"เขามีส่วนเลวบ้างก็ช่างเขา จงเลือกเอาส่วนดีที่เขามีอยู่"
คำนี้ที่แม่สอนมาเสมอตั้งแต่ยังเด็ก แต่ถึงตอนนี้ ถึงวัยที่ต้องคิดเองตัดสินใจเอง อยากรู้จังว่าคำนี้มันใช้ได้จริงเหรอ..??
เรากับแฟนคบกัน 10 ปี ตั้งแต่ ม.2 จนตอนนี้จบป.ตรีทำงานทั้งคู่ เขารับราชการ เราเป็นพนักงานบริษัท เราอายุห่างกัน 3 ปี ตลอดเวลาที่คบกันมา เราก็เหมือนคู่รักทั่วไป ดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง เราเข้ากันได้ในบางเรื่อง แต่บางเรื่องก็ขัดกัน พื้นฐานครอบครัวเราสองคน เขาฐานะดีกว่าเรา แต่ก็ไม่ได้ติดหรูอะไร เราก็ถือว่าปานกลาง พ่อแม่เขากับเราคุยกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสนิทอะไร เราคบกันแบบเปิดเผย แต่ทางบ้านเราค่อนข้างจะหวงเรามาก แต่ก็ยอมรับเขา เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองมาก็เยอะ เราสองคนไม่มีเรื่องมือที่สามให้คิดมากหรือทะเลาะกัน
..คู่เราดูเป็นที่อิจฉาของคนภายนอก ดูคบกันนาน ดูรักกันดี .. ใช่สิ มันก็ต้องดูเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสำหรับคนที่มองมา
แต่.. พอเวลาผ่านมา ผ่านมาในจุดนึง อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น เรามองโลกกว้างขึ้น หลายๆอย่าง มันทำให้เราเริ่มไม่แน่ใจ เราสับสน ความคิดเราเริ่มตีกันในหัว
..เราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าความรักกับความดี มันใช่เรื่องเดียวกันมั้ย เรายอมรับว่าแฟนเราดีกับเรา เขาช่วยเหลือเราเวลาเรามีเรื่องเดือดร้อน แต่เขาก็ช่วยได้ไม่เต็มที่ แต่เราก็คิดว่าก็ยังดีที่เขายังช่วย แต่บางเวลาเขาก็ร้าย ร้ายจนเรากลัว จนเราไม่แน่ใจว่าเราจะฝากชีวิตไว้กับคนๆนี้จริงหรอ บางทีเขาก็ดูเรื่อยเปื่อยกับชีวิต แต่บางทีเขาก็ดูแอคทีฟ แต่มันยังไม่ถึงที่สุด บางอย่างพื้นฐานครอบครัวเรากับเขาไม่เหมือนกัน เช่นเขาไม่รักสัตว์ แต่เรารักสัตว์มาก ก็มีทะเลาะเรื่องนี้กันบ้าง
ตอนสมัยก่อน ด้วยความยังเด็ก อะไรๆมันก็ไปด้วยกันได้ แต่ตอนนี้พอโตขึ้น มองเห็นอนาคตมากขึ้น เราเลยคิดว่าเราจะเลือกมองแค่ส่วนที่ดีของเขาได้จริงหรอ เราจะเลือกเขาเป็นคู่ชีวิตได้จริงหรอ เราสับสน..
ถ้าความรักกับความดี มันคนละเรื่อง เป็นคุณจะเลือกอะไร?
คำนี้ที่แม่สอนมาเสมอตั้งแต่ยังเด็ก แต่ถึงตอนนี้ ถึงวัยที่ต้องคิดเองตัดสินใจเอง อยากรู้จังว่าคำนี้มันใช้ได้จริงเหรอ..??
เรากับแฟนคบกัน 10 ปี ตั้งแต่ ม.2 จนตอนนี้จบป.ตรีทำงานทั้งคู่ เขารับราชการ เราเป็นพนักงานบริษัท เราอายุห่างกัน 3 ปี ตลอดเวลาที่คบกันมา เราก็เหมือนคู่รักทั่วไป ดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง เราเข้ากันได้ในบางเรื่อง แต่บางเรื่องก็ขัดกัน พื้นฐานครอบครัวเราสองคน เขาฐานะดีกว่าเรา แต่ก็ไม่ได้ติดหรูอะไร เราก็ถือว่าปานกลาง พ่อแม่เขากับเราคุยกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสนิทอะไร เราคบกันแบบเปิดเผย แต่ทางบ้านเราค่อนข้างจะหวงเรามาก แต่ก็ยอมรับเขา เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองมาก็เยอะ เราสองคนไม่มีเรื่องมือที่สามให้คิดมากหรือทะเลาะกัน
..คู่เราดูเป็นที่อิจฉาของคนภายนอก ดูคบกันนาน ดูรักกันดี .. ใช่สิ มันก็ต้องดูเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสำหรับคนที่มองมา
แต่.. พอเวลาผ่านมา ผ่านมาในจุดนึง อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น เรามองโลกกว้างขึ้น หลายๆอย่าง มันทำให้เราเริ่มไม่แน่ใจ เราสับสน ความคิดเราเริ่มตีกันในหัว
..เราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าความรักกับความดี มันใช่เรื่องเดียวกันมั้ย เรายอมรับว่าแฟนเราดีกับเรา เขาช่วยเหลือเราเวลาเรามีเรื่องเดือดร้อน แต่เขาก็ช่วยได้ไม่เต็มที่ แต่เราก็คิดว่าก็ยังดีที่เขายังช่วย แต่บางเวลาเขาก็ร้าย ร้ายจนเรากลัว จนเราไม่แน่ใจว่าเราจะฝากชีวิตไว้กับคนๆนี้จริงหรอ บางทีเขาก็ดูเรื่อยเปื่อยกับชีวิต แต่บางทีเขาก็ดูแอคทีฟ แต่มันยังไม่ถึงที่สุด บางอย่างพื้นฐานครอบครัวเรากับเขาไม่เหมือนกัน เช่นเขาไม่รักสัตว์ แต่เรารักสัตว์มาก ก็มีทะเลาะเรื่องนี้กันบ้าง
ตอนสมัยก่อน ด้วยความยังเด็ก อะไรๆมันก็ไปด้วยกันได้ แต่ตอนนี้พอโตขึ้น มองเห็นอนาคตมากขึ้น เราเลยคิดว่าเราจะเลือกมองแค่ส่วนที่ดีของเขาได้จริงหรอ เราจะเลือกเขาเป็นคู่ชีวิตได้จริงหรอ เราสับสน..