ที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิต โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้าน หรือคอนโด เป็นของตนเองนั้น มีเรื่องที่ต้องคิด และเตรียมพร้อมในหลายๆ เรื่อง แต่ก่อนอื่นอยากจะเตือนเพื่อนๆ นะครับว่าใจเย็นๆ อย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ เพราะว่าบ้านเป็น
หนี้สินก้อนใหญ่ ที่เราจะต้องมีภาระผูกพันไปอีก
หลายสิบปี เราต้องมั่นใจว่าเรามีความพร้อมในหลายๆ เรื่องก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งนี้นะครับ
วันนี้ทาง K-Expert มี คำแนะนำ 5 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนจะซื้อ บ้าน หรือ คอนโดมาแนะนำกันครับ

1. เตรียมประวัติทางการเงินของตัวเอง โดยตรวจสอบเครดิตบูโร ซึ่งเครดิตบูโรนั้น คือ รายการที่บันทึกเกี่ยวกับหนี้ทั้งหมดที่เพื่อนๆ มีอยู่กับสถาบันการเงิน จะมีการรายงานพฤติกรรมของการชำระคืนหนี้ จำนวนบัญชีสินเชื่อที่มี และสถานะของหนี้ เช่น บัญชีปกติ หรือบัญชีนี้ค้างชำระ เป็นต้น เพื่อเตรียมตัวในการขอสินเชื่อบ้าน เพื่อนๆควรจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าประวัติการชำระหนี้ของเราอยู่ในสถานะปกติ โดยสามารถตรวจสอบได้จากเคาน์เตอร์ธนาคาร และสำนักงานเครดิตบูโร โดยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.ncb.co.th/check-your-credit-bureau/where-to-check-credit-bureau

2. เตรียมเงินดาวน์ โดยถ้าเพื่อนๆ มีการใช้เงินกู้ธนาคาร จะต้องมีการคำนวณสินเชื่อต่อมูลค่า (LTV -Loan To Value) ซึ่งก็คือ เราจะขอสินเชื่อได้มาก หรือน้อยเมื่อเทียบกับราคาบ้าน /คอนโด เช่น LTV 80% แปลว่า ราคาบ้าน 1,000,000 บาท จะขอสินเชื่อได้ 800,000 บาท หมายความว่า เราควรจะต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับจ่ายค่าดาวน์บ้าน/คอนโด 200,000 บาท นั่นเอง

3. เตรียมเลือกอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ย แบบคงที่ VS แบบลอยตัว
อัตราดอกเบี้ยคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยที่ระบุเป็นตัวเลขชัดเจน และจะไม่ปรับขึ้นปรับลงตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ เมื่อคาดว่าตราดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
อัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ อัตราดอกเบี้ยที่ใช้ค่าอ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) ซึ่งจะดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อย และเมื่อใดก็ตามที่มีการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย MRR ขึ้นหรือลง แปลว่า การคิดดอกเบี้ยก็จะเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นหรือลงด้วย ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เมื่อคาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวลดลง

4. เตรียมเงินไว้จ่ายค่าประกันภัย
- ประกันอัคคีภัย เป็นประกันที่ธนาคารกำหนดให้ทำ เพื่อเป็นป้องกันความเสียหาย เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
- ประกันคุ้มครองหนี้สิน (MRTA) เป็นประกันที่ไม่มีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ แต่เป็นประกันที่ดีประเภทหนึ่ง ที่ควรจะทำไว้เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเราจนเราไม่สามารถจะชำระค่างวดต่อไปได้ (ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน) ประกันตัวนี้จะเป็นผู้ที่จ่ายหนี้แทนเรา เพื่อสร้างความอุ่นใจว่า แม้จะเกิดเหตุกับตัวเรา คนข้างหลังก็ยังสามารถเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ต่อไปได้ อีกทั้งถ้าทำประกันแบบนี้แล้วจะได้ส่วนลดดอกเบี้ยอีกด้วย

5. เตรียมเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น
• ค่าตรวจรับบ้าน/คอนโด,
• ค่าจดจำนอง 1% จ่ายให้กับกรมที่ดิน
• ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย จ่ายให้กรมที่ดิน
• อากรแสตมป์ (0.5%) ของวงเงินสินเชื่อ จ่ายให้กับธนาคาร
• ค่าคำขอต่างๆ ณ กรมที่ดิน
• ค่าขอ ค่าย้ายชื่อ มิเตอร์น้ำ-ไฟ, ค่าตกแต่ง
• ค่าขนย้ายจากบ้านเก่ามาบ้านใหม่
และก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ บ้าน/คอนโด เพื่อนๆ ควรทำการบ้านเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ เช่น
การสำรวจส่วนกลางของหมู่บ้าน สภาพแวดล้อม แต่ถ้าเป็นคอนโด ควรเข้าเยี่ยมชมนิติบุคคล สิทธิประโยชน์ส่วนกลางต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส, การสำรวจสภาพการจราจร เวลาที่ต้องใช้ไปกับการเดินทาง กรณีที่รถติด, สำรวจพื้นที่จอดรถว่ามีที่จอดเพียงพอไหม สำรวจรายละเอียดอื่นๆ ที่เราต้องการจะใช้ประโยชน์ และสอดคล้องกับ Lifestyle ของเราก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงนะครับ ถ้าเพื่อนๆ ประทับใจบทความฝากกดไลค์ กดแชร์กันด้วยนะครับ
เตรียมตัว เตรียมเงิน เตรียมใจ ... จะทำอย่างไรเมื่ออยากมีบ้าน โย่ว โย่ว !!!
ที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิต โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้าน หรือคอนโด เป็นของตนเองนั้น มีเรื่องที่ต้องคิด และเตรียมพร้อมในหลายๆ เรื่อง แต่ก่อนอื่นอยากจะเตือนเพื่อนๆ นะครับว่าใจเย็นๆ อย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ เพราะว่าบ้านเป็นหนี้สินก้อนใหญ่ ที่เราจะต้องมีภาระผูกพันไปอีกหลายสิบปี เราต้องมั่นใจว่าเรามีความพร้อมในหลายๆ เรื่องก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งนี้นะครับ
วันนี้ทาง K-Expert มี คำแนะนำ 5 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนจะซื้อ บ้าน หรือ คอนโดมาแนะนำกันครับ
อัตราดอกเบี้ยคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยที่ระบุเป็นตัวเลขชัดเจน และจะไม่ปรับขึ้นปรับลงตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ เมื่อคาดว่าตราดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
อัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ อัตราดอกเบี้ยที่ใช้ค่าอ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) ซึ่งจะดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อย และเมื่อใดก็ตามที่มีการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย MRR ขึ้นหรือลง แปลว่า การคิดดอกเบี้ยก็จะเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นหรือลงด้วย ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เมื่อคาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวลดลง
- ประกันอัคคีภัย เป็นประกันที่ธนาคารกำหนดให้ทำ เพื่อเป็นป้องกันความเสียหาย เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
- ประกันคุ้มครองหนี้สิน (MRTA) เป็นประกันที่ไม่มีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ แต่เป็นประกันที่ดีประเภทหนึ่ง ที่ควรจะทำไว้เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเราจนเราไม่สามารถจะชำระค่างวดต่อไปได้ (ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน) ประกันตัวนี้จะเป็นผู้ที่จ่ายหนี้แทนเรา เพื่อสร้างความอุ่นใจว่า แม้จะเกิดเหตุกับตัวเรา คนข้างหลังก็ยังสามารถเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ต่อไปได้ อีกทั้งถ้าทำประกันแบบนี้แล้วจะได้ส่วนลดดอกเบี้ยอีกด้วย
• ค่าตรวจรับบ้าน/คอนโด,
• ค่าจดจำนอง 1% จ่ายให้กับกรมที่ดิน
• ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย จ่ายให้กรมที่ดิน
• อากรแสตมป์ (0.5%) ของวงเงินสินเชื่อ จ่ายให้กับธนาคาร
• ค่าคำขอต่างๆ ณ กรมที่ดิน
• ค่าขอ ค่าย้ายชื่อ มิเตอร์น้ำ-ไฟ, ค่าตกแต่ง
• ค่าขนย้ายจากบ้านเก่ามาบ้านใหม่
และก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ บ้าน/คอนโด เพื่อนๆ ควรทำการบ้านเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ เช่น
การสำรวจส่วนกลางของหมู่บ้าน สภาพแวดล้อม แต่ถ้าเป็นคอนโด ควรเข้าเยี่ยมชมนิติบุคคล สิทธิประโยชน์ส่วนกลางต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส, การสำรวจสภาพการจราจร เวลาที่ต้องใช้ไปกับการเดินทาง กรณีที่รถติด, สำรวจพื้นที่จอดรถว่ามีที่จอดเพียงพอไหม สำรวจรายละเอียดอื่นๆ ที่เราต้องการจะใช้ประโยชน์ และสอดคล้องกับ Lifestyle ของเราก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงนะครับ ถ้าเพื่อนๆ ประทับใจบทความฝากกดไลค์ กดแชร์กันด้วยนะครับ