10 หนังสืบสวนพิจารณาคดี (Courtroom Suspense) ยอดเยี่ยมตลอดกาล


เมื่อพูดถึงหนัง 'คอร์ทรูม ดราม่า' (Courtroom Drama) หรือหนังที่มีฉากการพิจารณาคดีในชั้นศาล ที่ไม่เพียงแต่การใช้ข้อเท็จจริงมาห้ำหั่นกัน แต่ยังเน้นการใช้เล่ห์กล สติปัญญาไหวพริบของอัยการหรือทนายสองฝั่งที่เกิดข้อพิพาท เพื่อทำให้คณะลูกขุนหรือผู้พิพากษาเห็นชอบด้วย ซึ่งรูปแบบคดีของหนังลักษณะนี้จะเป็นได้ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งในลิสต์นี้จะขอโฟกัสไปยัง 'คอร์ทรูม ซัสเพ้นส์' (Courtroom Suspense) เป็นการพิจารณาคดีในชั้นศาลที่เน้นคดีอาญาและไขปริศนาปมฆาตกรรมซ่อนเงื่อน…
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

10. The Lincoln Lawyer (2011)

ผลงานดัดแปลงจากนิยายระดับเบสท์เซลเลอร์ของ Michael Connelly ที่จะสำรวจด้านสีเทาของวิชาชีพทนายความในการใช้เล่ห์กล เส้นสายข่าวที่นำมาซึ่งความจริงของคดี โดยผ่านมุมมองของ 'มิค ฮาลเลอร์' ทนายจอมเก๋า ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยไม่สนว่าลูกความของตนจะผิดหรือถูก และหนังจะโฟกัสไปยังคดีที่เขาต้องแก้ต่างให้กับ 'ลูอิส รูเล็ต' ลูกความที่ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งหนังจะค่อยๆเปิดเผยความจริงเพื่อสร้างโมเม้นท์พลิกผันไปมาของคดี และสิ่งที่ซ่อนอยู่นั้นก็ทำให้ทนายรายนี้เกิดความเคลือบแคลงต่อลูกความตนเอง ทั้งยังเป็นสิ่งที่ไปกระตุ้นและย้อนสำรวจเนื้อแท้ของคุณธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพที่เลือนหายไปพร้อมกาลเวลา








9. The Client (2011)

การเซ็ทพล็อตเรื่องมีความคล้ายคลึงกับนิยาย Gone Girl โดยโฟกัสไปยังปริศนาการหายตัวไปของภรรยาในวันครบรอบแต่งงาน ที่ภายในห้องมีเพียงแค่เตียงที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเธอ และดูเหมือนหลักฐานต่างๆจะชี้นำไปที่ตัวสามีซึ่งอาจอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ โดยหนังจะพาคนดูไปสืบเสาะความจริงผ่านตัวเอกที่เป็นทนายผู้รับหน้าที่แก้ต่างให้กับตัวสามี ที่ภายนอกดูเป็นคนเงียบขรึม สุภาพ ไม่น่าจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรได้ ก่อนหนังค่อยๆเปิดเผยปมซ่อนเร้นบางอย่างเพื่อรักษาสมดุลของความก้ำกึ่งไปตลอดจนถึงจุดไคลแม็กซ์ ที่มีลูกเล่นการเฉลยปมได้อย่างสดใหม่ ด้วยกลไกทางจิตวิทยาหรือสัญชาตญาณการโต้ตอบของมนุษย์ต่อลักษณะเหตุการณ์หนึ่ง








8. Fracture (2007)

เซ็ทโครงเรื่องเป็นหนังสืบสวน Howcatchem โดยวางปมให้สามีสูงวัยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการวางแผนฆ่าภรรยา ก่อนถูกจับเพื่อพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งหนังก็ระบุรายละเอียดแน่ชัดว่าสามีรายนี้เป็นผู้ร้ายและมุ่งหมายที่จะฆ่าภรรยาจริงๆ ก่อนโฟกัสไปยังการหาคำตอบของวิธีการก่อเหตุหรือหลักฐานสำคัญที่ใช้มัดตัวผู้ร้ายผ่านการสืบสวนโดยทนายหนุ่มไฟแรง ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะหนังสืบสวนลักษณะนี้ฝั่งผู้ร้ายค่อนข้างมีความเฉลียวฉลาด เต็มไปด้วยเล่ห์กลต่างๆในการเอาตัวรอด และในคดีนี้ก็เป็นการสร้างอาชญากรรมสมบูรณ์ ที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบและน่าเชื่อถือ จนดูเหมือนจะไร้ช่องโหว่ในการเอาผิดสามีรายนี้








7. Reversal of Fortune (1990)

ภายใต้คราบของหนังคอร์ทรูม ดราม่าที่พยายามไขปมฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ได้ซ่อนเนื้อหาที่สะท้อนความจริงของชีวิตคู่อันซับซ้อน โดยโฟกัสไปยังสามีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในเหตุการณ์เสียชีวิตของภรรยาที่เขาเป็นผู้พบศพ และทางฝั่งสามีก็ได้ทนายฝีมือดีที่มีสถานะเป็นครูมาช่วยในการต่อสู้คดี ก่อนที่หนังจะใช้การเล่าโดยตัดสลับไปมาระหว่างการสืบพยานในชั้นศาลและเบื้องหลังของความสัมพันธ์คู่สามีภรรยาที่จะช่วยให้คนดูเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความรู้สึกเคลือบแคลงและการตั้งแง่กับตัวละครสามีได้อย่างเหนียวแน่นจนกระทั่งตอนจบ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ Jeremy Irons จะสามารถคว้านำชายออสการ์มาครองได้ในปีนั้น








6. Primal Fear (1996)

หนังสืบสวนที่พาคนดูไปค้นหาความจริงโดยการสอบปากคำในชั้นศาล กับปมที่เด็กหนุ่มตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมบาทหลวง โดยในช่วงแรกทนายของเด็กหนุ่มพยายามสืบหาผู้ต้องสงสัยที่อาจมีความเกี่ยวข้องในคดี แต่กลับไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลที่สามเลย ทำให้จุดโฟกัสของหนังคือการตั้งคำถามและสำรวจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ใช่ฆาตกรตัวจริงหรือไม่ ซึ่งหนังใช้ความซับซ้อนหรือความย้อนแย้งของบุคคลตัวละครที่แสดงให้เห็นในสภาวะปกติและช่วงที่ถูกตัวตนอีกด้านเข้าครอบงำ เพื่อสับหลอกความคิดคนดูให้ไล่ตามความจริงไม่ทัน จนกระทั่งถึงจุดที่หนังได้เฉลยออกมา








5. A Few Good Men (1992)

งานเขียนเรื่องแรกของ Aaron Sorkin สุดยอดมือเขียนบทแห่งยุค ที่พาสำรวจอีกหนึ่งแง่มุมของการใช้กฎ ระเบียบ และข้อบังคับของทหารที่นำไปสู่การตั้งคำถามถึงความถูกต้อง ความหมิ่นเหม่ทางคุณธรรมและจริยธรรม กับเรื่องราวที่พลทหารสองนายถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมทหารรุ่นน้อง ซึ่งหนังจะพาไปสำรวจความจริงของเหตุการณ์ผ่านทนายหนุ่มของกองทัพที่นำแสดงโดย Tom Cruise ที่ได้สืบเสาะจนพบว่าปมการตายครั้งนี้เป็นผลจากการบังคับใช้บทลงโทษทางวินัยทหาร ที่ออกคำสั่งโดยผู้บังคับบัญชาที่รับบทโดย Jack Nicholson ทำให้จุดโฟกัสอยู่ที่การหาหลักฐานหรือการงัดกลวิธีต่างๆของทนายหนุ่มเพื่อพิสูจน์ความจริงและเอาผิดทางกฎหมายกับนายทหารชั้นสูง








4. Rashômon (1950)

ผลงานขึ้นหิ้งของ Akira Kurosawa ที่สะท้อนสัจธรรมแห่งโลกผ่านปมฆาตกรรมซามูไร โดยพาคนดูที่เปรียบเสมือนตัวนักสืบไปสำรวจเหตุการณ์เบื้องหลังผ่านการให้ปากคำในชั้นศาลของคนสี่คนที่ประกอบด้วยโจรป่า, ภรรยาผู้ตาย, ร่างทรงของผู้ตาย และชายตัดฝืนผู้พบศพ ทว่าทุกคนกลับเล่าเรื่องในมุมที่ต่างกัน และต่างคนก็ดูมีเหตุผลรองรับที่น่าเชื่อถือในสถานการณ์ของตนเอง จนยากที่จะพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของใครเป็นความจริงและใครกันแน่ที่เป็นคนร้าย ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นการพูดเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเองโดยการปกปิดหรือบิดเบือนความจริงบางอย่างและผลักไสสิ่งไม่ดีให้กับผู้อื่น เรียกได้ว่าเป็นการปลอกเปลือกตัวตนของมนุษย์ที่สามารถพบเจอได้ทุกยุคสมัย ทุกมุมโลก และทุกชนชั้นทางสังคม








3. Anatomy of a Murder (1959)

การก่อฆาตกรรมหรือทำร้ายร่างกายที่มูลเหตุเกิดจากความหึงหวง เป็นรูปแบบคดีที่ถูกใช้ในหนังเรื่องนี้และพบเห็นได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน กับปมเรื่องที่สามีถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมชายเจ้าของบาร์ เนื่องจากความแค้นที่ไปล่วงเกินกระทำชำเราภรรยาของตน โดยหนังโฟกัสไปยังการซักถาม-โต้ตอบของทนายฝ่ายจำเลยและอัยการฝ่ายโจทก์เพื่อนำไปสู่ความจริงของเหตุการณ์และการให้คำตัดสินอันเที่ยงตรงของผู้พิพากษา ซึ่งหนังยอดเยี่ยมในการลงรายละเอียดของคดี โดยเฉพาะการปูพื้นเสริมแรงจูงใจที่เพิ่มน้ำหนักให้คำแก้ต่างของคดีดูน่าเชื่อถือ กับฝ่ายจำเลยที่ดูเป็นคนขี้หึงและมีปัญหาในการควบอารมณ์ รวมไปถึงสร้างภาพลักษณ์ฝั่งภรรยาให้ดูเป็นคนเจ้าเสน่ห์ เป็นที่ต้องตาของชายทั้งหลาย








2. Witness for the Prosecution (1957)

หนึ่งในหนังคอร์ทรูม ดราม่าที่มักติดอยู่ในท็อปลิสต์ของหลายสถาบันเคียงคู่กับ 12 Angry Men และยังนับได้ว่าเป็นผลงานที่ดัดแปลงจากนิยาย Agatha Christie ที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยการใส่รายละเอียดของคดีที่มีความสมจริง ซับซ้อน และเต็มไปด้วยโมเม้นท์เหนือคาดอยู่ตลอดเวลา กับปมที่ชายหนุ่มถูกตั้งข้อสงสัยในคดีฆาตกรรมหญิงแม่หม้ายและเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ทางพินัยกรรมอย่างน่าสงสัย ซึ่งหนังจะใช้เวลาในครึ่งแรกเพื่อสำรวจความสัมพันธ์ของทั้งสองผ่านการสักถามรายละเอียดโดยทนายจอมเก๋าที่ต้องวางแผนแก้ต่างให้ฝ่ายจำเลย ส่วนครึ่งหลังจะเป็นการโต้ตอบ ซักพยานของทนายทั้งสองฝ่ายโดยมีภรรยาฝ่ายจำเลยเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญของคดีนี้








1. 12 Angry Men (1957)

หนังถ่ายทำแบบซิงเกิลโลเคชั่นที่เล่าเรื่องราวการตัดสินคดีความของเหล่าคณะลูกขุน 12 คน กับคดีที่เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ถูกตั้งข้อหาว่าได้ทำการฆาตกรรมพ่อแท้ๆของตน โดยหนังยอดเยี่ยมอย่างมากในการเขียนบท เริ่มตั้งแต่การเซ็ทตัวละครลูกขุนทั้ง 12 คนให้มาจากต่างอาชีพ ต่างพื้นฐานชีวิต เพื่อสะท้อนทัศนคติในมุมมองที่ต่างกัน ขณะเดียวกันยังสร้างเหตุการณ์ที่ลูกขุนคนหนึ่งเกิดความคิดที่ต่างออกไป ทำให้การตัดสินที่ต้องมีมติเอกฉันท์เกิดการโต้แย้งกันด้วยหลักของเหตุและผลเพื่อโน้มน้าวความคิดของอีกฝ่ายให้เห็นพ้องต้องกัน นับเป็นการประชันทางความคิดและสติปัญญา ไหวพริบอย่างแท้จริง จนแปรเปลี่ยนให้ห้องแคบๆกลายเป็นความเดือดดาล ร้อนระอุ ยิ่งกว่าหนังระทึกขวัญหรือหนังแอคชั่นหลายๆเรื่องเสียอีก
.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)



ขออนุญาตฝากเพจนะครับ

https://www.facebook.com/Criticalme



เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่