
เมื่อเดือนธันวาคม 2557 องค์การแจ็กซาของญี่ปุ่นได้ส่งยาน ฮะยะบุซะ 2 ขึ้นสู่อวกาศเพื่อไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย 162173 ริวกิว (162173 Ryugu) ยานได้เดินทางไปถึงดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ยานฮะยะบุซะ 2 มียานลูกชื่อ มิเนอร์วา-2 (MINERVA-II) พัฒนามาจากมิเนอร์วารุ่นก่อนซึ่งเดินทางไปกับยานฮะยะบุซะลำแรก โดยเพิ่มความสามารถมากขึ้น เมื่อวันที่ 23 กันยายน ยานได้ปล่อยมิเนอร์วา-2 ลำสองลงไปสำรวจถึงบนพื้นผิว ปฏิบัติการส่วนนี้ประสบความสำเร็จ ยานลงไปสัมผัสพื้นผิวดาวเคราะห์น้อยริวกิวพร้อมกับส่งภาพระยะใกล้กลับมา ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ
แม้คุณภาพของภาพถ่ายจากมิเนอร์วา-2 ที่ได้มามีความพร่ามัวบ้าง แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มิเนอร์วา-2 ถ่ายภาพขณะที่รถกำลังกระโดดอยู่บนพื้นผิว ไม่ได้ถ่ายขณะจอดนิ่ง หน้าที่หลักของยานมิเนอร์วา-2 คือการทดสอบวิธีการเคลื่อนที่ในสภาพความโน้มถ่วงต่ำมากอย่างบนดาวเคราะห์น้อย แม้จะมีรูปร่างเหมือนล้อ แต่มิเนอร์วา-2 ไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยการหมุนล้อ เพราะหลักการของล้อทำงานไม่ได้ในสภาพความโน้มถ่วงที่ต่ำมากบนดาวเคราะห์น้อย มิเนอร์วาจึงต้องใช้วิธีกระโดดแทน ผลงานของมิเนอร์วา-2 จึงเป็นการยืนยันถึงประสิทธภาพในการควบคุมการเคลื่อนไหวของยานสำรวจบนวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลของการทุ่มเทวิจัยมานานหลายปี
ขณะที่ยานฮะยะบุซะ 2 เฉียดเข้าใกล้ผิวของริวกิวเพื่อที่จะปล่อยรถทั้งสอง ยานก็ได้ถ่ายภาพพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไว้เหมือนกันด้วยกล้องที่มีชื่อว่า โอเอ็นซี-ที ขณะที่ยานอยู่เหนือพื้นผิว 64 เมตร ภาพที่ได้จากยานฮะยะบุซะ 2 มีความคมชัดมากกว่าที่ได้จากยานมิเนอร์วา 2
สำหรับมิเนอร์วา-2 สองลำแรกที่เพิ่งปล่อยไป ลำหนึ่งสร้างโดยกลุ่มมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น อีกลำหนึ่งสร้างโดยแจกซาและมหาวิทยาลัยไอซุ แต่ละลำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม
ต่อมาในวันที่ 2 ตุลาคม ฮะยะบุซะ 2 ก็เริ่มปฏิบัติการที่สอง นั่นก็คือปล่อยยานสำรวจขนาดเล็ก ชื่อ มาสคอต ลงไปบนดาวเคราะห์น้อยริวกิวบ้าง
หุ่นมาสคอต (MASCOT--Mobile Asteroid Surface Scout) สร้างโดยศูนย์อากาศและอวกาศเยอรมนีร่วมกับองค์การอวกาศฝรั่งเศส มีรูปร่างเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากล่องรองเท้า
หน้าที่ของมาสคอตต่างจากมิเนอร์วาอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่มิเนอร์วาเป็นยานทดสอบ แต่มาสคอตเป็นหุ่นสำรวจ มีอุปกรณ์หลักสี่ตัว คือกล้องถ่ายภาพ สเปกโทรมิเตอร์ แมกนีโทมิเตอร์ และมาตรรังสี วิศวกรภารกิจหวังว่าข้อมูลสำรวจจากมาสคอตจะส่งกลับขึ้นมายังยานแม่ฮะยะบุซะ 2 ได้ทั้งหมดก่อนจะหยุดทำงานไป
มาสคอตทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรีเพียงอย่างเดียว จึงมีอายุงานสั้นมาก หลังจากปฏิบัติภารกิจได้ 17 ชั่วโมง แบตเตอรีก็หมดไป อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าทำงานได้เกินเป้าหมายเพราะเดิมคาดว่าจะทำงานได้เพียง 16 ชั่วโมงเท่านั้น
เช่นเดียวกับยานมิเนอร์วา-2 หุ่นมาสคอตไม่ใช้ล้อในการเคลื่อนที่ ใช้การเหวี่ยงตุ้มเพื่อกลิ้งยานแทน
ในปลายปีนี้ ยานฮะยะบุซะ 2 จะปล่อยยานมิเนอร์วา-2 อีกลำหนึ่ง และในปีหน้า ยานฮะยะบุซะจะปฏิบัติการลงไปใกล้ผิวดาวเคราะห์น้อยริวกิวเพื่อเก็บตัวอย่างหินบนพื้นผิว ก่อนที่จะนำกลับโลกในปลายปี 2563
อ้างอิง
https://www.space.com/42024-asteroid-ryugu-mascot-lander-mission-ends.html
https://www.universetoday.com/140126/japanese-rovers-are-now-on-the-surface-of-an-asteroid-sending-back-amazing-pictures/
https://www.syfy.com/syfywire/another-robot-lands-on-ryugu
(เอาข่าวดาราศาสตร์มาฝาก) ฮะยะบุซะ 2 ไปได้สวย
เมื่อเดือนธันวาคม 2557 องค์การแจ็กซาของญี่ปุ่นได้ส่งยาน ฮะยะบุซะ 2 ขึ้นสู่อวกาศเพื่อไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย 162173 ริวกิว (162173 Ryugu) ยานได้เดินทางไปถึงดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ยานฮะยะบุซะ 2 มียานลูกชื่อ มิเนอร์วา-2 (MINERVA-II) พัฒนามาจากมิเนอร์วารุ่นก่อนซึ่งเดินทางไปกับยานฮะยะบุซะลำแรก โดยเพิ่มความสามารถมากขึ้น เมื่อวันที่ 23 กันยายน ยานได้ปล่อยมิเนอร์วา-2 ลำสองลงไปสำรวจถึงบนพื้นผิว ปฏิบัติการส่วนนี้ประสบความสำเร็จ ยานลงไปสัมผัสพื้นผิวดาวเคราะห์น้อยริวกิวพร้อมกับส่งภาพระยะใกล้กลับมา ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ
แม้คุณภาพของภาพถ่ายจากมิเนอร์วา-2 ที่ได้มามีความพร่ามัวบ้าง แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มิเนอร์วา-2 ถ่ายภาพขณะที่รถกำลังกระโดดอยู่บนพื้นผิว ไม่ได้ถ่ายขณะจอดนิ่ง หน้าที่หลักของยานมิเนอร์วา-2 คือการทดสอบวิธีการเคลื่อนที่ในสภาพความโน้มถ่วงต่ำมากอย่างบนดาวเคราะห์น้อย แม้จะมีรูปร่างเหมือนล้อ แต่มิเนอร์วา-2 ไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยการหมุนล้อ เพราะหลักการของล้อทำงานไม่ได้ในสภาพความโน้มถ่วงที่ต่ำมากบนดาวเคราะห์น้อย มิเนอร์วาจึงต้องใช้วิธีกระโดดแทน ผลงานของมิเนอร์วา-2 จึงเป็นการยืนยันถึงประสิทธภาพในการควบคุมการเคลื่อนไหวของยานสำรวจบนวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลของการทุ่มเทวิจัยมานานหลายปี
ขณะที่ยานฮะยะบุซะ 2 เฉียดเข้าใกล้ผิวของริวกิวเพื่อที่จะปล่อยรถทั้งสอง ยานก็ได้ถ่ายภาพพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไว้เหมือนกันด้วยกล้องที่มีชื่อว่า โอเอ็นซี-ที ขณะที่ยานอยู่เหนือพื้นผิว 64 เมตร ภาพที่ได้จากยานฮะยะบุซะ 2 มีความคมชัดมากกว่าที่ได้จากยานมิเนอร์วา 2
สำหรับมิเนอร์วา-2 สองลำแรกที่เพิ่งปล่อยไป ลำหนึ่งสร้างโดยกลุ่มมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น อีกลำหนึ่งสร้างโดยแจกซาและมหาวิทยาลัยไอซุ แต่ละลำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม
ต่อมาในวันที่ 2 ตุลาคม ฮะยะบุซะ 2 ก็เริ่มปฏิบัติการที่สอง นั่นก็คือปล่อยยานสำรวจขนาดเล็ก ชื่อ มาสคอต ลงไปบนดาวเคราะห์น้อยริวกิวบ้าง
หุ่นมาสคอต (MASCOT--Mobile Asteroid Surface Scout) สร้างโดยศูนย์อากาศและอวกาศเยอรมนีร่วมกับองค์การอวกาศฝรั่งเศส มีรูปร่างเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากล่องรองเท้า
หน้าที่ของมาสคอตต่างจากมิเนอร์วาอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่มิเนอร์วาเป็นยานทดสอบ แต่มาสคอตเป็นหุ่นสำรวจ มีอุปกรณ์หลักสี่ตัว คือกล้องถ่ายภาพ สเปกโทรมิเตอร์ แมกนีโทมิเตอร์ และมาตรรังสี วิศวกรภารกิจหวังว่าข้อมูลสำรวจจากมาสคอตจะส่งกลับขึ้นมายังยานแม่ฮะยะบุซะ 2 ได้ทั้งหมดก่อนจะหยุดทำงานไป
มาสคอตทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรีเพียงอย่างเดียว จึงมีอายุงานสั้นมาก หลังจากปฏิบัติภารกิจได้ 17 ชั่วโมง แบตเตอรีก็หมดไป อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าทำงานได้เกินเป้าหมายเพราะเดิมคาดว่าจะทำงานได้เพียง 16 ชั่วโมงเท่านั้น
เช่นเดียวกับยานมิเนอร์วา-2 หุ่นมาสคอตไม่ใช้ล้อในการเคลื่อนที่ ใช้การเหวี่ยงตุ้มเพื่อกลิ้งยานแทน
ในปลายปีนี้ ยานฮะยะบุซะ 2 จะปล่อยยานมิเนอร์วา-2 อีกลำหนึ่ง และในปีหน้า ยานฮะยะบุซะจะปฏิบัติการลงไปใกล้ผิวดาวเคราะห์น้อยริวกิวเพื่อเก็บตัวอย่างหินบนพื้นผิว ก่อนที่จะนำกลับโลกในปลายปี 2563
อ้างอิง
https://www.space.com/42024-asteroid-ryugu-mascot-lander-mission-ends.html
https://www.universetoday.com/140126/japanese-rovers-are-now-on-the-surface-of-an-asteroid-sending-back-amazing-pictures/
https://www.syfy.com/syfywire/another-robot-lands-on-ryugu