มาขอแลกเปลี่ยนมุมมองในสังคมงานประจำ ว่าทำไมหลายคนเอาแต่จับผิดกันในเวลาทำงาน และทำไมทุกคนต้องสร้างภาพว่าทำงาน ทั้งๆที่เนื้องานต่อวันทำกันจริงจังแค่ 4 ชม.ก็เสร็จแล้ว แต่พอจบงานกลับกลายเป็นว่าทุกคนต้องทำท่ามองจอ ตลกดี ถ้าใครอ่านหนังสือส่วนตัว(เพื่อพัฒนาตัวเองตามงานที่ทำนั้นละ) ก็จะมีคนเอาไปนินทายุแยงไปถึงเจ้านายให้โยนงานมาให้อีกเยอะๆ และนายจ้าง(โดยเฉพาะองค์กรเล็กที่บริหารเอง)จ้องแต่จะคิดว่าลูกจ้างต้องทำงานให้ไม่หยุดมือตลอด 8 ชม. ใกล้เลิกงานก็ชอบมอบหมายงานด่วนให้ทำเพื่อให้กลับช้าลง...กระทู้นี้ขอระบายความจริงที่เห็นมาตลอดในหลายๆที่ทำงาน
เรื่องเจ้านายอาจเป็นแค่บางที่ แต่เรื่องคนทำงานแล้วต้องแสร้งทำเป็นทำงานอยู่นี่มีทุกที่จริงๆ...แต่ไม่ทุ่มเทในเนื้องาน (เปลือกนอกสวย แต่เนื้องานทำผ่านๆ)
ปล.ระบายแล้วขอแชร์ทางหนีทีไล่ให้คนรุ่นหลังว่า จากประสบการณ์ทำงานทั้งองค์กรใหญ่และเล็ก ให้คำแนะนำน้องๆที่จำเป็นต้องทำงานประจำว่า ให้พยายามทำงานกับองค์กรใหญ่เท่านั้น เพราะเจ้าของจะไม่ลงมาวุ่นวายกับเรา มากสุดคือการเมืองระหว่างเพื่อนร่วมงาน(แต่ก่อนนึกว่าเรื่องนี้หนักหนาสุดในการทำงานเลยหนีองค์กรใหญ่มาที่เล็กแทน แต่จุดนี้องค์กรเล็กก็เป็นเช่นกัน และแย่ตรงเจ้าของที่โดนลูกน้องฝั่งไม่ดีครอบงำ ฝั่งคนทำงานปกติจะทำงานด้วยความอึดอัดใจมาก)
ทำไมงานประจำพอทำงานเสร็จแล้ว ห้ามทำท่าให้รู้ว่าว่าง จะโดนเอาไปฟ้องเจ้านาย ขายเวลา 8 ชม./วัน นี่ต้องทำท่ายุ่งตลอดเหรอ?
เรื่องเจ้านายอาจเป็นแค่บางที่ แต่เรื่องคนทำงานแล้วต้องแสร้งทำเป็นทำงานอยู่นี่มีทุกที่จริงๆ...แต่ไม่ทุ่มเทในเนื้องาน (เปลือกนอกสวย แต่เนื้องานทำผ่านๆ)
ปล.ระบายแล้วขอแชร์ทางหนีทีไล่ให้คนรุ่นหลังว่า จากประสบการณ์ทำงานทั้งองค์กรใหญ่และเล็ก ให้คำแนะนำน้องๆที่จำเป็นต้องทำงานประจำว่า ให้พยายามทำงานกับองค์กรใหญ่เท่านั้น เพราะเจ้าของจะไม่ลงมาวุ่นวายกับเรา มากสุดคือการเมืองระหว่างเพื่อนร่วมงาน(แต่ก่อนนึกว่าเรื่องนี้หนักหนาสุดในการทำงานเลยหนีองค์กรใหญ่มาที่เล็กแทน แต่จุดนี้องค์กรเล็กก็เป็นเช่นกัน และแย่ตรงเจ้าของที่โดนลูกน้องฝั่งไม่ดีครอบงำ ฝั่งคนทำงานปกติจะทำงานด้วยความอึดอัดใจมาก)