เกริ่นก่อนนะครับ หลังจากพ่อผมเสียไม่นาน ผมได้ขายที่ดินในส่วนของผมให้ญาติเอาไปสร้างบ้าน แล้วผมก็เอาเงินนั้นไปใช้หนี้ทั้งหมดของครอบครัว จากสารพัดกองทุน และธกส จนเหลือเงินก้อนสุดท้ายเกือบ 3 แสนบาท แล้วพี่สาวคนรองก็มาขอยืมเงินนั้นไปลงทุน ซึ่งผมก็ให้นะ 1 แสนบาท สรุปเจ๊งยับครับ คนโตก็เช่นกันมาขอยืมไปอีก 8 หมื่น (ตอนนี้ผมเรียนจบเเล้วไม่มีวี่เเววจะได้คืนเลย แต่ช่างมัน ผมก็ไม่เคยทวงตลอด 6 ปีมานี่เเล้ว) ผมจึงเหลือเงินแค่ 5 หมื่นนิดๆ ไว้ส่งตัวเองเรียน ซึ่งไม่พอครับ แม่ก็ทำสวน รับจ้างทั่วไป ไม่พอส่งผม พี่สาวคนรองก็อาสาส่งผมเรียนต่อ ยาวเลยตั้งแต่นั้นมา โดยตลอด 4 ปีในรั้วมหาลัย เขาให้ผมทุกอย่างที่ผมอยากได้ เสื้อผ้า หนังสือ ชุดนักศึกษา โทรศัพท์ โน็ตบุ๊ค ก็เขาทั้งนั้นจัดการให้ผม
เขาบอกเพราะเขาอยากเรียน แต่เขาไม่มีโอกาส เขาเลยทุ่มสุดตัวให้ผม พี่สาวผมตัวคนเดียวครับ 30+ ไม่มีแฟน
เข้าเรื่องนะครับ
ณ ตอนนั้นผมเรียนจบเเล้ว ทำงานได้ราวๆ 2 เดือน พี่สาวขอให้ผมออกรถเก๋งให้คันนึงในนามของผม แต่เขาผ่อนเองนะครับ แรกๆ ผมก็ปฏิเสธครับ ผมกลัวเพราะหนี้ก้อนโตมาก ผมอยากให้พี่ทดลองผ่อนก่อน แล้วเอาเงินที่ผ่อน มาทำเงินดาวน์ให้ได้มากกว่า 25% เพื่อรอผมทำงานให้ได้สักปีนึงก่อน ไม่เป็นผลครับ ผมก็ยื้อไว้สุดๆ จนผมผ่านโปร 3 เดือน ก็ต้องออกให้ในเงินดาวน์ 15% แต่ก็ดีกว่าที่คิด เพราะพี่ผ่อนได้ แต่เงินที่ส่งให้แม่ก็ลดลงไปตามระเบียบ ผ่านไป 1 ปี มาวันนี้ พี่ขอให้ผมออกรถให้อีกคันในนามของผมอีกเหมือนเดิม มือ 2 ราคา 8 แสน แล้วคันเดิมก็ยังต้องผ่อนไปอีก 5 ปี
ตอนนี้ผมกระวน กระวายใจมาก แบบเครียดมาก อย่างแรกเงินที่ส่งให้แม่จะลดลงไหม ผมช่วยส่งเพิ่มอีกไม่ไหวเงินเดือนผมจำกัด ประสาเด็กจบใหม่ แล้วปัจจุบันผมก็เป็นคนดูแลแม่ ทำงานห่างจากแม่ 50 กิโล กลับบ้านทุกๆ วันหยุด แล้วไม่เคยขอเงินพี่อีกเลยตั้งแต่ทำงานมา ก็เพราะอยากให้เขาภูมิใจว่าที่ส่งผมเรียนมาไม่สูญเปล่า ผมไปรอดนะ และตอนนี้แม่ก็ไม่ได้ทำงาน เพราะแก่เเล้ว พี่จะไหวไหม เพราะงานที่พี่ทำก็ไม่เสถียร อาจจะล้มได้ทุกเมื่อ ถ้าล้มเเล้ว เงินเดือนที่ผมมี ผมก็ผ่อนยื้อให้พี่ได้สูงสุดแค่ 1 เดือน แล้วเงินเก็บพี่มี 1 แสน เท่าที่ผมรู้
แล้วก็ทางบ้านไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะเลย แต่พี่ก็บอกว่า จะออกงานมาขายของซึ่งเงินลงทุนก็ 1 แสนนั้น
ณ ตอนนี้ ผมโดนด่าว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สำนึกบุญคุณ ที่ผมปฏิเสธไป ก็เพราะผมไม่เชื่อใจพี่สักเท่าไหร่ว่าจะผ่อนทั้ง 2 คัน พร้อมกับส่งแม่ด้วยไหว ผมก็อ้างว่าจะออกเองบ้าง เอานั่นบ้าง นี่บ้างก็ไม่เป็นผล เขาบอกผมผ่อนเองก็ไม่รอดหรอก ซึ่งก็จริง ผมกลัวมากพวกหนี้สิน เอาจริงๆ ผมเป็นพวกไม่มั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ ผมมักจะทำอะไรที่รู้สึกว่ามั่นคง และปลอดภัยเท่านั้น อย่างผ่อนของ ถ้าไม่มีอะไรมาการันตีว่าผมผ่อนได้จริง ผมไม่เอาเด็ดขาด แล้วถ้าผมออกให้อีก ผมก็คงไม่สามารถจะออกอะไรเป็นของตัวเองได้อีก ในระยะ 6 ปีนี้ด้วย แล้วพี่ก็คงจะต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ผมจึงเสนอพี่ไปว่า พี่จะต้องมีเงินดาวน์รถอย่างน้อย 25% มีเงินเก็บอย่างน้อย 1 แสน ไม่รวมเงินที่จะเอาไปลงทุนขายของอีก 1 แสน ผมจึงจะยอมออกชื่อผ่อนให้ และแน่นอนข้อเสนอนี้ตกไป รวมทั้งคำด่าสารพัดที่ย้อนกลับมา
ปล. พี่ติดแบล๊กลิส ไม่สามารถผ่อนอะไรใดใด ได้ครับ เพราะพี่เคยผ่อนกระบะแต่โดนยึด
ผมอยากถามความเห็นคนอื่นๆ บ้างครับ ว่าผมควรทำยังไงดี ณ ตอนนี้ผมยืนกรานข้อเสนอนั้นไป ซึ่งพี่ไม่ยอม ToT
เห็นแก่ตัวมากไปไหม ที่ไม่ยอมออกรถให้คนที่ส่งเราเรียนจนจบ
เขาบอกเพราะเขาอยากเรียน แต่เขาไม่มีโอกาส เขาเลยทุ่มสุดตัวให้ผม พี่สาวผมตัวคนเดียวครับ 30+ ไม่มีแฟน
เข้าเรื่องนะครับ
ณ ตอนนั้นผมเรียนจบเเล้ว ทำงานได้ราวๆ 2 เดือน พี่สาวขอให้ผมออกรถเก๋งให้คันนึงในนามของผม แต่เขาผ่อนเองนะครับ แรกๆ ผมก็ปฏิเสธครับ ผมกลัวเพราะหนี้ก้อนโตมาก ผมอยากให้พี่ทดลองผ่อนก่อน แล้วเอาเงินที่ผ่อน มาทำเงินดาวน์ให้ได้มากกว่า 25% เพื่อรอผมทำงานให้ได้สักปีนึงก่อน ไม่เป็นผลครับ ผมก็ยื้อไว้สุดๆ จนผมผ่านโปร 3 เดือน ก็ต้องออกให้ในเงินดาวน์ 15% แต่ก็ดีกว่าที่คิด เพราะพี่ผ่อนได้ แต่เงินที่ส่งให้แม่ก็ลดลงไปตามระเบียบ ผ่านไป 1 ปี มาวันนี้ พี่ขอให้ผมออกรถให้อีกคันในนามของผมอีกเหมือนเดิม มือ 2 ราคา 8 แสน แล้วคันเดิมก็ยังต้องผ่อนไปอีก 5 ปี
ตอนนี้ผมกระวน กระวายใจมาก แบบเครียดมาก อย่างแรกเงินที่ส่งให้แม่จะลดลงไหม ผมช่วยส่งเพิ่มอีกไม่ไหวเงินเดือนผมจำกัด ประสาเด็กจบใหม่ แล้วปัจจุบันผมก็เป็นคนดูแลแม่ ทำงานห่างจากแม่ 50 กิโล กลับบ้านทุกๆ วันหยุด แล้วไม่เคยขอเงินพี่อีกเลยตั้งแต่ทำงานมา ก็เพราะอยากให้เขาภูมิใจว่าที่ส่งผมเรียนมาไม่สูญเปล่า ผมไปรอดนะ และตอนนี้แม่ก็ไม่ได้ทำงาน เพราะแก่เเล้ว พี่จะไหวไหม เพราะงานที่พี่ทำก็ไม่เสถียร อาจจะล้มได้ทุกเมื่อ ถ้าล้มเเล้ว เงินเดือนที่ผมมี ผมก็ผ่อนยื้อให้พี่ได้สูงสุดแค่ 1 เดือน แล้วเงินเก็บพี่มี 1 แสน เท่าที่ผมรู้
แล้วก็ทางบ้านไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะเลย แต่พี่ก็บอกว่า จะออกงานมาขายของซึ่งเงินลงทุนก็ 1 แสนนั้น
ณ ตอนนี้ ผมโดนด่าว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สำนึกบุญคุณ ที่ผมปฏิเสธไป ก็เพราะผมไม่เชื่อใจพี่สักเท่าไหร่ว่าจะผ่อนทั้ง 2 คัน พร้อมกับส่งแม่ด้วยไหว ผมก็อ้างว่าจะออกเองบ้าง เอานั่นบ้าง นี่บ้างก็ไม่เป็นผล เขาบอกผมผ่อนเองก็ไม่รอดหรอก ซึ่งก็จริง ผมกลัวมากพวกหนี้สิน เอาจริงๆ ผมเป็นพวกไม่มั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ ผมมักจะทำอะไรที่รู้สึกว่ามั่นคง และปลอดภัยเท่านั้น อย่างผ่อนของ ถ้าไม่มีอะไรมาการันตีว่าผมผ่อนได้จริง ผมไม่เอาเด็ดขาด แล้วถ้าผมออกให้อีก ผมก็คงไม่สามารถจะออกอะไรเป็นของตัวเองได้อีก ในระยะ 6 ปีนี้ด้วย แล้วพี่ก็คงจะต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ผมจึงเสนอพี่ไปว่า พี่จะต้องมีเงินดาวน์รถอย่างน้อย 25% มีเงินเก็บอย่างน้อย 1 แสน ไม่รวมเงินที่จะเอาไปลงทุนขายของอีก 1 แสน ผมจึงจะยอมออกชื่อผ่อนให้ และแน่นอนข้อเสนอนี้ตกไป รวมทั้งคำด่าสารพัดที่ย้อนกลับมา
ปล. พี่ติดแบล๊กลิส ไม่สามารถผ่อนอะไรใดใด ได้ครับ เพราะพี่เคยผ่อนกระบะแต่โดนยึด
ผมอยากถามความเห็นคนอื่นๆ บ้างครับ ว่าผมควรทำยังไงดี ณ ตอนนี้ผมยืนกรานข้อเสนอนั้นไป ซึ่งพี่ไม่ยอม ToT