เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนคบกันมาได้จะ 2 ปีแล้ว ในช่วงปีแรกเราอยู่ด้วยกัน แต่พอเข้าปีที่ 2 แฟนต้องย้ายกลับไปทำงานที่ต่างจังหวัดเป็นเหตุผลให้เราต้องห่างกัน ช่วงแรกๆ ก็โหยหา ทรมาน เพราะด้วยความที่อยู่ด้วยกันทุกวันแล้วต้องแยกกันอยู่ กว่าจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลาอยู่ 4-5 เดือน เราเองก็มีความคิดว่าจะตามเค้าไปอยู่ด้วยที่นู่น แต่ต้องรอให้อะไรๆ ลงตัวก่อน ตลอดเวลาที่เค้าไปอยู่ที่นู่นเรายังเจอกันอยู่ประจำ เราไปหาบ้าง เค้ามาหาบ้าง และยังโทรคุยกันทุกวัน เหมือนเดิมทุกอย่าง ก็ดูเหมือนทุกอย่างลงตัวและดูโอเคดี ต้องบอกก่อนว่าเราเองไม่ใช่คนงี่เง่า ไม่เคยหาเรื่อง ไม่เคยชวนทะเลาะแล้วเราก็ทะเลาะกันน้อยมาก ด้วยความที่เราเชื่อใจ ไว้ใจ และเข้าใจกัน แฟนจะไปไหนมีสังคมเราเองก็ไม่เคยห้าม เค้าจะโทรมาหรือไลน์มาบอกทุกครั้งเวลาที่เค้าจะไปไหน และจะบอกตลอดว่าไปกับใครบ้าง กลับถึงบ้านก็โทรหาตลอด เราจะมีช่วงเวลาที่ต้องคุยกันคือก่อนนอนจะคุยกันอยู่ 2-3 ชม. แล้วก็นอนเป็นแบบนี้ทุกวันตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จนเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าแฟนเราเริ่มเปลี่ยนไปเค้าคุยกับเราไม่เหมือนเดิม แต่เค้าก็บอกว่า "ช่วงนี้งานยุ่งมาก" แต่โดยปกติตอนที่ทำงานเราก็คุยบ้าง ไปกินข้าว ไปไหนโทรมาบอก แต่ช่วงหลังๆมานี้เริ่มไม่โทร โดยอ้างเหตุผลว่ายุ่งมาก แต่เวลาเลิกงาน และก่อนนอนก็ยังโทรคุยกันตามปกติทุกอย่างการกระทำยังเหมือนเดิมเสมอต้น เสมอปลายทุกอย่าง แต่เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเค้าที่เปลี่ยนไป เรายังโทรคุยกันแต่บทสนทนาเราน้อยลง มีแต่ความเงียบที่ดังขึ้นมาแทนที่ ปกติเราจะเจอกันทุกเดือน เดือนละครั้ง 2 ครั้ง ช่วงหลังมานี้เราพยายามจะไปหา แต่เค้าก็ได้แต่อ้างว่า "งานยุ่งมาก ลงมาไม่มีเวลาพาไปไหน อย่าพึ่งลงมาเลย" เค้าปฏิเสธเราแบบนี้หลายครั้งไม่ยอมให้เราไปหา จนครบ 2 เดือนแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน เราเห็นว่าช่วงนี้เค้าเคลียงานเสร็จหมดแล้ว เราเลยคุยกันว่าจะไปหาโดยที่ครั้งนี้เค้าก็คงปฏิเสธไม่ได้ก็ต้องจำยอมไป พอเราได้เจอกันครั้งนี้เราก็รู้สึกเลยว่าเค้าไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เค้าเปลี่ยนไปแล้ว เราไปเที่ยวด้วยกันในมันควรจะมีความสุขสิ แต่เรากลับมานั่งดูภาพถ่ายเราก็รู้เลยว่า ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันทั้งเค้าเเละเราความรู้สึกสุขไม่สุดมันบ่งบอกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน เราไม่มีความสุขเพราะเราเห็นเค้าเปลี่ยนไป แต่เค้าไม่มีความสุขเพราะอะไรเราไม่รู้เลย เราเคยพยายามบอกเค้าหลายครั้งว่า "เค้าเปลี่ยนไป" แต่เค้าก็ยืนยันว่าเหมือนเดิม จนพอเรากลับมาเราก็เริ่มไม่โอเค ก็เลยทะเลาะกัน เรื่องที่เค้าเปลี่ยนไป จนเราตัดสินที่จะหยุดความสัมพันธ์ลง เพราะมันเริ่มมีความไม่สบายใจเข้ามาแทนที่ ตัวเราเองเริ่มรู้สึกเหนื่อย ไม่มีความสุขเหมือนเรากำลังวิ่งตามคนที่เค้ากำลังวิ่งหนีเราอยู่ เราเหนื่อยจนท้อ จนเหตุการณ์ที่ทำให้มันถึงจุดแตกหักมันเกิดจากบทสนทนาที่มันสั้นลงทุกวันๆ ถามคำตอบคำ จนเราเริ่มโกรธและบอกกับเค้าว่า "เราเหนื่อย อยากพอแล้ว เราไม่อยากชวนทะเลาะเลยเพราะต่างคนก็ต่างจะเหนื่อยกันทั้งคู่ เราพอแล้วนะ" ในเวลานั้นเราเเค่รู้สึกโกรธ เราน้อยใจที่เค้าไม่สนใจเรา เราคิดว่าถ้าเราตัดพ้อแบบนี้ เค้าอาจจะเริ่มคิดอะไรได้บ้าง ปรับความเข้าใจกับเราบ้าง หรือพยายามง้อ พูดคุยกับเราบ้าง แต่เปล่าเลย หลังจากเราพิมข้อความประโยคนั้นไปในไลน์ เค้าก็ตอบกลับมาประโยคสั้นๆแค่ว่า "ขี้อยู่" เรางงมาก เราสับสน เค้าไม่โทรมาถามไถ่ถึงเหตุผล หรือปรับความเข้าใจเลย เค้าเงียบหายไปเลย เราเองก็ไม่ได้ทักไปคุยอะไร ด้วยความที่โกรธมาก เราเฝ้าคิดย้อนกลับไปมองหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จะว่าทะเลาะกันบ่อยจนเบื่อไปเองก็ไม่ใช่เพราะเราไม่เคยทะเลาะกันเรื่องนี้เราเก็บมันมาตลอดจนวันนึงมันปะทุออกมาเราก็พูดออกไป เราเฝ้าถามตัวเองว่าเราผิดอะไร ผิดตรงไหน เราบกพร่องอะไร เรารัก ดูแล เทคเเคร์เค้าตลอด และที่ผ่านมาเค้าก็ยังโทรคุยกับเราเหมือนเดิม ทุกเวลาที่เคยคุยกัน ยังบอกรักเราก่อนนอนอยู่ทุกวันไม่มีการกระทำที่เปลี่ยนไปเลยจนมาถึงวันที่ความสัมพันธ์ของเราแตกสะบั้น เหมือนสึนามิถาโถมเข้ามาแล้วทุกอย่างพังทลายลงไปในพริบตา เราโทรไปคุยกับเค้าก็พยาพยามจะถามหาเหตุผลต่างๆนาๆ แต่เค้าก็เงียบไป เราก็เลยไม่อยากตามตื้อ จนผ่านไป 2 วันเราก็โทรไปคุยอีกครั้งเพราะเราทนความคิดถึงไม่ไหว เรายังรักเค้าอยู่ เราคิดว่าเราจะตัดใจเราพยายาม แต่เราก็ทำไม่ได้กลับกลายเป็นเค้าที่ทำได้ ไม่ทัก ไม่โทร มาหาเราเลย เราพยายามคาดคั้น เราถามเค้าว่ายังรักเราอยู่มั้ย คำตอบคือ "ความเงียบ" เค้าเลยบอกกับเราว่า "ลองห่างกันสักอาทิตย์ดูมั้ย จะได้รู้ว่าเรายังรักกันอยู่หรือเปล่า" เราก็เลยถามกลับไปว่า "เทอมีคนอื่นหรือเปล่า ถึงทำให้เทอเปลี่ยนใจไปเร็วขนาดนี้" เพราะเราเองก็มองไม่เจอเหตุผลที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันแตกหักได้เลย เราคาดคั้นไปมาจนเค้าเองก็ยอมรับว่ามี รู้สึกดีกับคนที่ทำงาน แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ได้ไปถึงไหน แต่ตอนที่เราไปหาเค้าครั้งล่าสุด เราก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ โทรศัพท์เค้าก็อยู่ในสายตาเราตลอดเวลา ไม่เคยเห็นใครผิดแปลกไลน์มา หรือโทรมาเลย เราพยายามยื้อ พยายามขอร้องให้เค้าตัดใจจากคนนั้น แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม มาลองเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างมันก็ดีมาตลอด เราภาวนาแค่ขอให้ครั้งนี้มันเป็นแค่เรื่องที่เราทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน แต่เค้าก็ดูท่าทีไม่อยากกลับมาสักเท่าไร เค้าดูไม่มีเยื่อใยกับเราเลย เค้าตัดเราออกไปจากชีวิตเค้าง่ายจริง ตัดภาพมาที่เราเฝ้ากระวนกระวายว่าเค้าจะไลน์มามั้ย หยิบโทรศัพท์มาดูตลอดเวลา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เสียใจ ผิดหวัง ร้องไห้ ไม่ได้เสียใจที่เค้ากำลังจะทิ้งเราไป แต่เราเสียใจที่เราไม่รู้เหตุผลเลยว่าจุดเปลี่ยนของความรู้สึกเค้ามาจากอะไร ตลอดเวลาเราดีทุกอย่าง เป็นกำลัง เป็นทั้งเพื่อน เป็นทุกๆอย่างให้เค้า ไม่เคยสร้างความอึดอัดใจให้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เราสับสน เราไม่อยากเลิก เราพยายามจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่หนทางมันก็ดูมืดมน ไม่มีแสงสว่างที่ปลายทางเลย เราไม่รู้จะต้องทำไงต่อไป และเฝ้าแต่โทษตัวเอง โทษหาสาเหตุที่ทำให้เค้าเป็นแบบนี้ โทษแต่ว่าเราผิดเองที่เว้นระยะห่างมากเกินไป เว้นช่องว่างให้เค้าได้อยู่คนเดียวจนชินหรือเปล่า เราอยากประคับประคองความรักครั้งนี้ไว้ แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เเละไม่รู้ว่าควรหยุดหรือไปต่อ ถ้าหยุดเราจะทำยังไงให้เลิกโหยหาเค้าสักที
เรารู้แล้วว่า "ความห่างไกล ทำให้ใจเราห่างกัน" ทั้งๆที่เราคิดมาตลอดเวลาว่า ก็แค่ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค แต่เปล่าเลย มันคืออุปสรรคที่แท้ทรู คนแค่คุยโทรศัพท์จะไปสู้คนข้างกายได้ยังไง
ความห่างไกล ทำให้ใจเราห่างกันจริงๆใช่มั้ย
เรารู้แล้วว่า "ความห่างไกล ทำให้ใจเราห่างกัน" ทั้งๆที่เราคิดมาตลอดเวลาว่า ก็แค่ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค แต่เปล่าเลย มันคืออุปสรรคที่แท้ทรู คนแค่คุยโทรศัพท์จะไปสู้คนข้างกายได้ยังไง