตรสุธีนัก แถมมีตำรวจคอยยืนคุมข้าง ๆ ด้วย
แล้วสารวัตรสุธีก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เธอคิดว่ามีนไม่ใช่ฆาตกรงั้นหรือ?”
ปลายมองนายตำรวจยศพันตำรวจเอก พูดตอบกลับไปว่า “ครับ ถึงมีนจะดูเหมือนว่ามีโอกาสเป็นฆาตกรมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ครับ”
“เพราะอะไร?” สารวัตรสุธีถามเสียงดัง
“งั้นผมจะขอเกริ่นซักเล็กน้อยก่อนนะครับ” ปลายขยับตัวเล็กน้อยเพื่อความถนัด “คดีนี้เป็นอย่างที่สารวัตรเคยบอกไว้แล้ว มันเป็นการฆาตกรรมด้วยเข็มพิษ ทำให้ใช้เวลาไม่มากก็สามารถฆ่าคนตายได้ โดยเราคิดว่าปุ้ยได้ตายหลังจากที่รันกับแอลขึ้นไปตาม ดังนั้น ผู้ต้องสงสัยก็ต้องเป็นคนที่ขอตัวออกจากวงสังสรรค์หลังจากเวลานั้นไป”
“แล้วมันอย่างไงล่ะ…” สารวัตรสุธีแทรกขึ้น “ฉันก็บอกแล้วว่าฆาตกรต้องเป็นมีน ต้นกับเอที่ออกไปแถวบันไดข้างก็ไม่มีใครที่ขึ้นบันไดไป เพราะบันไดยังมีฝุ่นเกาะอยู่ ถ้ามีคนขึ้นไปต้องมีรอยให้เห็น ส่วนรันก็ขอตัวไปห้องน้ำที่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่จะขึ้นไปฆ่าปุ้ยได้เลย จึงเหลือแค่มีนที่เข้าห้องนั้นไปโดยตรง ดังนั้น ฆาตกรต้องเป็นมีนอย่างแน่นอน”
“เหรอครับ..” ปลายยิ้มกวน ๆ มองหน้าผู้เป็นตำรวจ “แต่ถ้าฆาตกรเข้าไปฆ่าเธอก่อนที่มีนเข้าไปล่ะครับ?”
“จะเป็นไปได้ไง” สารวัตรสวนขึ้นทันที “จากที่สอบปากคำ ก่อนนั้นปุ้ยยังคุยกับรันและแอลอยู่เลยนี่”
“ใช่ครับ” แอลพูดขึ้นบ้าง “ตอนนั้นปุ้ยยังพูดกับรันเลย”
“งั้นเหรอ.. แล้วแกเห็นหน้าปุ้ยหรือเปล่าล่ะ?” ปลายหันไปถามลูกสมุนผู้เงียบขรึมที่วันนี้ไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่
แอลนิ่งคิดพักหนึ่ง ตอบกลับไปว่า “ก็ไม่เห็นนะครับ รันบอกว่าเธอแต่งตัวอยู่ ผมต้องถอยไปอยู่ด้านหลังรัน”
“เป็นอย่างงั้นเหรอ..” ปลายบอกแล้วหันไปทางรัน “ตอนนั้นรันคุยกับปุ้ยจริงหรือ?”
“จริง ๆ นะ แอลยังได้ยินเสียงปุ้ยพูดเลย” รันตอบไป
“อืม...” ปลายหยุดนึกแล้วหันกลับไปถามแอล “แอลตอนนั้นเห็นรันทำอะไรบ้างไหม?”
“รันเหรอ.. “ แอลนิ่งคิด “...รู้สึกว่าจะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่”
“อืม...” ปลายคิดตามที่แอลบอก
สารวัตรสุธีที่นั่งฟังอยู่เริ่มเห็นว่าปลายถามเรื่อยเปื่อยไม่ตรงประเด็นสักเท่าไหร่ จึงพูดแทรกขึ้นมา “นี่ปลาย ฉันก็บอกแล้วว่าข้อมูลมันชี้ไปที่มีน เธออย่าสืบอีกเลย คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่เธอคิดหรอก”
“ไม่หรอกครับ ข้อมูลทุกอย่างมีครบแล้ว” ปลายดูมั่นใจขึ้นอีกหลังจากสอบถามเพื่อนของเขา “สารวัตรครับ... ถ้าปุ้ยถูกฆ่าตายก่อนที่มีนเข้าไปจริง ๆ ล่ะครับ”
“จะเป็นไปได้ไง! ปุ้ยยังคุยกับรันได้เลย” สารวัตรสุธีสวนทันควัน
“อย่างนั้นเหรอครับ” ว่าแล้วปลายก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมา กดหมายเลขปลายทางโทรออก
แต่ว่ามือถือของเขาเงินหมดไม่ใช่หรือ...
สักพักก็ได้ยินเสียงของปลายดังขึ้นว่า ‘นี่คือวิธีของฆาตกร’ ขึ้นมาหลายครั้ง ทุกคนจึงหันไปทางต้นเสียงนั้นทันที
แต่ว่าต้นเสียงนั้นไม่ได้มาจากปลาย เสียงกลับดังมาจากมือถือของโหน่ง แล้วสักพักหนุ่มผมตั้งก็ลุกขึ้นเดินไปหาโหน่ง หยิบมือถือที่ดังนั้นขึ้นมากดตัดสาย เสียงที่ดังจึงหยุดลง
ปลายชูมือถือของโหน่งให้ทุกคนดู พูดอย่างมั่นใจว่า
“เป็นอย่างที่มือถือดัง นี่คือวิธีที่ฆาตกรใช้ ฆาตกรใช้มือถือที่สามารถอัดเสียงเป็นริงโทนได้ อัดเสียงของปุ้ยไว้ แล้วโทรเข้า ซึ่งผู้ที่ใช้วิธีนี้ได้ก็คือ....” เขามองไปที่สาวสวยผมหยิก “...รัน!”
“ไม่นะ!” รันปฏิเสธขึ้นทันที “รันไม่ได้ทำ!!”
“อย่าปฏิเสธเลยรัน... วิธีนี้มีเธอคนเดียวที่ทำได้” ปลายจ้องมองเพื่อนสาว “..เพราะมือถือรุ่นที่เธอและโหน่งใช้เป็นรุ่นเดียวกัน สามารถอัดเสียงพูดแล้วนำไปใช้เป็นริงโทนได้ ...ที่ตอนนั้นเธอล้วงกระเป๋ากางเกง เพราะต้องกดมือถืออีกเครื่องที่อยู่ในกระเป๋า กดโทรออกหาอีกเครื่องที่อยู่ในห้อง ซึ่งอาจจะวางอยู่ที่ชั้นกระจกข้างหน้าประตู ทำให้มีเสียงของปุ้ยดังขึ้นมา แล้วจึงค่อยกดตัดสาย ส่วนที่เธอชวนแอลขึ้นไปตามปุ้ยด้วยนั้น เพราะต้องการให้แอลเป็นพยานยืนยันการมีชีวิตอยู่ของปุ้ย แต่ก็ไม่ให้แอลเห็นอะไรในห้อง โดยการบอกว่าปุ้ยแต่งตัวอยู่ แถมงับประตูบังไว้อีก แอลที่ได้ยินแค่เสียงปุ้ย เลยคิดไปเองว่าปุ้ยยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง”
พอปลายพูดจบ รันได้เพียงแต่นิ่งฟังอย่างเดียว ไม่พูดอะไรออกมา
สารวัตรสุธีที่ฟังการอธิบายของปลาย เริ่มเข้าใจสิ่งที่นักสืบหนุ่มพูดแล้ว ก็เอ่ยสวนขึ้นมาบ้าง “แต่มีนก็เข้าไปในห้องหลังจากนั้น.. ทำไมถึงไม่รู้ว่าปุ้ยตายล่ะ?”
“มีนไม่รู้หรอกครับ” ปลายส่ายหน้าเล็ก ๆ “เนื่องจากรันนำปุ้ยไปนอนที่เตียงห่มผ้าปิดไว้ แล้วบอกทุกคนว่าปุ้ยไม่ค่อยสบาย อยากนอนพัก ทำให้มีนไม่อยากเข้าไปรบกวน”
“แล้วมีหลักฐานไหมล่ะ?” รันตั้งสติได้ถามปลายกลับ
“หลักฐานเหรอรัน..” ปลายมองเพื่อนสาวผมหยิก “หลักฐานมันก็คือ มือถือของเธอไง เธอต้องใช้มือถือสองเครื่อง”
แล้วตำรวจก็ขอมือถือทั้งสองเครื่องของรันมาทันที หนึ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่ปลายยืมโทรหามีน กับอีกเครื่องที่เป็นเครื่องเก่าของเธอ
“รันมีมือถือสองเครื่อง...มันผิดด้วยเหรอ?” รันแก้ตัว
“มันก็ไม่ผิดหรอกนะรัน แต่ว่ามันมีหลักฐานอยู่ในนั้น ตอนแรกฉันก็กลัวว่าจะไม่เหลือหลักฐานอยู่ แต่เธอก็ทิ้งหลักฐานอย่างหนึ่งไว้แล้ว” ปลายกดมือถือเครื่องใหม่ของรัน แล้วหันหน้าจอไปให้ทุกคนดู
หนุ่มผมตั้งมองหน้ารันวูบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นต่อ “นี่คือ miss call ของเบอร์อีกเครื่องของรันที่ใช้โทรเข้าช่วงใช้วิธีการนี้ ...ทีแรกฉันคิดว่าจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว เพราะตอนยืมมือถือรันมา กดดูบันทึกเสียงริงโทนที่เป็นเสียงปุ้ยก็ไม่มีแล้ว ยังดีที่มาเจอ miss call ที่ตรงกับเวลาตอนนั้นพอดี”
รันเงียบไปทันที ท่าทางเธอจะเป็นฆาตกรจริง ๆ
“แต่พบเข็มพิษที่กระเป๋าต้นไม่ใช่เหรอ?” สารวัตรสุธีถาม
“รันนั่นแหละที่เป็นคนนำไปใส่ไว้ น่าจะเป็นช่วงที่ขอตัวเข้าห้องน้ำ”
เหมือนสารวัตรสุธีจะยอมรับการไขคดีของปลายแล้ว ฆาตกรไม่ใช่มีน รันคือฆาตกรตัวจริงตามที่ปลายบอก อาการของสาวสวยผมหยิกตอนนี้ฟ้องให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าฆาตกรเป็นเธอ หน้าซีดขาวนิ่งเงียบไปอย่างเดียว สารวัตรสุธีไม่รอช้าสั่งลูกน้องเข้าจับกุมทันที ซึ่งเธอคงยอมรับแล้ว เพราะไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนแม้แต่น้อย
“รันคงจะคุยกับปุ้ยช่วงที่มีชีวิตอยู่ แล้วหาทางสักอย่างอัดเสียงปุ้ยไว้ ...แล้วพอมีนออกจากห้อง เธอจึงเข้าไปเอาเข็มพิษแทงปุ้ย เมื่อปุ้ยตายก็จัดการนำร่างไปนอนบนเตียงห่มผ้าปิดร่างไว้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องมาเหมือนไม่มีอะไร แล้วค่อยแกล้งเข้าไปในห้องอีกครั้ง โดยชวนแอลไปด้วยเพื่อใช้วิธีอย่างที่บอกไป เสร็จแล้วก็หยิบมือถือของเธอออกมา เดินกลับไปหาพวกเรา ...พอมีจังหวะค่อยเอาเข็มพิษไปใส่ในกระเป๋าต้น เพื่อเบี่ยงเบนตัวฆาตกร ซึ่งที่เธอทำทั้งหมดนี้ เพื่อให้เราคิดว่าปุ้ยมีชีวิตอยู่หลังจากที่เธอขึ้นไปเรียก ทำให้ตัวเธอปลอดภัย เพราะหลังจากนั้นดูยังไงเธอก็ไม่มีโอกาสเข้าไปฆ่าปุ้ยได้เลย” ปลายกลับมานั่งที่เดิม แล้วสรุปให้ทุกคนฟังอีกครั้ง
และแล้วสาวสวยรันก็ถูกตำรวจจับกุม เธอยอมรับว่าเป็นคนทำทุกอย่างแล้ว ทั้งหมดเป็นดังที่ปลายได้บอกไป แต่ก่อนที่ตำรวจจะพาเธอไปก็หันมาพูดกับปลายว่า
“รันวางแผนนี้ตอนที่โทรไปถามโหน่งแล้วรู้ว่าปุ้ยไปด้วย รันอยากจะฆ่าปุ้ยอยู่แล้ว มันเอาเรื่องที่รันเอาฝิ่นเข้าห้องสอบมาขอค่าปิดปาก รันต้องยอมให้มันไปตลอด เพราะมันยังเก็บฝิ่นนั้นไว้เป็นหลักฐานอยู่ ไม่ได้ทำลายทิ้ง แถมมันยังบอกว่าถ้าไม่ให้เงินจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งอาจารย์ ...รันเลยจำใจยอมให้เงินมันเรื่อยมาตลอด ตอนอัดเสียงก็ใช้ช่วงคุยเรื่องนี้แหละ แกล้งขออัดเสียงไว้ บอกว่าอัดเล่น ๆ สนุก ๆ ไม่มีอะไร ส่วนเข็มพิษก็หาเอาจากตลาดมืด แล้วใช้ฆ่ามันอย่างที่ปลายบอกนั่นแหละ”
“อืม.. คงเป็นตอนสอบวิชานั้นสินะ ที่ปุ้ยสอบห้องเดียวกันแต่คนละวิชา” ปลายบอกเธอ “..แต่รันก็ไม่น่าทำเลยนะ ทำไมถึงทำอย่างนี้ น่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้นะ”
“ไม่รู้สินะปลาย คงมีอะไรมาสิงรันมั้ง” รันทำทีเหมือนไม่มีอะไร ฉีกยิ้มหวานให้ปลายด้วย “ตอนแรกก็ไม่อยากทำหรอก แต่เห็นมันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก รันทนไม่ได้เลยต้องทำไป ทั้งที่รู้นะว่าปลายอยู่ด้วย มันเสี่ยงเกินไป อาจโดนปลายจับได้แน่ ...ก่อนลงมือรันเองก็หวั่น ๆ อยู่มากทีเดียว กลัวปลายจะจับได้ แต่สุดท้ายรันก็ยังทำลงไปอยู่ดี...“ รันหยุดพูดไปพักหนึ่ง จ้องหน้าเพื่อนหนุ่มนักสืบ “...แต่ถึงปลายจะสืบจนรู้ว่ารันเป็นฆาตกร ..รันก็ยังชอบปลายอยู่นะ ..ไม่เคยเปลี่ยนใจเลย”
รันส่งยิ้มให้อย่างจริงใจเลยทีเดียว
ปลายก็ยิ้มรับเธอ แต่ก็ทำได้เพียงยืนดูเพื่อนสาวถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป ซึ่งขณะที่ตำรวจกำลังพาเธอไปนั้น สาวสวยก็หันกลับมาหาปลายอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“รันรู้ว่าปลายคงไม่ชอบรันหรอก.. รู้อยู่แล้ว ปลายน่ะ..มีคนที่ชอบอยู่แล้วสินะ” เธอเหลือบมองไปที่คน ๆ หนึ่งแล้วหันมาพูดต่อ “ยังไงก็ขอให้โชคดีนะ ลาก่อน..”
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวรันออกจากบ้านพักนี้ไปแล้ว จึงเหลือเพียงแต่สารวัตรสุธีที่สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมและกล่าวขอบคุณปลายอีกเล็กน้อย จึงค่อยตามออกไป
ในที่สุดคดีฆาตกรรมวันหยุดก็จบลง ปลายสามารถช่วยมีนจนสำเร็จ สาวห้าวจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนหนุ่มผู้ช่วยเหลือเธอ เพื่อเข้าไปขอบคุณที่ช่วยตัวเองไว้
“ปลาย... ขอบคุณมากเลยนะ” มีนพูดขึ้นหลังจากนิ่งฟังมาตั้งนาน แต่ที่เธอเงียบมาตลอด คงเพราะมั่นใจว่าปลายจะช่วยเธอได้แน่ จึงไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
“ไม่เป็นหรอกมีน ถ้าเป็นมีนเราต้องช่วยอยู่แล้ว” ปลายตอบด้วยท่าทางที่เขิน ๆ
“..ตอนนายโทรมา ฉันดีใจมากนะ ...นายช่วยฉันไว้อีกแล้ว” มีนมองหน้าหนุ่มผมตั้ง แล้วหยุดพูดพักหนึ่ง นิ่งคิดอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยต่อว่า “เอ่อ... แล้วตอนก่อนเกิดเรื่อง ที่นายตามฉันมาที่ห้อง ..มีเรื่องอะไรหรือ?”
ปลายโดนคำถามย้อนกลับซะแล้ว จะตอบอย่างไรน้า...
ปลายนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ตอบทันที แล้วค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่รู้สิ.. ลืมไปแล้วน่ะ”
บอกว่าลืมซะงั้น แล้วทำไมเรื่องอื่นจำแม่นนัก!
“เหรอ…” มีนพูดไปสักพักก็หาวพลางเอามือปิดปาก “งั้นถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ ง่วงแล้ว”
“อะ..เอ่อ นอนหลับฝันดีนะ ราตรีสวัสดิ์” ปลายไม่รู้ทำไงบอกราตรีสวัสดิ์ซะงั้น ซึ่งพอมีนเข้าห้องไปแล้ว ตัวเองก็เริ่มอ้าปากหาวบ้าง ท่าทางคงจะง่วงเหมือนกัน เขาจึงเดินลงกลับเข้าห้องชั้นล่างไป
สุดท้ายถึงคดีจะจบ แต่เรื่องของปลายกับมีนก็ยังไม่คืบหน้าเหมือนเดิม!
……………………………………………………จบตอน
ปลาย นักสืบจำเป็น - File 8 : ฆาตกรรมวันหยุด [บทเฉลย]
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สารวัตรสุธีและมีนได้กลับมาที่บ้านพักของต้นอีกครั้ง เนื่องจากปลายได้โทรไปบอกว่าทราบตัวฆาตกรแล้ว เพราะสารวัตรสุธีได้ให้สัญญาว่าจะกลับมาทบทวนคดีอีกครั้ง ถ้าปลายไขคดีได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ซึ่งปลายก็ทำได้ใน 1 ชั่วโมงจริง ๆ ดังนั้น เขาจึงต้องมา
หนุ่มผมตั้งนั่งแทนที่สารวัตรสุธีเมื่อครั้งก่อน เพราะครั้งนี้เขาจะเป็นคนไขคดีหาความจริงว่ามีนไม่ใช่ฆาตกรเอง ซึ่งคราวนี้หนุ่มผมตั้งมีทีท่ามั่นใจขึ้นมากทีเดียว ดูท่าจะรู้แล้วว่าฆาตกรคือใครและใช้วิธีอะไร แต่สารวัตรสุธีที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลับไม่คิดเช่นนั้น ดูเหมือนนายตำรวจยังเชื่อว่ามีนเป็นฆาตกรไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนมีนที่กลับมานั้นก็นั่งอยู่ไม่ห่างสารวัตรสุธีนัก แถมมีตำรวจคอยยืนคุมข้าง ๆ ด้วย
แล้วสารวัตรสุธีก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เธอคิดว่ามีนไม่ใช่ฆาตกรงั้นหรือ?”
ปลายมองนายตำรวจยศพันตำรวจเอก พูดตอบกลับไปว่า “ครับ ถึงมีนจะดูเหมือนว่ามีโอกาสเป็นฆาตกรมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ครับ”
“เพราะอะไร?” สารวัตรสุธีถามเสียงดัง
“งั้นผมจะขอเกริ่นซักเล็กน้อยก่อนนะครับ” ปลายขยับตัวเล็กน้อยเพื่อความถนัด “คดีนี้เป็นอย่างที่สารวัตรเคยบอกไว้แล้ว มันเป็นการฆาตกรรมด้วยเข็มพิษ ทำให้ใช้เวลาไม่มากก็สามารถฆ่าคนตายได้ โดยเราคิดว่าปุ้ยได้ตายหลังจากที่รันกับแอลขึ้นไปตาม ดังนั้น ผู้ต้องสงสัยก็ต้องเป็นคนที่ขอตัวออกจากวงสังสรรค์หลังจากเวลานั้นไป”
“แล้วมันอย่างไงล่ะ…” สารวัตรสุธีแทรกขึ้น “ฉันก็บอกแล้วว่าฆาตกรต้องเป็นมีน ต้นกับเอที่ออกไปแถวบันไดข้างก็ไม่มีใครที่ขึ้นบันไดไป เพราะบันไดยังมีฝุ่นเกาะอยู่ ถ้ามีคนขึ้นไปต้องมีรอยให้เห็น ส่วนรันก็ขอตัวไปห้องน้ำที่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่จะขึ้นไปฆ่าปุ้ยได้เลย จึงเหลือแค่มีนที่เข้าห้องนั้นไปโดยตรง ดังนั้น ฆาตกรต้องเป็นมีนอย่างแน่นอน”
“เหรอครับ..” ปลายยิ้มกวน ๆ มองหน้าผู้เป็นตำรวจ “แต่ถ้าฆาตกรเข้าไปฆ่าเธอก่อนที่มีนเข้าไปล่ะครับ?”
“จะเป็นไปได้ไง” สารวัตรสวนขึ้นทันที “จากที่สอบปากคำ ก่อนนั้นปุ้ยยังคุยกับรันและแอลอยู่เลยนี่”
“ใช่ครับ” แอลพูดขึ้นบ้าง “ตอนนั้นปุ้ยยังพูดกับรันเลย”
“งั้นเหรอ.. แล้วแกเห็นหน้าปุ้ยหรือเปล่าล่ะ?” ปลายหันไปถามลูกสมุนผู้เงียบขรึมที่วันนี้ไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่
แอลนิ่งคิดพักหนึ่ง ตอบกลับไปว่า “ก็ไม่เห็นนะครับ รันบอกว่าเธอแต่งตัวอยู่ ผมต้องถอยไปอยู่ด้านหลังรัน”
“เป็นอย่างงั้นเหรอ..” ปลายบอกแล้วหันไปทางรัน “ตอนนั้นรันคุยกับปุ้ยจริงหรือ?”
“จริง ๆ นะ แอลยังได้ยินเสียงปุ้ยพูดเลย” รันตอบไป
“อืม...” ปลายหยุดนึกแล้วหันกลับไปถามแอล “แอลตอนนั้นเห็นรันทำอะไรบ้างไหม?”
“รันเหรอ.. “ แอลนิ่งคิด “...รู้สึกว่าจะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่”
“อืม...” ปลายคิดตามที่แอลบอก
สารวัตรสุธีที่นั่งฟังอยู่เริ่มเห็นว่าปลายถามเรื่อยเปื่อยไม่ตรงประเด็นสักเท่าไหร่ จึงพูดแทรกขึ้นมา “นี่ปลาย ฉันก็บอกแล้วว่าข้อมูลมันชี้ไปที่มีน เธออย่าสืบอีกเลย คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่เธอคิดหรอก”
“ไม่หรอกครับ ข้อมูลทุกอย่างมีครบแล้ว” ปลายดูมั่นใจขึ้นอีกหลังจากสอบถามเพื่อนของเขา “สารวัตรครับ... ถ้าปุ้ยถูกฆ่าตายก่อนที่มีนเข้าไปจริง ๆ ล่ะครับ”
“จะเป็นไปได้ไง! ปุ้ยยังคุยกับรันได้เลย” สารวัตรสุธีสวนทันควัน
“อย่างนั้นเหรอครับ” ว่าแล้วปลายก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมา กดหมายเลขปลายทางโทรออก
แต่ว่ามือถือของเขาเงินหมดไม่ใช่หรือ...
สักพักก็ได้ยินเสียงของปลายดังขึ้นว่า ‘นี่คือวิธีของฆาตกร’ ขึ้นมาหลายครั้ง ทุกคนจึงหันไปทางต้นเสียงนั้นทันที
แต่ว่าต้นเสียงนั้นไม่ได้มาจากปลาย เสียงกลับดังมาจากมือถือของโหน่ง แล้วสักพักหนุ่มผมตั้งก็ลุกขึ้นเดินไปหาโหน่ง หยิบมือถือที่ดังนั้นขึ้นมากดตัดสาย เสียงที่ดังจึงหยุดลง
ปลายชูมือถือของโหน่งให้ทุกคนดู พูดอย่างมั่นใจว่า
“เป็นอย่างที่มือถือดัง นี่คือวิธีที่ฆาตกรใช้ ฆาตกรใช้มือถือที่สามารถอัดเสียงเป็นริงโทนได้ อัดเสียงของปุ้ยไว้ แล้วโทรเข้า ซึ่งผู้ที่ใช้วิธีนี้ได้ก็คือ....” เขามองไปที่สาวสวยผมหยิก “...รัน!”
“ไม่นะ!” รันปฏิเสธขึ้นทันที “รันไม่ได้ทำ!!”
“อย่าปฏิเสธเลยรัน... วิธีนี้มีเธอคนเดียวที่ทำได้” ปลายจ้องมองเพื่อนสาว “..เพราะมือถือรุ่นที่เธอและโหน่งใช้เป็นรุ่นเดียวกัน สามารถอัดเสียงพูดแล้วนำไปใช้เป็นริงโทนได้ ...ที่ตอนนั้นเธอล้วงกระเป๋ากางเกง เพราะต้องกดมือถืออีกเครื่องที่อยู่ในกระเป๋า กดโทรออกหาอีกเครื่องที่อยู่ในห้อง ซึ่งอาจจะวางอยู่ที่ชั้นกระจกข้างหน้าประตู ทำให้มีเสียงของปุ้ยดังขึ้นมา แล้วจึงค่อยกดตัดสาย ส่วนที่เธอชวนแอลขึ้นไปตามปุ้ยด้วยนั้น เพราะต้องการให้แอลเป็นพยานยืนยันการมีชีวิตอยู่ของปุ้ย แต่ก็ไม่ให้แอลเห็นอะไรในห้อง โดยการบอกว่าปุ้ยแต่งตัวอยู่ แถมงับประตูบังไว้อีก แอลที่ได้ยินแค่เสียงปุ้ย เลยคิดไปเองว่าปุ้ยยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง”
พอปลายพูดจบ รันได้เพียงแต่นิ่งฟังอย่างเดียว ไม่พูดอะไรออกมา
สารวัตรสุธีที่ฟังการอธิบายของปลาย เริ่มเข้าใจสิ่งที่นักสืบหนุ่มพูดแล้ว ก็เอ่ยสวนขึ้นมาบ้าง “แต่มีนก็เข้าไปในห้องหลังจากนั้น.. ทำไมถึงไม่รู้ว่าปุ้ยตายล่ะ?”
“มีนไม่รู้หรอกครับ” ปลายส่ายหน้าเล็ก ๆ “เนื่องจากรันนำปุ้ยไปนอนที่เตียงห่มผ้าปิดไว้ แล้วบอกทุกคนว่าปุ้ยไม่ค่อยสบาย อยากนอนพัก ทำให้มีนไม่อยากเข้าไปรบกวน”
“แล้วมีหลักฐานไหมล่ะ?” รันตั้งสติได้ถามปลายกลับ
“หลักฐานเหรอรัน..” ปลายมองเพื่อนสาวผมหยิก “หลักฐานมันก็คือ มือถือของเธอไง เธอต้องใช้มือถือสองเครื่อง”
แล้วตำรวจก็ขอมือถือทั้งสองเครื่องของรันมาทันที หนึ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่ปลายยืมโทรหามีน กับอีกเครื่องที่เป็นเครื่องเก่าของเธอ
“รันมีมือถือสองเครื่อง...มันผิดด้วยเหรอ?” รันแก้ตัว
“มันก็ไม่ผิดหรอกนะรัน แต่ว่ามันมีหลักฐานอยู่ในนั้น ตอนแรกฉันก็กลัวว่าจะไม่เหลือหลักฐานอยู่ แต่เธอก็ทิ้งหลักฐานอย่างหนึ่งไว้แล้ว” ปลายกดมือถือเครื่องใหม่ของรัน แล้วหันหน้าจอไปให้ทุกคนดู
หนุ่มผมตั้งมองหน้ารันวูบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นต่อ “นี่คือ miss call ของเบอร์อีกเครื่องของรันที่ใช้โทรเข้าช่วงใช้วิธีการนี้ ...ทีแรกฉันคิดว่าจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว เพราะตอนยืมมือถือรันมา กดดูบันทึกเสียงริงโทนที่เป็นเสียงปุ้ยก็ไม่มีแล้ว ยังดีที่มาเจอ miss call ที่ตรงกับเวลาตอนนั้นพอดี”
รันเงียบไปทันที ท่าทางเธอจะเป็นฆาตกรจริง ๆ
“แต่พบเข็มพิษที่กระเป๋าต้นไม่ใช่เหรอ?” สารวัตรสุธีถาม
“รันนั่นแหละที่เป็นคนนำไปใส่ไว้ น่าจะเป็นช่วงที่ขอตัวเข้าห้องน้ำ”
เหมือนสารวัตรสุธีจะยอมรับการไขคดีของปลายแล้ว ฆาตกรไม่ใช่มีน รันคือฆาตกรตัวจริงตามที่ปลายบอก อาการของสาวสวยผมหยิกตอนนี้ฟ้องให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าฆาตกรเป็นเธอ หน้าซีดขาวนิ่งเงียบไปอย่างเดียว สารวัตรสุธีไม่รอช้าสั่งลูกน้องเข้าจับกุมทันที ซึ่งเธอคงยอมรับแล้ว เพราะไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนแม้แต่น้อย
“รันคงจะคุยกับปุ้ยช่วงที่มีชีวิตอยู่ แล้วหาทางสักอย่างอัดเสียงปุ้ยไว้ ...แล้วพอมีนออกจากห้อง เธอจึงเข้าไปเอาเข็มพิษแทงปุ้ย เมื่อปุ้ยตายก็จัดการนำร่างไปนอนบนเตียงห่มผ้าปิดร่างไว้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องมาเหมือนไม่มีอะไร แล้วค่อยแกล้งเข้าไปในห้องอีกครั้ง โดยชวนแอลไปด้วยเพื่อใช้วิธีอย่างที่บอกไป เสร็จแล้วก็หยิบมือถือของเธอออกมา เดินกลับไปหาพวกเรา ...พอมีจังหวะค่อยเอาเข็มพิษไปใส่ในกระเป๋าต้น เพื่อเบี่ยงเบนตัวฆาตกร ซึ่งที่เธอทำทั้งหมดนี้ เพื่อให้เราคิดว่าปุ้ยมีชีวิตอยู่หลังจากที่เธอขึ้นไปเรียก ทำให้ตัวเธอปลอดภัย เพราะหลังจากนั้นดูยังไงเธอก็ไม่มีโอกาสเข้าไปฆ่าปุ้ยได้เลย” ปลายกลับมานั่งที่เดิม แล้วสรุปให้ทุกคนฟังอีกครั้ง
และแล้วสาวสวยรันก็ถูกตำรวจจับกุม เธอยอมรับว่าเป็นคนทำทุกอย่างแล้ว ทั้งหมดเป็นดังที่ปลายได้บอกไป แต่ก่อนที่ตำรวจจะพาเธอไปก็หันมาพูดกับปลายว่า
“รันวางแผนนี้ตอนที่โทรไปถามโหน่งแล้วรู้ว่าปุ้ยไปด้วย รันอยากจะฆ่าปุ้ยอยู่แล้ว มันเอาเรื่องที่รันเอาฝิ่นเข้าห้องสอบมาขอค่าปิดปาก รันต้องยอมให้มันไปตลอด เพราะมันยังเก็บฝิ่นนั้นไว้เป็นหลักฐานอยู่ ไม่ได้ทำลายทิ้ง แถมมันยังบอกว่าถ้าไม่ให้เงินจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งอาจารย์ ...รันเลยจำใจยอมให้เงินมันเรื่อยมาตลอด ตอนอัดเสียงก็ใช้ช่วงคุยเรื่องนี้แหละ แกล้งขออัดเสียงไว้ บอกว่าอัดเล่น ๆ สนุก ๆ ไม่มีอะไร ส่วนเข็มพิษก็หาเอาจากตลาดมืด แล้วใช้ฆ่ามันอย่างที่ปลายบอกนั่นแหละ”
“อืม.. คงเป็นตอนสอบวิชานั้นสินะ ที่ปุ้ยสอบห้องเดียวกันแต่คนละวิชา” ปลายบอกเธอ “..แต่รันก็ไม่น่าทำเลยนะ ทำไมถึงทำอย่างนี้ น่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้นะ”
“ไม่รู้สินะปลาย คงมีอะไรมาสิงรันมั้ง” รันทำทีเหมือนไม่มีอะไร ฉีกยิ้มหวานให้ปลายด้วย “ตอนแรกก็ไม่อยากทำหรอก แต่เห็นมันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก รันทนไม่ได้เลยต้องทำไป ทั้งที่รู้นะว่าปลายอยู่ด้วย มันเสี่ยงเกินไป อาจโดนปลายจับได้แน่ ...ก่อนลงมือรันเองก็หวั่น ๆ อยู่มากทีเดียว กลัวปลายจะจับได้ แต่สุดท้ายรันก็ยังทำลงไปอยู่ดี...“ รันหยุดพูดไปพักหนึ่ง จ้องหน้าเพื่อนหนุ่มนักสืบ “...แต่ถึงปลายจะสืบจนรู้ว่ารันเป็นฆาตกร ..รันก็ยังชอบปลายอยู่นะ ..ไม่เคยเปลี่ยนใจเลย”
รันส่งยิ้มให้อย่างจริงใจเลยทีเดียว
ปลายก็ยิ้มรับเธอ แต่ก็ทำได้เพียงยืนดูเพื่อนสาวถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป ซึ่งขณะที่ตำรวจกำลังพาเธอไปนั้น สาวสวยก็หันกลับมาหาปลายอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“รันรู้ว่าปลายคงไม่ชอบรันหรอก.. รู้อยู่แล้ว ปลายน่ะ..มีคนที่ชอบอยู่แล้วสินะ” เธอเหลือบมองไปที่คน ๆ หนึ่งแล้วหันมาพูดต่อ “ยังไงก็ขอให้โชคดีนะ ลาก่อน..”
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวรันออกจากบ้านพักนี้ไปแล้ว จึงเหลือเพียงแต่สารวัตรสุธีที่สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมและกล่าวขอบคุณปลายอีกเล็กน้อย จึงค่อยตามออกไป
ในที่สุดคดีฆาตกรรมวันหยุดก็จบลง ปลายสามารถช่วยมีนจนสำเร็จ สาวห้าวจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนหนุ่มผู้ช่วยเหลือเธอ เพื่อเข้าไปขอบคุณที่ช่วยตัวเองไว้
“ปลาย... ขอบคุณมากเลยนะ” มีนพูดขึ้นหลังจากนิ่งฟังมาตั้งนาน แต่ที่เธอเงียบมาตลอด คงเพราะมั่นใจว่าปลายจะช่วยเธอได้แน่ จึงไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
“ไม่เป็นหรอกมีน ถ้าเป็นมีนเราต้องช่วยอยู่แล้ว” ปลายตอบด้วยท่าทางที่เขิน ๆ
“..ตอนนายโทรมา ฉันดีใจมากนะ ...นายช่วยฉันไว้อีกแล้ว” มีนมองหน้าหนุ่มผมตั้ง แล้วหยุดพูดพักหนึ่ง นิ่งคิดอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยต่อว่า “เอ่อ... แล้วตอนก่อนเกิดเรื่อง ที่นายตามฉันมาที่ห้อง ..มีเรื่องอะไรหรือ?”
ปลายโดนคำถามย้อนกลับซะแล้ว จะตอบอย่างไรน้า...
ปลายนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ตอบทันที แล้วค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่รู้สิ.. ลืมไปแล้วน่ะ”
บอกว่าลืมซะงั้น แล้วทำไมเรื่องอื่นจำแม่นนัก!
“เหรอ…” มีนพูดไปสักพักก็หาวพลางเอามือปิดปาก “งั้นถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ ง่วงแล้ว”
“อะ..เอ่อ นอนหลับฝันดีนะ ราตรีสวัสดิ์” ปลายไม่รู้ทำไงบอกราตรีสวัสดิ์ซะงั้น ซึ่งพอมีนเข้าห้องไปแล้ว ตัวเองก็เริ่มอ้าปากหาวบ้าง ท่าทางคงจะง่วงเหมือนกัน เขาจึงเดินลงกลับเข้าห้องชั้นล่างไป
สุดท้ายถึงคดีจะจบ แต่เรื่องของปลายกับมีนก็ยังไม่คืบหน้าเหมือนเดิม!
……………………………………………………จบตอน