กาญนะจ๊ะบุรี--เที่ยวกี่ทีไม่มีเบื่อ--

กาญจนบุรี จังหวัดที่อากาศดีๆกับแสงแดดแรงๆถือเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัด มีชื่อเสียงที่อุณหภูมิแตกต่างกันสุดขั้วระหว่างกลางวันและกลางคืน แต่ก็เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เราไปเที่ยวกาญหลายรอบมากๆ จนสุดท้ายก็ยังไม่เที่ยวไม่ครบซักที
ทริปนี้ จุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่อ.สังขละบุรี อำเภอที่อัดแน่นไปด้วยขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมทางฝั่งพม่า ที่ใครได้ไปสัมผัสก็ต้องหลงรักทุกคนเลยค่ะ ทริปนี้เราไปตอนช่วงเทศกาลคนเลยเยอะมากกกกกก ในรูปอาจจะเต็มไปด้วยคนซักหน่อยนะคะ หามุมถ่ายยากมาก55555
ออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้ามืดไปสว่างที่นู่นพอดี ที่แรกที่เราไปกันคือ วัดถ้ำเสือ หนึ่งวัดดังในจังหวัดกาญจนบุรีที่ใครไปใครมาก็ต้องมาแวะ ทางขึ้นวัดมีบันไดนะคะแต่ถ้าจำไม่ผิดมีรถเลื่อนพาขึ้นไปแต่เราเดินขึ้นค่ะ แต่สำหรับเราที่ปราบเซียนคืออยู่ข้างบนค่ะ ที่เดินขึ้นไปบนยอดเจดีย์ คือเหนื่อยมากกกแต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมาคือวิวสวยๆกับลมเย็นๆค่ะ5555
หลังจากลากสังขารกันลงมาจากวัดได้แล้วเราก็ไปต่อกันที่มีนาคาเฟ่ อยู่อีกฟากนึงของวัดถ้ำเสือค่ะ ร้านกาแฟบรรยากาศดีๆพร้อมมุมเช็คอินอีกเพียบบบบ ให้ได้เลือกถ่ายรูปกัน แดดแรงแต่แสงสวยก็ต้องทนค่ะ แว่นกันแดดพกกันไว้นะคะ อันนี้รูปที่ไม่มีคนอยู่โทรศัพท์เครื่องเก่า ดูหน้าเราไปก่อนละกัน5555
เมื่ออุดหนุนกาแฟและถ่ายรูป เช็คอินกันไปแล้ว เราก็ไปต่อกันไม่ไกลมากก็จะเจอกับต้นจามจุรียักษ์ อายุนับร้อยปีที่รอให้ทุกคนได้ยลโฉมกัน มีม้าให้ขี่และเดินรอบๆต้นจามจุรีด้วยนะคะแต่เราไม่ได้ขึ้น เหมือนตอนเราไปยังไม่มีสะพานรอบต้นเลยค่ะ ตอนนี้เหมือนจะสร้างเสร็จแล้ว
ที่นี่เราเจอกิ้งก่าด้วย กิ้งก่าสีฟ้าที่เราไม่เคยเห็นเลย แปลกดีอ้ะ
มาต่อกันอีกที่ ที่เราไปทุกครั้งที่มาจังหวัดกาญจนบุรี นั่นก็คือสะพานข้ามแม่น้ำแควที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับร้อยปีตั้งแต่สมัยสงครามโลกกันเลย แถวๆนี้มีร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีๆและร้านขายพลอย ของฝากให้เลือกซื้อเยอะแยะเลยนะคะ ไม่ควรพลาด
เมื่ออิ่มท้องและอิ่มแดดจากที่นี่ไปแล้ว เราก็มุ่งหน้าเพื่อจะไปสังขละบุรีกัน แต่ระหว่างทางเราก็เลยแวะอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ซึ่งจะว่าอยู่ระหว่างทางหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ว่าใครจะอยากแวะไปค่ะ ในอุทยานก็มีปราสาทเก่าๆสไตล์ปราสาทกินพิมาย อายุเก่าแก่มากและยังมีพวกโครงกระดูกด้วยนะ
ทีนี้เราก็มุ่งตรงขึ้นไปยังอำเภอสังขละบุรีกันค่ะ ระหว่างทางสัญญาณโทรศัพท์หายไปประมาณ1-2ชั่วโมงเลยกว่าจะถึง นั่งดูวิว ถ่ายรูปไปเพลินๆ ทางค่อนข้างขึ้นเขา ขับรถกันด้วยความระมัดระวังนะคะ อันตรายที่หาคนช่วยยาก สัญญาณก็ไม่มี555555
กว่าจะถึงสังขละก็เกือบเย็นแล้วค่ะ เราก็เลยเข้าที่พักซึ่งเราพักกันที่สังขละคีรีรีสอร์ท รีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ โมเดิร์นบนเขาที่มองเห็นวิวที่สวยมากกก
พอตกเย็นเราก็ไปต่อที่ถนนคนเดินสังขละบุรีกันค่ะ ไปซื้อของกินและเดินเล่นกัน ในถนนคนเดินมีการแสดงพื้นบ้านจากเด็กๆให้ได้ดูด้วยนะคะ แต่ว่ารูปดันอยู่ในโทรศัพท์เครื่องเก่า แงงงง

ถึงเช้าวันใหม่ สำหรับคนที่เข้าพักที่นี่ แนะนำให้ตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและออกมาดูพระอาทิตย์หน้าระเบียงห้องพักนั่นแหละค่ะ สวยมากก เราไปตอนหน้าร้อนยังสวย ถ้าไปตอนหน้าฝนกับหน้าหนาวนี่เป็นทะเลหมอกเลยค่ะ เราเห็นทางเพจรีสอร์ทลง
อาหารเช้าพร้อม เราก็พร้อมกินค่ะ
เมื่อทานอาหารเช้าแล้ว เราก็ออกเดินทางเข้าไปเที่ยวในสังขละกันค่ะ สิ่งที่ควรมาทำในยามเช้าของสังขละบุรีคือการมาใส่บาตรตรงทางเข้าสะพานมอญ ถือว่าเป็นสิริมงคลในชีวิต มาซักครั้งต้องมาลองเก็บบรรยากาศแบบนี้ดูหรือใครอยากจะเข้าธีม สองข้างทางระหว่างเดินเข้าไปใส่บาตรและไปสะพานมีเสื้อผ้าและของฝากขายมากมาย ทุกคนสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าแม้วหรือพม่าแล้วใส่ลงไปเดิน เท่ไม่หยอกเลยนะคะ
เมื่อใส่บาตรเสร็จเราก็ฝ่าฝูงชนลงไปยังสะพานไม้อุตตมานุสสรหรือสะพานมอญ หนึ่งแลนด์มาร์กในอำเภอสังขละบุรี ดูคนสิคะ เพียบบบบบ แต่สายแล้วคนจะน้อยเพราะแดดร้อน555
เมื่อเราขึ้นไปบนสะพานจะมีวิวแม่น้ำทั้งสองฝั่งที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน เราก็จะเจอกับเด็กๆที่มาพร้อมกับแป้งทานาคาและแป้นพิมพ์ลายน่ารักๆ ไว้แปะที่แก้มหรือหน้าผากแล้วแต่เราจะเลือก ส่วนราคาก็แล้วแต่เราจะให้เป็นสินน้ำใจน้องๆเลยค่ะ ส่วนน้องคนนี้น่ารักกกกก
หลังจากนั้นเราก็ลงเรือเพื่อไปเที่ยวเมืองบาดาลกันนน แนะนำให้เลือกลงเรือดีๆนะคะ เราลงเรือฝั่งที่อยุ่ข้างสะพานแต่ต้องลอดสะพานด้วย โอ้ยย เราชอบมากก ได้ถ่ายรูปสะพานใกล้ๆอีกมุมนึงก็สวยมากๆเลย
ในเมืองบาดาลก็จะประกอบไปด้วยวัดวาต่างๆที่เคยตั้งอยู่ในเมืองสังขละเก่าแต่ด้วยการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ จึงทำให้ทั้งอำเภอสังขละเก่าจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต่างย้ายที่อยู่ไปยังอำเภอปัจจุบัน สิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่คือบ้านเรือนและวัดที่จมอยู่ใต้น้ำ เมื่อถึงหน้าแล้ง วัดต่างๆที่ยังคงเหลืออยู่จึงโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
วัดแรกคือวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม แต่เราไม่ได้ลงจากเรือเพราะอะไรดูจากรูปนะคะ55555
ส่วนวัดต่อมาคือวัดสมเด็จ วัดนี้จะอยู่บนเขา ต้องเดินขึ้นไปค่ะ ไม่มีพระอยู่มีแต่พระพุทธรูปที่สักการะได้ ที่วัดนี้มีน้องไกด์นำทางอธิบายความเป็นมาของเมืองบาดาลด้วยนะ อุดหนุนช่วยสมทบทุนการศึกษาน้องๆกันได้น้าา
ระหว่างทางนั่งเรือก็ยังเห็นสิ่งปลูกสร้างอีกมากมายที่โผล่พ้นน้ำมา แต่ไม่สามารถลงไปได้ค่ะ เหมือนตอนเราไปน้ำยังลงไม่มากพอ
หลังจากนั่งเรือชมวิวไปเรื่อยๆแล้ว เราก็กลับมาขึ้นฝั่งที่ข้างๆสะพานมอญและไปต่อกันที่วัดวังก์วิเวการามหรือวัดหลวงพ่ออุตตมะใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทนวัดเดิมที่จมน้ำนั่นเองค่ะ ในวัดจะมีสรีระหลวงพ่ออุตตมะให้กราบสักการะกันถือเป็นเกจิชื่อดังในแถบนี้เลยค่ะ
เลยไปอีกนิดนึงก็เป็นเจดีย์พุทธคยาจำลอง สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ค่ะ แนะนำให้ขับรถไปจากวัดนะคะ น่าจะเดินไม่ไหว ดูห่างกันพอสมควรค่ะ
หลังจากนั้นเราจึงมาเข้าที่พักที่ไทรโยคคอฟฟี่แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมา ที่พักถือว่าดีมีอาหารเช้า กาแฟอร่อยด้วยค่ะ ใครผ่านไปผ่านมา ไม่จำเป็นต้องเข้าพักก็สามารถแวะมาซื้อกาแฟทานได้นะคะ
เนื่องด้วยเวลาที่เหลือก่อนจะเย็น เราเลยไปกันที่ถ้ำละว้า ถ้ำหินปูนขนาดกลางที่ข้างในมีค้างคาวและหินงอกหินย้อยอยู่เป็นจำนวนมาก การเข้าไปเที่ยว แนะนำให้จ้างไกด์เด็กๆเข้าไปด้วยนะคะ เพราะมันค่อนข้างมืดมาก มีคนนำทางอุ่นใจที่สุดค่ะ55555
ออกมาจากถ้ำแล้วเราเลยไปเที่ยวใกล้ๆที่พักกัน นั่นคือน้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกที่ทอดตัวลงแม่น้ำแควและมีสะพานแขวนให้เราออกไปชมวิวน้ำตกได้ แถมได้ดูแพที่ลอยไปลอยมาในแม่น้ำแควด้วย ใครชอบบรรยากาศแบบนี้ ข้างๆน้ำตกมีแพเป็นรีสอร์ทค่อนข้างเยอะ ลองหาข้อมูลกันดูนะคะ ถ้ามานอนแพน่าจะบรรยากาศอีกรูปแบบนึง
วันสุดท้ายของการเดินทาง เราก็เลยไปแวะเที่ยวชิวๆที่ดูไม่ชิวที่น้ำตกเอราวัณกันค่ะ
น้ำตกเอราวัณถือเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวเพราะน้ำสีสวยมากกก แต่เนื่องจากตอนเราไปนั้น นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดจนรู้สึกว่าน้ำสีกลายเป็นปกติไม่ค่อยเป็นสีฟ้าเท่าไหร่นัก แอบเสียใจนิดนึง ทางเดินที่ดูเดินเข้าชิวๆ แต่พอเข้าไปถึงเป็นเพียงชั้นต้นๆเท่านั้นเองค่ะ น้ำตกเอราวัณจะมี7ชั้น
เราก็เลยเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เผื่อข้างบนคนจะน้อย ก็เลยได้วิวมาบ้าง
แต่ด้วยหนทางที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ สวนกับแรงที่เริ่มหมดลง เราก็เลยตัดสินใจให้พ่อกับแม่รอที่ชั้น 4 และเราจะไปตะลุยชั้น 7 คนเดียว 555555 ทางที่ลงในรูปนี่คือเบาๆมากค่ะ คือทางจริงต้องปีนด้วย ถอดรองเท้าลุยน้ำอีก สนุกก5555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่