✨🥋💪THE GLOVES FINAL 2018 : SEMI-FINAL รอบรองชนะเลิศ : ถุงมือเรื่องสั้น คู่แรก เรื่อง "เสี้ยวชีวิตที่ได้ใช้"💪🥋✨

กระทู้คำถาม


มาถึง "ถุงมือเรื่องสั้น" เรื่องแรก สำหรับรอบ SEMI-FINAL ครับ

เป็นเรื่องที่มีเนื้อหา "หนัก" พอสมควรทีเดียว เรืองราวของเด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกขัดแย้งเมื่อตนเองต้องทำสิ่งที่ไม่ค่อยจะถูกต้องตามทำนองคลองธรรมนัก เช่น จ่ายเงินดื่มเหล้าดื่มเบียร์หรือสูบบุหรี่ โดยที่เงินนั้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของพี่สาวซึ่งทำหน้าที่แทนแม่เป็นต้น...

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ไปเจอขอทานคนตาบอด วางขันรอรับเงิน มีเงินอยู่ในขัน ก็เกิดนึกแผลงๆ จะลองขโมยเงินในขันของขอทานนั้นขึ้นมา!


เหตุการณ์จะดำเนินไปอย่างไร จะจบอีท่าไหน ...???

ติดตามอ่านกันครับ จบแล้วมอบเกรดให้ทั้งคนแต่งและคนต่อ แล้วค่อยพิจารณาว่า ใครแต่ง ใครต่อ ครับผม...อมยิ้ม04หัวใจดอกไม้






         แดดยามใกล้เที่ยงวันนี้แผดแสงและไอร้อนราวกับจะลามเลียทุกสรรพสิ่งให้มอดไหม้ไปกับดวงตะวัน เด็กหนุ่มร่างบางวัยไม่เกินยี่สิบปี สวมเสื้อแขนยาวปอนๆ กับกางเกงยีนสีซีด มีย่ามสีน้ำตาลคล้องไหล่มาใบหนึ่ง เขาเดินครุ่นคิดจนใบหน้าแทบไม่เงยขึ้นมาจากพื้นทางเท้า ภายในร่างกายแสดงอาการชัดแจ้งว่า เขากำลังต้องการอาหารเพื่อเติมกำลังงานเข้าไป

     พรุ่งนี้บ่ายๆ เขาก็จะได้พบหน้าพี่สาวตามที่นัดกันไว้ พี่ของเขาไม่เคยผิดนัด ครั้งเดียวที่ทำให้เขาใจแป้ว อยากโกรธเธอและร้องไห้ออกมาในเวลาเดียวกันก็คือ ตอนที่อาจารย์นัดประชุมผู้ปกครอง นักเรียนเกือบทั้งห้องซึ่งมีอยู่สามสิบสองคน พากันเดินตามพ่อแม่หรือไม่ก็ปู่ย่าตายายไปบนอาคาร เหลือแต่เขากับเพื่อนอีกสามคนที่ยังนั่งอยู่ที่ม้านั่งใต้ถุนอาคาร ต่างคนต่างคอย

         และไม่น่าเชื่อว่า ถึงที่สุดแล้วเขาคือนักเรียนคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้ขึ้นไปบนห้องเรียน เพราะพี่สาวยังมาไม่ถึง จนอาจารย์ต้องลงมาตามให้เขาขึ้นไปนั่งฟังร่วมกับทุกคนข้างบนอาคาร และอีกสิบห้านาทีต่อมา เขาจึงเห็นร่างพี่สาวเดินมาตามระเบียงอย่างเร่งร้อน สีหน้าวิตกกังวล

         “ไม่ลืมอยู่แล้ว แต่รถเมล์มันช้าน่ะ” เธอออกตัวกับเขาเมื่อได้อยู่กันตามลำพังพี่กับน้อง

         ธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับอย่างเรียบร้อยอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาตอนนี้ มันเป็นจำนวนสุดท้ายที่เขามีติดตัว หลังจากแยกย้ายกันออกมาจากบ้านเช่าของเพื่อนที่อยู่นอกเมือง อิสรภาพจากชั่วโมงเรียนและสายตาผู้ปกครองทำให้เกิดกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ท้าทาย สำหรับเด็กหนุ่มอย่างพวกเขา

         หลังรสขื่นๆ เจือกลิ่นหมักบ่มของเบียร์ผ่านลำคอลงไป ใครคนหนึ่งโยนซองบุหรี่มาให้เขาได้ทำความรู้จักกับกลิ่นควันและรสของใบยาที่แปรรูปเป็นมวนพร้อมถูกจุดสูบ และใครอีกคนก็งัดเอาสำรับไพ่ออกมาวางท่าเพื่อที่จะสวมบทบาทนักเล่นอย่างจริงจังในเวลาต่อมา เสียงเพลงจากวิทยุเครื่องเล็กๆ กระตุ้นจังหวะการเต้นและสูบฉีดของหัวใจที่เริ่มมีฤทธิ์แอลกอฮอล์ซึมซาบเข้าไปตามกระแสเลือด

          เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคน และได้ยินเสียงหัวเราะของตัวเองดังขึ้นมาแข่งกับเสียงเพลง นี่คือโลกเร้นมิติ ที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นที่บ้าน หรือเกิดขึ้นตรงหน้าพ่อ แม่ หรือแม้แต่พี่สาวของเขา เด็กหนุ่มถอนใจช้าๆ เมื่อนึกถึงพี่สาวที่ทำหน้าที่แทนแม่ เพราะป่านนี้แม่ก็คือแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่ต้องรวบรวมสตางค์ส่งให้น้องสาวไปโรงเรียนมัธยมในตัวจังหวัดทุกวัน       

          “เฮ้ย ! ปุ้ม เป็นไรวะ ?” เสียงเพื่อนแซวผสมเสียงหัวเราะ “โด๊ปนี่หน่อยเซ่ คึกดีนะเว้ย”  

วิชานอกบทเรียนที่เขาลอบมาตักตวงกับเพื่อนๆ บางโอกาส สร้างความฮึกเหิม ลำพองใจ ระเริงใจได้เสมอ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่มันพองฟูและเบิกบานแบบนั้น ไม่ช้าไม่นานมันก็จะค่อยหดแฟบและห่อเหี่ยวไป จนกว่าจะได้ก่อเชื้อและจุดไฟเรียกให้มันกลับมาอีก กับที่แน่ชัดก็คือ มันปล้นเงินสดในกระเป๋าของเขาออกไปนับร้อยบาท ซึ่งต้นทางของมันมาจากค่าแรงที่พี่สาวเป็นคนยืนตรวจถุงเท้าทีละข้างในโรงงานที่อยู่ไกลออกไปอีกจังหวัดหนึ่ง คิดถึงตรงนี้เขาก็กะพริบตาถี่ๆ รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันควัน

            “เวลาเงินหมด พวกเอ็งทำไงกันวะ ?” เจ้าของห้องเช่าที่ดูจะมีฐานะดีกว่าเพื่อนเคยโพล่งขึ้นมา

            “ไถสิวะ” ใครคนหนึ่งตอบสวนกลับมา เรียกเสียงฮาจากรอบข้างๆ พร้อมกับมีกำปั้นลอยไปอยู่เบื้องหน้าผู้พูดด้วย

             “กูเคยอด อดโซเลยนะเว้ย ห่าเอ๊ย ! เกือบกระชากสร้อยเขาแล้วว่ะ”

             “โอ้โฮ..เพื่อน อย่าให้ต้องไปเยี่ยมกันในคุกเลยวะ” คนเปิดประเด็นหันไปโอบไหล่คนที่เผยความในใจออกมา

             ความคิดสะดุดลง เมื่อเด็กหนุ่มเดินผ่านร้านอาหารริมทางที่เป็นเพิงสังกะสีง่ายๆ กลิ่นอาหารบางอย่างที่คุ้นเคยโชยเข้าจมูกจนต้องกลืนน้ำลาย เขาสาวเท้าเร็วขึ้นเพื่อให้ผ่านมันไปทันที เงินยี่สิบบาทที่เหลืออาจหมายถึงกล้วยสักหวี หรือขนมในขวดโหลร้านของชำหน้าปากซอย เพื่อกักตุนเป็นพลังงานไว้ให้ข้ามคืน

             มองไปที่สะพานลอย ในวันนี้ดูมันช่างสูงและไม่ชวนให้เดินขึ้นไปอย่างเคยสำหรับคนหมดแรงและอ่อนเพลียอย่างเขา เด็กหนุ่มถอนใจยาวก่อนก้าวเท้าขึ้นบันไดไปทีละขั้นเกือบเหมือนชายชรา เขาคิดว่าขั้นบันไดแต่ละขั้นต้องมีสัดส่วนที่ไม่ถูกต้อง จึงส่งผลให้ต้องยกเท้าก้าวขึ้นสูงมากกว่าปกติ แต่ก็นึกแปลกใจว่าทำไมเขาจึงเพิ่งมารู้สึกเอาในวันนี้

              เด็กหนุ่มเดินเกาะราวบันไดขึ้นไปจนถึงขั้นบนสุด ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าในยามนั้นคือ หญิงตาบอดวัยกลางคนนั่งกางร่ม วางขันอะลูมิเนียมไว้ตรงพื้นด้านหน้า ช่วงกึ่งกลางของความยาวบนพื้นสะพาน ไม่มีใครอื่นอีกนอกจากเขาเพียงคนเดียว เขาเดินต่อไปอีกห้าหกก้าว แวบหนึ่งของความคิดก็ผุดขึ้นมา

              การที่ขอทานมานั่งขอเงิน ในขันนั้นก็น่าจะต้องมีเงิน และถ้า...ถ้าเขาจะหยิบเงินในขันขึ้นมาสักเหรียญหนึ่งหรือธนบัตรสักใบหนึ่ง มันจะเป็นไปได้ไหม เด็กหนุ่มรีบคิดอย่างตื่นเต้นปนกับความรู้สึกละอายใจ ขณะที่สาวเท้าก้าวเข้าไปใกล้ขอทานคนนั้นจนแลเห็นภายในขัน

(จบส่วนที่ 1 โดย "ถุงมือเจ้าภาพ")
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
( ส่วนที่ 2 โดย ถุงมือ "ซ่อน-หาย" )


         เหรียญห้าเหรียญสิบมีอยู่อย่างละหนึ่งเหรียญ และเหรียญบาทที่เขาคาดคะเนด้วยสายตาแล้วน่าจะมีอยู่หกเหรียญกระมัง ใจหนึ่งอยากยื่นมือไปหยิบเหรียญในขันมาให้หมด เอามารวมกับเงินที่เขามีอยู่ คงพอจะซื้อข้าวได้สักจาน

        ตอนนี้เขาหิวข้าวจนตาลาย ท้องร้องลั่นราวกับจะตะโกนด่าทอเขา ที่ปล่อยให้ท้องว่างมาสองวันเต็มๆ

        เด็กหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่ตรงหน้าขอทานตาบอด และกำลังต่อสู้กับความอยากได้เงิน ซึ่งอาจทำให้ตนรู้สึกผิดหากแอบหยิบเงินจากขันมาเป็นของตัวเอง

        เสียงแตรรถยนต์ทำให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เขาสะบัดศีรษะไล่ความคิดที่จะหยิบเงินขอทานออกไปจากหัว แล้วเร่งก้าวเท้าเดินให้พ้นสะพานนี่ไปเสียที เขามีเงินอยู่ยี่สิบบาทคงพอจะซื้อมาม่าคัพได้สักถ้วย พรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงก็จะได้เจอพี่สาว และเขาจะได้เงินมาซื้อข้าวกินจนอิ่ม

       เด็กหนุ่มเดินด้วยความรวดเร็ว เลยสะพานไปอีกไม่ไกล จำได้ว่ามีร้านสะดวกซื้ออยู่ตรงนั้น แวะเข้าไปซื้อมาม่ากินรองท้องไปก่อน คงมีแรงให้อยู่จนถึงพรุ่งนี้ได้แน่นอน

          มาม่าร้อนๆในถ้วยกระดาษ หอมหวนชวนน่าทาน มือเขาสั่นเทาด้วยความหิวโหย ความร้อนจากการลวกเส้นมาม่าให้สุกไม่อาจต้านทานความหิวโซได้  เขาตักเส้นมาม่าเข้าปากอย่างรวดเร็ว เพียงช่วงเวลาสั้นๆเขาก็ฟาดมันหมดถ้วย แล้วโยนถ้วยเปล่าทิ้งลงถังขยะที่อยู่ข้างๆ

        เด็กหนุ่มนั่งชันเข่าอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เหม่อมองผู้คนบนท้องถนน รถราวิ่งสวนกันไปมา ความเหงา ความโดดเดี่ยวอ้างว้างทำให้เขาคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อและแม่ เขาคิดว่าตนโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะดูแลตัวเองได้ จึงหนีออกมาอยู่กับเพื่อน และใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ มันคือความสุขจอมปลอมที่พรากเขาออกห่างจากครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆ

          พ่อกับแม่ทำแต่งานจนไม่มีเวลามาสนใจลูกไม่รักดีอย่างเขา มีแต่พี่สาวเท่านั้นที่คอยมาถามไถ่ ส่งเงินให้เขาใช้ และพรุ่งนี้เธอก็จะนำเงินมาให้

          บางทีการพบกับพี่สาวครั้งนี้ เขาจะบอกพี่สาวว่าอยากกลับบ้าน เด็กหนุ่มครุ่นคิด แต่ยังรู้สึกอายหากบอกไปเช่นนั้น ก็ในเมื่อตนเลือกออกมาเดินบนเส้นทางนี้เอง

        เฮ้อ!..เด็กหนุ่มทอดถอนลมหายใจ

        “ไอ้ปุ้ม เมิงมาทำอะไรแถวนี้วะ”

        น้ำเสียงคุ้นเคยเรียกเด็กหนุ่มให้หันไปมอง และเขาพบโจ้ เพื่อนที่เคยอยู่ห้องเช่าด้วยกันมาก่อน

       “กูก็เดินไปเรื่อย” เขาตอบ สายตาเหลือบมองถุงพลาสติกใบใหญ่ในมือโจ้ที่ดูแล้วมีของกินเพียบ ทั้งไส้กรอก เบียร์ ขนม น้ำดื่ม ของกินเหล่านั้นทำให้เด็กหนุ่มลอบกลืนน้ำลายลงคอ

       “เมิงได้เงินมาจากไหนถึงซื้อของได้เยอะมากมายขนาดนี้” จำต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย

       “ก็ทำงานสิวะ”

       “อย่างเมิงนี่นะ จะทำงานเป็น”

       “งานที่กูทำได้เงินเยอะนะโว้ย ไม่เหนื่อย แค่ไปส่งของก็ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำแล้ว เมิงสนใจทำไหมวะ”

       “งานไรวะ”

        คนเสนองานให้ ก้มตัวลงมากระซิบข้างหูเด็กหนุ่ม และพอรู้ว่าเพื่อนทำงานเป็นเด็กส่งยา เขาหันมองหน้าเพื่อนโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าเรียบเฉยเดาไม่ถูกว่าสนใจจะทำหรืออยากปฏิเสธกันแน่

        “เมิงคงหิว กูได้ยินเสียงท้องเมิงร้อง เอ้า อยากแDกอะไรก็เลือกเอา”

        โจ้ยื่นถุงใบใหญ่มาให้ เด็กหนุ่มเลือกกินไส้กรอก เบียร์ และเขารู้สึกว่าท้องเขาเริ่มอิ่มแล้ว

        “เมิงจะไปไหน” โจ้หย่อนก้นนั่งลงข้างๆ และเอ่ยถาม

         “ไปหาพี่สาว พรุ่งนี้บ่ายโมงพี่จะมาหากู”

         “แล้วเมิงจะไปนอนไหน ถ้ายังไม่มีที่นอน คืนนี้เมิงนอนกับกูก่อนก็ได้” โจ้ออกปากชวน ซึ่งเขาเองก็คิดเช่นนั้น คืนนี้เขายังไม่มีที่ชุกหัวนอนเลย

          เขานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์โจ้มาที่ห้องเช่าซึ่งอยู่ในซอยลึก  อาคารที่พักทรุดโทรม และเหม็นอับ

          โจ้พาเขาเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสาม ห้องเช่าหมายเลข ๓๓๐๕ โจ้เคาะประตูสองครั้ง และมีชายหนุ่มรูปร่างผอม ใบหน้าซีด ดวงตาแดงก่ำ เป็นคนมาเปิดประตู

“เมิงพาใครมา” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“เพื่อนกูเอง ไว้ใจได้ คืนนี้มันจะขอนอนที่นี่หนึ่งคืน” โจ้บอกชายคนนั้น

         คนถามไม่ว่าอะไรพยักหน้ารับรู้แล้วหลีกทางให้โจ้กับปุ้มเข้ามาในห้อง เด็กหนุ่มเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังพี้ยาอยู่ โดยไม่คิดจะสนใจคนมาใหม่อย่างเขา

        เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตามที่โจ้บอก

       “ลองหน่อยไหม”

       โจ้ยื่นมวนบุหรี่มาให้ และเขารู้ดีว่า ข้างในมวนบุหรี่นั่นคือกัญชา และถึงแม้จะรู้เขายังยื่นมือไปรับมันมา ลองหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร

        ล่องลอย....เขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองเบาและกำลังล่องลอยไปในอากาศ สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก สมองรู้สึกปลอดโปร่ง ปลอดโปร่งจนต้องหัวเราะร่วน ฮ่า ฮ่า ฮ่า ....

        มีความสุขแล้วโว้ย อยู่ที่นี่ก็มีความสุขแล้ว บ้านมันไม่เคยไปไหนอยู่แล้ว จะกลับตอนไหนก็ได้ ความคิดเหล่านี้วิ่งวนอยู่ในหัวของเด็กหนุ่ม


        ยามเช้า..ปุ้มตื่นมาด้วยอาการปวดศีรษะ เขาพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็เซถอยหลังล้มลงนอนอีกครั้ง กว่าจะลุกขึ้นมาได้ก็ทำให้โจ้ที่นอนอยู่ข้างๆ สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกัน

        ปุ้มเดินเข้าห้องน้ำจัดการล้างหน้าล้างตา แล้วเดินออกมา จึงพบว่าเพื่อนโจ้สองคนเมื่อคืนไม่ได้อยู่ที่ห้องแล้ว

       “เมิงนัดเจอพี่กี่โมง” โจ้เอ่ยถาม

       “บ่ายโมง”

       “ที่ไหน”

       ปุ้มบอกสถานที่นัดหมายที่จะไปเจอพี่สาว โจ้จึงอาสาจะพาปุ้มมาส่ง และเด็กหนุ่มคิดว่าโชคดีจริงๆที่ได้เจอโจ้ เพราะเขาเองจะได้ไม่ต้องเดินไปที่จุดนัดพบ กว่าจะเดินไปถึงคงเล่นเอาหมดแรงแน่ๆ

      พี่สาวนัดเจอเขาที่สวนสาธารณะใกล้ห้องพักของเขา เมื่อตอนที่เขายังเคยพักอยู่ แต่ตอนนี้เขาย้ายออกมานานแล้ว โดยไม่เคยบอกพี่สาว ให้พี่คิดว่าเขาพักอยู่ที่เดิมจะเป็นการดีที่สุด

      เพราะถ้าบอกไปว่าย้ายที่อยู่ใหม่แล้ว พี่สาวคงซักไซ้ถามโน่นนี่ คร้านจะตอบว่าตนไปทำอะไรที่ไหน

      เขานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์โจ้ ทั้งสองออกเดินทางมาตั้งแต่สิบเอ็ดโมง โจ้พาแวะเข้าซอยเล็กๆซึ่งเป็นแหล่งชุมชนแออัด

      “ขอทำธุระที่นี่แป๊บ เดี๋ยวกูมา”

      โจ้บอกเขามาอย่างนั้น แล้วเดินหายไปในบ้านหลังหนึ่ง สักพักโจ้ก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง

      ทันทีที่เดินมาถึงรถ โจ้ก็สตาร์ทรถ เร่งเครื่องยนต์ซิ่งทะยานออกไปจากซอย

      “ถ้าเมิงมีงานต้องทำเดี๋ยวกูไปเอง” ปุ้มตะโกนบอกเพื่อน

      “ไปทางเดียวกัน  กูไปส่งเมิงเอง” โจ้ตะโกนตอบกลับมา พร้อมกับเร่งเครื่องเร็วขึ้น

       เมื่อพารถมาอยู่บนถนนทางหลวง โจ้ค่อยลดระดับความเร็วลง เพราะจราจรเริ่มติดขัด แต่ยังพามอเตอร์ไซค์ซอกแซก ผ่านรถยนต์ไปได้ตลอดระยะทาง จนพ้นช่วงที่จราจรติดขัดออกมาได้

       พวกเขาติดไฟแดงอยู่ตรงกลางสี่แยก ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว โจ้บิดคันเร่งพารถคู่ใจพุ่งทะยานไปข้างหน้า โดยมีเด็กแว้นสองคันเร่งเครื่องตามมาติดๆ

       โจ้หันไปมอง ก็จำได้ทันทีว่าเป็นคู่อริเก่าที่ตนเคยไปมีเรื่องมาก่อน

       “ส่งกระเป๋ามา..แลกกับชีวิตเมิง” หนึ่งในสองคนนั้นตะโกนบอกโจ้

       ปุ้มใจคอไม่ดี หัวใจเขาเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว มือกอดเอวเพื่อนไว้แน่น และในตอนนี้เขาเกิดคิดถึงบ้านขึ้นมา อยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว อยากหลุดพ้นออกไปจากเส้นทางที่แสนน่ากลัวนี่เสียที

       “เมิงจะจอดรถดีๆ หรือจะให้กูหยุดรถเมิง”  อีกคนตะโกนบอกโจ้

        “จอดให้โง่สิ แน่จริงก็ตามกูมาให้ทัน”

        โจ้เร่งเครื่อง บิดหนี แต่สองคนนั้นก็ตามมาติดๆ รถบรรทุกสิบล้อ ขับอยู่ข้างหน้า โจ้หักรถหลบได้ทัน รถเก๋งสีดำเปลี่ยนแล่นมาทางโจ้ เขาจึงพารถแฉลบออกมาวิ่งบนฟุตบาธ จึงหลบหลีกการพุ่งชนรถเก๋งได้ทันอีกครั้ง

        แต่สองคนที่ไล่ล่าตามมาติดๆ ไม่อาจหลบพ้นจึงชนโครมไปยังท้ายรถเก๋ง เสียงปะทะรุนแรงดังสนั่นหวั่นไหว  ปุ้มหันไปดูอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นบนถนน

        รถเก๋งสองคันเสียหลักพุ่งชนท้ายกัน รถบรรทุกสิบล้อแฉลบพุ่งข้ามเลนไปชนร้านค้าริมทาง รถมอเตอร์ไซค์สองคันที่ตามพวกเขามาเหลือแต่ซาก เลือดกระจายเต็มถนน

       ปุ้มเบือนหน้าหนี ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว คาดว่าคงมีคนตายแน่ๆ

       “ถึงแล้ว”

       โจ้จอดรถหน้าสวนสาธารณะ

       “แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นล่ะ เมิงจะทำไง ตำรวจต้องตามมาจับเมิงแน่ๆ” ปุ้มเอ่ยกับเพื่อน

       “ปล่อยให้เป็นเรื่องของกู เมิงไม่ต้องคิดมาก ชีวิตกูในแต่ละวันพร้อมจะก้าวขาเข้าไปอยู่ในคุกอยู่แล้ว เมิงไปหาพี่เมิงเถอะ กูไปละ”

       แล้วโจ้ก็บิดรถออกไป


       เด็กหนุ่มเดินมาที่จุดนัดพบก็เจอพี่สาวนั่งรถอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนแล้ว

      “ครั้งนี้แกมาสาย” เธอเอ่ยขึ้น

      เขาเดินมานั่งเก้าอี้ที่ฝั่งตรงข้ามกับพี่สาว

      “แล้วเสื้อไปโดนอะไรมา” พี่สาวเอ่ยทัก

      เขาจำต้องก้มลงดูเสื้อ เห็นรอยสีแดงจางๆเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อ แต่ก็ไม่ติดใจอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นสีที่ติดมาจากเสื้อของโจ้

      “พี่จะกลับบ้านวันไหน ผมว่า ว่าจะกลับพร้อมพี่เลย”

      เขาเอ่ยกับพี่สาวโดยเลี่ยงที่จะไม่พูดเรื่องสีบนเสื้อ

      “น่าจะเป็นอาทิตย์หน้า แกกลับบ้านบ้างก็ดี พ่อกับแม่คิดถึง...แล้วนี่ทำไมดูโทรมๆ กินข้าวมาหรือยัง พี่ซื้อข้าวขาหมูที่แกชอบมาฝาก” เธอส่งถุงข้าวกล่องมาให้

        “แล้วเรียนเป็นไง เลิกได้แล้วไอ้ที่ชอบโดดเรียน ตั้งใจเรียนให้จบ”

       “ครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี การใช้ชีวิตเสเพล กินเหล้าเมายา ไม่น่าเป็นเรื่องที่ควรเล่าให้พี่สาวฟัง และหนำซ้ำเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งเจอมา ยังสร้างความตื่นตกใจให้เขาไม่หาย มือและขายังสั่นอยู่เลย

       “เอ้านี่ ไว้ใช้ พี่ต้องรีบไปทำธุระที่อื่นต่อ มีอะไรก็โทรมา” พูดจบแล้ว ยื่นเงินให้เขาสองพัน แล้วลุกเดินจากไป


        หญิงสาวเดินออกมาจากสวนสาธารณะ ยกมือโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วันนี้เธอตั้งใจจะไปที่กรมการจัดหางาน ไปสอบถามดูหน่อยว่ามีงานที่ไหนว่างอยู่บ้าง ถึงเวลาที่ต้องหาใหม่แล้ว เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นคนตกงานไปแล้ว เธอต้องช่วยพ่อแม่ทำงานเพื่อส่งน้องๆเรียนให้จบ

        มอเตอร์ไซค์รับจ้างขับรถออกมา จนถึงเส้นทางซึ่งเพิ่งเกิดอุบัติเหตุใหญ่

        ถนนถูกปิดให้รถสามารถแล่นได้เพียงช่องจราจรเดียว  หญิงสาวเหลียวมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้สึกหวาดกลัว จากสภาพรถแต่ละคันพังยับเยินขนาดนี้ต้องมีคนตายแน่นอน

        สายตาเหลียวมองไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังช่วยชีวิตคนที่ประสบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

        เธอเพ่งมองอย่างไม่คลาดสายตา ฉับพลันร่างกายรู้สึกชาวูบ สิ่งต่างๆรอบกายคล้ายหยุดนิ่ง เมื่อใบหน้าของเด็กหนุ่มที่เจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจ หันมามองทางเธอพอดี

        หญิงสาวกระโดดลงจากรถ กรีดร้องลั่น น้ำตาไหลพราก วิ่งทะยานเข้าไปโอบกอดร่างน้องชายซึ่งนอนแน่นิ่งเลือดท่วมกาย โดยที่ร่างกายปราศจากลมหายใจไปเสียแล้ว


/// จบ ///

ถุงมือ ซ่อน-หาย



### รายชื่อนักเขียนเรื่องสั้น ให้เลือกตอบ ในเกม THE GLOVES FINAL 2018 รอบ 2 (SEMI-FINAL) ###

ฝ่ายชาย
1    B-thirteen
2    Christian T.G.
3    GTW
4    kasareev
5    KTHc
6    ruennara
7    Soul Master
8    WANG JIE (พฤษภเสารี)
9    จอมยุทธนักสืบ
10    ชายขอบคันนายาว
11  ลูนาติก
12  ส.สัตยา

ฝ่ายหญิง
1    Lady Star 919
2    ลายลิขิต    
3    สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg)

*** จะให้ภาพปริศนา วันที่ 19 พ.ย. ***

*** จะยังไม่เฉลย จนกว่าจะลงครบทุกกระทู้ และจะเฉลยพร้อมกันในภายหลัง ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่