สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ดราม่าบ้านภัสสรนี่คือขยี้มาเป็น 10 รอบแล้ว
นี่ก็ยังมาขยี้ต่ออีก คนดูเลยเห็นว่ามันเวิ่นเว้อเกินไป
ผกก. เหมือนไม่รู้ว่าควรจะชง จะตบตอนไหน ขมวดให้เนื้อเรื่องมันพุ่งพีคขึ้นไปสุดๆแล้วจบไปแบบสมบูรณ์แบบ
หลังจากดราม่ามาทั้งเรื่อง และรู้ตัวคนร้ายแล้ว ผกก.เหมือนไม่เข้าใจคนดู สิ่งที่คนดูอยากรู้คือ เกิดอะไรขึ้นวันนั้น กับ อะไรคือแรงจูงใจ
หลังจากชงว่าใครคือคนร้ายแล้ว แทนที่จะตบด้วยสองประเด็นดังกล่าวทันที ดันลากให้ตัวละครเดินไปสืบเรื่องกับคนโน้นคนนี้ + ขยี้ดราม่าเรื่องเดิมๆ ทำให้กราฟความน่าติดตามของตัวเรื่องมันตกลง
แทนที่จะถามว่าคนดูเข้าใจผกก.หรือเปล่า น่าจะถามว่าผกก.เข้าใจคนดูหรือเปล่ามากกว่า
นี่ก็ยังมาขยี้ต่ออีก คนดูเลยเห็นว่ามันเวิ่นเว้อเกินไป
ผกก. เหมือนไม่รู้ว่าควรจะชง จะตบตอนไหน ขมวดให้เนื้อเรื่องมันพุ่งพีคขึ้นไปสุดๆแล้วจบไปแบบสมบูรณ์แบบ
หลังจากดราม่ามาทั้งเรื่อง และรู้ตัวคนร้ายแล้ว ผกก.เหมือนไม่เข้าใจคนดู สิ่งที่คนดูอยากรู้คือ เกิดอะไรขึ้นวันนั้น กับ อะไรคือแรงจูงใจ
หลังจากชงว่าใครคือคนร้ายแล้ว แทนที่จะตบด้วยสองประเด็นดังกล่าวทันที ดันลากให้ตัวละครเดินไปสืบเรื่องกับคนโน้นคนนี้ + ขยี้ดราม่าเรื่องเดิมๆ ทำให้กราฟความน่าติดตามของตัวเรื่องมันตกลง
แทนที่จะถามว่าคนดูเข้าใจผกก.หรือเปล่า น่าจะถามว่าผกก.เข้าใจคนดูหรือเปล่ามากกว่า
ปลาทาโก้สีส้ม ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 749526 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1623960 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4844774 ถูกใจ, vn, man ถูกใจ, oosuan ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4546497 ถูกใจ, หมาปั๊ก ถูกใจ, นู๋กระต่ายน้อย ถูกใจ, ปลาทองแก้มยุ้ย ถูกใจรวมถึงอีก 51 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 31
รำคาญคนที่คอยมาแก้ต่างว่านี่เป็นละครครอบครัวไม่ใช่สืบสวน บลาๆๆๆ มาก
คือถ้าเรานั่งดูละครซักเรื่องนึงแล้วต้องไปนั่งทำความเข้าใจผู้กำกับด้วยนี่มันไม่ประหลาดไปหน่อยเหรอ
ถ้าผู้กำกับบอกว่านี่คือละครที่ต้องการสื่อถึงครอบครัว ขอบอกเลยว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างผิดพลาดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการโปรโมตหรือการดำเนินเรื่อง ตัดต่อ ฯลฯ เพราะดูยังงัยมันก็เป็นละครที่ทำให้เรามานั่งคิด นั่งสืบต่อว่าใครฆ่า ฆ่าทำไม ไม่เห็นมีใครมานั่งวิเคราะห์ชีวิตครอบครัวแต่ละบ้านเลย(หรือมี?)
ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กล่าวมาไม่ได้แปลว่าละครไม่สนุกแต่อย่างใด แต่ที่บ่นได้ขนาดนี้เพราะติดมาก ชอบมาก แต่ก็มีเรื่องที่ผิดหวังมากเล่นกัน
คือถ้าเรานั่งดูละครซักเรื่องนึงแล้วต้องไปนั่งทำความเข้าใจผู้กำกับด้วยนี่มันไม่ประหลาดไปหน่อยเหรอ
ถ้าผู้กำกับบอกว่านี่คือละครที่ต้องการสื่อถึงครอบครัว ขอบอกเลยว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างผิดพลาดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการโปรโมตหรือการดำเนินเรื่อง ตัดต่อ ฯลฯ เพราะดูยังงัยมันก็เป็นละครที่ทำให้เรามานั่งคิด นั่งสืบต่อว่าใครฆ่า ฆ่าทำไม ไม่เห็นมีใครมานั่งวิเคราะห์ชีวิตครอบครัวแต่ละบ้านเลย(หรือมี?)
ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กล่าวมาไม่ได้แปลว่าละครไม่สนุกแต่อย่างใด แต่ที่บ่นได้ขนาดนี้เพราะติดมาก ชอบมาก แต่ก็มีเรื่องที่ผิดหวังมากเล่นกัน
สมาชิกหมายเลข 1623960 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4844774 ถูกใจ, มิกกี้แม้ว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3070978 ถูกใจ, oosuan ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4546497 ถูกใจ, หมาปั๊ก ถูกใจ, Lee Ang ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1516452 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3847897 ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าหนังอยากนำเสนอด้านครอบครัว ให้คนดูรู้สึกจริง ผู้กำกับต้องเปลี่ยนวิธีนำเสนอนะ อย่างที่เห็นนั้นเขาเรียกแนวสืบสวนถูกแล้ว โดยเฉพาะการตัดต่อ ปมปริศนา ผู้ต้องสงสัย แพะ ฯล สิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบในหนังสืบสวนทั้งนั้น
ก่อนอื่นเลย ต้องทำให้ประเด็นคนตายเจือจางตั้งแต่แรกๆ ไม่ใช่ชูประเด็นนี้เอง แล้วแย่บๆมาตลอดทาง เหมือนแหย่คนดูให้สนใจ แต่พอคนดูเล่นตาม กลับดึงมือกลับ อะไรแบบนี้
แต่ทั้งนั้น ถ้าเคยดูหนังฝรั่งสายสืบสวนน้ำดีบ่อย ไม่จำเป็นต้องสุดโต่งด้านดราม่าขนาดนี้ก็ยังดูสนุกได้ และรับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกตัวละครได้ดี แม้การเล่าความหลังหรืออะไรแค่ฉากเดียวก็ทำให้คนเชื่อได้เช่นกัน ไม่ต้องย้ำดราม่า หรือ โชว์น้ำตาทุกซีน ให้เปลืองเวลา
หลังดูมาคิดว่าฉากครอบครัวทั้งหมดในเรื่อง ได้ตอกย้ำความผูกพันกับคนดูไปตั้งกะครึ่งแรกแล้ว ส่วนที่เหลือคือความ ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะ "มนุษย์" ผู้มีบาป มากกว่า ซึ่งถ้าบอกว่าชูประเด็นนี้ดูจะเข้ากับชื่อเรื่องมากกว่าเรื่องครอบครัว นะ
ถ้าให้สรุปว่าจริงๆแล้ว เลือดข้นฯเป็นแนวอะไรกันแน่ ก็คงตอบได้ว่า suspense + drama
ก่อนอื่นเลย ต้องทำให้ประเด็นคนตายเจือจางตั้งแต่แรกๆ ไม่ใช่ชูประเด็นนี้เอง แล้วแย่บๆมาตลอดทาง เหมือนแหย่คนดูให้สนใจ แต่พอคนดูเล่นตาม กลับดึงมือกลับ อะไรแบบนี้
แต่ทั้งนั้น ถ้าเคยดูหนังฝรั่งสายสืบสวนน้ำดีบ่อย ไม่จำเป็นต้องสุดโต่งด้านดราม่าขนาดนี้ก็ยังดูสนุกได้ และรับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกตัวละครได้ดี แม้การเล่าความหลังหรืออะไรแค่ฉากเดียวก็ทำให้คนเชื่อได้เช่นกัน ไม่ต้องย้ำดราม่า หรือ โชว์น้ำตาทุกซีน ให้เปลืองเวลา
หลังดูมาคิดว่าฉากครอบครัวทั้งหมดในเรื่อง ได้ตอกย้ำความผูกพันกับคนดูไปตั้งกะครึ่งแรกแล้ว ส่วนที่เหลือคือความ ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะ "มนุษย์" ผู้มีบาป มากกว่า ซึ่งถ้าบอกว่าชูประเด็นนี้ดูจะเข้ากับชื่อเรื่องมากกว่าเรื่องครอบครัว นะ
ถ้าให้สรุปว่าจริงๆแล้ว เลือดข้นฯเป็นแนวอะไรกันแน่ ก็คงตอบได้ว่า suspense + drama
สมาชิกหมายเลข 1623960 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4844774 ถูกใจ, น้องดาเลียต ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3070978 ถูกใจ, หมาปั๊ก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3042631 ถูกใจ, ลูกหนูน้อยผจญภัย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4910384 ขำกลิ้ง, ต้องการผอมอย่างมากในชาตินี้ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1996224 ถูกใจรวมถึงอีก 17 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าจะนำเสนอว่า "ทำไมคนในครอบครัวถึงทำร้ายกัน"
ก็เปิดฉากแรกคือให้เหห็นๆไปเลยว่าใครคือฆาตกร แล้วให้เข้าคุกไปไม่เกินตอนสาม
จากนั้นค่อยเล่าย้อนว่าครอบครัวนี้เคยทำไม่ดีต่อกันมาอย่างไร ถึงจบลงด้วยความตาย
แล้วความตายของคนๆนี้ ส่งผลกระทบถึงคนในตระกูลยังไง
จะดราม่าก็ดราม่าไปเลย ไม่ใช่ดราม่าก็อยากทำ สืบสวนสอบสวนก็อยากให้เป็น
เลือกมันซักทางดีไหม แบบนี้มันไม่สุดซักทาง
ก็เปิดฉากแรกคือให้เหห็นๆไปเลยว่าใครคือฆาตกร แล้วให้เข้าคุกไปไม่เกินตอนสาม
จากนั้นค่อยเล่าย้อนว่าครอบครัวนี้เคยทำไม่ดีต่อกันมาอย่างไร ถึงจบลงด้วยความตาย
แล้วความตายของคนๆนี้ ส่งผลกระทบถึงคนในตระกูลยังไง
จะดราม่าก็ดราม่าไปเลย ไม่ใช่ดราม่าก็อยากทำ สืบสวนสอบสวนก็อยากให้เป็น
เลือกมันซักทางดีไหม แบบนี้มันไม่สุดซักทาง
สมาชิกหมายเลข 1623960 ถูกใจ, mayday_helpme ถูกใจ, ลูกหนูน้อยผจญภัย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2979046 ถูกใจ, winnyaloha ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3513503 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1996224 ถูกใจ, granny ถูกใจ, asemania ถูกใจ, คิดตึ๋งมาก ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 15
คนดูไม่ได้เข้าใจผิด คนเขียนบทและคนละครต่างหากที่ทำงานพลาด
เหมือนคนเขียนหนังสือให้คนอ่านเข้าใจว่า 1 แต่คนอ่านเข้าใจว่า 2 แล้วจะบอกคนอ่านเข้าใจผิดไปเอง คนเขียนไม่ผิดนะที่คนอ่านอ่านไม่เข้าใจ
ึคนอ่านก็ไม่ผิดที่ไม่เข้าใจ เป็นตรรกะที่ตลกมาก อย่างนี้จะมาทำงาน "สื่อสาร" เพื่ออะไร
หนังสือ ละคร หนัง มันคือการ "สื่อสาร" กับคนดู
มันก็แค่ยอมรับ เรื่องพลาดแค่นั้นเอง เรื่องหน้าก็ว่ากันใหม่ มันร้ายแรงขนาดต้องมีคนออกมาปกป้องว่าคนดูคนอื่นดูไม่เป็น ไม่เข้าใจผู้กำกับเชียวหรือ
เหมือนคนเขียนหนังสือให้คนอ่านเข้าใจว่า 1 แต่คนอ่านเข้าใจว่า 2 แล้วจะบอกคนอ่านเข้าใจผิดไปเอง คนเขียนไม่ผิดนะที่คนอ่านอ่านไม่เข้าใจ
ึคนอ่านก็ไม่ผิดที่ไม่เข้าใจ เป็นตรรกะที่ตลกมาก อย่างนี้จะมาทำงาน "สื่อสาร" เพื่ออะไร
หนังสือ ละคร หนัง มันคือการ "สื่อสาร" กับคนดู
มันก็แค่ยอมรับ เรื่องพลาดแค่นั้นเอง เรื่องหน้าก็ว่ากันใหม่ มันร้ายแรงขนาดต้องมีคนออกมาปกป้องว่าคนดูคนอื่นดูไม่เป็น ไม่เข้าใจผู้กำกับเชียวหรือ
สมาชิกหมายเลข 1623960 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4844774 ถูกใจ, oosuan ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4546497 ถูกใจ, ชีวันนั้นแฮปปี้ ถูกใจ, Lee Ang ถูกใจ, humming in my sleep ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1194045 ถูกใจ, นอกหน้าต่างมีแต่หิมะ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3948826 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
[เลือดข้นคนจาง] เหลือสามตอนสุดท้าย แล้วขอพูดหน่อยเถอะ เรื่องปมของเรื่อง เรื่องหนังยืดและความเข้าใจผิดของคนดู
หนังจึงนำเสนอเรื่องครอบครัว วิธีแก้ปัญหา การแสดงออก ของครอบครัว ดราม่าตรงนี้มากกว่า
แต่คนดูถูกหนังนำทางผิด ไปสู่ความเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้คือหนังแนวสืบสวน หาตัวคนผิด
ที่หนังเล่นประเด็นดราม่าครอบครัวเยอะๆ มันเป็นเรื่องที่ทำถูกแล้ว ตัวหนังเองไม่ได้ยัดเยียดประเด็นครอบครัวมา เพือยืดหนัง แต่หนัง ต้องการ สื่อสารว่า
ทำไมครอบครัว ถึงต้องมาเป็นแบบนี้
ปมการฆ่า มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แบบหนังสืบสวนเรื่องอื่นที่ต้องหาตัวว่าใครทำผิด แต่ต้องทบทวนว่า ทำไมล่ะ ครอบครัวถึงทำร้ายกันได้ ขนาดนี้
ปัญหามันเกิดตรงที่ คนดูเอง เข้าใจหนังสืบสวน มันจะไปสู่จุดที่ว่าใครฆ่า คนผิดคือใคร แต่หนังเรื่องนี้มันอาจจะใช่ หรือไม่ใช่แบบนั้น
คนถึงบ่นๆ อยู่ตลอด ตั้งแต่แรกๆว่า เรื่องมันแปลกๆ มันไม่เห็นบอกเล่าเรื่อง การสืบสวน
แต่ถ้า สนใจเรื่องครอบครัวบ้าง มุมมองในหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง แต่คนกลับไม่เข้าใจ ว่าทำไมหนังเป็นแบบนี
หนังจะจบแล้วอยากให้คนลองมองเรื่อง ของครอบครัวนี้ วิธีการแสดงออก แก้ปัญหา ที่มีต่อกัน แล้วจะเห็นว่า จริงๆมุมมองของหนังเรื่องนี้
ที่ต้องการนำเสนอจริงๆคืออะไร