เราเพิ่งสมัคร pantip เพราะมีปัญหาคาใจที่ไม่สามารถปรึกษาใครได้ ขอความคิดเห็นจากทุกคนด้วยค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
เราคบกับแฟน (ผู้หญิงคบทอม)
แฟนเราอายุประมาณ 35 ปี เรียนจบป.ตรี (เงินเดือน 50,000)
ส่วนเราอายุ 25 ค่ะ จบม.6 (เงินเดือน 8,000)
พี่ที่เราสนิทหมายเลข 1 (ชอบดูถูกเราอยู่เสมอ) เช่น
- ที่ได้นั่งรถยนต์มาทำงานก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ถ้าไม่ได้คบกับแฟนคนนี้ก็ยังต้องขับมอเตอร์ไซค์มาทำงาน
- ที่ได้อยู่คอนโดหรูหรูก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ถ้าไม่ได้คบกับแฟนคนนี้ก็อยู่ห้องเช่าราคาไม่ถึง 3000
- ที่ได้ออกไปเที่ยวต่างประเทศหรือเที่ยวต่างจังหวัดได้เกือบทุกเดือน ก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีปัญญาได้ออกไปเที่ยวต่างประเทศหรือเที่ยวต่างจังหวัดหรอก
- ที่ได้ไปกินอาหารร้านหรูหรูกินปิ้งย่างมื้อละแพงแพงก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ ไม่อย่างนั้นก็กินข้าวแค่จานละไม่กี่บาท
- ที่ได้กลับบ้านต่างจังหวัดบ่อยบ่อยก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่ยังงั้นก็ก็คงไม่ได้กลับบ่อยหรอก
- ที่ได้ซื้อประกันชีวิตหรือซื้อประกันสุขภาพก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อล่ะ
- ที่ได้เข้าคลินิหาหมอรักษาสิวฉีดฟิลเลอร์ฉีดโบทอกอยู่เป็นประจำก็เพราะคบกับแฟนคนนี้
- ที่มีหน้ามีตาอยู่ในบริษัทก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่ใช่หรอเมื่อก่อนมีคนเห็นหัวบ้างไหมล่ะ
- จริงจริงแล้วชอบผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิงเลยสักนิดดูออก แต่ที่คบกับแฟนคนนี้เป็นเพราะว่าอยากจะยกคุณภาพชีวิตตัวเองใช่ไหมล่ะ
เราเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่ที่เราสนิท หมายเลข 2
คำตอบที่เราได้ก็คือ
แล้วสิ่งที่พี่หมายเลข 1 มีตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่เรื่องจริง มันคือเรื่องจริงหมดทุกอย่างเลยนะ
พี่บอกหลายรอบแล้วว่าให้ไปเรียนต่อปริญญาตรี เพราะถ้าจบแค่ม.6 จะต้องทนทำงานที่เก่าถึง 20 - 30 ปี กว่าเงินเดือนจะขึ้นเป็นหลายหมื่น
เราอายุยังน้อยยังสามารถเรียนต่อได้เพราะว่ายังมีแรงอยู่ เสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนต่อปริญญาตรี
พี่ไม่ได้จะบอกว่าคนที่เรียนจบสูงจะมีความสามารถในการหาเงินสูง แต่พี่กำลังจะบอกว่าถ้าเราทำงานบริษัทหรือว่าทำงานข้าราชการการจบปริญญาตรีถือเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ถ้าเราคิดว่าในอนาคตเราจะออกไปทำธุรกิจเป็นของตัวเอง มีความฝันมีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้ว และเรารู้สึกว่าการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จจบแค่ ม. 6 ก็เพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้
แต่นี่น้องตั้งใจจะทำงานบริษัทโดยจบแค่ม.6 ต่อไปพออายุเยอะขึ้นการที่จะไปเรียนต่อปริญญาตรีมันยากแล้ว เพราะเราก็เหนื่อยและก็อายุเยอะ
พี่คอยบอกเสมอว่าให้เก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้หรือศึกษาเรื่องการลงทุนเอาไว้บ้างในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่เคยฟังเลย
เพราะฉะนั้นเวลาที่โดนใครดูถูกดูแคลนให้หันกลับมามองตัวเองก่อนว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า และถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงโดยไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว สรุปว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริง ก็ต้องพัฒนาตัวเองไม่ให้คนอื่นมาดูถูกได้
ไม่ใช่มานั่งบ่นไปวันวัน แล้วมาโทษว่าทำไมคนอื่นจะต้องมาดูถูกตัวเองด้วย ในเมื่อสิ่งที่เขาดูถูกมันก็เรื่องจริงทั้งหมด
และตอนนี้น้องกำลังยืนด้วยขาคนอื่นก็คือกำลังยืนด้วยขาแฟนตัวเองอยู่เกือบทุกเรื่องในชีวิต แล้วถ้าวันนึงเขาทิ้งเราไป คุณภาพชีวิตของน้องก็จะต่ำลงมาเหมือนเดิม
น้องควรลองกลับไปถามตัวเองว่าเคยรักแฟนตัวเองบ้างไหมหรือรักเงินของแฟน
เรารู้สึกเสียใจ และรู้สึกเหมือนถูกคนอื่นดูถูกดูแคลนเป็นอย่างมากเลยค่ะ ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างคะ
โดนพี่ที่สนิทดูถูกดูแคลน ควรรู้สึกยังไงคะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
เราคบกับแฟน (ผู้หญิงคบทอม)
แฟนเราอายุประมาณ 35 ปี เรียนจบป.ตรี (เงินเดือน 50,000)
ส่วนเราอายุ 25 ค่ะ จบม.6 (เงินเดือน 8,000)
พี่ที่เราสนิทหมายเลข 1 (ชอบดูถูกเราอยู่เสมอ) เช่น
- ที่ได้นั่งรถยนต์มาทำงานก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ถ้าไม่ได้คบกับแฟนคนนี้ก็ยังต้องขับมอเตอร์ไซค์มาทำงาน
- ที่ได้อยู่คอนโดหรูหรูก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ถ้าไม่ได้คบกับแฟนคนนี้ก็อยู่ห้องเช่าราคาไม่ถึง 3000
- ที่ได้ออกไปเที่ยวต่างประเทศหรือเที่ยวต่างจังหวัดได้เกือบทุกเดือน ก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีปัญญาได้ออกไปเที่ยวต่างประเทศหรือเที่ยวต่างจังหวัดหรอก
- ที่ได้ไปกินอาหารร้านหรูหรูกินปิ้งย่างมื้อละแพงแพงก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ ไม่อย่างนั้นก็กินข้าวแค่จานละไม่กี่บาท
- ที่ได้กลับบ้านต่างจังหวัดบ่อยบ่อยก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่ยังงั้นก็ก็คงไม่ได้กลับบ่อยหรอก
- ที่ได้ซื้อประกันชีวิตหรือซื้อประกันสุขภาพก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อล่ะ
- ที่ได้เข้าคลินิหาหมอรักษาสิวฉีดฟิลเลอร์ฉีดโบทอกอยู่เป็นประจำก็เพราะคบกับแฟนคนนี้
- ที่มีหน้ามีตาอยู่ในบริษัทก็เพราะคบกับแฟนคนนี้ไม่ใช่หรอเมื่อก่อนมีคนเห็นหัวบ้างไหมล่ะ
- จริงจริงแล้วชอบผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิงเลยสักนิดดูออก แต่ที่คบกับแฟนคนนี้เป็นเพราะว่าอยากจะยกคุณภาพชีวิตตัวเองใช่ไหมล่ะ
เราเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่ที่เราสนิท หมายเลข 2
คำตอบที่เราได้ก็คือ
แล้วสิ่งที่พี่หมายเลข 1 มีตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่เรื่องจริง มันคือเรื่องจริงหมดทุกอย่างเลยนะ
พี่บอกหลายรอบแล้วว่าให้ไปเรียนต่อปริญญาตรี เพราะถ้าจบแค่ม.6 จะต้องทนทำงานที่เก่าถึง 20 - 30 ปี กว่าเงินเดือนจะขึ้นเป็นหลายหมื่น
เราอายุยังน้อยยังสามารถเรียนต่อได้เพราะว่ายังมีแรงอยู่ เสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนต่อปริญญาตรี
พี่ไม่ได้จะบอกว่าคนที่เรียนจบสูงจะมีความสามารถในการหาเงินสูง แต่พี่กำลังจะบอกว่าถ้าเราทำงานบริษัทหรือว่าทำงานข้าราชการการจบปริญญาตรีถือเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ถ้าเราคิดว่าในอนาคตเราจะออกไปทำธุรกิจเป็นของตัวเอง มีความฝันมีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้ว และเรารู้สึกว่าการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จจบแค่ ม. 6 ก็เพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้
แต่นี่น้องตั้งใจจะทำงานบริษัทโดยจบแค่ม.6 ต่อไปพออายุเยอะขึ้นการที่จะไปเรียนต่อปริญญาตรีมันยากแล้ว เพราะเราก็เหนื่อยและก็อายุเยอะ
พี่คอยบอกเสมอว่าให้เก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้หรือศึกษาเรื่องการลงทุนเอาไว้บ้างในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่เคยฟังเลย
เพราะฉะนั้นเวลาที่โดนใครดูถูกดูแคลนให้หันกลับมามองตัวเองก่อนว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า และถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงโดยไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว สรุปว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริง ก็ต้องพัฒนาตัวเองไม่ให้คนอื่นมาดูถูกได้
ไม่ใช่มานั่งบ่นไปวันวัน แล้วมาโทษว่าทำไมคนอื่นจะต้องมาดูถูกตัวเองด้วย ในเมื่อสิ่งที่เขาดูถูกมันก็เรื่องจริงทั้งหมด
และตอนนี้น้องกำลังยืนด้วยขาคนอื่นก็คือกำลังยืนด้วยขาแฟนตัวเองอยู่เกือบทุกเรื่องในชีวิต แล้วถ้าวันนึงเขาทิ้งเราไป คุณภาพชีวิตของน้องก็จะต่ำลงมาเหมือนเดิม
น้องควรลองกลับไปถามตัวเองว่าเคยรักแฟนตัวเองบ้างไหมหรือรักเงินของแฟน
เรารู้สึกเสียใจ และรู้สึกเหมือนถูกคนอื่นดูถูกดูแคลนเป็นอย่างมากเลยค่ะ ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างคะ