แผนเที่ยวคิวชู 5 วัน โดย JR Kyushu Rail Pass - All area

สำหรับตอนนี้ใครมีตั๋วไปเที่ยวฟุกุโอกะ เกาะคิวชูแล้วยังไม่ได้วางแผน เรามีตัวเลือกแผนการเดินทางเที่ยวคิวชู 5 วันด้วยตัวเองโดยรถไฟมาแชร์กันในวันนี้ค่ะ
 
คิวชูมีหลายสถานที่ที่น่าไป จะไปทั้งทีแล้วก็ควรไปให้ครอบคลุม เอาให้ครบตั้งแต่เหนือจรดใต้  แต่ถ้าต้องเดินทางหลายจังหวัดก็ต้องกินเงินเราไปหลายอยู่ จึงอยากแนะนำให้ใช้ JR Kyushu Rail Pass ในการเดินทางในคิวชู ซึ่งเค้ามีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ Northern Kyushu, Southern Kyushu และ All Kyushu และยังมีจำนวนวันให้เลือกอีกคือ 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน แบบไหนเข้ากับการเดินทางของคุณ ก็เลือกได้ตามใจชอบเลย


ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ JR Kyushu Rail Pass ที่นี่
https://www.jrkyushu.co.jp/english/thai/kyushurailpass/

เกร็ดเล็กน้อยสำหรับ JR Kyushu Rail Pass 
คุณสามารถซื้อพาสได้โดยตรงที่เว็บไซด์หลักของ JR Kyushu “JR KYUSHU RAIL PASS Online Booking
สามารถซื้อพาสได้ล่วงหน้า 3 เดือนและสามารถทำการจองที่นั่งรถไฟในเว็บเดียวกันได้ด้วยล่วงหน้า 1 เดือน

ครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวคิวชู 5 วัน โดย JR Kyushu Rail Pass - All area โดยพาสนี้จะใช้เดินทางได้ทั่วภูมิภาคคิวชู ไม่ว่าจะนั่งรถไฟธรรมดา รถไฟด่วน ชินคันเซ็น หรือรถไฟท่องเที่ยวที่มีหลากหลายรูปแบบและออกแบบเก๋ๆ ก็ได้ทั้งนั้น แถม All Kyushu Pass แบบ 5 วันของเรา ยังสามารถใช้แบบจองที่นั่งได้ไม่จำกัดครั้งอีกด้วย เรียกว่าคุ้มมากๆ
 
มีพาสสุดคุ้มอยู่ในมือแล้ว แผนเดินทางของเราเป็นไปตามนี้
Day 1 (วันพฤหัสบดี)
Hakata - นั่งรถไฟ 36+3  → เที่ยว คุมาโมโตะ Kumamoto (ปราสาทคุมาโมโตะ, ถนน Shimotori, ร้าน Yatai Mura Kumamoto)
Day 2
Kumamoto - นั่งชินคันเซ็น → Kagoshima-Chuo - นั่งรถไฟอิบูทามะ → เที่ยว Ibusuki (Sand bath, นางาซากิบานะ)
Day 3
เที่ยว Kagoshima Chuo (Sakurajima, Tenmonkan, กินชิโระคุมะ) - นั่งShinkansen → Shin-Tosu → เที่ยว Takeo Onsen (Mifuneyama Rakuen, ศาลเจ้า Takeo)
Day 4 (อาทิตย์)
ทาเคโอะออนเซ็น - นั่งรถไฟ  Futatsuboshi 4047 → เที่ยว Nagasaki (glover garden/Inasayama ฯลฯ)
Day 5
เที่ยว Nagasaki (สวนสันติภาพ/เมกาเนบาชิ ฯลฯ) - นั่งชินคันเซ็น Kamome / Kamome Relay→ กลับ Hakata
 
ไปดูรายละเอียดแต่ละวันกันค่ะ
Day 1 (วันพฤหัสบดี)
Hakata - นั่งรถไฟ 36+3  → เที่ยว คุมาโมโตะ Kumamoto (ปราสาทคุมาโมโตะ, ถนน Shimotori, ร้าน Yatai Mura Kumamoto)
 
ที่แรกที่เราจะไปคือ จังหวัดคุมาโมโตะ เราจะเริ่มใช้พาส JR Kyushu Rail Pass - All area 5 วันนี้เลย รถไฟขบวนแรกที่เราจะใช้ ชื่อว่า 36+3 หรือออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Sanju-Roku plus San รถไฟนี้จะออกจากสถานีฮากาตะ ไปคุมาโมโตะ ในวันพฤหัสฯเท่านั้น เพราะฉะนั้นใครจะขึ้นต้องดูวันให้ดีๆ อ้อ! ขึ้นขบวนนี้ ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่เพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ เราก็ยอมจ่าย รถไฟคันนี้เป็นรถไฟReserve seatทั้งขบวน เพราะฉะนั้นอย่าลืมจองที่นั่งที่ JR KYUSHU RAIL PASS Online Booking กันก่อนขึ้นนะคะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและตารางนี้อื่นๆที่นี่เลย
https://www.jrkyushu.co.jp/english/pdf/what_is_36plus3.pdf
ในอนาคตหากURLข้างบนเดี้ยงไปแล้วตามดูรายละเอียดได้ที่นี่ ข้อมูลรถไฟทั้งหมดในคิวชู

 
แล้ว 36+3 ที่เรารอคอยก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาที่ชานชาลา หน้าตาเท่มาก ตัวรถสีดำ เงามันวับ มีนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นมาถ่ายรูปเจ้ารถไฟขบวนนี้กันเพียบ
ความเป็นมาของ 36+3 นี่ก็ไม่เบา เป็นที่รู้ๆ กันว่ารถไฟของญี่ปุ่นนั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน ทั้งการใช้งาน การออกแบบ การบริการ คนออกแบบตกแต่งภายในเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบรถไฟ Seven Stars หนึ่งในรถไฟของคิวชูที่หรูหราที่สุดในโลก ส่วนชื่อ 36+3 ที่ตั้งขึ้นนั้นก็มีที่มาว่า คิวชูเป็นเกาะใหญ่เป็นอันดับที่ 36 ของโลก  +3 ก็คือสามคำนี้ Surprise Impression และ Happiness ที่คุณจะได้รับระหว่างนั่งรถไฟขบวนนี้ แถมชื่อยังเป็นการเล่นคำอีกด้วย เพราะเลข 39 ในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า “ซัน-คิว” ซึ่งคล้ายกับการออกเสียง “Thank you” ในภาษาอังกฤษ
 
เห็นข้างนอกก็ว้าวแล้ว พอมาเห็นข้างในก็ต้องร้อง สุโก้ย มันอลังซะจริงๆ  จะออกแนวญี่ปุ่นผสมตะวันตก มีทั้งหมด 6 ตู้ ตู้ที่ 1 และ 2 จะเป็นตู้ส่วนตัว มีโซฟา โต๊ะ โคมไฟ ตู้ที่ 3 เป็นบาร์ขายเครื่องดื่ม ของว่าง หรือสินค้าท้องถิ่นของที่ระลึก ตู้ที่ 4 เป็นเลาจน์ ส่วนตู้ที่ 5 และ 6 คือที่นั่งปกติ  วิ่งให้บริการแตกต่างกัน 5 เส้นทางทั่วคิวชู
วันพฤหัสบดี รถไฟจะวิ่งจากฮากาตะ ฟุกุโอกะลงไปคุมาโมโตะและคาโกชิมะ-ชูโอ
วันศุกร์ รถไฟจะไปทางใต้ของเกาะจากคาโกชิมะ-ชูโอไปยังมิยาซากิ
วันเสาร์ จะวิ่งเลียบชายฝั่งตะวันออกของคิวชูจากมิยาซากิไปยังเบปปุ
วันอาทิตย์ ออกจากโออิตะแล่นกลับมายังฮากาตะ
วันจันทร์ จากสถานีฮากาตะไปยังเมืองซาเซโบะ
  
ระหว่างทางมีจอดที่สถานี Yamaga แล้วก็จะมีคนท้องถิ่นออกมาต้อนรับพวกเรากันค่ะ มาคอยยืนโบกมือ โบกธง ชูป้ายทักทาย เรียกว่าสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการ แล้วที่สถานีเราสามารถลงไปเลือกดูเลือกซื้อของท้องถิ่นได้ด้วย
 



เมื่อถึงคุมาโมโตะ บ้านเกิดของหมีคุมามงที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ที่แรกที่เราจะไปเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) 
โดยจากสถานีรถไฟ JR Kumamoto นั่งรถรางมาลงที่สถานี Kumamoto Castle/City Hall Station 
 
ปราสาทคุมาโมโตะ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักคุ้นหูกันเป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในปราสาทที่น่าประทับใจที่สุดของญี่ปุ่น มีอายุกว่า 400 ปี เปลี่ยนผ่านผู้ครอบครองมาคนแล้วคนเล่า ปรักหักพังทั้งจากกาลเวลา ภัยสงครามและภัยธรรมชาติ แต่ก็บูรณะขึ้นมาใหม่โดยยังคงรักษารายละเอียดทั้งวิธีการก่อสร้าง และใช้วัสดุให้เหมือนของเดิมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีซากุระปลูกอยู่รอบๆ ปราสาทอีกราว 800 ต้นนั้น ก็ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวซากุระที่ไม่ควรพลาด 



ปัจจุบันแม้จะอยู่ในระหว่างบูรณะ ซึ่งต้องอาจต้องใช้เวลาถึง 20 ปี แต่ปราสาทแห่งนี้ก็ยังยิ่งใหญ่ สง่างามน่าเกรงขามอยู่เสมอ
ใกล้ปราสาทยังมีเมืองจำลอง Josaien ที่มีของท้องถิ่นของคุมาโมโตะขายเพียบ แถมยังมีร้านอาหารมากมายให้เลือกอึกด้วย
 
เดินเที่ยวปราสาทคุมาโมโตะจนหมดแรงแล้ว เดินมาไม่ไกลประมาณ 5 นาทีก็ถึงแลนด์มาร์คของความอร่อยแห่งใหม่ เพิ่งเปิดมาไม่นานนัก Yatai Mura
 ที่รวมร้านอาหารสิบกว่าร้านให้เลือกกินหลากหลาย ทั้งชาบูชาบู อาหารอิตาเลียน โอเด้ง ฯลฯ โดยนำบรรยากาศแนวยาไต (Yatai) อาหารริมทางมาให้สัมผัสกันดูบ้าง คือมีเคาน์เตอร์ขายอาหารและรับลูกค้าได้ 8 คน มีตู้กดโชจูอัตโนมัติจาก 27 โรงกลั่นมาให้ลองชิมในราคาน่ารัก ไม่กลัวเมาก็ไปกดกันให้ครบ แต่ไม่ใช่แค่อาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
 


   
นอกจากนี้ในเมืองคุมาโมโตะยังมีถนนคนเดินสำหรับช็อปปิ้งเพลินได้ที่นี่เลย ถนนShimodori
 
เดินจนเหนื่อยเราไปพักผ่อนกันก่อน เก็บแรงไปเที่ยววันถัดไป
 
Day 2 
คุมาโมโตะ - ใช้ชินคันเซ็น → คาโกชิมะ ชูโอ - รถไฟใช้อิบูทามะ → เที่ยว อิบุสึกิ (Sand bath, นางาซากิบานะ
สถานีคาโกชิมะชูโอ
 
ออกเที่ยววันที่ 2 ของเรา เป้าหมายที่จะไปคือ อิบุสึกิ เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องออนเซ็นอีกเมืองหนึ่งในคิวชู โดยต้องไปเปลี่ยนรถไฟอีกขบวนที่สถานีคาโกชิมะชูโอ เราจึงออกจากคุมาโมโตะไปคาโกชิมะ ชูโอโดยชินคันเซ็น รถไฟหัวกระสุนที่ทันสมัย
จนถึงสถานีคาโกชิมะชูโอ ที่นี่นับว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟที่พลุกพล่าน มีคนสัญจรเป็นจำนวนมาก จึงมีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และมีชิงช้าสวรรค์ยักษ์ตั้งตระหง่าน
จากที่นี่เรานั่งรถไฟอิบุทามะไปอิบุสึกิ รถไฟขบวนนี้ก็หน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้พี่ๆ น้องๆ ร่วมสายเลือดเจอาร์เลย เมื่อประตูรถไฟเปิดจะมีควันสีขาวพุ่งขึ้นมาเลียนแบบควันจากกล่องสมบัติของอุราชิมะ ทาโร ตัวละครในนิทานพื้นบ้านเรื่องวังมังกรแห่งคาบสมุทรซัตสึมะ ภายนอกรถใช้สีดำและสีขาว ภายในตกแต่งด้วยไม้และวัสดุในท้องถิ่น ที่นั่งโซฟาแสนสบายดีไซน์สวยงาม แถมยังสามารถหมุนหันออกไปทางหน้าต่างเพื่อชมวิวทะเล มีพื้นที่สำหรับคนใช้รถเข็น เก้าอี้สำหรับเด็ก มีตู้ที่มีที่นั่งพร้อมชั้นวางหนังสือและโต๊ะข้าง มีขายของที่ระลึกและสินค้าชื่อดังของท้องถิ่น แถมยังมีบริการถือป้ายถ่ายรูปกับรถไฟ และแจกการ์ดเพื่อนำไปแสตมป์ตราประทับไว้เป็นที่ระลึกว่าคุณเคยนั่งอิบุทามะแล้วอีกด้วย



เรานั่งรถไฟอิบุทามะชมวิวทะเลและท้องฟ้าสบายตามาประมาณ 50 นาที ก็มาถึงอิบุสึกิ 
ที่นี่เราจะมาแช่ออนเซ็น แต่เป็นออนเซ็นทราย เอ๊ะ! ยังไง  ออนเซ็นทรายที่นี่อยู่ริมทะเล  ก่อนแช่เค้าจะให้เราไปเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะแล้วเอาผ้าขนหนูคลุมหัวและลำคอแล้วก็ลงไปนอนในหลุมทรายที่พนักงานเค้าขุดเอาไว้ จากนั้นทรายร้อนๆ ก็จะมากลบตัวเราไว้ โดยมีร่มกางบังแดดไว้ให้ โดยจะแช่เป็นเวลา 10 นาที ว่ากันว่าความร้อนจากทรายจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยลดปวดเมื่อย และยังว่าช่วยรักษาได้อีกหลายโรค ตอนนอนแช่นั้นร้อนมาก แต่พอแช่เสร็จแล้วก็รู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัวอยู่เหมือนกัน
 
นางาซากิบานะ (Nagasakibana)
อาบทรายร้อนเสร็จ เราก็เดินไปที่นางาซากิบานะ ซึ่งเป็นแหลมอยู่ใต้สุดของคาบสมุทรซัตสึมะ โดดเด่นด้วยประภาคารสีขาวดึงดูดสายตา ข้างหน้าประภาคารมีประติมากรรมรูปหัวใจดวงใหญ่ให้เราเข้าไปยืนข้างใน โดยมีประภาคาร ท้องฟ้า ภูเขา และทะเลเป็นฉาก ทำให้เป็นจุดเช็กอิน ถ่ายรูปยอดนิยม โรแมนติกขนาดนี้ มิน่าล่ะ คนถึงเรียกที่นี่ว่า "ประภาคารแห่งความรัก"
  

ใกล้ยังมีศาลเจ้า Ryugu มีตำนานกล่าวว่าแหลมแห่งนี้เป็นที่ๆอุราชิมะทาโร่เดินทางบนหลังเต่าไปพระราชวังราชามังกร จึงมีการตั้งศาลเจ้าริวกูเพื่อุทิศให้เจ้าหญิง Otohime ด้วย
 
เด๋วมาต่อวันถัดไปข้างล่างนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่