คำเตือน กระทู้นี้Spoilตั้งแต่เริ่มสนทนา
คงไม่ผิดนักครับที่หลายฝ่ายหลายสำนักจะให้คะแนนเยอะบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ๆละคนจะให้ แต่ที่น่าแปลกคือคะแนนค่อนข้างจะเหวี่ยงอยู่พอสมควรครับ คือไม่5หรือ6 ก็เยอะแบบ10เต็มไปเลย
##ประสบการณ์บางอย่างไม่สัมผัสเราไม่มีวันเข้าใจ##
หนังอาจจะโน้มน้าวให้บางคนเชื่อได้ยากว่าเหตุใด ทุกข์ของมินถึงต้องฆ่าตัวตาย มันทำให้หลายคนไม่อินในจุดๆนี้ ซึ่งว่ากันตามจริงแล้วก็ใช่เลย ชีวิตมินดูๆไปก็ไม่ได้เลวอะไรขนาดที่จะทำให้เราเชื่อว่ามินจะจบชีวิตตัวเอง
พ่อที่ดูไม่เอาไหนก็ดูนิสัยดี พี่ที่ดูหยิ่งๆจริงๆก็ไม่ได้เลวร้าย แถมยังมีแม่ที่รักมินโครตๆ มีเพื่อนมีชมรม มีคนรัก มีคนแอบรักที่รักเรา แม้สถานะการณ์ที่เฉลยในหนังที่แสดงถึงสาเหตุความทุกข์ของมินออกมา มันก็ดูไม่อินเอาซะเลย ไม่น่าเลยที่จะทุกข์ถึงขนาดต้องมาตายอะไรโง่ๆแบบนี้
#####ความทุกข์ของเราเท่าผืนหนัง ความสุขของเราเท่าผืนเสื่อ####
คุณเคยสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตมั้ย แบบที่ต้องเสียใจสุดๆ หลายคนอาจจะไม่เคยเป็นแบบนั้น อาจจะเนื่องด้วยอายุยังน้อย ยังไม่เคยสัมผัสประสบการความเจ็บปวดทางจิตใจ และถ้าผมจะบอกต่อว่า ถ้าคนที่เคยผ่านความเสียใจ คุณจะหายเศร้าภายในกี่วัน กี่เดือน กี่ปี....
หลายคนก็คงจะมีคำตอบแล้วในใจ.....แล้วถ้าผมจะบอกว่ามีบางคนความเศร้าไม่เคยจางหายไปหละ แม้เพียงแค่วันเดียว แต่มันคือความเศร้าที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันกี่ปี หรือหลายๆปีก็ไม่เคยจางหายไปไหน...
ใช่แล้วหละครับ มินเป็นโรคซึมเศร้า โรคที่ผมนิยามดัดแปลงจากสุภาษิตบทนึงจนกลายเป็น
"ความทุกข์ของเราเท่าผืนหนัง ความสุขของเราเท่าผืนเสื่อ" หลายคนคงเคยได้อ่านเจอถึงสาเหตุของโรคนี้ว่าส่วนนึงเป็นเพราะความไม่สมดุลหรือผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง
มันทำให้เรื่องที่ดูไม่น่าจะทุกข์ เป็นเรื่องเล็กๆไม่เป็นเรื่องในสายตาเรา ถึงได้ดูเศร้ามากมายในสายตามิน และต่อให้แม้จะมีเรื่องราวที่สุขมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีค่าสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้เลย
คนที่ต้องทนทุกข์กับโรคนี้ ต่อให้แค่มองใบไม้ที่ล่วงหล่นบนพื้น ความเศร้าก็เกาะกุมจิตใจไปเป็นวันๆได้แล้ว
###บทสรุป###
สำหรับมินแล้วนั้น การได้กลับมาคืนชีพมันก็เพียงแค่ในหนัง การคืนชีพใหม่ของมินก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่มินได้รับการรักษา ทำให้มินมองโลกในมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม เปลี่ยนเป็น ความสุขเล็กๆก็เป็นดังผืนหนังที่มีค่า ความทุกข์ที่เข้ามาแม้จะเยอะแยะมากมายก็เป็นแค่ผืนเสื่อ จนสุดท้ายมินถึงพึ่งได้มารู้ทีหลังว่าทุกคนรักมินจริงๆครับ
สำหรับมินแล้ว บทเรียนชีวิตที่ได้จากผู้คุมวิญญาณ มันมีค่าที่ประเมินไม่ได้จริงๆ
แล้วชีวิตจริงหละ ใช่ครับ ถ้าคุณตาย คุณฟื้นคืนชีพไม่ได้ เรื่องราวของมินก็เป็นเพียงแค่ในจินตนาการ ในชีวิตจริงที่ครอบครัวมินไม่เคยสังเกตุความผิดปกติของมิน บทสรุปชีวิตของคนเป็นโรคซึมเศร้าหลายคนคือความตายที่ไม่อาจย้อนคืนกลับได้
สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจความทุกข์ของคนเป็นโรคนี้ ก็ไม่แปลกครับ สำหรับ5คะแนนที่จะให้ แต่ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้มีคนสนใจและเข้าใจโรคนี้มากยิ่งขึ้นและเริ่มสังเกตุคนที่เป็นโรคนี้แล้วทำการรักษาก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป
แม้หนังจะยังขาดการโน้มน้าวให้เราอินในบางฉากอยู่ แต่เทคนิคพิเศษของหนังเรื่องนี่เรียกได้ว่า ยกระดับหนังไทยไปเลยครับ และจากที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงที่ไม่ได้กล่าวทั้งการแสดงของเจมส์ที่มีพลัง ของเฌอหรือตัวละครอื่นๆที่สมบทบาทโดยเฉพาะคุณสู่ขวัญที่แสดงเป็นแม่ ถ้าถามผมว่าจะให้กี่คะแนน คำตอบของผมๆก็จะให้.............
#####10คะแนนเต็มครับ#####
[CR] รีวิว HomeStay ดูแล้วไม่เข้าใจ เอาไป5/10 คะแนนพอ
คงไม่ผิดนักครับที่หลายฝ่ายหลายสำนักจะให้คะแนนเยอะบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ๆละคนจะให้ แต่ที่น่าแปลกคือคะแนนค่อนข้างจะเหวี่ยงอยู่พอสมควรครับ คือไม่5หรือ6 ก็เยอะแบบ10เต็มไปเลย
##ประสบการณ์บางอย่างไม่สัมผัสเราไม่มีวันเข้าใจ##
หนังอาจจะโน้มน้าวให้บางคนเชื่อได้ยากว่าเหตุใด ทุกข์ของมินถึงต้องฆ่าตัวตาย มันทำให้หลายคนไม่อินในจุดๆนี้ ซึ่งว่ากันตามจริงแล้วก็ใช่เลย ชีวิตมินดูๆไปก็ไม่ได้เลวอะไรขนาดที่จะทำให้เราเชื่อว่ามินจะจบชีวิตตัวเอง
พ่อที่ดูไม่เอาไหนก็ดูนิสัยดี พี่ที่ดูหยิ่งๆจริงๆก็ไม่ได้เลวร้าย แถมยังมีแม่ที่รักมินโครตๆ มีเพื่อนมีชมรม มีคนรัก มีคนแอบรักที่รักเรา แม้สถานะการณ์ที่เฉลยในหนังที่แสดงถึงสาเหตุความทุกข์ของมินออกมา มันก็ดูไม่อินเอาซะเลย ไม่น่าเลยที่จะทุกข์ถึงขนาดต้องมาตายอะไรโง่ๆแบบนี้
#####ความทุกข์ของเราเท่าผืนหนัง ความสุขของเราเท่าผืนเสื่อ####
คุณเคยสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตมั้ย แบบที่ต้องเสียใจสุดๆ หลายคนอาจจะไม่เคยเป็นแบบนั้น อาจจะเนื่องด้วยอายุยังน้อย ยังไม่เคยสัมผัสประสบการความเจ็บปวดทางจิตใจ และถ้าผมจะบอกต่อว่า ถ้าคนที่เคยผ่านความเสียใจ คุณจะหายเศร้าภายในกี่วัน กี่เดือน กี่ปี....
หลายคนก็คงจะมีคำตอบแล้วในใจ.....แล้วถ้าผมจะบอกว่ามีบางคนความเศร้าไม่เคยจางหายไปหละ แม้เพียงแค่วันเดียว แต่มันคือความเศร้าที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันกี่ปี หรือหลายๆปีก็ไม่เคยจางหายไปไหน...
ใช่แล้วหละครับ มินเป็นโรคซึมเศร้า โรคที่ผมนิยามดัดแปลงจากสุภาษิตบทนึงจนกลายเป็น
"ความทุกข์ของเราเท่าผืนหนัง ความสุขของเราเท่าผืนเสื่อ" หลายคนคงเคยได้อ่านเจอถึงสาเหตุของโรคนี้ว่าส่วนนึงเป็นเพราะความไม่สมดุลหรือผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง
มันทำให้เรื่องที่ดูไม่น่าจะทุกข์ เป็นเรื่องเล็กๆไม่เป็นเรื่องในสายตาเรา ถึงได้ดูเศร้ามากมายในสายตามิน และต่อให้แม้จะมีเรื่องราวที่สุขมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีค่าสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้เลย
คนที่ต้องทนทุกข์กับโรคนี้ ต่อให้แค่มองใบไม้ที่ล่วงหล่นบนพื้น ความเศร้าก็เกาะกุมจิตใจไปเป็นวันๆได้แล้ว
###บทสรุป###
สำหรับมินแล้วนั้น การได้กลับมาคืนชีพมันก็เพียงแค่ในหนัง การคืนชีพใหม่ของมินก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่มินได้รับการรักษา ทำให้มินมองโลกในมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม เปลี่ยนเป็น ความสุขเล็กๆก็เป็นดังผืนหนังที่มีค่า ความทุกข์ที่เข้ามาแม้จะเยอะแยะมากมายก็เป็นแค่ผืนเสื่อ จนสุดท้ายมินถึงพึ่งได้มารู้ทีหลังว่าทุกคนรักมินจริงๆครับ
สำหรับมินแล้ว บทเรียนชีวิตที่ได้จากผู้คุมวิญญาณ มันมีค่าที่ประเมินไม่ได้จริงๆ
แล้วชีวิตจริงหละ ใช่ครับ ถ้าคุณตาย คุณฟื้นคืนชีพไม่ได้ เรื่องราวของมินก็เป็นเพียงแค่ในจินตนาการ ในชีวิตจริงที่ครอบครัวมินไม่เคยสังเกตุความผิดปกติของมิน บทสรุปชีวิตของคนเป็นโรคซึมเศร้าหลายคนคือความตายที่ไม่อาจย้อนคืนกลับได้
สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจความทุกข์ของคนเป็นโรคนี้ ก็ไม่แปลกครับ สำหรับ5คะแนนที่จะให้ แต่ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้มีคนสนใจและเข้าใจโรคนี้มากยิ่งขึ้นและเริ่มสังเกตุคนที่เป็นโรคนี้แล้วทำการรักษาก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป
แม้หนังจะยังขาดการโน้มน้าวให้เราอินในบางฉากอยู่ แต่เทคนิคพิเศษของหนังเรื่องนี่เรียกได้ว่า ยกระดับหนังไทยไปเลยครับ และจากที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงที่ไม่ได้กล่าวทั้งการแสดงของเจมส์ที่มีพลัง ของเฌอหรือตัวละครอื่นๆที่สมบทบาทโดยเฉพาะคุณสู่ขวัญที่แสดงเป็นแม่ ถ้าถามผมว่าจะให้กี่คะแนน คำตอบของผมๆก็จะให้.............
#####10คะแนนเต็มครับ#####