ผมมาเล่าต่อจากกระทู้ที่แล้วที่ไปปีนภูเขาไฟ Stromboli มานะครับ
https://pantip.com/topic/38161875
ที่พักของผมอยู่บนเกาะ Vulcano ซึ่งแปลตรงตัวเลยว่าภูเขาไฟในภาษาอิตาลี ซึ่งมันก็คือภูเขานั่นแหล่ะนะ
ในวันนั้นช่วงที่ลงภูเขาไฟเป็นช่วงที่ลำบากไม่แพ้ตอนขึ้นเลยเพราะเล็บเท้าผมมันหักและปลายรองเท้ามันคับครับ แสบสุดๆเจ็บไม่แพ้เล็บขบเลย ลองนึกเล่นๆดู 2 ชม. ที่คุณต้องเดินแล้วเหมือนมีอะไรจิ้มที่เท้าแรงๆทุกเก้าที่เดิน ช่วงที่เรากำลังลงจากภูเขาไฟนั้นมืดมากครับ ต้องใช้ไฟฉาย ซึ่งไฟฉายของผมดันไม่ค่อยสว่างซะอีก แถมเวลาเดินลงจากภูเขาไฟมีดินจากภูเขาไฟเข้าไปในรองเท้าอีกครับ เดินๆได้แป๊ปเดียวก็เข้ามามาเต็มรองเท้าละ จำได้ลงว่าถึงด้านร่างกันราวๆสามทุ่มกว่าๆเกือบๆสี่ทุ่มจากนั้นก็ขึ้นกันไปบนเรือกลับไปที่เกาะ Vulcano ที่เราพักกันครับ ถึงที่พักราวๆ 5 ทุ่ม ผมอาบน้ำนอนเลย
วันที่ 6 พฤษภาคม 2018
วันนี้ช่วงเช้าเรานั่งฟังไกด์บรรยายเรื่องกำมะถันกันครับ ซึ่งก็นั่งดมไปฟังไปนั่นหล่ะครับ นึกแล้วก็ยังอยากดมอยู่นะ ตอนนั้นมันเหม็น แต่ก็เป็นกลิ่นอายที่ unique จริงๆ

ในรูปจะเป็นบ่อกำมะถัน เรียกว่า Fanghi di Vulcano ซึ่งคุณรู้อะไรไหม? คุณสามารถไปว่ายน้ำในบ่อนั่นได้นะ ก่อนหน้านั้นผมเห็นคนหลายๆคนไปแช่อยู่ เสียดายที่ผมไม่มีโอกาศได้แช่ แต่ไม่ใช่ทุกบ่อนะครับที่แช่ได้ ต้องไถ่ถามคนแถวนั้นก่อนว่า แช่ได้ไหม กรณีบ่อนี้แช่ได้ครับ
ต่อมาเราก็มาปีนภูเขาไฟ! อะไรเนี่ย??? มีแต่ภูเขาไฟ Etna เอย Stromboli เอย ต่อไปก็ Vulcano !

ช่วงที่ผมเดินขึ้นมาได้หน่อยนึงแล้วถ่ายภาพลงไป

และเมื่อผมถ่ายขึ้นไปด้านบน
ภูเขาไฟลูกนี้ต่างจาก Stromboli ตรงที่ปีนง่ายครับ ทางเดินค่อนข้างอำนวยมีให้เป็นทางชัดเจนเลยไม่เหมือน Stromboli
Stromboli ที่ผมปีนมามัน 924 เมตร ส่วน Vulcano แค่ 501 เมตร แต่ก็ปีนนานพอสมควรนะครับ ความเหนื่อยมันจะอยู่ที่ความชันกับเศษหิน

และแล้วเราก็มาถึงด้านบน นี่เป็นภาพถ่ายจากด้านบนของภูเขาไฟ Vulcano

พวกเรานั่งพักกันตรงจุดนี้กันพักใหญ่ๆเลยครับ Relax สุดๆ
ภาพบรรยากาศด้านบนครับ
จากนั้นยังมีส่วนที่สูงขึ้นมาอีกหน่อยครับ ซึ่งจุดนี่คนส่วนใหญ่ไม่ไปกันเพราะไกด์บอกว่าจะขึ้นไปก็ได้ไม่ขึ้นก็ได้ซึ่งเพื่อนผมมันไม่ไปกัน แต่ผมไปครับ อยากเห็นด้านบน

ภาพบรรยากาศด้านบนสุดครับ ไม่มีไรมาก
ในวันรุ่งขึ้นพวกเราก็ออกจากเกาะกันครับ แม้ว่าทั้งหมดนี้ผมจะไม่ได้เขียนเนื้อหาที่ละเอียดเท่าไหร่นัก คิดเป็นเศษ 0.5/4 ส่วน จากเหตุการณ์ทั้งหมดตลอดการเดินทางได้ แต่ขอบอกเลยครับว่ามันผูกพันธ์จริงๆการปืนภูเขาไฟครั้งแรกที่ว่าเหนื่อยและไม่คิดจะปืนเป็นครั้งที่สองของชีวิตแต่ก็ต้องมาปีนอีกครั้งในวันมะรืน การนอนการกินดื่มเที่ยวกับเพื่อนตลอดเวลาเกือบอาทิตย์นี้ การได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเด็กนักเรียนกับอาจารย์ระหว่างการเดินทาง ผมผูกพันธ์กับเกาะ Vulcano ที่ผมพักมาตลอดการเดินทางนี้จริงๆแม้ว่าทีแรกผมจะเสียดายที่ไม่ได้พักที่ Lipari ก็ตาม

บรรยากาศที่ชายหาดของโรงแรมก่อนจะออกจากเกาะ
หลังจากที่เราออกจากเกาะมาเราก็กลับมาที่ Milazzo ครับ เราอยู่ที่นี่ราวชั่วโมงหรือสองชั่วโมงนี่แหล่ะผมจำไม่ได้ เรามีกินอาหารเย็นกันที่นี่ ก่อนที่รถบัสจะมารับเราเพื่อไปยัง Messina

ภาพบรรยากาศเล็กน้อยของ Milazzo ครับ

ภาพถ่าย Messina ยามคำคืนจากบนรถบัส ซึ่งมันสวยกว่านี้แต่มันถ่ายออกมาไม่สวยอ่ะ 55555
คืนนั้นอากาศดีมากครับ พอมาถึงสถานีรถไฟซึ่งปล่าวเปลี่ยวไร้ผู้โดยสารแต่มีคนเร่ร่อนมานอนในสถานีกลิ่นเหม็นตลบอบอวนเชียว ผมกับเพื่อนคนนึงที่ดันปวดฉี่พร้อมกัน คือตอนนั้นผมดูแผนผังสถานีแล้วแต่ผมงงเลยหาห้องน้ำไม่เจอผมเลยถามเพื่อนอีกคนที่กำลังหาเหมือนกัน แปลเป็นไทยได้ประมาณนี้
ผม: กูดูแผนผังสถานีแล้วงงหวะ ว่าห้องน้ำอยู่ไหน
เพื่อน: ไม่ใช่ความผิด กูเป็นคนอิตาเลียนดูแผนผังแล้วกูยังงงเลยว่ามันอยู่ตรงไหน
เราเลยเดินไปเรื่อยๆจนเจอ แต่เผอิญห้องน้ำในสถานีมันปิดครับ ตอนนั้นมันปวดสุดๆจริงๆด้วยความที่สถานีมันร้างเราแทบจะเยี่ยวใส่รางรถไฟแล้วเพราะตอนนั้นไม่มีคน แต่เราไม่ทำครับ ส่วนเรื่องที่เราไปปล่อยกันที่ไหนเป็นความลับครับ
จากนั้นเพื่อนผมมันต้องไปซื้อบุหรี่ครับ แล้วทีนี้มันเลยขออนุญาติอาจารย์ไปซื้อ ตอนนั้นร้านปิดหมด มีแต่ตู้ขายบุหรี่ซึ่งต้องใช้บัตรประชาชนซึ่งเพื่อนผมมันอายุไม่ถึงก็เลยใช้บัตรอาจารย์ซื้อ ในยุโรปหลายๆประเทศคนดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่างที่อิตาลี คุณสามารถสูบบุหรี่ได้ทุกที่ตั้งแต่หน้าโรงเรียนหรือบางโรงเรียนคุณสามารถขอออกมาสูบได้ด้วย ทัศนศึกษาอาจารย์ปล่อยให้นักเรียนสูบได้ปกติซึ่งมันทำให้นักเรียนสูบบุหรี่กันถี่สุดๆเพราะไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยช่วงทัศนศึกษาและคุณครูที่นั่นก็ไม่เอาไปบอกผู้ปกครอง สถานที่บางสถานที่ห้ามสูบแต่คุณกลับสามารถสูบในสถานที่ห้ามสูบนั่นได้อย่างโจ่งแจ้ง ถ้าคุณนั่งอยู่บนบัสแล้วมองไปข้างทางแล้วเจอคน คุณจะเจอคนสูบบุหรี่ครับ เยอะจริงๆดังนั้นยุโรปหลายๆประเทศไม่ใช่ประเทศสำหรับคนที่เกลียดกลิ่นบุหรี่แน่ๆ แต่เหมาะสำหรับคนสูบบุหรี่เพราะคนสูบเยอะกว่าคนไม่สูบ
จากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟกันครับแปปเดียวก็วิ่งเข้าไปในเรือละ ทีนี้เท้าผมมันเหม็นผมเลยออกไปล้างบนเรือ พอจะกลับเข้ารถไฟผมจำรถไฟตัวเองไม่ได้มันมีหลายขบวนที่จอดอยู่ ผมเลยขึ้นผิดครับ ดีว่าเพื่อนคนนึงมันเห็นผมเลยตะโกนเรียก ไม่งั้นได้ไปอีกที่ละ ซึ่งครั้งนี้ผมก็โชคดีครับได้นอนกับเพื่อน ผญ. อีกตามเคย ในวันรุ่งเช้าเรามาถึงเมืองใกล้ๆโรมชื่อว่า Formia ครับ เรารอที่เมืองนั้นตั้งแต่ราวๆ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงจึงขึ้นรถไฟไปยังเมือง Arezzo เพื่อต่อบัสไปยังเมืองของเราในชนบทอีกทีนึงครับ
เล่าประสบการณ์ปีนภูเขาไฟ Vulcano หมู่เกาะ Aeolian ประเทศอิตาลี
https://pantip.com/topic/38161875
ที่พักของผมอยู่บนเกาะ Vulcano ซึ่งแปลตรงตัวเลยว่าภูเขาไฟในภาษาอิตาลี ซึ่งมันก็คือภูเขานั่นแหล่ะนะ
ในวันนั้นช่วงที่ลงภูเขาไฟเป็นช่วงที่ลำบากไม่แพ้ตอนขึ้นเลยเพราะเล็บเท้าผมมันหักและปลายรองเท้ามันคับครับ แสบสุดๆเจ็บไม่แพ้เล็บขบเลย ลองนึกเล่นๆดู 2 ชม. ที่คุณต้องเดินแล้วเหมือนมีอะไรจิ้มที่เท้าแรงๆทุกเก้าที่เดิน ช่วงที่เรากำลังลงจากภูเขาไฟนั้นมืดมากครับ ต้องใช้ไฟฉาย ซึ่งไฟฉายของผมดันไม่ค่อยสว่างซะอีก แถมเวลาเดินลงจากภูเขาไฟมีดินจากภูเขาไฟเข้าไปในรองเท้าอีกครับ เดินๆได้แป๊ปเดียวก็เข้ามามาเต็มรองเท้าละ จำได้ลงว่าถึงด้านร่างกันราวๆสามทุ่มกว่าๆเกือบๆสี่ทุ่มจากนั้นก็ขึ้นกันไปบนเรือกลับไปที่เกาะ Vulcano ที่เราพักกันครับ ถึงที่พักราวๆ 5 ทุ่ม ผมอาบน้ำนอนเลย
วันที่ 6 พฤษภาคม 2018
วันนี้ช่วงเช้าเรานั่งฟังไกด์บรรยายเรื่องกำมะถันกันครับ ซึ่งก็นั่งดมไปฟังไปนั่นหล่ะครับ นึกแล้วก็ยังอยากดมอยู่นะ ตอนนั้นมันเหม็น แต่ก็เป็นกลิ่นอายที่ unique จริงๆ
ต่อมาเราก็มาปีนภูเขาไฟ! อะไรเนี่ย??? มีแต่ภูเขาไฟ Etna เอย Stromboli เอย ต่อไปก็ Vulcano !
ภูเขาไฟลูกนี้ต่างจาก Stromboli ตรงที่ปีนง่ายครับ ทางเดินค่อนข้างอำนวยมีให้เป็นทางชัดเจนเลยไม่เหมือน Stromboli
Stromboli ที่ผมปีนมามัน 924 เมตร ส่วน Vulcano แค่ 501 เมตร แต่ก็ปีนนานพอสมควรนะครับ ความเหนื่อยมันจะอยู่ที่ความชันกับเศษหิน
ภาพบรรยากาศด้านบนครับ
จากนั้นยังมีส่วนที่สูงขึ้นมาอีกหน่อยครับ ซึ่งจุดนี่คนส่วนใหญ่ไม่ไปกันเพราะไกด์บอกว่าจะขึ้นไปก็ได้ไม่ขึ้นก็ได้ซึ่งเพื่อนผมมันไม่ไปกัน แต่ผมไปครับ อยากเห็นด้านบน
ในวันรุ่งขึ้นพวกเราก็ออกจากเกาะกันครับ แม้ว่าทั้งหมดนี้ผมจะไม่ได้เขียนเนื้อหาที่ละเอียดเท่าไหร่นัก คิดเป็นเศษ 0.5/4 ส่วน จากเหตุการณ์ทั้งหมดตลอดการเดินทางได้ แต่ขอบอกเลยครับว่ามันผูกพันธ์จริงๆการปืนภูเขาไฟครั้งแรกที่ว่าเหนื่อยและไม่คิดจะปืนเป็นครั้งที่สองของชีวิตแต่ก็ต้องมาปีนอีกครั้งในวันมะรืน การนอนการกินดื่มเที่ยวกับเพื่อนตลอดเวลาเกือบอาทิตย์นี้ การได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเด็กนักเรียนกับอาจารย์ระหว่างการเดินทาง ผมผูกพันธ์กับเกาะ Vulcano ที่ผมพักมาตลอดการเดินทางนี้จริงๆแม้ว่าทีแรกผมจะเสียดายที่ไม่ได้พักที่ Lipari ก็ตาม
บรรยากาศที่ชายหาดของโรงแรมก่อนจะออกจากเกาะ
หลังจากที่เราออกจากเกาะมาเราก็กลับมาที่ Milazzo ครับ เราอยู่ที่นี่ราวชั่วโมงหรือสองชั่วโมงนี่แหล่ะผมจำไม่ได้ เรามีกินอาหารเย็นกันที่นี่ ก่อนที่รถบัสจะมารับเราเพื่อไปยัง Messina
ภาพบรรยากาศเล็กน้อยของ Milazzo ครับ
ภาพถ่าย Messina ยามคำคืนจากบนรถบัส ซึ่งมันสวยกว่านี้แต่มันถ่ายออกมาไม่สวยอ่ะ 55555
คืนนั้นอากาศดีมากครับ พอมาถึงสถานีรถไฟซึ่งปล่าวเปลี่ยวไร้ผู้โดยสารแต่มีคนเร่ร่อนมานอนในสถานีกลิ่นเหม็นตลบอบอวนเชียว ผมกับเพื่อนคนนึงที่ดันปวดฉี่พร้อมกัน คือตอนนั้นผมดูแผนผังสถานีแล้วแต่ผมงงเลยหาห้องน้ำไม่เจอผมเลยถามเพื่อนอีกคนที่กำลังหาเหมือนกัน แปลเป็นไทยได้ประมาณนี้
ผม: กูดูแผนผังสถานีแล้วงงหวะ ว่าห้องน้ำอยู่ไหน
เพื่อน: ไม่ใช่ความผิด กูเป็นคนอิตาเลียนดูแผนผังแล้วกูยังงงเลยว่ามันอยู่ตรงไหน
เราเลยเดินไปเรื่อยๆจนเจอ แต่เผอิญห้องน้ำในสถานีมันปิดครับ ตอนนั้นมันปวดสุดๆจริงๆด้วยความที่สถานีมันร้างเราแทบจะเยี่ยวใส่รางรถไฟแล้วเพราะตอนนั้นไม่มีคน แต่เราไม่ทำครับ ส่วนเรื่องที่เราไปปล่อยกันที่ไหนเป็นความลับครับ
จากนั้นเพื่อนผมมันต้องไปซื้อบุหรี่ครับ แล้วทีนี้มันเลยขออนุญาติอาจารย์ไปซื้อ ตอนนั้นร้านปิดหมด มีแต่ตู้ขายบุหรี่ซึ่งต้องใช้บัตรประชาชนซึ่งเพื่อนผมมันอายุไม่ถึงก็เลยใช้บัตรอาจารย์ซื้อ ในยุโรปหลายๆประเทศคนดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่างที่อิตาลี คุณสามารถสูบบุหรี่ได้ทุกที่ตั้งแต่หน้าโรงเรียนหรือบางโรงเรียนคุณสามารถขอออกมาสูบได้ด้วย ทัศนศึกษาอาจารย์ปล่อยให้นักเรียนสูบได้ปกติซึ่งมันทำให้นักเรียนสูบบุหรี่กันถี่สุดๆเพราะไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยช่วงทัศนศึกษาและคุณครูที่นั่นก็ไม่เอาไปบอกผู้ปกครอง สถานที่บางสถานที่ห้ามสูบแต่คุณกลับสามารถสูบในสถานที่ห้ามสูบนั่นได้อย่างโจ่งแจ้ง ถ้าคุณนั่งอยู่บนบัสแล้วมองไปข้างทางแล้วเจอคน คุณจะเจอคนสูบบุหรี่ครับ เยอะจริงๆดังนั้นยุโรปหลายๆประเทศไม่ใช่ประเทศสำหรับคนที่เกลียดกลิ่นบุหรี่แน่ๆ แต่เหมาะสำหรับคนสูบบุหรี่เพราะคนสูบเยอะกว่าคนไม่สูบ
จากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟกันครับแปปเดียวก็วิ่งเข้าไปในเรือละ ทีนี้เท้าผมมันเหม็นผมเลยออกไปล้างบนเรือ พอจะกลับเข้ารถไฟผมจำรถไฟตัวเองไม่ได้มันมีหลายขบวนที่จอดอยู่ ผมเลยขึ้นผิดครับ ดีว่าเพื่อนคนนึงมันเห็นผมเลยตะโกนเรียก ไม่งั้นได้ไปอีกที่ละ ซึ่งครั้งนี้ผมก็โชคดีครับได้นอนกับเพื่อน ผญ. อีกตามเคย ในวันรุ่งเช้าเรามาถึงเมืองใกล้ๆโรมชื่อว่า Formia ครับ เรารอที่เมืองนั้นตั้งแต่ราวๆ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงจึงขึ้นรถไฟไปยังเมือง Arezzo เพื่อต่อบัสไปยังเมืองของเราในชนบทอีกทีนึงครับ