
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบด้วย 7 จังหวัด Fukuoka, Saga, Nagasaki, Kumamoto, Oita, Miyazaki, Kagoshima ค่ะ เดินทางไปเที่ยวกันได้โดยมีสายการบินตรงจากกทม.สู่ Fukuoka
บนเกาะคิวชูมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกรูปแบบ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทั้งเมืองน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์พร้อมกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นหลากหลากหลาย
วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำแลนมาร์คที่สำคัญในแต่ละจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในญี่ปุ่นให้รู้จักกันอีก
1. อบทรายดำร้อน ณ Ibusuki, Kagoshima
หากอยากมีประสบการณ์การอบทรายร้อนสีดำธรรมชาติที่ดีต่อใจและร่างกายไม่ควรพลาดที่นี่ การนอนอบทรายร้อนได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัย 300 ปีก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องใส่ชุดยูคาตะลงไปนอนบนทรายร้อนๆ จากนั้นก็จะมีพนักงานคอยโกยทรายมากลบที่ตัวให้ ความร้อนจากทรายทำให้รู้สึกสบายตัว เชื่อกันว่าจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายทำงานได้เป็นปกติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับของเสียออกทางเหงื่ออีกด้วย เด็กๆ จนถึงผู้สูงวัย ก็สามารถเข้าใช้บริการอบทรายร้อนนี้ได้


การเดินทาง แวะมาเที่ยวเมืองIbusuki สามารถนั่งรถไฟมาได้จากสถานี Hakata ในจังหวัด Fukuoka
แล้วจากสถานี Ibusuki มีรถบัสในเมืองบริการไปเที่ยวได้สบาย บ่ออบทรายดำร้อนที่แนะนำมี 2 ที่ ดังนี้
Sand bath hall “Saraku” Google Map
Yamakawa Sand Bath Hot Spring “Sayuri” Google Map (Temporarily closed) แต่มีแผนจะเปิดให้บริการที่ครั้งในปีนี้ค่ะ
2. แช่ออนเซ็นชมภูเขาไฟซากุระจิมะ ณ Kagoshima, Kagoshima
ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ปะทุขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคาโกชิม่า ที่พลุกพล่านเพียงแค่สี่กิโลเมตร
คุณสามารถข้ามเรือไปชมภูเขาไฟที่จุดชมวิวที่ใกล้ที่สุดคือ จุดชมวิวYunohira หรือเดินกินลมวิวที่สวนสาธารณะNagisaชมล่องลอยของลาวาที่แข็งตัวจนเป็นแผ่นดินในบริเวณนี้ สิ่งสุดท้ายที่ควรทำที่สุดหลังจากสำรวจเกาะซากุระจิมะมาทั้งวันก็คือ พักผ่อนในบ่อน้ำพุร้อนภูเขาไฟของจริง แวะสปาเท้าสวนสาธารณะNagisa สักนิด ชมทัศนียภาพของซากุระจิมะไปพร้อมกับพักผ่อนเท้าที่เมื่อยล้าก่อนเดินทางกลับเข้า



การเดินทางไปเที่ยวภูเขาไฟซากุระจิมะง่ายๆ เพียงนั่งรถไฟมาได้จากสถานี Hakata ในจังหวัด Fukuoka มาที่สถานี Kagoshima-chuo ในเมือง Kagoshima แล้วเดินไปต่อเรือเฟอร์รี่ไปที่เกาะภูเขาไฟซากุระจิมะค่ะ
Sakurajima Nagisa Park Foot Bath Google Map
3. ชมศาลเจ้าญี่ปุ่นบนเกาะเขตร้อน ณ Aoshima, Miyazaki
เกาะ Aoshima มีแลนด์มาร์คที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากของเกาะแห่งนี้ซึ่งก็คือแนวหินบะซอลต์ (Basalt) ที่เกิดจากลาวาที่เย็นตัวและถูกคลื่นซัด มองดูคล้ายกระดานซักผ้าขนาดใหญ่ บริเวณนี้จึงถูกขนานนามว่า กระดานซักผ้าของยักษ์ นอกจากนี้ที่เกาะ Aoshima มีศาลเจ้าที่ชื่อดังของจังหวัด Miyazaki ตั้งอยู่คือศาลเจ้า Aoshima เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องการขอพรเกี่ยวกับการสมรสและความรัก เกาะ Aoshima มีทางเดินรอบเกาะที่คุณสามารถเดินเล่นรอบๆ เกาะได้ด้วยนะคะ อีกทั้งยังมีพันธุ์พืชกึ่งเขตร้อนมากมายที่คุณไม่เคยเห็นจากที่ไหนในเกาะญี่ปุ่นค่ะ



คุณสามารถเดินทางจากสถานี Miyazaki ไปยังศาลเจ้าได้ด้วยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ก็ได้ง่ายมากเลย
Aoshima Shrine Google Map
4. ล่องเรือชมน้ำตก ณ Takachiho, Miyazaki
หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) อีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวหลักทางธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดMiyazaki เป็นช่องเขาแคบๆ ที่ตัดผ่านหินริมแม่น้ำโกคาเสะ หน้าผาเกือบสูงชันที่เรียงรายไปตามหุบเขานั้นสร้างจากเสาหินบะซอลต์จากการระเบิดของภูเขาไฟอะโสะ ระหว่างทางจะมีน้ำตกสูงที่ลดหลั่นลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง คุณสามารถเลือกชมความงดงามด้วยการเดินเท้าไปตามเส้นทางก็ได้ หรือจะพายเรือชมความงามในมุมที่แตกต่างก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน
หากใครอยากนั่งเรือพาย สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ด้วยนะ
ดูรายละเอียดที่นี่เลย



การเดินทางไปเที่ยว สามารถนั่งรถบัสด่วนจากท่ารถบัสเมืองฟุกุโอกะ Tenjin / Hakata หรือท่ารถบัสเมือง Kumamoto Sakuramachi ตรงไปลงท่ารถบัส Takachiho
Takachiho Gorge Google Map
5. ใส่กิโมโนชมย่านเมืองเก่า ณ Kitsuki, Oita
ย่านเมืองเก่า Kitsuki คิทซึกิ ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ เป็นเขตเมืองซามูไรเก่าแก่ที่ตั้งบนเนิน มีรั้วดินและกำแพงหินแบบดั้งเดิม ด้านล่างเนินสโลปที่สวยงามของแหล่งที่อยู่ของเหล่าซามูไรล้อมย่านที่อยู่อาศัยของบรรดาพ่อค้าเพื่อรักษาความปลอดภัย ลักษณะการสร้างเมืองแบบนี้ถือว่าหาอยู่ได้ยาก
บรรยากาศฉากหลังบ้านเมืองแบบโบราณนี้เหมาะกับการสวมชุดกิโมโนเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ซึ่งที่นี่มีร้านสำหรับเช่าชุดกิโมโนให้นักท่องเที่ยวเลือกเช่าได้ตามความชอบ นอกจากนี้หากใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะนี้เดินเล่นในเมือง ก็จะได้รับบริการส่วนลดพิเศษ


ไปเที่ยวย่านเมืองเก่านั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีจากสถานี Kitsuki มาได้เลยจ๊ะ
พิกัดร้านเช่ากิโมโน
6. ชมบ่อนรกหลากสี ณ Beppu, Oita
ที่นี่ไม่พูดถึงไม่ได้ หลายคนคงรู้จักกันดี เพราะมีเอกลักษณ์หาไม่มีที่อื่น Jigoku Meguri หรือบ่อนรกหลากสีทั้ง 7 แห่งเบปปุ ที่ได้ชื่อมาจากบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำเดือดปุดๆ ฟองโคลนเดือดพล่านและกลุ่มก๊าซที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินอย่างเกรี้ยวกราดประหนึ่งภาพฉากจากนรก มีไฮไลท์อยู่ที่บ่อที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่บ่อทะเลนรกหรือUmi Jigoku ซึ่งมีสีน้ำสีน้ำเงินเหมือนน้ำทะเลและมีความลึกถึง200 เมตร และน้ำพุธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นชื่อบ่อทะเลสาบเลือดหรือ Chinoike Jigoku ที่มีปฏิกริยาใต้พื้นดินก่อให้เกิดการปะทุเป็นโคลนสีแดงออกมา ทำให้น้ำในบ่อกลายเป็นสีแดงไปด้วย


อันล่างนี้เป็นบ่อสีขาว Shiraike Jigoku

การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Beppu ใช้เวลาประมาณ 15ถึง20นาทีมาลงป้าย Kannawa หรือ Umijikoku Mae แล้วเดินเที่ยวบริเวณนี้ได้เลย
7. สวรรค์ของคนรักคุมามง ณ Kumamon Port Yatsushiro, Kumamoto
สถานที่เที่ยวในจังหวัดKumamotoสำหรับคนรักเจ้าหมีจอมกวนอย่างคุมะมง ในพื้นที่สวนที่เต็มไปด้วยรูปปั้นเจ้าหมีคุมะมงในหลากหลายอิริยาบถกระจายตัวอยู่ทั่วไป โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเจ้าหมีคุมามงยักษ์ขนาด 6 เมตรที่ใครๆก็ต้องมาเช็คอิน คุมะมง 12 ราศี กลุ่มคุมะมงคอรัสทั้ง54ตัว และเจ้าตัวอื่นๆที่ซ่อนตัวเนียนๆอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับคุมะมง และร้านขายผลิตภัณฑ์ของฝากจากท้องถิ่นของเมืองYatsushiro ให้ซื้อกลับบ้านกันด้วย



การเดินทางจะลำบากนิดๆ เพราะจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด จากสถานีYatsushiro และจากสถานี Shin-Yatsushiro ไม่มีรถบัสที่ให้บริการไป Kumamon Port Yatsushiro แต่สามารถแท็กซี่ได้ 20 นาทีค่ะ
8. เดินหลังม่านน้ำตก ณ Nabegataki Falls, Kumamoto
น้ำตกNabegataki เป็นน้ำตกขนาดย่อมในหุบเขาจังหวัดคุมาโมโตะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 90,000 ปีก่อนแต่เพิ่งรู้จักกันอย่างกว้างขวางเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองออนเซนชื่อดังอย่าง Kurokawa Onsen มีจุดเด่นคือความสวยงามที่เกิดจากผืนน้ำตกที่แผ่ตัวเป็นแนวกว้างมองดูคล้ายม่านใหญ่สีขาว โดยด้านหลังของม่านน้ำตกจะสามารถเดินเข้าไปได้ด้วย ไม่ค่อยเห็นน้ำตกที่เดินเข้าด้านหลังได้ จึงเลือกมาแนะนำกัน



การเดินทาง ต้องขับรถไปเท่านั้นค่ะ
และเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตจึงต้องมีการซื้อตั๋วก่อนไป ที่
ที่ Webket ของเมือง Oguni
(ช่วงนี้น้ำตกปิดปรับปรุงและจะให้บริการอีกครั้ง ช่วงเดือนเมษายน 2024)
Nabegataki Falls Google Map
เดี๋ยวมาต่ออีก 3 จังหวัดนะคะ
-----
ปักหมุด14แลนมาร์ค ณ คิวชู เหนือจรดใต้เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบด้วย 7 จังหวัด Fukuoka, Saga, Nagasaki, Kumamoto, Oita, Miyazaki, Kagoshima ค่ะ เดินทางไปเที่ยวกันได้โดยมีสายการบินตรงจากกทม.สู่ Fukuoka
บนเกาะคิวชูมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกรูปแบบ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทั้งเมืองน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์พร้อมกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นหลากหลากหลาย
วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำแลนมาร์คที่สำคัญในแต่ละจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในญี่ปุ่นให้รู้จักกันอีก
1. อบทรายดำร้อน ณ Ibusuki, Kagoshima
หากอยากมีประสบการณ์การอบทรายร้อนสีดำธรรมชาติที่ดีต่อใจและร่างกายไม่ควรพลาดที่นี่ การนอนอบทรายร้อนได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัย 300 ปีก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องใส่ชุดยูคาตะลงไปนอนบนทรายร้อนๆ จากนั้นก็จะมีพนักงานคอยโกยทรายมากลบที่ตัวให้ ความร้อนจากทรายทำให้รู้สึกสบายตัว เชื่อกันว่าจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายทำงานได้เป็นปกติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับของเสียออกทางเหงื่ออีกด้วย เด็กๆ จนถึงผู้สูงวัย ก็สามารถเข้าใช้บริการอบทรายร้อนนี้ได้
การเดินทาง แวะมาเที่ยวเมืองIbusuki สามารถนั่งรถไฟมาได้จากสถานี Hakata ในจังหวัด Fukuoka
แล้วจากสถานี Ibusuki มีรถบัสในเมืองบริการไปเที่ยวได้สบาย บ่ออบทรายดำร้อนที่แนะนำมี 2 ที่ ดังนี้
Sand bath hall “Saraku” Google Map
Yamakawa Sand Bath Hot Spring “Sayuri” Google Map (Temporarily closed) แต่มีแผนจะเปิดให้บริการที่ครั้งในปีนี้ค่ะ
2. แช่ออนเซ็นชมภูเขาไฟซากุระจิมะ ณ Kagoshima, Kagoshima
ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ปะทุขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคาโกชิม่า ที่พลุกพล่านเพียงแค่สี่กิโลเมตร
คุณสามารถข้ามเรือไปชมภูเขาไฟที่จุดชมวิวที่ใกล้ที่สุดคือ จุดชมวิวYunohira หรือเดินกินลมวิวที่สวนสาธารณะNagisaชมล่องลอยของลาวาที่แข็งตัวจนเป็นแผ่นดินในบริเวณนี้ สิ่งสุดท้ายที่ควรทำที่สุดหลังจากสำรวจเกาะซากุระจิมะมาทั้งวันก็คือ พักผ่อนในบ่อน้ำพุร้อนภูเขาไฟของจริง แวะสปาเท้าสวนสาธารณะNagisa สักนิด ชมทัศนียภาพของซากุระจิมะไปพร้อมกับพักผ่อนเท้าที่เมื่อยล้าก่อนเดินทางกลับเข้า
การเดินทางไปเที่ยวภูเขาไฟซากุระจิมะง่ายๆ เพียงนั่งรถไฟมาได้จากสถานี Hakata ในจังหวัด Fukuoka มาที่สถานี Kagoshima-chuo ในเมือง Kagoshima แล้วเดินไปต่อเรือเฟอร์รี่ไปที่เกาะภูเขาไฟซากุระจิมะค่ะ
Sakurajima Nagisa Park Foot Bath Google Map
3. ชมศาลเจ้าญี่ปุ่นบนเกาะเขตร้อน ณ Aoshima, Miyazaki
เกาะ Aoshima มีแลนด์มาร์คที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากของเกาะแห่งนี้ซึ่งก็คือแนวหินบะซอลต์ (Basalt) ที่เกิดจากลาวาที่เย็นตัวและถูกคลื่นซัด มองดูคล้ายกระดานซักผ้าขนาดใหญ่ บริเวณนี้จึงถูกขนานนามว่า กระดานซักผ้าของยักษ์ นอกจากนี้ที่เกาะ Aoshima มีศาลเจ้าที่ชื่อดังของจังหวัด Miyazaki ตั้งอยู่คือศาลเจ้า Aoshima เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องการขอพรเกี่ยวกับการสมรสและความรัก เกาะ Aoshima มีทางเดินรอบเกาะที่คุณสามารถเดินเล่นรอบๆ เกาะได้ด้วยนะคะ อีกทั้งยังมีพันธุ์พืชกึ่งเขตร้อนมากมายที่คุณไม่เคยเห็นจากที่ไหนในเกาะญี่ปุ่นค่ะ
คุณสามารถเดินทางจากสถานี Miyazaki ไปยังศาลเจ้าได้ด้วยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ก็ได้ง่ายมากเลย
Aoshima Shrine Google Map
4. ล่องเรือชมน้ำตก ณ Takachiho, Miyazaki
หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) อีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวหลักทางธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดMiyazaki เป็นช่องเขาแคบๆ ที่ตัดผ่านหินริมแม่น้ำโกคาเสะ หน้าผาเกือบสูงชันที่เรียงรายไปตามหุบเขานั้นสร้างจากเสาหินบะซอลต์จากการระเบิดของภูเขาไฟอะโสะ ระหว่างทางจะมีน้ำตกสูงที่ลดหลั่นลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง คุณสามารถเลือกชมความงดงามด้วยการเดินเท้าไปตามเส้นทางก็ได้ หรือจะพายเรือชมความงามในมุมที่แตกต่างก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน
หากใครอยากนั่งเรือพาย สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ด้วยนะ ดูรายละเอียดที่นี่เลย
การเดินทางไปเที่ยว สามารถนั่งรถบัสด่วนจากท่ารถบัสเมืองฟุกุโอกะ Tenjin / Hakata หรือท่ารถบัสเมือง Kumamoto Sakuramachi ตรงไปลงท่ารถบัส Takachiho
Takachiho Gorge Google Map
5. ใส่กิโมโนชมย่านเมืองเก่า ณ Kitsuki, Oita
ย่านเมืองเก่า Kitsuki คิทซึกิ ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ เป็นเขตเมืองซามูไรเก่าแก่ที่ตั้งบนเนิน มีรั้วดินและกำแพงหินแบบดั้งเดิม ด้านล่างเนินสโลปที่สวยงามของแหล่งที่อยู่ของเหล่าซามูไรล้อมย่านที่อยู่อาศัยของบรรดาพ่อค้าเพื่อรักษาความปลอดภัย ลักษณะการสร้างเมืองแบบนี้ถือว่าหาอยู่ได้ยาก
บรรยากาศฉากหลังบ้านเมืองแบบโบราณนี้เหมาะกับการสวมชุดกิโมโนเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ซึ่งที่นี่มีร้านสำหรับเช่าชุดกิโมโนให้นักท่องเที่ยวเลือกเช่าได้ตามความชอบ นอกจากนี้หากใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะนี้เดินเล่นในเมือง ก็จะได้รับบริการส่วนลดพิเศษ
ไปเที่ยวย่านเมืองเก่านั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีจากสถานี Kitsuki มาได้เลยจ๊ะ
พิกัดร้านเช่ากิโมโน
6. ชมบ่อนรกหลากสี ณ Beppu, Oita
ที่นี่ไม่พูดถึงไม่ได้ หลายคนคงรู้จักกันดี เพราะมีเอกลักษณ์หาไม่มีที่อื่น Jigoku Meguri หรือบ่อนรกหลากสีทั้ง 7 แห่งเบปปุ ที่ได้ชื่อมาจากบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำเดือดปุดๆ ฟองโคลนเดือดพล่านและกลุ่มก๊าซที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินอย่างเกรี้ยวกราดประหนึ่งภาพฉากจากนรก มีไฮไลท์อยู่ที่บ่อที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่บ่อทะเลนรกหรือUmi Jigoku ซึ่งมีสีน้ำสีน้ำเงินเหมือนน้ำทะเลและมีความลึกถึง200 เมตร และน้ำพุธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นชื่อบ่อทะเลสาบเลือดหรือ Chinoike Jigoku ที่มีปฏิกริยาใต้พื้นดินก่อให้เกิดการปะทุเป็นโคลนสีแดงออกมา ทำให้น้ำในบ่อกลายเป็นสีแดงไปด้วย
อันล่างนี้เป็นบ่อสีขาว Shiraike Jigoku
การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Beppu ใช้เวลาประมาณ 15ถึง20นาทีมาลงป้าย Kannawa หรือ Umijikoku Mae แล้วเดินเที่ยวบริเวณนี้ได้เลย
7. สวรรค์ของคนรักคุมามง ณ Kumamon Port Yatsushiro, Kumamoto
สถานที่เที่ยวในจังหวัดKumamotoสำหรับคนรักเจ้าหมีจอมกวนอย่างคุมะมง ในพื้นที่สวนที่เต็มไปด้วยรูปปั้นเจ้าหมีคุมะมงในหลากหลายอิริยาบถกระจายตัวอยู่ทั่วไป โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเจ้าหมีคุมามงยักษ์ขนาด 6 เมตรที่ใครๆก็ต้องมาเช็คอิน คุมะมง 12 ราศี กลุ่มคุมะมงคอรัสทั้ง54ตัว และเจ้าตัวอื่นๆที่ซ่อนตัวเนียนๆอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับคุมะมง และร้านขายผลิตภัณฑ์ของฝากจากท้องถิ่นของเมืองYatsushiro ให้ซื้อกลับบ้านกันด้วย
การเดินทางจะลำบากนิดๆ เพราะจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด จากสถานีYatsushiro และจากสถานี Shin-Yatsushiro ไม่มีรถบัสที่ให้บริการไป Kumamon Port Yatsushiro แต่สามารถแท็กซี่ได้ 20 นาทีค่ะ
8. เดินหลังม่านน้ำตก ณ Nabegataki Falls, Kumamoto
น้ำตกNabegataki เป็นน้ำตกขนาดย่อมในหุบเขาจังหวัดคุมาโมโตะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 90,000 ปีก่อนแต่เพิ่งรู้จักกันอย่างกว้างขวางเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองออนเซนชื่อดังอย่าง Kurokawa Onsen มีจุดเด่นคือความสวยงามที่เกิดจากผืนน้ำตกที่แผ่ตัวเป็นแนวกว้างมองดูคล้ายม่านใหญ่สีขาว โดยด้านหลังของม่านน้ำตกจะสามารถเดินเข้าไปได้ด้วย ไม่ค่อยเห็นน้ำตกที่เดินเข้าด้านหลังได้ จึงเลือกมาแนะนำกัน
การเดินทาง ต้องขับรถไปเท่านั้นค่ะ
และเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตจึงต้องมีการซื้อตั๋วก่อนไป ที่ ที่ Webket ของเมือง Oguni
(ช่วงนี้น้ำตกปิดปรับปรุงและจะให้บริการอีกครั้ง ช่วงเดือนเมษายน 2024)
Nabegataki Falls Google Map
เดี๋ยวมาต่ออีก 3 จังหวัดนะคะ
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : https://www.facebook.com/japan.discovery.thai/
เพิ่มเป็นเพื่อนทาง Line ที่ bit.ly/JDpantip นะคะ มี SUNQ Pass จำหน่ายค่ะ