
หากพูดถึงประเทศอินเดีย 🇮🇳 คงเป็นเมืองที่ใครหลายๆ คนร้องยี้ 🤢 แค่นึกถึงอินเดียกลิ่นต่างๆ นานาก็ลอยมาแล้ว อีกทั้งก็ยังเคยได้ยินเสียงเลื่องลือเล่าอ้างที่หนาหูมาว่า ความอินเดียนั้น เป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย เมืองแห่งชนชั้นวรรณะ สกปรกบ้าง และอีกหลายๆ อย่างในแง่ที่ไม่ควรเป็นประเทศที่จะไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
แต่สำหรับผมกลับเฉยๆ เพราะผมรู้มาว่า ที่ประเทศอินเดียมีอะไรมากกว่าคำว่า "อินเดีย" ที่กล่าวมาข้างต้น เพราะจากการถูไถโทรศัพท์เลื่อนไปมาจนไปสะดุดตากับเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เป็นแคว้นเล็กๆ ที่ชื่อว่า "Leh (เลห์) หรือ Leh Ladakh" 🏔 เป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ภายในดินแดนแห่งขุนเขา ดินแดนแห่งธิเบตน้อย ที่ใครต่อใครต่างขนานนามกันไว้ จนรู้สึกว่าเฮ้ยยย!!! ที่นี่อินเดียจริงๆ เหรอ
"ทำไมมันดูเงียบสงบ?"
"ทำไมมันดูหนาวตลอดทั้งปี?"
"ทำไมมันมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา?"
แค่ครั้งแรกก็พลางคิดอยู่ในใจว่า "จะไป จะไป ยังไงก็ต้องไปให้ได้"
ผมเองก็ดูข้อมูลอยู่เรื่อยๆ 💻 Search ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเมืองเลห์ดูอยู่คนเดียวหลายรอบ จนกระทั่งได้ลองชวนเพื่อน รวมกลุ่มกันได้ 4-5 คน ว่าไปอินเดียกันไหม เปิดรูปให้ดูเอาข้อมูลให้ดู ว่ามันเป็นแบบนนี้นะ อย่างนี้นะ มันสวยยังไงค่าตั๋วก็ไม่แพง 🎫 ดูทีท่าว่าทุกคนต่างสนใจและตอบรับคำชวน
#Plan และแล้วความคิด 💭 ความริเริ่มของผมก็เริ่มจะเป็นผล ในเมื่อมีสมาชิกพร้อมจะเดินทางไปกับผมแล้วไปกันเยอะๆ คงสนุก และไม่เหงาแน่นอน พอเริ่มกำหนดวันที่จะไป และบอกเพื่อนรวมทริปเรื่อง ค่าตั๋วเรื่องต้องทำวีซ่า ให้เตรียมเงินไว้ เดี๋ยวเราเป็นคนจัดการให้ และแล้วสถานการณ์ก็ยืดเยื้อลงไป เพราะด้วยภาระหน้าที่ของแต่ละคน ที่ติดค้างและไม่ตรงกัน ถึงกำหนดวันที่จะต้องจ่ายค่าตั๋วก็ยังไม่มีใครจ่าย นานวันเข้า ราคาตั๋วเครื่องบิน ก็เริมเขยิ่บขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็คิดว่าทริปนี้จะล่มหรือเปล่านะ ในเมื่อถึงเวลาแต่ละคนไม่พร้อมไป แต่พร้อมเท 😅😅😅😅
แต่ผมก็คิดในใจว่าช่างมัน ตั้งใจแล้ว ใครไม่ไปแต่เราไป สรุปเหลือไปกันแค่สองคน 👤👤 เลยคุยกับเพื่อนอีกคนว่า สองคนก็สองคน ลุยยยยยยยย!!!!!! ไปให้มันรู้กันไปเลยว่า สองคนมันจะรอด - ไม่รอดจะเป็นยังไง 🎒👟🕶📸💵คือตอนนั้นไม่มีอะไรอยู่ในหัวกันเลย รู้แค่ว่ามันสวย มันดี มันต้องไป รู้แค่ว่ามันต้องไป จองตั๋วไปก่อน ข้อมูลค่อยหา แต่อยากจะบอกว่า ตอนที่คุยกันไว้ว่า "จะไป" เวลาเตรียมตัวแค่เดือนเดียว จองตั๋วมีนาคม - ออกเดินทางไปเมษายน ก็อย่างที่บอกอย่างอื่นไม่รู้ "รู้แค่ว่าจะไปอย่างเดียว"

#Guesthouse ซื้อตั๋วเสร็จ ทำวีซ่าเสร็จ ก็หาข้อมูลเรื่องที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดแลนด์มาร์คที่น่าสนใจ โดยไม่มีการซื้อทัวร์หรือจองทัวร์ไปแต่อย่างใด ทำกันเองล้วนๆ เรียกกันว่าไปมั่วหน้างาน หาเอาข้างหน้ากันเลยทีเดียว ส่ง E-Mail 📧 คุยกับที่พักบางทีก็กว่าจะตอบกลับมาก็นานเหลือเกิน เพราะได้ยินมาว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่นั่น "อ่อนยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่เปียกน้ำ" 📉 คิดว่าคงคุย E-Mail ไม่ได้แล้ว ค้นหาใน Facebook ทัก inbox ไปเลยแล้วกัน ไวดี ด้วยความที่ภาษาอังกฤษของเรา "อ่อนไหวเหมือนความรู้สึก" กว่าจะคุยกันได้และรู้เรื่องก็นานพอสมควร และแล้วในที่สุดเราก็ได้ที่พักกันแล้วในราคามิตรภาพน่าคบหาและพึงพอใจ ชื่อว่า "Ree Yul Guesthouse" จะไปในสัปดาห์หน้าอยู่แล้วเพิ่งจะติดต่อที่พักได้ก่อนไปไม่กี่วัน
รายละเอียด การจองตั๋ว ค่าตั๋ว การทำวีซ่า และขั้นตอนต่างๆ จะมาแจกแจงให้ดูอีกทีนะครับ ตอนนี้เราตัดภาพไปที่สนามบินสุวรรณภูมิกันเลยดีกว่า

#SuvarnabhumiAirport นัดกับเพื่อนคู่หูร่วมทริป Stand by ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 5 โมงกว่า แต่มาจริงๆ ก็ 6 โมงกว่า เช็คอินที่เคานท์เตอร์ สายการบิน Jet Airway พนักงานตรวจเอกสาร ออกตั๋วโดยสาร เช็คเอกสารทั่วไปที่สำคัญๆ เช่น พาสปอร์ต วีซ่า เพื่อที่ไปแล้วจะได้ไม่โดนส่งตัวกลับบ้านเหมือนไปนั่งเครื่องบินเล่นเฉยๆ 😆😆😆😆 ตามเวลาที่จองตั่ว เครื่องออก 20.30 น. เราจะถึงสนามบิน เดลี (Delhi) หรือท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี (Indira Gandhi International Airport) ในเวลา 23.30 น. โดยประมาณ ตามเวลาของประเทศอินเดีย
#Information #IndiraGandhiInternationalAirport ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เป็นสนามบินหลักของเขตเมืองหลวงของเดลี ประเทศอินเดีย เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ และเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค พร้อมศักยภาพในการขนส่งผู้โดยสารกว่า 46 ล้านคนต่อปี และมีเป้าหมายที่ 100 ล้านคนต่อปีภายในปีค.ศ.2030
อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินแห่งนี้ เคยได้ถูกบันทึกเป็นอาคารผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ในเดือนกันยายน ค.ศ.2008 และได้มีการเฉลิมฉลองการเปิดทางขึ้นลงของเครื่องบินที่มีความยาวถึง 4.43 กิโลเมตร ต่อมาในปี ค.ศ. 2010 ได้รับรางวัลท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 4 ประเภทผู้โดยสาร 15-25 ล้านคน และรางวัล Best Improved Airport ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย Airport Council International และในปีค.ศ. 2011 ได้รับรางวัลท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 2 ประเภทผู้โดยสาร 25-40 ล้านคน และในปีค.ศ. 2011 ได้รับการบันทึกเป็นอันดับที่ 27 ของท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นสูงสุดในกรณีจำนวนผู้โดยสาร
#Departure พอขึ้นเครื่อง Jet Airway กวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในเครื่องบิน คุยกับเพื่อนว่า อื้อหืม!!! อินเดียทั้งลำ 😆😆😆😆 แต่บังเอิญมาเจอ พี่คนไทย 1 คนถ้วน ซึ่งกำลังจะไป เนปาล ต้องไปต่อเครื่องที่เดลีเหมือนกัน พอได้คุยแลกเปลี่ยนกันแก้เหงาหน่อย

#AirlineMeal อ้อ...ขอเล่าถึงเรื่องอาหารบนเครื่องหน่อย 🥣🍛นอกจากทั้งเครื่องจะอินเดียยกลำแล้ว อาหารที่มาเสิร์ฟบนเครื่อง ก็เหมือนจะมาบอกให้เราทำใจเป็นนัยๆ ก่อนว่า ไปอินเดียจะต้องกินแบบนี้นะ ให้ซ้อมไว้ก่อน ซึ่งเมนูคือ "แกงมัสมั่นมังสวิรัติ" มีแต่มันฝรั่งและเครื่องเทศ เราก็พยามฝืนกินกันไปก่อนเพราะไม่ได้กินอะไรกันมาตอนเย็น เอาวะ!!! กินเพื่ออยู่
ด้วยความที่นอนไม่หลับบนเครื่อง พวกเราเลยจัดเครื่องดื่มกันเบาๆ 🍻 ให้นอนหลับสบาย ตื่นมาจะได้ถึงอินเดียเลย... ก่อนเครื่องลง 30 นาทีได้ยินเสียงประกาศจาก แอร์โฮสเตสสาวชาวอินเดีย บอกว่า จะถึงสนามบินเดลีแล้วนะคะผู้โดยสาร พวกเราก็ตาสว่างกันเลย เตรียมเนื้อเตรียมตัวเตรียมใจ

#ArriveToDelhi ถึงสนามบินเดลีอย่างปลอดภัยครบถ้วน 100% พอลงจากเครื่องมา เดินเข้าสนามบินเพื่อผ่าน ตม. ก็พลัดพรากกับพี่คนไทยที่นั่งเครื่องมาด้วยกัน เหลือแค่เรา 2 คน เดินเด๋อๆด๋าๆมั่วๆไปมา ต่อมาเรื่อยๆ จนผ่าน ตม. อินเดียมาได้ ออกมารับกระเป๋าก็ลืมว่า ต้องไปรับกระเป๋าที่สายพานช่องไหน กว่าจะเจอกระเป๋า ก็ปาไปเกือบ 1 ชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นคือ เราได้กระเป๋ากันแล้ว ก็เดิน ออกไปนอกสนามบิน เพื่อที่จะดูบรรยากาศความเป็นอินเดียซักหน่อย

พอก้าวออกจากประตูอาคารผู้โดยสารปุ๊บถึงกับร้องโอ้ !!!! ....... อะไรกันวะเนี่ย 🤦♂

โคตรอินเดีย !! อินเดียในแบบที่วุ่นวาย ชุลมุนกันตั้งแต่หน้าสนามบิน รถราขวักไขว่ 🚗 ไม่มีระเบียบวินัย บีบแตรรถใส่กันแบบเหมือนไปโกรธใครมา แต่ก็เข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองเขา
จริงๆ เมื่อถึงสนามบินเดลีแล้ว ควรอยู่ข้างในไม่ควรออกไปไหน ผมดันทะเล่อทะล่าออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ออกไปแล้วกลับเข้ามายากมาก เพราะต้องตรวจทุกสิ่งอย่าง ทั้งตั๋วเครื่องบิน ทั้งพาสปอร์ต ทั้งวีซ่า ตั้งแต่หน้าประตู เหมือนทุกอย่างเริ่มใหม่ กว่าจะเข้ามาได้ลำบากยากเย็น พร้อมพูดกับเพื่อนว่า "เอาละ การผจญภัยในต่างแดนของเรา ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!!!"

#DepartureToLeh จากนั้นพอเข้ามาในสนามบินได้เหมือนเดิม ก็รอเวลา Check In และเข้าไปใน Gate เพื่อรอเครื่องออกไป Leh ในเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากหลับไประหว่างทางที่ต่อเครื่องจากสนามบินเดลีมาสนามบินเลห์ พวกเราก็ตื่นลืมตามา พร้อมแสงของดวงอาทิตย์ หันออกไปมองนอกหน้าต่างเครื่องบิน ที่กำลังผ่านเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จนขาวโพลนไปหมด อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น "เชี่ยยยย สวยจัด มันสวยอะไรขนาดนี้" เห็นแต่ในรูปที่ดูจากอินเตอร์เน็ต แต่นี่คือ ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว สวยมาก!!!!!

#Information #HimalayaRange 🏔 เทือกเขาหิมาลัย เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เช่น ยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขากันเจนชุงคา นอกจากนี้ เทือกเขาหิมาลัย ยังประกอบด้วยยอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 7,200 เมตร (23,600 ฟุต) มากกว่าหนึ่งร้อยยอด มีความยาวทอดพาดผ่านพื้นที่ของ 5 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน, อินเดีย, จีน, ภูฏาน และเนปาล

#ArriveToLeh และแล้วเราก็มาถึงสนามบินเลห์ หรือ สนามบิน Kushok Bakula Rimpochee ประมาณ 6.30 น. ลงจากเครื่อง ก้าวขาลงบันไดออกจากประตูเครื่องบินปุ๊บก็หนาวปั๊บ หนาวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว หนาวมาก เสื้อกันหนาวที่เตรียมกันมาก็ยังไม่ได้ใส่เพราะอยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ใต้ท้องเครื่อง
สัมผัสแรกที่เหยียบแผ่นดิน "เลห์" ก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกดชัตเตอร์ไปใบแรก 📸 ก็โดนจู่โจมจากด้านหลังทันที นายทหารหนุ่มอินเดีย พร้อมพูดว่า "🚫📸 No Camera!!!!" เพราะสนามบินเลห์ เป็นสนามบินของทหาร ดูแลโดยกองทัพทหารของอินเดีย ตั้งแต่เมื่อเดือน ก.พ. 2016 จึงห้ามถ่ายภาพภายในสนามบิน คงเป็นเพราะอาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคง แต่ผมก็ถ่ายมาได้ทันอยู่นะ จุ๊ๆ!!! อย่าบอกพี่เขานะครับ 🙏🙇
Indy India ตอน ใครเท...เราไม่เท "Leh Ladakh" EP.1
หากพูดถึงประเทศอินเดีย 🇮🇳 คงเป็นเมืองที่ใครหลายๆ คนร้องยี้ 🤢 แค่นึกถึงอินเดียกลิ่นต่างๆ นานาก็ลอยมาแล้ว อีกทั้งก็ยังเคยได้ยินเสียงเลื่องลือเล่าอ้างที่หนาหูมาว่า ความอินเดียนั้น เป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย เมืองแห่งชนชั้นวรรณะ สกปรกบ้าง และอีกหลายๆ อย่างในแง่ที่ไม่ควรเป็นประเทศที่จะไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
แต่สำหรับผมกลับเฉยๆ เพราะผมรู้มาว่า ที่ประเทศอินเดียมีอะไรมากกว่าคำว่า "อินเดีย" ที่กล่าวมาข้างต้น เพราะจากการถูไถโทรศัพท์เลื่อนไปมาจนไปสะดุดตากับเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เป็นแคว้นเล็กๆ ที่ชื่อว่า "Leh (เลห์) หรือ Leh Ladakh" 🏔 เป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ภายในดินแดนแห่งขุนเขา ดินแดนแห่งธิเบตน้อย ที่ใครต่อใครต่างขนานนามกันไว้ จนรู้สึกว่าเฮ้ยยย!!! ที่นี่อินเดียจริงๆ เหรอ
"ทำไมมันดูเงียบสงบ?"
"ทำไมมันดูหนาวตลอดทั้งปี?"
"ทำไมมันมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา?"
แค่ครั้งแรกก็พลางคิดอยู่ในใจว่า "จะไป จะไป ยังไงก็ต้องไปให้ได้"
ผมเองก็ดูข้อมูลอยู่เรื่อยๆ 💻 Search ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเมืองเลห์ดูอยู่คนเดียวหลายรอบ จนกระทั่งได้ลองชวนเพื่อน รวมกลุ่มกันได้ 4-5 คน ว่าไปอินเดียกันไหม เปิดรูปให้ดูเอาข้อมูลให้ดู ว่ามันเป็นแบบนนี้นะ อย่างนี้นะ มันสวยยังไงค่าตั๋วก็ไม่แพง 🎫 ดูทีท่าว่าทุกคนต่างสนใจและตอบรับคำชวน
#Plan และแล้วความคิด 💭 ความริเริ่มของผมก็เริ่มจะเป็นผล ในเมื่อมีสมาชิกพร้อมจะเดินทางไปกับผมแล้วไปกันเยอะๆ คงสนุก และไม่เหงาแน่นอน พอเริ่มกำหนดวันที่จะไป และบอกเพื่อนรวมทริปเรื่อง ค่าตั๋วเรื่องต้องทำวีซ่า ให้เตรียมเงินไว้ เดี๋ยวเราเป็นคนจัดการให้ และแล้วสถานการณ์ก็ยืดเยื้อลงไป เพราะด้วยภาระหน้าที่ของแต่ละคน ที่ติดค้างและไม่ตรงกัน ถึงกำหนดวันที่จะต้องจ่ายค่าตั๋วก็ยังไม่มีใครจ่าย นานวันเข้า ราคาตั๋วเครื่องบิน ก็เริมเขยิ่บขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็คิดว่าทริปนี้จะล่มหรือเปล่านะ ในเมื่อถึงเวลาแต่ละคนไม่พร้อมไป แต่พร้อมเท 😅😅😅😅
แต่ผมก็คิดในใจว่าช่างมัน ตั้งใจแล้ว ใครไม่ไปแต่เราไป สรุปเหลือไปกันแค่สองคน 👤👤 เลยคุยกับเพื่อนอีกคนว่า สองคนก็สองคน ลุยยยยยยยย!!!!!! ไปให้มันรู้กันไปเลยว่า สองคนมันจะรอด - ไม่รอดจะเป็นยังไง 🎒👟🕶📸💵คือตอนนั้นไม่มีอะไรอยู่ในหัวกันเลย รู้แค่ว่ามันสวย มันดี มันต้องไป รู้แค่ว่ามันต้องไป จองตั๋วไปก่อน ข้อมูลค่อยหา แต่อยากจะบอกว่า ตอนที่คุยกันไว้ว่า "จะไป" เวลาเตรียมตัวแค่เดือนเดียว จองตั๋วมีนาคม - ออกเดินทางไปเมษายน ก็อย่างที่บอกอย่างอื่นไม่รู้ "รู้แค่ว่าจะไปอย่างเดียว"
#Guesthouse ซื้อตั๋วเสร็จ ทำวีซ่าเสร็จ ก็หาข้อมูลเรื่องที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดแลนด์มาร์คที่น่าสนใจ โดยไม่มีการซื้อทัวร์หรือจองทัวร์ไปแต่อย่างใด ทำกันเองล้วนๆ เรียกกันว่าไปมั่วหน้างาน หาเอาข้างหน้ากันเลยทีเดียว ส่ง E-Mail 📧 คุยกับที่พักบางทีก็กว่าจะตอบกลับมาก็นานเหลือเกิน เพราะได้ยินมาว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่นั่น "อ่อนยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่เปียกน้ำ" 📉 คิดว่าคงคุย E-Mail ไม่ได้แล้ว ค้นหาใน Facebook ทัก inbox ไปเลยแล้วกัน ไวดี ด้วยความที่ภาษาอังกฤษของเรา "อ่อนไหวเหมือนความรู้สึก" กว่าจะคุยกันได้และรู้เรื่องก็นานพอสมควร และแล้วในที่สุดเราก็ได้ที่พักกันแล้วในราคามิตรภาพน่าคบหาและพึงพอใจ ชื่อว่า "Ree Yul Guesthouse" จะไปในสัปดาห์หน้าอยู่แล้วเพิ่งจะติดต่อที่พักได้ก่อนไปไม่กี่วัน
รายละเอียด การจองตั๋ว ค่าตั๋ว การทำวีซ่า และขั้นตอนต่างๆ จะมาแจกแจงให้ดูอีกทีนะครับ ตอนนี้เราตัดภาพไปที่สนามบินสุวรรณภูมิกันเลยดีกว่า
#SuvarnabhumiAirport นัดกับเพื่อนคู่หูร่วมทริป Stand by ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 5 โมงกว่า แต่มาจริงๆ ก็ 6 โมงกว่า เช็คอินที่เคานท์เตอร์ สายการบิน Jet Airway พนักงานตรวจเอกสาร ออกตั๋วโดยสาร เช็คเอกสารทั่วไปที่สำคัญๆ เช่น พาสปอร์ต วีซ่า เพื่อที่ไปแล้วจะได้ไม่โดนส่งตัวกลับบ้านเหมือนไปนั่งเครื่องบินเล่นเฉยๆ 😆😆😆😆 ตามเวลาที่จองตั่ว เครื่องออก 20.30 น. เราจะถึงสนามบิน เดลี (Delhi) หรือท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี (Indira Gandhi International Airport) ในเวลา 23.30 น. โดยประมาณ ตามเวลาของประเทศอินเดีย
#Information #IndiraGandhiInternationalAirport ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เป็นสนามบินหลักของเขตเมืองหลวงของเดลี ประเทศอินเดีย เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ และเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค พร้อมศักยภาพในการขนส่งผู้โดยสารกว่า 46 ล้านคนต่อปี และมีเป้าหมายที่ 100 ล้านคนต่อปีภายในปีค.ศ.2030
อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินแห่งนี้ เคยได้ถูกบันทึกเป็นอาคารผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ในเดือนกันยายน ค.ศ.2008 และได้มีการเฉลิมฉลองการเปิดทางขึ้นลงของเครื่องบินที่มีความยาวถึง 4.43 กิโลเมตร ต่อมาในปี ค.ศ. 2010 ได้รับรางวัลท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 4 ประเภทผู้โดยสาร 15-25 ล้านคน และรางวัล Best Improved Airport ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย Airport Council International และในปีค.ศ. 2011 ได้รับรางวัลท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 2 ประเภทผู้โดยสาร 25-40 ล้านคน และในปีค.ศ. 2011 ได้รับการบันทึกเป็นอันดับที่ 27 ของท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นสูงสุดในกรณีจำนวนผู้โดยสาร
#Departure พอขึ้นเครื่อง Jet Airway กวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในเครื่องบิน คุยกับเพื่อนว่า อื้อหืม!!! อินเดียทั้งลำ 😆😆😆😆 แต่บังเอิญมาเจอ พี่คนไทย 1 คนถ้วน ซึ่งกำลังจะไป เนปาล ต้องไปต่อเครื่องที่เดลีเหมือนกัน พอได้คุยแลกเปลี่ยนกันแก้เหงาหน่อย
#AirlineMeal อ้อ...ขอเล่าถึงเรื่องอาหารบนเครื่องหน่อย 🥣🍛นอกจากทั้งเครื่องจะอินเดียยกลำแล้ว อาหารที่มาเสิร์ฟบนเครื่อง ก็เหมือนจะมาบอกให้เราทำใจเป็นนัยๆ ก่อนว่า ไปอินเดียจะต้องกินแบบนี้นะ ให้ซ้อมไว้ก่อน ซึ่งเมนูคือ "แกงมัสมั่นมังสวิรัติ" มีแต่มันฝรั่งและเครื่องเทศ เราก็พยามฝืนกินกันไปก่อนเพราะไม่ได้กินอะไรกันมาตอนเย็น เอาวะ!!! กินเพื่ออยู่
ด้วยความที่นอนไม่หลับบนเครื่อง พวกเราเลยจัดเครื่องดื่มกันเบาๆ 🍻 ให้นอนหลับสบาย ตื่นมาจะได้ถึงอินเดียเลย... ก่อนเครื่องลง 30 นาทีได้ยินเสียงประกาศจาก แอร์โฮสเตสสาวชาวอินเดีย บอกว่า จะถึงสนามบินเดลีแล้วนะคะผู้โดยสาร พวกเราก็ตาสว่างกันเลย เตรียมเนื้อเตรียมตัวเตรียมใจ
#ArriveToDelhi ถึงสนามบินเดลีอย่างปลอดภัยครบถ้วน 100% พอลงจากเครื่องมา เดินเข้าสนามบินเพื่อผ่าน ตม. ก็พลัดพรากกับพี่คนไทยที่นั่งเครื่องมาด้วยกัน เหลือแค่เรา 2 คน เดินเด๋อๆด๋าๆมั่วๆไปมา ต่อมาเรื่อยๆ จนผ่าน ตม. อินเดียมาได้ ออกมารับกระเป๋าก็ลืมว่า ต้องไปรับกระเป๋าที่สายพานช่องไหน กว่าจะเจอกระเป๋า ก็ปาไปเกือบ 1 ชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นคือ เราได้กระเป๋ากันแล้ว ก็เดิน ออกไปนอกสนามบิน เพื่อที่จะดูบรรยากาศความเป็นอินเดียซักหน่อย
พอก้าวออกจากประตูอาคารผู้โดยสารปุ๊บถึงกับร้องโอ้ !!!! ....... อะไรกันวะเนี่ย 🤦♂
จริงๆ เมื่อถึงสนามบินเดลีแล้ว ควรอยู่ข้างในไม่ควรออกไปไหน ผมดันทะเล่อทะล่าออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ออกไปแล้วกลับเข้ามายากมาก เพราะต้องตรวจทุกสิ่งอย่าง ทั้งตั๋วเครื่องบิน ทั้งพาสปอร์ต ทั้งวีซ่า ตั้งแต่หน้าประตู เหมือนทุกอย่างเริ่มใหม่ กว่าจะเข้ามาได้ลำบากยากเย็น พร้อมพูดกับเพื่อนว่า "เอาละ การผจญภัยในต่างแดนของเรา ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!!!"
#DepartureToLeh จากนั้นพอเข้ามาในสนามบินได้เหมือนเดิม ก็รอเวลา Check In และเข้าไปใน Gate เพื่อรอเครื่องออกไป Leh ในเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากหลับไประหว่างทางที่ต่อเครื่องจากสนามบินเดลีมาสนามบินเลห์ พวกเราก็ตื่นลืมตามา พร้อมแสงของดวงอาทิตย์ หันออกไปมองนอกหน้าต่างเครื่องบิน ที่กำลังผ่านเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จนขาวโพลนไปหมด อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น "เชี่ยยยย สวยจัด มันสวยอะไรขนาดนี้" เห็นแต่ในรูปที่ดูจากอินเตอร์เน็ต แต่นี่คือ ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว สวยมาก!!!!!
#Information #HimalayaRange 🏔 เทือกเขาหิมาลัย เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เช่น ยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขากันเจนชุงคา นอกจากนี้ เทือกเขาหิมาลัย ยังประกอบด้วยยอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 7,200 เมตร (23,600 ฟุต) มากกว่าหนึ่งร้อยยอด มีความยาวทอดพาดผ่านพื้นที่ของ 5 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน, อินเดีย, จีน, ภูฏาน และเนปาล
#ArriveToLeh และแล้วเราก็มาถึงสนามบินเลห์ หรือ สนามบิน Kushok Bakula Rimpochee ประมาณ 6.30 น. ลงจากเครื่อง ก้าวขาลงบันไดออกจากประตูเครื่องบินปุ๊บก็หนาวปั๊บ หนาวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว หนาวมาก เสื้อกันหนาวที่เตรียมกันมาก็ยังไม่ได้ใส่เพราะอยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ใต้ท้องเครื่อง
สัมผัสแรกที่เหยียบแผ่นดิน "เลห์" ก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกดชัตเตอร์ไปใบแรก 📸 ก็โดนจู่โจมจากด้านหลังทันที นายทหารหนุ่มอินเดีย พร้อมพูดว่า "🚫📸 No Camera!!!!" เพราะสนามบินเลห์ เป็นสนามบินของทหาร ดูแลโดยกองทัพทหารของอินเดีย ตั้งแต่เมื่อเดือน ก.พ. 2016 จึงห้ามถ่ายภาพภายในสนามบิน คงเป็นเพราะอาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคง แต่ผมก็ถ่ายมาได้ทันอยู่นะ จุ๊ๆ!!! อย่าบอกพี่เขานะครับ 🙏🙇