วันนี้คุณมีปัญหานอนกรน/ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับหรือไม่?

หากคุณกำลังมีปัญหานอนกรนหนักมาก หลังจากไปตรวจ sleep test แล้วพบว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
และแพทย์ได้แนะนำให้รักษาด้วยเครื่อง CPAP ท่านอาจมีความสงสัยว่า CPAP คืออะไร
วันนี้จะพามารู้จักกับเจ้าเครื่องมือนี้อย่างละเอียด รับรองว่าอ่านบทความนี้แล้ว จะทำให้เข้าใจมากขึ้นอย่างแน่นอน

CPAP คืออะไร?
CPAP อ่านว่า ซี-แพบ ย่อมาจาก Continuous Positive Airway Pressure คือเครื่องช่วยหายใจประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้หลักการอัดแรงดันอากาศให้แก่ผู้ใช้ในขณะหายใจเข้า เพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนต้นให้กว้างขึ้น สำหรับรักษาผู้ที่นอนกรน หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)
โดยเครื่อง CPAP นี้สามารถรักษานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ทุกระดับอาการ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการในระดับปานกลาง (Moderate) ถึงรุนแรง (Severe)

CPAP เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์ทั่วโลกยอมรับ และจัดเป็นมาตรฐานสูงสุด (Gold Standard) ในการรักษาอาการนอนกรน และโรคหยุดหายใจขณะหลับ
CPAP อาจถูกเรียกได้หลายชื่อ เช่น เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า หรือบางท่านอาจเรียกง่ายๆ ว่า เครื่องช่วยนอนกรน ตามสรรพคุณและความสามารถของมันนั่นเองครับ

ทำไมต้องใช้ CPAP?
หากท่านได้รับการตรวจวินิจฉัยว่ามีอาการนอนกรนแบบอันตราย คือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย และมีค่าดัชนีการหยุดหายใจขณะหลับ (AHI) มากกว่า 5 ครั้งต่อชั่วโมง แพทย์จะแนะนำให้ท่านรักษาด้วยการใช้เครื่อง CPAP

หลักการทำงานของเครื่อง CPAP
เครื่อง CPAP มีหลักการทำงาน ในการช่วยรักษาอาการนอนกรน โดยเครื่องจะดูดอากาศจากภายนอก ผ่านแผ่นกรองฝุ่น และผลิตแรงดันอากาศส่งออกมา ผ่านทางท่อลม เข้าสู่หน้ากากที่ครอบจมูกเราไว้ และผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา

ซึ่งถ้าท่านได้อ่านบทความเรื่องนอนกรนของผม จะทราบว่าอาการนอนกรน เกิดจากการที่ช่องทางเดินหายใจของเราเกิดตีบแคบลง เนื่องจากกล้ามเนื้อต่างๆ ในบริเวณนั้น เช่น โคนลิ้น มีการหย่อนตัวลง ทำให้ลมที่ผ่านช่องแคบนี้ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการสั่นกระพือ เป็นเสียงกรนดังขึ้น
และบางครั้ง กล้ามเนื้อที่หย่อนตัวลงนี้ อาจหย่อนจนมาปิดช่องทางเดินหายใจของเราจนปิดสนิท เกิดเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ดังนั้นแรงดันอากาศที่เครื่อง CPAP สร้างขึ้นมานี้ จะมาถ่าง หรือขยายช่องทางเดินหายใจของเรา ให้เปิดกว้างออก มีผลทำให้แก้ไขต้นเหตุของการนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับได้นั่นเอง
ผู้ที่ใช้งานเครื่องจึงสามารถหายใจรับอากาศเข้าไปได้อย่างเพียงพอ ไม่เกิดการอุดกั้น
อีกข้อที่ท่านควรทราบก็คือ เครื่องนี้จะนำอากาศจากภายนอกมาสร้างแรงดันเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่
เครื่องเพิ่มปริมาณออกซิเจนอย่างที่หลายท่านเข้าใจกัน

อุปกรณ์ CPAP มีอะไรบ้าง
หากท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงทราบแล้วว่าเครื่อง CPAP คืออะไร ทำงานอย่างไร ตอนนี้เราจะมาพูดถึงส่วนประกอบของเครื่องกันบ้าง
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมี CPAP อยู่หลายยี่ห้อ หลายรุ่น แต่อย่างไรก็ตามส่วนประกอบหลักๆ นั้นจะเหมือนกัน ได้แก่
เครื่องสร้างแรงดันอากาศ (CPAP Device)
หน้ากาก (CPAP Mask) และสายรัดศีรษะ (Headgear)
ท่ออากาศ
อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น เครื่องทำความชื้น (Humidifier) หรือ ท่อร้อน (Heated Tube) สำหรับป้องกันการเกิดหยดน้ำในท่อ เป็นต้น
อุปกรณ์ในข้อ 1-3 เป็นส่วนที่จำเป็น ถ้าขาดอันใดอันหนึ่งไป ก็จะใช้งานไม่ได้ ส่วนข้อ 4 ท่านอาจมีหรือไม่ก็ได้ครับ
เครื่อง CPAP ประเภทต่างๆ
เมื่อแพทย์ได้วินิจฉัยแล้ว และแนะนำให้ท่านรักษาด้วยเครื่อง CPAP (CPAP Therapy) 
ขั้นตอนต่อไป คือการเลือกประเภทของเครื่อง CPAP ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
เครื่องช่วยหายใจ CPAP แบบปรับแรงดันอัตโนมัติ (Auto CPAP)
เครื่องช่วยหายใจ CPAP แรงดันคงที่ (Manual CPAP / Fixed CPAP)
เครื่องช่วยหายใจ แบบแรงดัน 2 ระดับ (Bilevel PAP หรือ BiPAP)
หากผลจากการตรวจ Sleep test พบว่าท่านใช้แรงดันรักษาไม่สูงนัก หรือท่านมีอาการรุนแรง
ซึ่งต้องใช้แรงดันคงที่ตลอดเวลา แพทย์อาจแนะนำให้ซื้อเป็นเครื่องประเภทแรงดันคงที่ ซึ่งมีราคาถูกกว่าประเภทอื่นๆ
แต่ในเคสส่วนมาก แพทย์จะแนะนำให้ใช้เป็นเครื่อง Auto CPAP เพราะคนไข้ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้สบายกว่า
อึดอัดน้อยกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าแบบแรงดันคงที่ครับ
ส่วนเครื่องประเภทแรงดัน 2 ระดับ (BiPAP) นั้นจะใช้ในผู้ที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับขั้นรุนแรง (Severe OSA)
ซึ่งจำเป็นต้องใช้แรงดันในการรักษาสูงมาก เช่น 20 cmH2O ขึ้นไป ซึ่งหากใช้เครื่องแบบ Fixed หรือ Auto CPAP
เวลาหายใจออกจะอึดอัดมาก เนื่องจากต้องหายใจสวนทางกับแรงลมที่เครื่องพ่นออกมา
เครื่อง BiPAP จะสามารถตั้งให้แรงดันในขณะหายใจเข้าและออกมีค่าแตกต่างกันได้

“เครื่อง CPAP นั้นจัดเป็นวิธีการรักษาอาการนอนกรนแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ประสิทธิผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง
และได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก”

ตามรายงานการวิจัยทั่วโลก การใช้เครื่อง CPAP จัดเป็นการรักษา ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ ระดับปานกลางหรือรุนแรง
ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ในแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด
หลังจากที่ท่านได้ทำ sleep test หรือได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์แล้ว หากท่านได้ใช้เครื่องตลอดทั้งคืน และเป็นประจำทุกคืน
จะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ผลดีของการรักษาด้วย CPAP ในระยะสั้น
ผลดีในระยะสั้น คือท่านจะไม่มีอาการนอนกรนอีกต่อไป และจะนอนหลับได้ดีขึ้นพร้อมกับได้รับอากาศอย่างเต็มที่อีกด้วย ตื่นขึ้นมาจะสดชื่น ไม่มีอาการอ่อนเพลีย ไม่ง่วงนอนตอนกลางวัน ไม่มีอาการหลับในตอนขับรถ สมาธิดีขึ้น ความจำดีขี้น อย่างที่ท่านรู้สึกถึงความแตกต่างได้

ผลดีของการใช้ CPAP ในระยะยาว
ผลดีในระยะยาว คือท่านจะลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ที่อาจเกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย
เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยหากท่านติดตามดูแลการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิด จะมีความเสี่ยงในการรักษาน้อยมาก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP และวิธีแก้ไข
บางท่านที่เริ่มใช้เครื่อง CPAP อาจมีผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องได้ เช่น
ขนาดของหน้ากาก อาจไม่พอดีกับโครงหน้าของท่าน  หรืออาจใส่แน่นเกินไป จนเกิดเป็นรอยกดทับ โดยเฉพาะบริเวณสันจมูก
หรือบางครั้ง หน้ากากอาจมีขนาดใหญ่เกินไป หรือใส่ไม่แน่น ก็อาจทำให้เกิดลมรั่วได้ ลมที่รั่วนี้จะไหลเข้าตา ทำให้รำคาญ หรือปลุกให้ท่านตื่น
บางท่านอาจมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือมีเลือดกำเดาไหล เนื่องจากมีแรงดันลมไหลผ่านโพรงจมูกเป็นเวลานานๆ หรือบางท่านอาจมีอาการโพรงจมูกแห้ง หรือคอแห้ง ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้ มักทำให้ท่านรำคาญ หรือท้อใจ จนทำให้เลิกใช้เครื่องในที่สุด

ถ้าใช้เครื่อง CPAP ไม่ได้จริงๆ ต้องทำอย่างไร
ก่อนอื่น ท่านควรพยายามใช้งานเครื่องให้มากที่สุดในทุกๆ คืน หรือถ้าเป็นไปได้
ควรใช้เครื่องให้ได้อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าท่านไม่สามารถใช้ได้จริงๆ
และหากท่านได้ลองแก้ไข ตามวิธีที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วพบว่ายังไม่สามารถใช้งานเครื่อง CPAP ได้
ท่านควรกลับไปปรึกษาแพทย์ที่รักษาท่านอีกครั้งครับ
แพทย์อาจลองตรวจหาสาเหตุอื่นๆ อย่างละเอียด เช่น ท่านอาจมีโรคทางจมูก เช่นผนังกั้นจมูกคด ริดสีดวงจมูก
ไซนัสอักเสบ หรือ ภูมิแพ้ เป็นต้น เพื่อแพทย์จะได้หาทางแก้ไขที่ต้นเหตุเหล่านั้นเสียก่อนครับ
ท้ายสุดแล้ว แพทย์อาจเสนอวิธีการรักษาแบบอื่นๆ ให้ท่าน เช่น การผ่าตัด หรือใช้เครื่องมือทางทันตกรรม (Oral appliance) เป็นต้น

question คิดแล้ว ก็อยากจะไปทดสอบ sleep test เหมือนกัน จะได้ทราบว่าตัวเองมีปัญหาการนอนกรนหรือไม่ แล้วถ้ามีเจ้าเครื่องนี้ คุณภาพการนอน คุณภาพชีวิตจะดีขึ้นหรือป่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่