สวัสดีครับชาว Pantip กระทู้นี้ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์การตรวจรักษาการนอนหลับที่ไม่ได้ประสิทธิภาพของผมกับทาง Labfundee เผื่อท่านใดที่หาข้อมูลอยู่จะได้นำไปเป็นแนวทางของท่านได้ครับ
ก่อนที่เราจะเข้าสู่ขั้นตอนการรีวิว ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อม่อน ผมเริ่มทำงานประจำมาได้ประมาณ 3 ปี แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้
รู้สึกเพลียตลอดเวลา ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันนะครับ ทั้งๆที่ผมก็นอน 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำอยู่แล้ว
ผมมักจะโดนเพื่อนที่ทำงานแซวอยู่บ่อยๆเพราะว่าผมมักหลับคาโต๊ะทำงานมันฟังแล้วดู
รู้สึกอายจนเป็นเหมือนปมในใจเวลามีใครแซว
ผมเจอกับปัญหานี้มาสักพักแล้ว และอยากแก้ไขมาก เพราะทุกครั้งที่ผมตื่นขึ้นมาผมมักจะมึนหัวแล้วผมก็เครียดแบบไม่มีสาเหตุ
ช่วงวันหยุดผมลองนอนลากยาวแบบ 12 ชั่วโมงดูเพราะอยากรู้ว่าตื่นมาแล้วจะดีขึ้นบ้างมั้ย
ปรากฎว่าก็เหมือนเดิม ไม่สดชื่นขึ้นแบบที่ควรจะเป็น
คือแบบว่า…… ควรต้องทำอะไรก็ได้ให้นอนได้ดีกว่านี้ซะที
ไม่งั้นชีวิตของผมคงพังไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ เลยลองค้นหาข้อมูลในเน็ตอยู่พักใหญ่ๆ ค้นนู่นค้นนั่นไปเรื่อย
คิดว่าจะเข้าไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่รู้จะปรึกษาหมอแผนกไหนดีเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเป็นอยู่มันเกี่ยวกับอะไร
จนช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาก็ปรึกษารุ่นพี่ในออฟฟิศท่านหนึงคุยไปคุยมา แกบอกว่ามีคลีนิคเพื่อนของแกเปิดรักษาปัญหาด้านการนอนหลับอยู่นะ
ทิ้ง Contact ไว้ให้ลองติดต่อไปดูให้บอกว่าแกแนะนำมาให้ ตอนนั้นนั่งอ่านอยู่สักพักก็ตามไปในเพจที่นั้นทันทีครับ
โดยชื่อของผู้ให้บริการก็น่ารักดีนะครับ
ชื่อว่า Labfundee ผมอ่านว่าหลับฝันดี 555 ผมก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่อยู่พักใหญ่

เจ้าหน้าที่ Labfundee ได้แนะนำให้เข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจระบบทางเดินหายใจ โดยคุณหมอที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหู คอ จมูก
และเจ้าหน้าที่ได้ขอเบอร์โทรของผมและติดต่อมาทำนัดให้ทันที
สถานที่นัดตรวจกับทาง Lanfundee อยู่ที่โรงพยาบาลคามิลเลี่ยนครับ ทองหล่อในตัวเมืองเลย
ตอนที่เข้าไปครั้งแรกฟีลโรงพยาบาลก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากโรงพยาบาลอื่นมากเท่าไร


เริ่มต้นผมได้เจอเจ้าหน้าที่ที่นัดกันไว้ และได้พูดคุยกันนิดหน่อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ส่งต่อให้พยาบาลทำประวัติเบื้องต้น ไม่เกิน 5 นาทีครับได้เข้าห้องตรวจทันที ทำอะไรเสร็จสรรพไวมาก ประทับใจครับ
หลังจากนั้นก็ได้เจอคุณหมอที่เป็นผู้ตรวจผมในวันนี้ เบื้องต้นคุณพยาบาลจะให้ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน
โดยมีคุณหมอคอยคุยสอบถามกับตัวผมไปพลางๆ ก็เป็นกันเองดีนะครับ
ผมขอเลยอนุญาตให้พี่ชายที่มาด้วยเก็บภาพถ่ายมาพลางๆซึ่งคุณหมอก็ใจดีอนุญาติครับ

หลังจากวัดอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เล่าประวัติคร่าวๆว่าเป็นอะไรมาบ้าง คุณหมอก็เริ่มเอาอุปกรณ์สุดไฮเทคออกมาใส่ ดูจากภาพแล้วเหมือนกำลังจะเล่นเกมอะไรสักอย่าง 5555

หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอก็แนะนำให้ทำ Sleeptest ทันที เลยขอเวลานั่งคิดอยู่ซักแปบ
ปรึกษากับคนที่บ้านเพื่อเพิ่มกำลังใจ เพราะปัญหานี้เรื้อรังมานานมากแล้ว
จึงตัดสินใจยอมลงทุนให้ตัวเองในวันนั้นเลย
จากนั้นได้ตกลงเวลาที่แน่ชัดกับ Labfundee ว่าตกลงทำ Sleep test ตอนช่วงเวลา 4 ทุ่มตรง
เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการนอนที่สุด และเจ้าหน้าที่ได้ให้คู่มือการเตรียมตัวก่อนทำ Sleep test มาอ่านก่อนที่จะเจอกันอีกครั้งตอน 4 ทุ่ม
4 ทุ่มตรงผมและเจ้าหน้าที่ได้นัดเจอกันอีกครั้งที่โรงพยาบาล และได้พาขึ้นไปยังห้องรับรองเฉพาะของการทำ Sleep test โดยเจ้าหน้าที่จะให้ผมอาบน้ำสระผม ให้เรียบร้อยก่อนการเริ่มติดอุปกรณ์
เริ่มต้นด้วยการลงชื่อและอ่านเอกสารก่อนทำ Sleep test อีกครั้ง

หลังจากอ่านเอกสารครบเรียบร้อย จะเริ่มติดอุปกรณ์เข้าร่างกาย รู้สึกตื่นเต้นมากครับ
เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมารักษาเพราะว่านอนหลับไม่มีประสิทธิภาพ
เริ่มจากติดอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาทั่วร่างกาย เริ่มจากศีรษะก่อน

เครื่องที่เจ้าหน้าที่นำมาติดเป็นศูนย์กลางการเก็บข้อมูลของคลื่นในตัวเรา
อาจจะดูรุงรังไปหน่อยแต่สามารถขยับตัว ทำอะไรได้ปกติครับ

ติดเสร็จทั้งหมดก็จะออกมาในรูปแบบนี้ (ดูเหมือนมนุษย์ดัดแปลง 555 แต่ก็ตื่นเต้นดี)

เข้าถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนการนอนหลับ เจ้าหน้าที่จะตรวจอุปกรณ์ในร่างกายของเราทุกส่วน
ผ่านจากโปรแกรมเฉพาะของ Labfundee ว่ามีส่วนไหนไม่ทำงานหรือชำรุดบ้าง

หลังจากตรวจทุกอย่างเสร็จก็จะเข้าสู่การนอนที่ดีที่สุดในรอบเดือน โดยมีข้อกำชับว่าจะต้องนอนหลับให้ได้นานที่สุด ผมเลยตัดสินใจที่จะนอนคนเดียวและปิดเครื่องการติดต่อสื่อสารทุกอย่าง เพื่อจะให้ผลออกมาชัดเจนที่สุด

อุปกรณ์อาจจะเยอะแต่ว่าไม่รู้สึกติดขัดอะไรสักเท่าไรครับ ยังสามารถพลิกตัว
เดินไปเข้าห้องทำได้ปกติ ไม่ต้องกลัวว่าสายที่เจ้าหน้าที่ติดให้จะหลุด เพราะเจ้าหน้าที่ได้ติดที่ตรวจจับสำรองไว้หลายจุด
เพราะฉะนั้นหายห่วงครับ
หลังจากติดเสร็จทีมงานก็ขอตัวแยกย้ายกันไป เพื่อให้ผมเข้านอนและรอวัดผลในช่วงเช้า
พอถึงในช่วงเช้า ทีมงานที่เข้ามาติดตั้งก็เข้ามาเก็บอุปกรณ์ต่างๆและเอาข้อมูลจากการติดตั้งไป
เพื่อที่จะไปวิเคราะห์กับทางคุณหมอในวันเดียวกัน
สายๆหน่อย ทาง Labfundee ก็โทรมาหาผมเพื่อแจ้งข้อมูล จากทางพี่หมอ
โดยแจ้งถึงสาเหตุการนอนที่ไม่ได้สิทธิภาพของผม เกิดจากผลลัพธ์ดังนี้ครับ !!
ค่าดัชนีการหยุดหายใจขณะหลับ REI (AHI) อยู่ที่ 13.6 ครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งเข้าข่ายการมีปัญหาการหายใจติดขัดในการนอนหลับ ระดับน้อยอยู่ ออกซิเจนต่ำสุดอยู๋ที่ 88% ขณะหลับคลื่นไฟฟ้าหัวใจและคลื่นไฟฟ้าสมองอยู่ในเกณฑ์ปรกติ มีต่อมทอนซิลโตนิดหน่อย ทำให้บังทางเดินหายใจ ขณะหลับเลยทำให้เกิดเสียงกรน
ทางพี่หมอแนะนำว่า สามารถเลือกรับการดูแลรักษาในขั้นนี้ได้ 2 แบบ คือ รักษาโรคภูมิแพ้จมูกและลดน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัมครับ และอีกแบบก็คือ ใช้เครื่อง CPAP ใส่ขณะหลับ
เครื่อง CPAP เป็นเครื่องช่วยหายใจขณะหลับ พี่หมอได้แนะนำว่า เครื่องนี้ช่วยได้ดีมากสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องการนอนหลับหลายๆท่านเพราะ การหลับที่เพียงพอและได้รับ อากาศ(oxygen)ในระดับมาตฐาน จะสามารถช่วยให้ตื่นมายังสดชื่น และตื่นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ และนั่นคือ สิ่งที่ผมฝันหามาตลอดครับ เลยพี่หมอ ผมจะสามารถใช้เครื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง ?
ทาง Labfundee เขามีบริการทดลองใช้ CPAP 1 สัปดาห์
แล้วสามารถตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ก็ได้ ผมจึงตัดสินใจขอ ทดลอง CPAP กับ Labfundee
ส่วนหน้าตาเข้าเครื่อง CPAP ก็ดูเรียบง่ายที่คิดมากครับ
ในชุดที่ผมได้รับมา มีคู่มือโดยละเอียดสำหรับการใช้งานที่บ้าน

ส่วนขั้นตอนการประกอบเครื่อง
นำสายรัดประกอบกับยางครอบจมูกโดย
ใช้ท่ออากาศที่เชื่อมกับเครื่อง ต่อหน้ากับหน้ากาก

เติมน้ำเข้าช่องใส่น้ำเล็กน้อย ต่อ adapter เข้ากับเครื่อง
และกดปุ่ม power ก็สามารถใช้งานได้ทันที

เวลาสวมหน้ากากจะออกมาแบบนี้

เครื่องเป็นระบบ Auto เครื่องจะปรับระบบลมให้เข้ากับการหายใจของเรา
โดยจะต้องนอนโดยใส่เครื่อง CPAPอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง

เครื่อง CPAP จะขยายทางเดินหายใจของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถกรนได้
อาจจะรู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เพราะมีลมดันตลอดเวลา
ซึ่งควรเติมน้ำก่อนที่จะใช้งานครับ
หลังจากที่ใช้ตลอดคืนตามที่คุณหมอ Labfundee ได้แนะนำมา (ข้อมูลจาก Sleep test ช่วยด้วยครับ)
รู้สึกได้เลยว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงการนอนของตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ชัดเจน
หายใจได้เต็มที่กว่านอนปรกติ
หน้ากากที่ใส่ตอนนอนหลับ พอนอนจริงก็ไม่รู้สึกถึงความรำคาญเหมือนที่คิดเลยครับ แต่ใส่คืนแรกจะรู้สึกแปลกๆหน่อยครับ อาจเพราะไม่ชินเท่าไหร่และยังปรับหน้ากากไม่ค่อยเป็น แต่พอคืนที่2-3 ก็เริ่มง่ายขึ้นมากครับ
โดยรวมแล้วผมดีใจมากที่ตัวเองตัดสินใจเข้าพบกับคุณหมอจากทาง Labfundee
เพื่อแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง การนอนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้ผมสดชื่นขึ้น
ตอนเช้าและมีพลังไปทำงานกว่าเมื่อก่อน
ยังไงแนะนำคลีนิค Labfundee หลับดีไม่มีกรน
(ฝากคลีนิคเพื่อนของรุ่นพี่ด้วยนะคร้าบ)

หากใครอยากปรึกษา การนอนหลับยังไงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ติดต่อเขาได้ที่ เลยครับ
FB :
https://www.facebook.com/LabfundeeTH/
Web :
http://www.labfundee.com/
[CR] แก้ไขการนอนหลับไม่ได้ประสิทธิภาพกับคลีนิค Labfundee ครั้งแรก
ก่อนที่เราจะเข้าสู่ขั้นตอนการรีวิว ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อม่อน ผมเริ่มทำงานประจำมาได้ประมาณ 3 ปี แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้
รู้สึกเพลียตลอดเวลา ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันนะครับ ทั้งๆที่ผมก็นอน 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำอยู่แล้ว
ผมมักจะโดนเพื่อนที่ทำงานแซวอยู่บ่อยๆเพราะว่าผมมักหลับคาโต๊ะทำงานมันฟังแล้วดู
รู้สึกอายจนเป็นเหมือนปมในใจเวลามีใครแซว
ผมเจอกับปัญหานี้มาสักพักแล้ว และอยากแก้ไขมาก เพราะทุกครั้งที่ผมตื่นขึ้นมาผมมักจะมึนหัวแล้วผมก็เครียดแบบไม่มีสาเหตุ
ช่วงวันหยุดผมลองนอนลากยาวแบบ 12 ชั่วโมงดูเพราะอยากรู้ว่าตื่นมาแล้วจะดีขึ้นบ้างมั้ย
ปรากฎว่าก็เหมือนเดิม ไม่สดชื่นขึ้นแบบที่ควรจะเป็น
คือแบบว่า…… ควรต้องทำอะไรก็ได้ให้นอนได้ดีกว่านี้ซะที
ไม่งั้นชีวิตของผมคงพังไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ เลยลองค้นหาข้อมูลในเน็ตอยู่พักใหญ่ๆ ค้นนู่นค้นนั่นไปเรื่อย
คิดว่าจะเข้าไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่รู้จะปรึกษาหมอแผนกไหนดีเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเป็นอยู่มันเกี่ยวกับอะไร
จนช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาก็ปรึกษารุ่นพี่ในออฟฟิศท่านหนึงคุยไปคุยมา แกบอกว่ามีคลีนิคเพื่อนของแกเปิดรักษาปัญหาด้านการนอนหลับอยู่นะ
ทิ้ง Contact ไว้ให้ลองติดต่อไปดูให้บอกว่าแกแนะนำมาให้ ตอนนั้นนั่งอ่านอยู่สักพักก็ตามไปในเพจที่นั้นทันทีครับ
โดยชื่อของผู้ให้บริการก็น่ารักดีนะครับ
ชื่อว่า Labfundee ผมอ่านว่าหลับฝันดี 555 ผมก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่อยู่พักใหญ่
และเจ้าหน้าที่ได้ขอเบอร์โทรของผมและติดต่อมาทำนัดให้ทันที
สถานที่นัดตรวจกับทาง Lanfundee อยู่ที่โรงพยาบาลคามิลเลี่ยนครับ ทองหล่อในตัวเมืองเลย
ตอนที่เข้าไปครั้งแรกฟีลโรงพยาบาลก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากโรงพยาบาลอื่นมากเท่าไร
หลังจากนั้นก็ได้เจอคุณหมอที่เป็นผู้ตรวจผมในวันนี้ เบื้องต้นคุณพยาบาลจะให้ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน
โดยมีคุณหมอคอยคุยสอบถามกับตัวผมไปพลางๆ ก็เป็นกันเองดีนะครับ
ผมขอเลยอนุญาตให้พี่ชายที่มาด้วยเก็บภาพถ่ายมาพลางๆซึ่งคุณหมอก็ใจดีอนุญาติครับ
หลังจากวัดอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เล่าประวัติคร่าวๆว่าเป็นอะไรมาบ้าง คุณหมอก็เริ่มเอาอุปกรณ์สุดไฮเทคออกมาใส่ ดูจากภาพแล้วเหมือนกำลังจะเล่นเกมอะไรสักอย่าง 5555
หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอก็แนะนำให้ทำ Sleeptest ทันที เลยขอเวลานั่งคิดอยู่ซักแปบ
ปรึกษากับคนที่บ้านเพื่อเพิ่มกำลังใจ เพราะปัญหานี้เรื้อรังมานานมากแล้ว
จึงตัดสินใจยอมลงทุนให้ตัวเองในวันนั้นเลย
จากนั้นได้ตกลงเวลาที่แน่ชัดกับ Labfundee ว่าตกลงทำ Sleep test ตอนช่วงเวลา 4 ทุ่มตรง
เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการนอนที่สุด และเจ้าหน้าที่ได้ให้คู่มือการเตรียมตัวก่อนทำ Sleep test มาอ่านก่อนที่จะเจอกันอีกครั้งตอน 4 ทุ่ม
4 ทุ่มตรงผมและเจ้าหน้าที่ได้นัดเจอกันอีกครั้งที่โรงพยาบาล และได้พาขึ้นไปยังห้องรับรองเฉพาะของการทำ Sleep test โดยเจ้าหน้าที่จะให้ผมอาบน้ำสระผม ให้เรียบร้อยก่อนการเริ่มติดอุปกรณ์
เริ่มต้นด้วยการลงชื่อและอ่านเอกสารก่อนทำ Sleep test อีกครั้ง
หลังจากอ่านเอกสารครบเรียบร้อย จะเริ่มติดอุปกรณ์เข้าร่างกาย รู้สึกตื่นเต้นมากครับ
เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมารักษาเพราะว่านอนหลับไม่มีประสิทธิภาพ
เริ่มจากติดอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาทั่วร่างกาย เริ่มจากศีรษะก่อน
เครื่องที่เจ้าหน้าที่นำมาติดเป็นศูนย์กลางการเก็บข้อมูลของคลื่นในตัวเรา
อาจจะดูรุงรังไปหน่อยแต่สามารถขยับตัว ทำอะไรได้ปกติครับ
ติดเสร็จทั้งหมดก็จะออกมาในรูปแบบนี้ (ดูเหมือนมนุษย์ดัดแปลง 555 แต่ก็ตื่นเต้นดี)
เข้าถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนการนอนหลับ เจ้าหน้าที่จะตรวจอุปกรณ์ในร่างกายของเราทุกส่วน
ผ่านจากโปรแกรมเฉพาะของ Labfundee ว่ามีส่วนไหนไม่ทำงานหรือชำรุดบ้าง
หลังจากตรวจทุกอย่างเสร็จก็จะเข้าสู่การนอนที่ดีที่สุดในรอบเดือน โดยมีข้อกำชับว่าจะต้องนอนหลับให้ได้นานที่สุด ผมเลยตัดสินใจที่จะนอนคนเดียวและปิดเครื่องการติดต่อสื่อสารทุกอย่าง เพื่อจะให้ผลออกมาชัดเจนที่สุด
อุปกรณ์อาจจะเยอะแต่ว่าไม่รู้สึกติดขัดอะไรสักเท่าไรครับ ยังสามารถพลิกตัว
เดินไปเข้าห้องทำได้ปกติ ไม่ต้องกลัวว่าสายที่เจ้าหน้าที่ติดให้จะหลุด เพราะเจ้าหน้าที่ได้ติดที่ตรวจจับสำรองไว้หลายจุด
เพราะฉะนั้นหายห่วงครับ
หลังจากติดเสร็จทีมงานก็ขอตัวแยกย้ายกันไป เพื่อให้ผมเข้านอนและรอวัดผลในช่วงเช้า
พอถึงในช่วงเช้า ทีมงานที่เข้ามาติดตั้งก็เข้ามาเก็บอุปกรณ์ต่างๆและเอาข้อมูลจากการติดตั้งไป
เพื่อที่จะไปวิเคราะห์กับทางคุณหมอในวันเดียวกัน
สายๆหน่อย ทาง Labfundee ก็โทรมาหาผมเพื่อแจ้งข้อมูล จากทางพี่หมอ
โดยแจ้งถึงสาเหตุการนอนที่ไม่ได้สิทธิภาพของผม เกิดจากผลลัพธ์ดังนี้ครับ !!
ค่าดัชนีการหยุดหายใจขณะหลับ REI (AHI) อยู่ที่ 13.6 ครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งเข้าข่ายการมีปัญหาการหายใจติดขัดในการนอนหลับ ระดับน้อยอยู่ ออกซิเจนต่ำสุดอยู๋ที่ 88% ขณะหลับคลื่นไฟฟ้าหัวใจและคลื่นไฟฟ้าสมองอยู่ในเกณฑ์ปรกติ มีต่อมทอนซิลโตนิดหน่อย ทำให้บังทางเดินหายใจ ขณะหลับเลยทำให้เกิดเสียงกรน
ทางพี่หมอแนะนำว่า สามารถเลือกรับการดูแลรักษาในขั้นนี้ได้ 2 แบบ คือ รักษาโรคภูมิแพ้จมูกและลดน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัมครับ และอีกแบบก็คือ ใช้เครื่อง CPAP ใส่ขณะหลับ
เครื่อง CPAP เป็นเครื่องช่วยหายใจขณะหลับ พี่หมอได้แนะนำว่า เครื่องนี้ช่วยได้ดีมากสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องการนอนหลับหลายๆท่านเพราะ การหลับที่เพียงพอและได้รับ อากาศ(oxygen)ในระดับมาตฐาน จะสามารถช่วยให้ตื่นมายังสดชื่น และตื่นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ และนั่นคือ สิ่งที่ผมฝันหามาตลอดครับ เลยพี่หมอ ผมจะสามารถใช้เครื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง ?
ทาง Labfundee เขามีบริการทดลองใช้ CPAP 1 สัปดาห์
แล้วสามารถตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ก็ได้ ผมจึงตัดสินใจขอ ทดลอง CPAP กับ Labfundee
ส่วนหน้าตาเข้าเครื่อง CPAP ก็ดูเรียบง่ายที่คิดมากครับ
ในชุดที่ผมได้รับมา มีคู่มือโดยละเอียดสำหรับการใช้งานที่บ้าน
ส่วนขั้นตอนการประกอบเครื่อง
นำสายรัดประกอบกับยางครอบจมูกโดย
ใช้ท่ออากาศที่เชื่อมกับเครื่อง ต่อหน้ากับหน้ากาก
เติมน้ำเข้าช่องใส่น้ำเล็กน้อย ต่อ adapter เข้ากับเครื่อง
และกดปุ่ม power ก็สามารถใช้งานได้ทันที
เวลาสวมหน้ากากจะออกมาแบบนี้
เครื่องเป็นระบบ Auto เครื่องจะปรับระบบลมให้เข้ากับการหายใจของเรา
โดยจะต้องนอนโดยใส่เครื่อง CPAPอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง
เครื่อง CPAP จะขยายทางเดินหายใจของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถกรนได้
อาจจะรู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เพราะมีลมดันตลอดเวลา
ซึ่งควรเติมน้ำก่อนที่จะใช้งานครับ
หลังจากที่ใช้ตลอดคืนตามที่คุณหมอ Labfundee ได้แนะนำมา (ข้อมูลจาก Sleep test ช่วยด้วยครับ)
รู้สึกได้เลยว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงการนอนของตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ชัดเจน
หายใจได้เต็มที่กว่านอนปรกติ
หน้ากากที่ใส่ตอนนอนหลับ พอนอนจริงก็ไม่รู้สึกถึงความรำคาญเหมือนที่คิดเลยครับ แต่ใส่คืนแรกจะรู้สึกแปลกๆหน่อยครับ อาจเพราะไม่ชินเท่าไหร่และยังปรับหน้ากากไม่ค่อยเป็น แต่พอคืนที่2-3 ก็เริ่มง่ายขึ้นมากครับ
โดยรวมแล้วผมดีใจมากที่ตัวเองตัดสินใจเข้าพบกับคุณหมอจากทาง Labfundee
เพื่อแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง การนอนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้ผมสดชื่นขึ้น
ตอนเช้าและมีพลังไปทำงานกว่าเมื่อก่อน
ยังไงแนะนำคลีนิค Labfundee หลับดีไม่มีกรน
(ฝากคลีนิคเพื่อนของรุ่นพี่ด้วยนะคร้าบ)
หากใครอยากปรึกษา การนอนหลับยังไงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ติดต่อเขาได้ที่ เลยครับ
FB : https://www.facebook.com/LabfundeeTH/
Web : http://www.labfundee.com/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น