12 พิกัดจาก4เมืองคิวชู คัดสรรที่เที่ยวใหม่ที่คุณอาจจะยังไม่รู้จัก

สวัสดีค่ะ ใกล้ถึงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น หลายคนวางแผนกำลังจะไปเที่ยวชมดอกไม้ที่คิวชู
วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำจุดท่องเที่ยวน่าสนใจแห่งคิวชู - 4 เมืองนี้ห้ามพลาด เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับการวางแผนทริปถัดไป
4 เมืองที่ว่านี้คือ เมืองฟุกุโอกะ Fukuoka เมืองคิตะคิวชู Kitakyushu เมืองฮิตะ Hita และเมืองซาเซโบะ Sasebo

เหตุผลที่เลือก 4 เมืองนี้มาแนะนำเพราะเป็นเมืองที่เพียบพร้อมไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ และรถบัส จึงสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่าย มีของอร่อยราคาไม่แพง และจุดถ่ายรูปมากมายที่คุณห้ามพลาด
 
เรามาเริ่มกันที่ เมืองฟุกุโอกะ
 
เมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองที่มีประชากรมากกว่า 1.6 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจในคิวชู
ในฐานะ "ประตูสู่เอเชีย" มีบริการทางอากาศระหว่างประเทศเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงที่ดีเยี่ยม เช่น จากสนามบิน Fukuoka ใช้เวลาเพียง 5 นาทีไปยังสถานี Hakata และ 11 นาทีถึง Tenjin เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านแหล่งช้อปปิ้ง แผงขายอาหารยาไต และยังมีศาลเจ้าและวัดเก่าแก่ในเมืองที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีอาหารท้องถิ่นรสเลิศมากมาย เช่น ฮากาตะราเมง ยากิโทริ
 
เราไปดูพิกัดที่เที่ยวอัพเดตที่เราเลือกมาวันนี้เลย...
1. ขี่จักรยานE-bike ริมชายหาดคาบสมุทร Kitazaki 
 
กิจกรรมนี้เข้ากับคอนเซ็ปลดโลกร้อนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากจุดท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณชายหาดยาว จึงเหมาะที่จะปั่นจักรยานเที่ยวลัดเลาะริมหาด ดังนั้นจักรยานไฟฟ้า หรือ E-BIKE ถือเป็นทางเลือกที่เข้าท่า เพราะเราสามารถปั่นไป ชมวิวไป หรือจะจอดแวะถ่ายรูป จิบชากาแฟตามคาเฟ่ชิคๆ รายทาง เพราะจักรยานไฟฟ้านี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 130 กิโลเมตร จากการชาร์จไฟประมาณ 3 ชั่วโมง 

 
การเดินทางไปที่เช่าจักรยาน จากสถานี Hakata มีรถบัสของ Showa Bus ชื่อ West Coast Liner ให้บริการวิ่งตรงไปที่คาบสมุทร Kitazaki จอดที่แลนด์มาร์กต่างของที่นี่เลย 
เช่น ป้าย Zauo Honten มีชิงช้าริมหาด
 
ป้ายPalm Beach มีคาเฟ่หน้านั่งหลายร้าน
 
หรือลงที่ร้านเช่าจักรยานแล้วขี่จักรยานเที่ยวเองก็ได้
สำหรับค่าเช่า E-BIKE อยู่ที่ 3,300 เยน / 2 ชม. หรือจะเช่าทั้งวันจะอยู่ที่ 5,500 เยน 
พิกัด https://goo.gl/maps/Sr9XEF8NcCY5bcVGA
URL https://yokanavi.com/en/feature/219806/
 
2. อุมิโนะนากามิชิ ซีไซด์ ปาร์ค Uminonakamichi Seaside Park (Segway Tour)
 
ชมสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อุมิโนะนากามิชิ ซีไซด์ ปาร์ค สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและกิจกรรมมากมายของชาวฟุกุโอกะและนักท่องเที่ยว ที่นี่มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์เล็กๆ ชิงช้าสวรรค์ สวนน้ำและสนามเด็กเล่นที่มีเครื่องเล่นปีนป่ายให้เด็กๆ ได้เล่นและออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน
 

แล้วก็มีกิจกรรมที่ทำได้เลยคือ การใช้เซ็กเวย์ (Segway) เป็นพาหนะในการท่องชมสวนกว้างใหญ่แห่งนี้ ซึ่งก่อนที่เราจะใช้ เค้าจะมีคนสอนวิธีบังคับซึ่งฃพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย จากนั้นก็จะใช้เซ็กเวย์พาเราไปชมสวนดอกไม้และพื้นที่อื่นๆ กว้างใหญ่แค่ไหนก็ไปได้แล้ว นี่จึงเป็นวิธีเที่ยวชมสวนที่ดีมากเลยทีเดียว ในฤดูใบไม้ผลิมีดอกเนโมฟีล่า ดอกซากุระให้ชมด้วยค่ะ
 

กิจกรรม Segway ใช้เวลา 3 ชม. ราคา 9000 เยน
หากใครสนใจลองดูรายละเอียดการจอง ที่Klook ได้เลย
การเดินทาง เราสามารถนั่งรถไฟ ลงสถานี Uminonakamichi Station ได้เลย
 
3. เดอะ ซี ดรากูน (THE SEA DRAGOON) เครื่องเล่นปีนป่ายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
 
จากอุมิโนะนากามิชิ ซีไซด์ ปาร์ค แล้วเดินมาประมาณ 15 นาที ที่นี่เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นประเภทปีนป่ายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ชื่อว่า “THE SEA DRAGOON” ซึ่งมีเท่าตึก 3 ชั้น สูง 16.8 เมตร และมีความสูงและความยากหลายระดับให้เราได้เลือก คือไม่ใช่แค่เพียงเดินไต่ไปเรื่อยๆ แต่จะมีบางช่วงให้ใช้ทักษะการทรงตัวบ้าง ข้าม กระโดดบ้าง พอให้ตื่นเต้น โดยก่อนเล่นก็ไม่ต้องห่วง เค้าจะสอนวิธีการเล่น การใช้ตะขอเกี่ยว และความปลอดภัยที่เซฟเราอย่างเต็มพิกัด หากใครได้ขึ้นไปสู่เส้นชัย ก็จะได้วิวสวยงามของอ่าวฮากาตะเป็นรางวัล ใครไม่ได้เล่นก็สามารถขึ้นไปเชียร์บนดาดฟ้าชมวิวได้เหมือนกัน
 
หากใครสนใจลองดูรายละเอียดการซื้อบัตรล่วงหน้า ที่ Rakuten ได้เลยค่ะ
 
4. BOSS E×ZO FUKUOKA 
ธีมพาร์คแหล่งใหม่บนอาคารสูง 7 ชั้น มีกิจกรรมที่ไม่ธรรมดาให้เลือกทำมากมาย ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลติดกับ PayPay Dome หรือสนามเบสบอลประจำเมืองฟุกุโอกะ นับเป็นสถานบันเทิงที่มีทั้งอาหารจากร้านชื่อดัง และกิจกรรมว้าวๆ อย่าง teamLab Forest FUKUOKA ที่อยู่ชั้น 5 จัดแสดงแสงสี เสียง ที่มีการเคลื่อนไหว อลังการสุดไฮเทค โดยจะแบ่งเป็นหลายๆ โซน โดยแต่ละโซนก็จะให้เราให้มีส่วนร่วมในการทำให้พื้นที่นั้นๆ มีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว เช่น เดินข้ามสะพานเมโลดี้ เวลาเราเหยียบลงไปตรงไหนก็จะมีแสงสีที่เปลี่ยนไปพร้อมกับมีเสียงดนตรี หรือห้องที่มีลูกโป่งใหญ่น้อยหลากสี หากเราไปจับลูกโป่งลูกไหน ลูกโป่งนั้นก็จะเปลี่ยนสี หรือถ้าเราโยน บรรยากาศ สีสันรอบข้างก็จะเปลี่ยนแปลงไป เรียกได้ว่าทั้งสนุก ทั้งตื่นตาตื่นใจ ทั้งถ่ายรูปกันได้ไม่มีหยุด



ชั้นบนสุดก็ห้ามพลาด เครื่องเล่นท้าประลองความกล้ารอคุณอยู่ ใครไม่กลัวความสูงก็ควรลอง ทั้งเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์แบบห้อยตัว (Zipline) อยู่บนยอดตึกเลย มีบางจุดที่เหวี่ยงออกมานอกตัวตึกให้ได้หวาดเสียวเล่น ถ้าไม่กลัวก็อย่าลืมชมวิวทะเลกันล่ะ หรือจะเป็นเป็นสไลเดอร์ความยาว 100 เมตร (ความสูง 40 เมตร) ที่ให้เราไหลผ่านท่อที่บางช่วงจะเป็นท่อใสๆ จากยอดตึกลงมาชั้นล่างสุด และเครื่องเล่นอีกตัวคือหน้าผาจำลองสูง 10 เมตรบนยอดตึก ใครชอบแนวนี้ก็มาลองได้เลย



รูปภาพ © BOSS E・ZO FUKUOKA
การเดินทาง จากรถไฟใต้ดิน「สถานีTojinmachi」แล้วเดินประมาณ 15 นาที
URL: https://yokanavi.com/en/spot/194696/



เมืองถัดไป เมืองคิตะคิวชู Kitakyushu
 
เมืองคิตะคิวชูซึ่งสามารถไปได้จากสถานีฮากาตะ เพียง 15 นาทีโดยชินคันเซ็น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดฟุกุโอกะซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของคิวชูและหันหน้าไปทางเกาะฮอนชูฝั่งตรงข้ามช่องแคบคันมง ปราสาทโคคุระ โมจิโกะเรโทร และสวนดอกวิสทีเรียคาวาจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม นอกจากนี้ยงมีธรรมชาติอันงดงามของฮิราโอไดซึ่งเป็นหนึ่งในสามของภูเขาหินขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น และภูเขาซาราคุระ ซึ่งเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร เช่น แกงกะหรี่ย่าง และอาหารทะเลสด เช่น ปลาปักเป้า
 
เราไปดูพิกัดที่เลือกมาอัพเดตเลย...

5. โมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro District)

การเดินทาง นั่งรถไฟจากสถานีโคคุระ (Kokura Station) ไปลงที่ สถานีโมจิโกะ (Mojiko Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ที่นี่เคยเป็นย่านการค้าขนส่งระหว่างประเทศของเกาะคิวชู บริเวณท่าเรือโมจิ (Mojiko Port) ทำให้มีอาคารสไตล์ตะวันตกอยู่จำนวนมาก จึงออกแนวๆ ย้อนยุค อาคารส่วนใหญ่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี ศูนย์การค้า
ที่นี่มีวิวสวยๆ ให้เที่ยว มุมดีๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟโมจิโกะ ที่เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก อาคารนี้เป็นหนึ่งในสมบัติของวัฒนธรรมแห่งชาติ โดยเพิ่งบูรณะใหม่เมื่อปี 2019 ภายในยังมีคาเฟ่ที่ออกแบบตกแต่งให้เข้ากันกับตัวอาคารอีกด้วย
 
ตึกเรทโทรสไตล์ตะวันตก มีให้ชมมากมาย


สะพานBlue Wing ที่จะมีการยกสะพานขึ้นทุกชม. 
 
วิวจากห้องวิว Mojiko Retro Observation Room
 
6. ศาลเจ้าเมคาริ (Mekari Shrine)
ที่นี่สามารถเดินทางมาได้โดยรถเมล์ โดยมาลงที่ป้ายเมคาริ จินจามาเอะ (Mekari Jinja-mae) หรือจะนั่งแท็กซีจากสถานีโมจิโกะ (Mojiko Station) ก็ประมาณ 7 นาที
ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ริมทะเลเชิงสะพานคันมง (Kanmon Bridge) ที่ใช้ข้ามระหว่างเกาะคิวชูกับเกาะฮอนชู  เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อของสองทะเล คือทะเลญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิค ทำให้เกิดกระแสน้ำวนซึ่งเป็นจุดที่อันตราย แต่ยังคงเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของที่นี่ ผู้สัญจรทางเรือจึงไหว้ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ปกป้องคุ้มครอง แถมยังเป็นจุดชมวิวงามๆ ที่มีเสาโทริอิและมีฉากหลังเป็นทะเลและสะพานคันมง
สวยมากๆค่ะที่นี่



เดี๋ยวมาต่อที่นะคะ...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่