ความรัก 7 ปี ของชายรักชาย

สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ อยากนำประสบการณ์ความรักมาแบ่งปันครับ

ลักษณะของผมจะเป็นคนอารมณ์ดี เป็นเอนเนอจี้บูตเตอร์แก่คนรอบข้าง และเป็นคนตลก แน่นอนว่าเพื่อน ๆ ผมจะต้องเยอะ (ผมเป็นเกย์รับไม่แสดงออกเพื่อนไม่รู้ ผมจะบอกแค่บางคนครับ)

วันนึงผมได้รับการนัดหมายกับเพื่อนสนิทซึ่งบ้านเราอยู่ใกล้กัน นัดผมทานข้าวที่สยาม ผมก็ตกลงไปเจอ เพราะเราเข้ามหาวิทยาลัยโอกาสเจอกันน้อยลงครับ และวันนั้นเพื่อนของผมก็พาเพื่อนของเขามาด้วยครับ

บรรยากาศก็ทานข้าวคุยกันสนุกสนานกันไป ผมเป็นคนเข้ากับคนง่ายครับแม้จะเป็นเพื่อนของเพื่อนพึ่งเจอกันก็ตามฮ่า ๆ ผมก็ปล่อยมุกตลกไปตามโอกาส และเล่าเรื่องราวสนุกสนานตลอดกันสนทนา และเป็นผู้ฟังที่ดีบ้างผู้เล่าที่ดีบ้าง และเพื่อนของเพื่อนผมก็เลยชมว่า นายอารมณ์ดีจังเราชอบ ผมเลยบอกว่าเป็น FC เราดิ เขาตอบกลับว่าเป็น FAN (เอฟเอเอ็น) ได้ไหม

ณ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร แปลกตรงที่เขาทักไลน์หาผมทุกเช้า ทุกคืนก่อนนอนก็จะทักมาคุย และก็เริ่มพัฒนาคุยกันมากขึ้น ทำให้ผมหวั่นไหวกับเขา เราคุยกันได้ 6 เดือน อยู่ดี ๆ เขาก็ขอผมเป็นแฟนครับ ด้วยความที่เรารู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี และสนิทกันมากขึ้นผมก็ตอบตกลงครับ

ความรักของเราเป็นพลังงานที่ดีมาก ๆ ครับผม ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เป็นเด็กเรียน หรือขยันอะไรมากมาย พอผมรู้จักเขาคนนี้ผมกับตั้งใจเรียนมากขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น และเราทั้ง 2 คนก็จะแชร์ความรู้สึกที่ดีร่วมกัน แชร์เรื่องตลกก็จะมีเสียงหัวเราะ ขำขันกันมาตลอดครับ ผมยอมรับว่าผมมีความสุขมาก ๆ ครับ และแฟนผมเป็นคนโรแมนติกมาก ๆ สุภาพ ใจเย็น และเป็นคนมีมุมมองที่ดีมาก ๆ คนนึง วันหยุดที่ไม่มีเรียนเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดครับ ตัวแทบจะติดกัน บางครั้งอ่านหนังสือเราก็วีดีโอคอลอ่านหนังสือทำกิจกรรมนี้ไปด้วยกัน

คบกันได้ 1 ปี เขาก็พาผมไปพบกับพ่อแม่ของเขาครับ ผมก็มีความกังวลมาก ๆ ว่าที่บ้านเขาจะดุไหม แต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดีครับ ผมกับที่บ้านเขาพัฒนากันถึงขั้นผมอยู่ในช่วงเวลาสำคัญกับครอบครัวเขาครับ เช่น วันเกิดพ่อแม่เขา ปีใหม่ วันตรุษจีน สงกรานต์ หรือไปต่างประเทศด้วยกันกับครอบครัวเขา ผมรู้สึกสนิทสนมและอุ่นใจมาก ๆ ครับ (เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ได้อาศัยอยู่กับครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อของผมเป็นเทวดาแล้วครับ ผมอาศัยกับญาติครับ) ผมก็ไปมาหาสู่กับที่บ้านเขาตลอดระยะเวลาที่เราคบหากันครับ มาค้างด้วยเป็นประจำ

ผมคิดในใจนะครับว่าผมโชคดีทางด้านความรักมาก ๆ ครับที่มีคนรักที่ดีและเอาใจใส่เรา และผมก็มองอนาคตแบบปีต่อปี และยาวไปถึง 5 ปี 50 ปี ว่าจะดูแลกันและกันอย่างไร เราจะใช้ชีวิตบั้นปลายกันอย่างมีความสุข


ผมจะจบก่อนแฟน เพราะว่าแฟนอายุอ่อนกว่าผม 1 ปี เราเรียนกันคนละที่ด้วยแต่มหาลัยเราจะมีงานกีฬาร่วมกันทุก ๆ ปีครับ เขาอยู่ทุกช่วงของชีวิตผมครับ เราคบกันตั้งแต่ผมอยู่ปี 2 เทอม 1 เราเดินทางร่วมกันมาเรื่อย ๆ มีอุปสรรคบ้าง สุขบ้าง แต่ผมก็จะมองว่ามันคือเรื่องราวที่ดีเสมอ เมื่อผมทำงาน ผมยอมรับว่าผมเป็นคนที่ทุ่มเทกับงานมาก ๆ และแบ่งเวลาให้แฟนไม่เคยบกพร่อง ผมมีเวลากลับมาดูแลเขา และวันหยุดผมก็อยู่กับเขาเสมอ (แบ่งเวลาให้เพื่อนด้วยครับเกรงว่าจะน้อยใจ) ในความคิดผมคือผมจะตั้งใจทำงานหนัก ทุ่มเท เพราะตอนนี้ผมมีกำลังทำงาน และผมก็อยากมีอนาคตที่ดีกับเขา ผมก็ตั้งใจเก็บเงินเพื่อเราจะลงทุนทำอะไรร่วมกันในอนาคต เพื่อให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น

และเมื่อเข้าปีที่ 7 ที่เราคบกัน เรื่องทุกเรื่องก็ประดังเข้ามาโดยผมเป็นคนที่พบและพิสูจน์เรื่องราวได้ด้วยตัวเอง แฟนผมแปลกไปครับ
- สนใจผมน้อยลง ผมก็คิด ณ ตรงนั้นว่าไม่เป็นไรนะเขาอาจจะเหนื่อย เราก็สนใจเขามากขึ้นแทน
- โทรศัพท์ติดตัวตลอด หวงโทรศัพท์ และเข้าห้องน้ำนานมาก ๆ พร้อมกับโทรศัพท์ ผมก็คิดว่าอาจจะอยากอาบน้ำแบบสบาย ๆ ช้า ๆ และแชทกับเพื่อนไปขณะนั่งทำธุระส่วนตัว
- หงุดหงิดง่าย และเย็นชากับผมมาก ๆ ครับ ผมก็คิดอีกว่าสงสัยจะเครียดเรื่องงาน เครียดเรื่องต่าง ๆ ผมก็ให้เขาอยู่กับตัวเอง

วันนึงผมสงสัยหนักเข้าผมก็เลยแกล้งยืมโทรศัพท์เขาเพื่อโทรไปหาที่ทำงานคุยเรื่องงานนิดหน่อย เนื่องจากโทรศัพท์ผมตกกระแทกพื้นเสียงหายครับ เขาก็มีพิรุธตอนผมจะยืมโทรศัพท์ เขาเดินวนผม และผมก็คิดได้ว่าต้องเอาไปคุยในห้องเพื่อกดดูไลน์ว่าเขาคุยกับใคร (ผมยอมรับว่าผมเสียมารยาทมาก ๆ ครับ แต่ผมอยากกระจ่าง) และแล้วผมก็กดเข้าไปในไลน์ ผมพบเขาคุยกับคนนึงออกรสมาก ๆ ครับ มีโทรหากัน ส่งรูปให้กันกับกิจกรรมต่าง ๆ ของเขาทั้งคู่ เรียกกันที่รัก และบอกฝันดีกันทุกวัน ผมมือไม้สั่น หัวใจเต้นแรงมาก ยอมรับว่าโกรธมาก ผมกลั่นน้ำตาไว้ และชวนเขาไปคุยนอกบ้าน ผมไม่อยากคุยในบ้านให้พ่อแม่เขารู้ว่าเราทะเลาะกัน

เขายอมรับว่าคุยกับน้องคนนี้ คบหาดูใจกัน 4 เดือนแล้วเป็นรุ่นน้องโรงเรียนเก่าของเขา ในหัวผมก็คิดว่าผมนอนข้าง ๆ เขาทุกคืน ดูหนังด้วยกัน นั่งทานข้าวด้วยกันแทบทุกวัน เขาเอาเวลาที่ไหนไปแอบคุยกัน และเป็นคนที่เติบโตมาอย่างไรถึงทำได้ขนาดนี้ ผมก็ร้องไห้แบบไม่หยุดเลยครับ ผมรู้สึกผิดหวังมาก ๆ ครับ และผิดที่ให้ใจเขาไปมาก แทบไม่เหลือไว้ให้กับความผิดหวังเลยครับ

เขาขอโทษผม เขาบอกกับผมว่านิสัยส่วนตัวเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ เขาร้องไห้และไหว้ขอโทษผม และขอกลับมาเป็นแบบเดิม ด้วยความที่ผมรักเขามากผมก็ยอมกลับไป ผมคิดว่าการให้โอกาสคนทำผิดปรับปรุงตัวเองอาจจะทำให้เขาระวังการใช้ชีวิตและระวังการทำผิดมากขึ้นเพราะเขารู้ผลลัพธ์แล้ว ผมยอมรับครับหลังจากเกิดเรื่องผมหวาดระแวงกับเขาและเรื่องนอกใจมาตลอด เพราะก่อนหน้านี้ในหัวผมไม่คิดเลยว่าเขาจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งความรักเราก็เดินทางมาเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนานมาก ๆ

เขาก็พยายามถ่ายรูปหน้าจอไลน์งานผมตลอดว่าแต่ละวันคุยกับใคร เขาก็สนใจผมมากขึ้น และแล้วครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น เขาแอบคุยกับคนอื่นอีกตามเคยครับ ผมจับได้อีกเช่นเคย เขาก็ยอมรับกับผมว่าความรักของเราไม่เหมือนเดิม เขาแอบคุยกัน แอบไปพบกัน แอบไปทานข้าวด้วยกัน แอบไปรับไปส่งกัน และแอบวีดีโอคุยกัน

และผมก็ตัดสินใจครั้งสุดท้าย และคิดไตร่ตรองอย่างดีว่า ผมควรยุติความรัก 7 ปีของผม และกลับมาอยู่กับตัวเอง กลับมารักตัวเอง อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ผมยอมรับว่าผมร้องไห้เพียง 1 ครั้ง และหลังจากนั้นผมตั้งใจเรียนทักษะอื่น ๆ ที่ตัวเองสนใจเพื่อพัฒนาตัวเอง และผมไปวัด หาที่ทำสมาธิให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่าน ผมมองอนาคตผมชัดเจนมากขึ้น และผมทำใจอยู่ประมาณ 1 เดือน ผมก็กลับมายิ้ม มาหัวเราะกับเพื่อนฝูงเช่นเดิม ผมให้อภัยเขาและมือที่ 3 และผมไม่รังควานใครแต่อย่างใด ผมเชื่อเสมอครับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมมีผลลัพธ์ที่ดีเสมอ ได้กลับมาใช้ชีวิตโสดอีกครั้งนึงก็ดีเช่นกันครับ

สุดท้ายนี้ผมอยากฝากข้อคิดให้แก่ผู้ที่ผิดหวังในความรักนะครับว่า เราอย่าประชดชีวิตเราและอย่าคิดสั้นนะครับ เพราะหากเราตายไปเขาก็ย่อมมีคนใหม่มาทดแทน แต่พ่อแม่เราไม่สามารถมีใครมาทดแทนเราได้นะครับ รักตัวเองรักครอบครัวมาก ๆ นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่