7 ดราม่าห้ามพูดในที่ทำงาน เพราะจะทำให้คุณ “โดนไล่ออก”

สวัสดีคร้าบเพื่อนๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชาแนล Who Askk นะครับ ตอนนี้คุณอยู่กับผมอีกครัง ลัก ครับ
ชีวิตการทำงานลำพังแค่งานที่ทำนี่ก็เครียดมากพออยู่แล้วนะ แล้วถ้าต้องมาเจอกับเรื่องปวดหัวอย่าง เพื่อนร่วมงานคอยจับผิด หรือต้องมาระแวงว่าหัวหน้าจะไล่ออกอีกนี่บอกเลยว่าป่วยจิตสุดๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมเลยเอา 7 ดราม่าห้ามพูดในที่ทำงานมาฝากกัน ถ้าไม่อยากให้วุ่นวาย หรือถึงขนาดโดนไล่ออก ห้ามทำเด็ดขาด


ดราม่าที่ 7 ห้ามพูดว่าเกลียดงานที่ทำ


ถึงแม้งานที่เราทำอยู่จะน่าเบื่อขนาดไหน แต่ขอแนะนำว่าอย่าพูดออกไปจะดีที่สุดครับ บางคนอาจได้งานที่ไม่ชอบ บางคนอาจต้องจำใจทำไปงั้นๆ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเราก็ยังไม่มีทางเลือกใหม่ หรือไม่ได้จะลาออกมันซะพรุ่งนี้เลย ก็ไม่ต้องพูดไปหรอกครับ เพราะมันไม่ส่งผลดีอะไรกับตัวเราเองเลย การมานั่งบ่นให้คนอื่นฟังว่าเราเกลียดงานตัวเองมากแค่ไหน นอกจากจะทำให้ตัวเราหดหู่ลงแล้ว ยังอาจส่งผลร้ายให้คนไม่หวังดีคาบข่าวไปบอกหัวหน้า กลายเป็นว่าอนาคตในที่ทำงานจบกันได้เลยนะ


ดราม่าที่ 6 อย่าโยงเข้าเรื่องการเมือง


ลำพังขนาดคนสนิทกันคบกันมาหลายปียังมีผิดใจกันได้ง่ายๆ เลยครับสำหรับเรื่องนี้ เพราะการเมืองมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่าได้ไปเปิดใจคุยกับใครก่อนเลยเด็ดขาด จนกว่าจะมั่นใจว่าเค้าคิดเห็นเหมือนกับเราจริงๆ เพราะการเมืองมันเป็นเหมือนรสนิยมส่วนบุคคล ความคิด ความอ่าน เราอาจจะไม่เหมือนกัน ถ้าเผลอไปพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอาจกลายเป็นว่าจะดราม่าบังเกิดเอาดื้อๆ โดยเฉพาะกับหัวหน้าเนี่ยห้ามไปแตะเลยเด็ดขาด พยายามเป็นกลางที่สุด และเปลี่ยนเรื่องคุยเวลาที่ใครก็ตามมาคุยเรื่องการเมืองกับเรา แบบนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าอยู่เป็น


ดราม่าที่ 5 อย่าด่วนบอกใครว่ากำลังหางานใหม่


ถ้าเพื่อนๆ คิดจะเปลี่ยนงาน แล้วกำลังหางานใหม่อยุ่ล่ะก็ อย่าได้ป่าวประกาศออกไปเด็ดขาดเลยนะครับ จนกว่าเราจะมั่นใจว่าที่ใหม่เค้ารับเราเข้าทำงานแล้วจริงๆ เพราะการพูดถึงสถานการณ์การหางานใหม่ให้เพื่อนร่วมงานฟัง อาจทำให้เค้ารู้สึกไม่มั่นคง เหมือนต้องรับผิดชอบภาระที่เหลือไว้แต่เพียงผู้เดียว ทีนี้แหละกลายเป็นว่าเราเป็นคนทิ้งงาน แล้วถ้าเรื่องถึงหูเจ้านาย ยิ่งอาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดนยื้อตัวเอาไว้ไม่ให้ลาออก หรือโดนเด้งออกมันซะตั้งแต่วันนั้นเลยก็ยังได้ เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่ควรปิดปากเงียบเอาไว้ดีที่สุด


ดราม่าที่ 4 เรื่องสุขภาพ เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ


จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่บอกไม่ได้อะไรขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าเราแค่เป็นหวัด คัดจมูก เออ อันนี้จะบอกให้เพื่อนร่วมงานรู้ก็คงไม่ผิด แต่ถ้าเกิดเราเป็นโรคที่สามารถส่งผลกระทบกับงานที่ทำได้ เช่น โรคซึมเศร้า แบบนี้ถ้าบอกไปจะยิ่งทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกเกร็งกันซะเปล่าๆ และมันอาจส่งผลกระทบกับการดูแลของหัวหน้าด้วย ต้องมากังวลว่าจะดุด่าว่ากล่าวเราได้มั้ย สุดท้ายเมื่อเค้าไม่สบายใจจะมีเราอยู่ในทีม ทางออกที่เราได้รับก็อาจเป็นการโดนพักงาน หรือหนักหน่อยก็อาจนำไปสู่การไล่ออกได้เลย แบบนี้ถ้าไม่ได้คอขาดบาดตายอะไร ก็เก็บอาการเอาไว้เงียบๆ หรือใช้ชีวิตแบบชิลๆ โดยไม่ต้องให้ใครมาคอยเป็นห่วงดีกว่าเนอะ


ดราม่าที่ 3 ความสัมพันธ์ส่วนตัว


อันที่จริงความสัมพันธ์ส่วนตัวมันก็ไม่ได้มีอะไรให้น่ากังวลใจหรอกครับ ถ้าคนที่เราเล่าให้ฟังเค้าไว้ใจได้จริงๆ แต่สังคมในที่ทำงานเนี่ยบอกเลยว่าจะไว้ใจใครได้ 100% มันยากนะ บางคนรู้หน้าไม่รู้ไต เอ้ย ไม่รู้ใจ ก็อาจเอาเรื่องที่เราเล่าแบบไม่คิดอะไรไปเม้าท์ต่อได้ ยิ่งเรื่องรักๆ ใครๆ เนี่ยโหยยย สนุกปากนักแหละ เพราะฉะนั้นตัดไฟแต่ต้นลมไปเลยครับ จบๆ กันไป จะได้ไม่ต้องเป็นขี้ปากใครต่อใครด้วย มีเรื่องอะไรก็เคลียร์ด้วยตัวเอง หรือเอาไว้ระบายกับเพื่อนสนิทจริงๆ ดีกว่า


ดราม่าที่ 2 เม้าท์คนนู้นคนนี้ไปทั่ว


โหยยย นิสัยแบบนี้ผมนี่โคตรเกลียด และเชื่อว่าเพื่อนๆ อีกหลายคนก็ต้องเกลียดเหมือนกัน คือมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยนะการขี้เม้าเนี่ย มีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ แล้วก็ไม่รู้จะเม้ากันไปให้ได้อะไร ต่อให้เราไม่ชอบใครก็ไม่ควรไปเม้าให้คนอื่นฟัง จะเรื่องจริง หรือเรื่องเท็จก็ไม่ต้องไปเปิดประเด็นอะไรทั้งนั้นแหละครับ เพราะเม้าไปก็ไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ถูกมั้ย ทางออกง่ายๆ คือ ถ้าไม่ชอบใคร ก็ไม่ต้องไปอยู่ใกล้เค้า หรือถ้าจำเป็นต้องร่วมงานกันจริงๆ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อดทนไว้แล้วทำมันให้ผ่านๆ ไปเท่านั้นก็พอ เพราะร้อยทั้งร้อยต่อให้เราเม้าท์มอยใครแค่เฉพาะในกลุ่ม แต่สุดท้ายเรื่องมันก็จะกระจายวงออกไปจนคนรู้ทั้งออฟฟิศอยู่ดี แล้วทีนี้แหละดราม่าที่แท้จริงจะบังเกิดซึ่งคุณเองไม่อยากให้เป็นแบบนั้นแน่นอน


ดราม่าที่ 1 ถามเงินเดือนเพื่อนร่วมงาน


โคตรรพีคเลยนะข้อนี้ เพราะยิ้มมีทุกออฟฟิศแน่นอน ไอคนชอบถามเงินเดือนคนอื่นเนี่ย ถ้าคุณสำรวจตัวเองแล้วพบว่าเราเป็นแบบนั้นนะ ขอให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้ด่วนเลย เพราะการถามเงินเดือนมันจะทำให้ฝ่ายถูกถามลำบากใจมาก อยู่ๆ ใครก็ไม่รู้มารู้เงินเดือนเรา เป็นใครก็ไม่ชอบ ต่อให้คุณจะเฉยๆ กับเรื่องนี้แต่คนอื่นเค้าอาจจะไม่เฉยด้วยนะ มันเสียมารยาทมากๆ แล้วต่อให้รู้ไปมันก็ไม่ได้ทำให้เงินเดือนของเราเพิ่มขึ้น มีแต่จะทำให้ไม่ใครก็ใครเครียดไปเปล่าๆ ถ้าเงินเราเยอะกว่าเค้า เค้าก็เครียด ถ้าเงินเค้าเยอะกว่าเรา เราก็เครียด ทีนี้แหละจะเกิดการมาคอยจับผิดกันละว่า แกเงินเดือนเยอะกว่า ทำไมแกทำงานน้อยจัง หรือ ชั้นไม่ทำหรอกงานนี้ หนักจะตาย แกเงินเดือนเยอะกว่าก็ทำไปดิ ดราม่าสุดแล้วครับเรื่องเงินเดือนเนี่ย ไม่อยากชีวิตวุ่นวายอย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้เลย

นั่งทำงานอยุ่เฉยๆ ก็โดนไล่ออกแบบนี้คงไม่มีใครอยากเจอหรอกครับจริงมั้ย เพราะฉะนั้นอย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้เลยดีกว่าเนอะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ เคยเจอใครมาพูดอะไรเหล่านี้ให้ฟังบ้างรึเปล่า คอมเมนท์มาพูดคุยกันได้เลยนะ

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่