4.0, French sex, นิพพาน
เคยดูหนัง nine and half weeks ที่คิมบาซิงเจอร์กับมิกกี้รูคเล่นไม๊ ความเย้ายวน เซ็กส์ซี่ ขี้เล่น ต้นน้ำและปลายน้ำของดำกฤษณา ปรนเปรอกันทั้งวัน
คล้ายๆวัฒนธรรมเสพกินดื่มของพวกฝรั่งเศสแหละ แพร่มาจากราชสำนักถึงคนทั่วไป วัฒนธรรมที่ทำราชวงบูรบองล่มสลายเกิดปฏิวัติฝรั่งเศส
คนฝรั่งเศสถกกันได้ทั่วไปถกกันได้ทุกเรื่อง การเมือง ความรัก เซ็กส์ อาหาร ไวน์ ลมฟ้าอากาศ ดูเผินๆเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ลึกๆเป็นการมองลึกมองค้นเข้าไปในธรรมชาติสิ่งต่างๆรอบตัว แล้วนำเสนอ ทำมันออกมาให้ดีที่สุด เกิดแบรนด์เนม สั่งตัด bespoke ต่างๆมากมาย ไม่ว่าอาหาร เสื้อผ้า ไวน์ การกินการอยู่ เซ็กส์ ระบอบการเมือง วัฒนธรรม หรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ ล้วนมาจากความรอบรู้ อยากรู้ สั่งสมความรู้ของคนทั้งนั้น
คือก่อนจะเป็นโปรดัก สินค้าออกมา มันมีรากมาจากคน การศึกษาอยากรู้ของคน สิ่งแวดล้อมแบบนี้เรามีไม๊ จะเป็นไทยแลนด์ 4.0 น่ะ
และที่สำคัญคนยุโรปไม่ได้ถกกันแต่เรื่องการกินการอยู่เท่านั้น ส่วนหนึ่งถกกันถึงนามธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เรื่องอื่นๆด้วย เรื่องอจินไตย ไม่รู้จักจบสิ้น หาคำตอบไม่ได้
สมัยก่อนผู้หญิงในยุโรปมักเสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อหลังคลอดลูก หมอและนักวิทยาศาสตร์พากันหาคำตอบเป็นการใหญ่ แต่หายังไงก็พาไม่พบ จนมีกระทาชายนายหนึ่งสังเกตว่าผู้หญิงที่คลอดลูกตอนบ่ายมักมีอัตราเสียชีวิตมากกว่าตอนเช้า พอนึกย้อนดูพวกหมอที่มาทำคลอดตอนบ่าย ตอนเช้าก็ผ่าศพ ศึกษากายวิภาค .... นั่นแหละการฆ่าเชื้อ sterile จึงได้เกิดขึ้น มนุษย์เริ่มรู้จักสิ่งมีชีวิตเล็กๆอย่างเชื้อโรคผ่านสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยในยุคต่อมาอย่างกล้องจุลทรรศน์
เช่นกัน การสำรวจนามธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างความรักและเซ็กส์นั้น อาจต้องมีเครื่องมือพิเศษศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ แบบกล้องจุลทรรศน์ส่องดูเชื้อโรค เครื่องมือนี้อาจมีการทำกันอยู่ ในแวดวงแคบๆ แต่ไม่ปรากฏต่อสาธารณะวงกว้าง
ในทางพุทธเรียกเครื่องมือแบบนี้ว่า วิปัสนา การทำจิตให้แหลมคมจนสอดส่องความรู้ลึก สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกายเรา จนเข้าใจ สร้างสิ่งที่ดี อยู่ร่วมสอดคล้องกับธรรมชาติ นำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของพุทธ ที่เรียกว่า นิพพานนั่นแหละ
สนทนายามเช้ากับป้า (คิม) บา(ซิงเจอร์)
4.0, French sex, นิพพาน
เคยดูหนัง nine and half weeks ที่คิมบาซิงเจอร์กับมิกกี้รูคเล่นไม๊ ความเย้ายวน เซ็กส์ซี่ ขี้เล่น ต้นน้ำและปลายน้ำของดำกฤษณา ปรนเปรอกันทั้งวัน
คล้ายๆวัฒนธรรมเสพกินดื่มของพวกฝรั่งเศสแหละ แพร่มาจากราชสำนักถึงคนทั่วไป วัฒนธรรมที่ทำราชวงบูรบองล่มสลายเกิดปฏิวัติฝรั่งเศส
คนฝรั่งเศสถกกันได้ทั่วไปถกกันได้ทุกเรื่อง การเมือง ความรัก เซ็กส์ อาหาร ไวน์ ลมฟ้าอากาศ ดูเผินๆเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ลึกๆเป็นการมองลึกมองค้นเข้าไปในธรรมชาติสิ่งต่างๆรอบตัว แล้วนำเสนอ ทำมันออกมาให้ดีที่สุด เกิดแบรนด์เนม สั่งตัด bespoke ต่างๆมากมาย ไม่ว่าอาหาร เสื้อผ้า ไวน์ การกินการอยู่ เซ็กส์ ระบอบการเมือง วัฒนธรรม หรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ ล้วนมาจากความรอบรู้ อยากรู้ สั่งสมความรู้ของคนทั้งนั้น
คือก่อนจะเป็นโปรดัก สินค้าออกมา มันมีรากมาจากคน การศึกษาอยากรู้ของคน สิ่งแวดล้อมแบบนี้เรามีไม๊ จะเป็นไทยแลนด์ 4.0 น่ะ
และที่สำคัญคนยุโรปไม่ได้ถกกันแต่เรื่องการกินการอยู่เท่านั้น ส่วนหนึ่งถกกันถึงนามธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เรื่องอื่นๆด้วย เรื่องอจินไตย ไม่รู้จักจบสิ้น หาคำตอบไม่ได้
สมัยก่อนผู้หญิงในยุโรปมักเสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อหลังคลอดลูก หมอและนักวิทยาศาสตร์พากันหาคำตอบเป็นการใหญ่ แต่หายังไงก็พาไม่พบ จนมีกระทาชายนายหนึ่งสังเกตว่าผู้หญิงที่คลอดลูกตอนบ่ายมักมีอัตราเสียชีวิตมากกว่าตอนเช้า พอนึกย้อนดูพวกหมอที่มาทำคลอดตอนบ่าย ตอนเช้าก็ผ่าศพ ศึกษากายวิภาค .... นั่นแหละการฆ่าเชื้อ sterile จึงได้เกิดขึ้น มนุษย์เริ่มรู้จักสิ่งมีชีวิตเล็กๆอย่างเชื้อโรคผ่านสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยในยุคต่อมาอย่างกล้องจุลทรรศน์
เช่นกัน การสำรวจนามธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างความรักและเซ็กส์นั้น อาจต้องมีเครื่องมือพิเศษศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ แบบกล้องจุลทรรศน์ส่องดูเชื้อโรค เครื่องมือนี้อาจมีการทำกันอยู่ ในแวดวงแคบๆ แต่ไม่ปรากฏต่อสาธารณะวงกว้าง
ในทางพุทธเรียกเครื่องมือแบบนี้ว่า วิปัสนา การทำจิตให้แหลมคมจนสอดส่องความรู้ลึก สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกายเรา จนเข้าใจ สร้างสิ่งที่ดี อยู่ร่วมสอดคล้องกับธรรมชาติ นำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของพุทธ ที่เรียกว่า นิพพานนั่นแหละ
สนทนายามเช้ากับป้า (คิม) บา(ซิงเจอร์)