"อาม ชุติมา" ได้เชิญสื่อมวลชนเพื่อขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวออกมาชี้แจงพร้อมกันให้ฟังว่า
"ปัญหามันเริ่มมีมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว คือเรื่องผลประโยชน์และการที่ค่ายไม่ค่อยดูแล ปล่อยให้ไปงานเองบ้าง ตามข้อสัญญาที่ได้เซ็นไว้คือ 70-30 เปอร์เซ็นต์ และที่ได้รับมาก็ไม่น่าจะถึง 70 แต่ไม่รู้ได้กี่เปอร์เซ็นต์"
"เพลงผู้สาวขาเลาะที่อีกฝ่ายบอกว่าได้ซื้อขาดพร้อมให้เงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตนก็เพิ่งรู้ว่าได้ขายขาดตอนมีข่าว เพราะตอนเซ็นสัญญาไม่ได้มีการแจ้งว่าขายขาด แต่บอกเหตุผลว่ากลัวมีคนจะมาแอบอ้างเอาเพลงไปเท่านั้น อยากให้เซ็นเพราะค่ายจะได้ช่วยดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ หากหมดสัญญากับค่ายที่เซ็นไว้ 5 ปี ลิขสิทธิ์เพลงก็จะหมดไปด้วย ตอนนี้ก็เหลือสัญญาอีก 3 ปี เขาให้เงินมา 10,000 บาท หลังจากเซ็นก็โอนมาให้เพลงละ 10,000 บาท 3 เพลง ก็ 30,000 บาท เขาบอกเพียงแต่ว่าให้เป็นรางวัลคนเก่ง ไม่ได้บอกว่าซื้อขาดนะ เพราะตนจะบอกกับทุกคนตลอดว่า ตนไม่ขายเพลงเพราะตนแต่งเพลงไม่เก่ง เพลงที่เซ็นสัญญามีทั้งหมด 3 เพลง ได้แก่ อดีตเคยพัง, ผู้สาวขาเลาะ และภาพเก่า"
"ยอมรับว่าตนอ่านสัญญาแล้วแต่ไม่เข้าใจ ตอนนั้นทำสัญญาอายุเพียง 16 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม่เซ็นเป็นพยาน อีกอย่างอาจารย์ก็ย้ำว่าให้เซ็นกันไว้เพื่อไม่ให้ใครมาแอบอ้าง ตอนนั้นก็ได้คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูและเป็นพยาน โดยแม่จะอ่านแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ต้องอ่านหรอก เพราะไม่ได้จะต้องการโกงหรือหาเรื่องฟ้องอะไร จึงทำให้ไม่ได้อ่าน เพราะความไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์จึงได้เซ็นไป ตอนนี้สิทธิ์เพลงนี้จึงน่าจะเป็นของเขา"
ผมได้รวบรวมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง มี 2 มาตรา คือ ผู้เยาว์กระทำนิติกรรม ตามมาตรา 21 และเนื่องจากเป็นสัญญาว่าจ้างเป็นนักร้อง จึงเข้า มาตรา 27 ดังนี้ ครับ
อาร์ม ชุติมา ทำสัญญาว่าจ้างศิลปินนักร้อง ขณะอายุ 16 ปี โดยพ่อแม่เป็นพยาน สัญญาดังกล่าว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ครับ
"ปัญหามันเริ่มมีมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว คือเรื่องผลประโยชน์และการที่ค่ายไม่ค่อยดูแล ปล่อยให้ไปงานเองบ้าง ตามข้อสัญญาที่ได้เซ็นไว้คือ 70-30 เปอร์เซ็นต์ และที่ได้รับมาก็ไม่น่าจะถึง 70 แต่ไม่รู้ได้กี่เปอร์เซ็นต์"
"เพลงผู้สาวขาเลาะที่อีกฝ่ายบอกว่าได้ซื้อขาดพร้อมให้เงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตนก็เพิ่งรู้ว่าได้ขายขาดตอนมีข่าว เพราะตอนเซ็นสัญญาไม่ได้มีการแจ้งว่าขายขาด แต่บอกเหตุผลว่ากลัวมีคนจะมาแอบอ้างเอาเพลงไปเท่านั้น อยากให้เซ็นเพราะค่ายจะได้ช่วยดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ หากหมดสัญญากับค่ายที่เซ็นไว้ 5 ปี ลิขสิทธิ์เพลงก็จะหมดไปด้วย ตอนนี้ก็เหลือสัญญาอีก 3 ปี เขาให้เงินมา 10,000 บาท หลังจากเซ็นก็โอนมาให้เพลงละ 10,000 บาท 3 เพลง ก็ 30,000 บาท เขาบอกเพียงแต่ว่าให้เป็นรางวัลคนเก่ง ไม่ได้บอกว่าซื้อขาดนะ เพราะตนจะบอกกับทุกคนตลอดว่า ตนไม่ขายเพลงเพราะตนแต่งเพลงไม่เก่ง เพลงที่เซ็นสัญญามีทั้งหมด 3 เพลง ได้แก่ อดีตเคยพัง, ผู้สาวขาเลาะ และภาพเก่า"
"ยอมรับว่าตนอ่านสัญญาแล้วแต่ไม่เข้าใจ ตอนนั้นทำสัญญาอายุเพียง 16 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม่เซ็นเป็นพยาน อีกอย่างอาจารย์ก็ย้ำว่าให้เซ็นกันไว้เพื่อไม่ให้ใครมาแอบอ้าง ตอนนั้นก็ได้คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูและเป็นพยาน โดยแม่จะอ่านแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ต้องอ่านหรอก เพราะไม่ได้จะต้องการโกงหรือหาเรื่องฟ้องอะไร จึงทำให้ไม่ได้อ่าน เพราะความไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์จึงได้เซ็นไป ตอนนี้สิทธิ์เพลงนี้จึงน่าจะเป็นของเขา"
ผมได้รวบรวมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง มี 2 มาตรา คือ ผู้เยาว์กระทำนิติกรรม ตามมาตรา 21 และเนื่องจากเป็นสัญญาว่าจ้างเป็นนักร้อง จึงเข้า มาตรา 27 ดังนี้ ครับ