คิดเอาแค่ว่า ถ้าคนอย่างทักษิณ ถ้าอยู่ประเทศอย่างอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศต่างๆที่ประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ใต้อำนาจแอบแฝง มีศาลเที่ยงธรรม มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคแท้จริง กฎ กติกา ศักดิ์สิทธิ์ เที่ยงตรง ทุกคนทุกหน่วยงานไม่ละเมิดอำนาจ หน้าที่ ขอบเขตตน เป็นดั่งอารยะประเทศที่เจริญทั้งคน ทั้ง ปชต. คนแบบนี้จะได้รับโอกาสพัฒนาบ้านเมืองอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง เป็นที่ต้องการ ยอมรับในสังคมนั้นทันที ในฐานะได้สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคม และจะได้รับการหวงแหน เชิดชูแน่นอนครับ
คนแบบนี้ไม่สามารถอยู่ในประเทศที่อำนาจแอบแฝงปกครองทุกหย่อมหญ้าได้ เพราะการจะลงมือทำอะไรลงไปเพื่อส่วนรวม ต้องมีการขัดผลประโยชน์ทันที รอแค่วันปะทุเท่านั้นเอง
คนดี คนเก่งอยู่ในบริบทสังคมที่สั่งสมรากลึกแบบนี้ยาก ถ้าอยากจะอยู่นานๆ อยู่รอดปลอดภัย ต้องอยู่ให้เป็น เช่น อยู่แบบ ปชป ทำอะไรต้องดู ต้องถาม ต้องระวัง ต้องได้ร่วมกันเท่านั้น
เรื่องนี้ไม่ต้องถามใคร ถามใจคุณเองได้ เอาความจริงเป็นที่ตั้ง สมุติว่าวันนึงเกิดคุณได้เป็นใหญ่ มีอำนาจ มีพลัง แล้วมีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงสังคมอยากทำให้ประชาชนรากหญ้า คนส่วนใหญ่ที่โดนจำกัดสิทธิ์หลายๆอย่าง เช่น แหล่งทุน โอกาส สวัสดิการ การรักษาพยาบาล ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ความอยุติธรรมของสังคม ให้วันนึง ปชช สามารถลืมตาอ้าปาก มีสิทธิ์มีเสียงขึ้นมาได้นั้น จะพบว่าคุณต้องเจอผลกระทบไม่ทางใดก็ทางนึงอย่างแน่นอน เพราะการจะทำสิ่งนี้ต้องทำหลายงาน หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่มีต่อระบบที่ฝังรากลึกมาช้านาน ที่เค้าไม่อยากให้เปลี่ยน เค้าไม่อยากโดนกระทบ ไม่อยากเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไป พบว่ากลุ่มเกาะกินประเทศมันมีมาช้านาน มันมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน หากินง่าย สั่งสมกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น พวกสู่พวก กลุ่มต่อกลุ่ม
กลุ่มทุนผูกขาด กลุ่มอำนาจแอบแฝง ถือว่าไม่ต่างจากมะเร็งที่เกาะกินประเทศ เมืองนี้เลยเป็นเมืองสวรรค์ของคนรวย คนมีอำนาจอย่างแท้จริง
คุณคิดว่ามันจะมีทางเป็นไปได้ไหมที่จะทำงานให้สำเร็จ หรือก้าวหน้าได้อย่างราบลื่น ไม่กระทบสิ่งนั้นได้ โดยเฉพาะธุรกิจอบายมุข ธุรกิจสีเทา สีดำ ถ้าอยากให้สังคมดีขึ้นจริงๆต้องแตะสิ่งนี้ด้วย ใครๆก็รู้ในใจถ้าทำแบบนี้ต้องโดนดีเข้าสักวัน ไม่วันไหนก็วันนึง
ต้องยอมรับว่าสังคมไทย ถ้าอยากเป็นใหญ่ เหมาะแค่คนที่รักพวกพ้อง เหมาะแค่คนที่ไม่ไปขัดผลประโยชน์ใคร ขัดกลุ่มอำนาจแอบแฝง กลุ่มทุนผูกขาด เหมาะกับคนที่ไหลตามน้ำได้ ตีสองหน้าได้ ทำตามใบสั่งได้ แบ่งเค้กได้
และไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากจะเอาเค้กก้อนงาม ผลประโยชน์ความมั่งคั่งของประเทศที่ตกอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆนี้ไปกระจายให้สังคม ชุมชน ประชาชนแน่นอน
ทำไมประเทศมันดีขึ้นทุกภาคส่วนในยุคทักษิณ เพราะเค้ามองใหญ่ ไปที่ภาพรวม โดยเน้นจริงๆไปที่คนส่วนใหญ่ รากหญ้าก่อน จะพบว่าเข้าหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน และเติบโตทุกภาคส่วนทันที
เพราะเมื่อใดก็ตามที่รากหญ้าได้รับโอกาสที่ควรจะมี ได้เข้าแหล่งทุนอย่างทั่วถึง ได้สวัสดิการอย่างที่ควรจะได้ การรักษาพยาลบาลอย่างครอบคลุม ชีวิตความเป็นอยู่คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศจะดีขึ้นตามทันที
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ ถ้าคนรากหญ้าส่วนใหญ่คนลืมตาอ้าปากได้ทั่วประเทศ คนจะมีเงินมากขึ้น อำนาจซื้อจะมากขึ้นตาม การจับจ่ายใช้สอยจะเยอะขึ้นตามลำดับ เกิดการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจคับคั่ง ภาคผลิตเติบโต เกิดการแข่งขันอย่างเสรี มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดการจ้างทั่วประเทศตามมา รายได้มากขึ้นตามลำดับ ทุกอย่างหมุนวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ และถ้าภาครัฐกระตุ้นถูกทางเท่าไหร่ การเติบโต ยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดทันที
และถ้าสามารถลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กลุ่มอำนาจมืดที่แอบแฝงให้แคบลงมากเท่าไหร่ยิ่งดี เอาส่วนนี้มากระจายได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี เศรษฐกิจจะยิ่งเติบโต เงินหมุนเวียนก็ยิ่งหมุนได้เร็วขึ้นมากขึ้น จะทำให้เกิดการแข่งขันของภาคธุรกิจกระจายไปทั่วประเทศอย่างเสรี ไม่กระจุกตัวอยู่แต่ตามหัวเมืองใหญ่ ทุกคนสามารถผลิต จำหน่ายสินค้าเองได้ เราก็จะได้สินค้าราคาดี มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ไม่เกิดการผูกขาดในภาคธุรกิจ ปัญหาวลีความรวยกระจุก จนกระจายก็จะไม่เกิด
ในยุคนั้นว่ากันตามความจริง คนทั่วประเทศส่วนใหญ่มั่งคั่งขึ้น กำลังซื้อมีทั่วประเทศ บางคนเกิดธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ว่ากันไปตามความสามารถศักยภาพที่มี นี่คือความสำคัญ ความจริงที่ทักษิณมองเห็น มองขาด และทำได้จริง เมื่อใดที่รากหญ้า คนส่วนใหญ่เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า และก้าวเดินได้อย่างมั่นคงทุกภาคส่วนเช่นกัน
ไม่ใช่เหมือนตอนนี้จะมาอ้าง gdp โต แล้วสังคมจะโตตามดีขึ้นทุกภาคส่วนได้ เพราะการโตที่มาพร้อมช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้น มันแสดงให้เห็นว่า gdp ส่วนมากโตจากกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่จากสังคมส่วนใหญ่ โตขึ้นจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ทั้งผูกขาดและไม่ผูกขาด โตแบบรุนแรง ทรัพยากรส่วนใหญ่ไปรวมที่ปลายยอดสามเหลี่ยม ส่วนฐานสามเหลี่ยนที่เป็นส่วนมากของสังคมไม่ได้โตตามหรือหลายส่วนติดลบ แบบนี้เค้าเรียกโตหลอกๆ รวยกระจุก จนกระจาย
ประชาชนทุกคนก็เปรียบเหมือนเซลล์มหาศาลที่มีอยู่ในร่างกาย กลุ่มทุนผูกขาด กลุ่มอำนาจมืดแอบแฝง ก็ไม่ต่างจากมะเร็ง โรคต่างๆที่ถือว่าเป็นเซลล์อันตรายเล็กๆไม่กี่จุดกี่ที่ ที่แอบแฝงอยู่ในร่างกาย ต้องโดนรักษา เปลี่ยนแปลง จำกัดไว้อย่าให้ลุกลาม เพราะถ้ารุนแรงไป ร่างกายก็ล้ม และเดินต่อไม่ได้
ประเทศก็เปรียบเสมือนร่างกาย เมื่อใดที่เซลล์ทุกเซลล์หรือประชาชนภาครวมปกติ แข็งแรง จะพบว่าร่างกายหรือประเทศก็จะแข็งแรงขึ้นมากๆตามไปด้วย การจะเดิน จะก้าว จะกระโดดก็มีความมั่นคง และยังสามารถก้าวเดินได้อย่างก้าวกระโดดอย่างที่ใจต้องการได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีการหยุดชะงักไม่กี่สิบปี ประเทศจะมีความสามารถพอที่จะแข่งขัน ทัดเทียมนานาประเทศที่เจริญได้อย่างแน่นอนครับ
ทักษิณศัตรูร้ายของอำนาจผูกขาด คนชั้นสูง.... มิตรแท้ของคนรากหญ้า .....ทักษิณ x รากหญ้า = ความเจริญ
คนแบบนี้ไม่สามารถอยู่ในประเทศที่อำนาจแอบแฝงปกครองทุกหย่อมหญ้าได้ เพราะการจะลงมือทำอะไรลงไปเพื่อส่วนรวม ต้องมีการขัดผลประโยชน์ทันที รอแค่วันปะทุเท่านั้นเอง
คนดี คนเก่งอยู่ในบริบทสังคมที่สั่งสมรากลึกแบบนี้ยาก ถ้าอยากจะอยู่นานๆ อยู่รอดปลอดภัย ต้องอยู่ให้เป็น เช่น อยู่แบบ ปชป ทำอะไรต้องดู ต้องถาม ต้องระวัง ต้องได้ร่วมกันเท่านั้น
เรื่องนี้ไม่ต้องถามใคร ถามใจคุณเองได้ เอาความจริงเป็นที่ตั้ง สมุติว่าวันนึงเกิดคุณได้เป็นใหญ่ มีอำนาจ มีพลัง แล้วมีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงสังคมอยากทำให้ประชาชนรากหญ้า คนส่วนใหญ่ที่โดนจำกัดสิทธิ์หลายๆอย่าง เช่น แหล่งทุน โอกาส สวัสดิการ การรักษาพยาบาล ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ความอยุติธรรมของสังคม ให้วันนึง ปชช สามารถลืมตาอ้าปาก มีสิทธิ์มีเสียงขึ้นมาได้นั้น จะพบว่าคุณต้องเจอผลกระทบไม่ทางใดก็ทางนึงอย่างแน่นอน เพราะการจะทำสิ่งนี้ต้องทำหลายงาน หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่มีต่อระบบที่ฝังรากลึกมาช้านาน ที่เค้าไม่อยากให้เปลี่ยน เค้าไม่อยากโดนกระทบ ไม่อยากเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไป พบว่ากลุ่มเกาะกินประเทศมันมีมาช้านาน มันมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน หากินง่าย สั่งสมกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น พวกสู่พวก กลุ่มต่อกลุ่ม
กลุ่มทุนผูกขาด กลุ่มอำนาจแอบแฝง ถือว่าไม่ต่างจากมะเร็งที่เกาะกินประเทศ เมืองนี้เลยเป็นเมืองสวรรค์ของคนรวย คนมีอำนาจอย่างแท้จริง
คุณคิดว่ามันจะมีทางเป็นไปได้ไหมที่จะทำงานให้สำเร็จ หรือก้าวหน้าได้อย่างราบลื่น ไม่กระทบสิ่งนั้นได้ โดยเฉพาะธุรกิจอบายมุข ธุรกิจสีเทา สีดำ ถ้าอยากให้สังคมดีขึ้นจริงๆต้องแตะสิ่งนี้ด้วย ใครๆก็รู้ในใจถ้าทำแบบนี้ต้องโดนดีเข้าสักวัน ไม่วันไหนก็วันนึง
ต้องยอมรับว่าสังคมไทย ถ้าอยากเป็นใหญ่ เหมาะแค่คนที่รักพวกพ้อง เหมาะแค่คนที่ไม่ไปขัดผลประโยชน์ใคร ขัดกลุ่มอำนาจแอบแฝง กลุ่มทุนผูกขาด เหมาะกับคนที่ไหลตามน้ำได้ ตีสองหน้าได้ ทำตามใบสั่งได้ แบ่งเค้กได้
และไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากจะเอาเค้กก้อนงาม ผลประโยชน์ความมั่งคั่งของประเทศที่ตกอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆนี้ไปกระจายให้สังคม ชุมชน ประชาชนแน่นอน
ทำไมประเทศมันดีขึ้นทุกภาคส่วนในยุคทักษิณ เพราะเค้ามองใหญ่ ไปที่ภาพรวม โดยเน้นจริงๆไปที่คนส่วนใหญ่ รากหญ้าก่อน จะพบว่าเข้าหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน และเติบโตทุกภาคส่วนทันที
เพราะเมื่อใดก็ตามที่รากหญ้าได้รับโอกาสที่ควรจะมี ได้เข้าแหล่งทุนอย่างทั่วถึง ได้สวัสดิการอย่างที่ควรจะได้ การรักษาพยาลบาลอย่างครอบคลุม ชีวิตความเป็นอยู่คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศจะดีขึ้นตามทันที
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ ถ้าคนรากหญ้าส่วนใหญ่คนลืมตาอ้าปากได้ทั่วประเทศ คนจะมีเงินมากขึ้น อำนาจซื้อจะมากขึ้นตาม การจับจ่ายใช้สอยจะเยอะขึ้นตามลำดับ เกิดการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจคับคั่ง ภาคผลิตเติบโต เกิดการแข่งขันอย่างเสรี มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดการจ้างทั่วประเทศตามมา รายได้มากขึ้นตามลำดับ ทุกอย่างหมุนวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ และถ้าภาครัฐกระตุ้นถูกทางเท่าไหร่ การเติบโต ยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดทันที
และถ้าสามารถลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กลุ่มอำนาจมืดที่แอบแฝงให้แคบลงมากเท่าไหร่ยิ่งดี เอาส่วนนี้มากระจายได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี เศรษฐกิจจะยิ่งเติบโต เงินหมุนเวียนก็ยิ่งหมุนได้เร็วขึ้นมากขึ้น จะทำให้เกิดการแข่งขันของภาคธุรกิจกระจายไปทั่วประเทศอย่างเสรี ไม่กระจุกตัวอยู่แต่ตามหัวเมืองใหญ่ ทุกคนสามารถผลิต จำหน่ายสินค้าเองได้ เราก็จะได้สินค้าราคาดี มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ไม่เกิดการผูกขาดในภาคธุรกิจ ปัญหาวลีความรวยกระจุก จนกระจายก็จะไม่เกิด
ในยุคนั้นว่ากันตามความจริง คนทั่วประเทศส่วนใหญ่มั่งคั่งขึ้น กำลังซื้อมีทั่วประเทศ บางคนเกิดธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ว่ากันไปตามความสามารถศักยภาพที่มี นี่คือความสำคัญ ความจริงที่ทักษิณมองเห็น มองขาด และทำได้จริง เมื่อใดที่รากหญ้า คนส่วนใหญ่เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า และก้าวเดินได้อย่างมั่นคงทุกภาคส่วนเช่นกัน
ไม่ใช่เหมือนตอนนี้จะมาอ้าง gdp โต แล้วสังคมจะโตตามดีขึ้นทุกภาคส่วนได้ เพราะการโตที่มาพร้อมช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้น มันแสดงให้เห็นว่า gdp ส่วนมากโตจากกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่จากสังคมส่วนใหญ่ โตขึ้นจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ทั้งผูกขาดและไม่ผูกขาด โตแบบรุนแรง ทรัพยากรส่วนใหญ่ไปรวมที่ปลายยอดสามเหลี่ยม ส่วนฐานสามเหลี่ยนที่เป็นส่วนมากของสังคมไม่ได้โตตามหรือหลายส่วนติดลบ แบบนี้เค้าเรียกโตหลอกๆ รวยกระจุก จนกระจาย
ประชาชนทุกคนก็เปรียบเหมือนเซลล์มหาศาลที่มีอยู่ในร่างกาย กลุ่มทุนผูกขาด กลุ่มอำนาจมืดแอบแฝง ก็ไม่ต่างจากมะเร็ง โรคต่างๆที่ถือว่าเป็นเซลล์อันตรายเล็กๆไม่กี่จุดกี่ที่ ที่แอบแฝงอยู่ในร่างกาย ต้องโดนรักษา เปลี่ยนแปลง จำกัดไว้อย่าให้ลุกลาม เพราะถ้ารุนแรงไป ร่างกายก็ล้ม และเดินต่อไม่ได้
ประเทศก็เปรียบเสมือนร่างกาย เมื่อใดที่เซลล์ทุกเซลล์หรือประชาชนภาครวมปกติ แข็งแรง จะพบว่าร่างกายหรือประเทศก็จะแข็งแรงขึ้นมากๆตามไปด้วย การจะเดิน จะก้าว จะกระโดดก็มีความมั่นคง และยังสามารถก้าวเดินได้อย่างก้าวกระโดดอย่างที่ใจต้องการได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีการหยุดชะงักไม่กี่สิบปี ประเทศจะมีความสามารถพอที่จะแข่งขัน ทัดเทียมนานาประเทศที่เจริญได้อย่างแน่นอนครับ