เราป่วยเป็นโรคไบโพล่า (แชร์ประสบการณ์) มีใครเป็นเหมือนเราบ้างมาคุยกัน

เราป่วยเป็นโรคไบโพล่า (แชร์ประสบการณ์)
สวัสดีทุกคน วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์อาการป่วยของเราตั้งแต่เริ่มเป็น เวลามีอาการเป็นอย่างไร การทำร้ายตัวเอง จนถึงการรักษาปัจจุบัน ปัจจุบันเรายังไม่หาย ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ อยากแบ่งปันให้คนทั่วไปได้รู้และเข้าใจกับคนใกล้ตัวที่ป่วยเป็นโรคนี้ด้วย

เริ่มแรกเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เราเริ่มมีอาการซึมเศร้า อยู่ๆร้องไห้เอง ดูถูกตัวเองว่าไม่มีค่า ไม่ดี อยากทำร้ายตัวเอง ไปจนถึงอยากฆ่าตัวตาย เวลาเศร้าจะรู้สึกเหมือนมีคนมารุมด่าเราให้เราจมดิ่งลงไปในเหว ปกติเราจะรู้ตัวว่าเรื่องร้ายมากเศร้ามาก ร้ายน้อยเศร้าน้อย แต่นี้มันจะเศร้าแบบทรมานจนอยากตายอยากทำร้ายตัวเอง แต่ตอนนั้นยังไม่ทำร้ายตัวเองอย่างมากแค่มีอาการเกร็ง หยิก กัด ตัวเองเวลาเครียดหรือทะเลาะกับแฟน

แล้วไปหาหมอ ที่ รพ.รามคำแหง หมอบอกเราเป็นโรคซึมเศร้า จะให้ยาเรามากิน แต่เราไม่อยากรับยา อยากทำตามคำแนะนำของหมอที่บอกให้ทำกิจกรรม แล้วหายเอง แต่กลายเป็นว่าเราไม่ได้กินยาและไม่ได้ไปตามหมอที่นัดอีก คือไปครั้งเดียว แล้วเราก็เป็นๆหายๆ อยู่อย่างนั้น1-2ปีเราคาดว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าน่าจะมาจากทะเลาะกับแฟนบ่อยและรุนแรงมาก

พอเวลาผ่านไปเราทะเลาะกันน้อยลงจนถึงขั้นดีเลยแหละ แต่อาการกลับเป็นมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ไปหาหมอสักที อยู่ๆอาการซึมเศร้าก็เป็นเอง บ่อยขึ้นหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มทำร้ายตัวเองโดยการจิก หยิก กัด ทุบหัว เอาหัวโครกพื้นไปเรื่อยๆ ร้องไห้ไปด้วย บ่อยขึ้นตอนอยู่คนเดียว เริ่มรู้สึกเหมือนคนเป็นบ้า หวาดกลัว บางครั้งจะมีอาการเมื่ออยู่ในที่ทำงานหรือประชุมอยู่อยากจะโวยวายขึ้นมา เข้าไปร้องไห้แล้วทุบหัวตัวเองในห้องน้ำที่ทำงาน

หลังจากนั้นเริ่มมีอาการแปลกๆเข้ามาคืออารมณ์ดี ร่าเริง เข้ากับคนง่าย มีความสุขกับการทำงานบอกไม่ถูก แรกๆเป็นอยู่สองสามวันแล้วก็เศร้าอีกยาว แล้วเริ่มร่าเริงเป็นสัปดาห์จนเป็นเดือนก็มี ตอนนั้นก็จะไปหาหมอ รพ รัฐ แต่มันต้องนัดนานเลยเป็นเดือนๆเลยไม่ได้ไปหาหมอ

หลังจากนั้นเวลามีอะไรกระทบจิตใจนิดนึงทะเลาะกับแฟนหรือพูดไม่เข้าหูนิดนึงจะเป็นง่ายมาก เริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เวลาเครียดหรือกดดัน เริ่มเอากรรไกรมาแทงแขนขา แต่เป็นแผลไม่ลึก เหตุการณ์ที่ทำร้ายตัวเองรุนแรงครั้งแรก คือทะเลาะกับแฟนแล้ว แค่ตะโกนว่าโธ่เว้ยย รู้ตัวอีกทีต่อยกำแพงไปแล้ว ต่อยไปทีเดียวกระดูกมือหักตรงนิ้วก้อยกับนาง สองชิ้น เข้าเฝือกเป็นเดือน ดีนะที่กระดูกไม่ผิดรูปไม่งั้นต้องผ่าตัดดามกระดูก เข็ดไปเลยทีเดียว ส่วนกำแพงยังอยู่ดีไม่ทะลุ แต่ตอนนั้นเข้า รพ โกหกหมอไปว่าล้มแล้วมือทำท่ากำหมัดแล้วล้มลงคล้ายๆชกพื้น เพื่อจะได้เคลมประกันได้ ตอนที่หักนั้นหน้ามืดเลยต้องประคองมือไว้ แล้วโทหาเพื่อนให้พาไป รพ ระหว่างทางเลยเล่าถืออาการเศร้า ร่าเริง และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนเลยบอกควรไปพบจิตแพทย์สักทีผลัดมานานมากแล้ว เหตุการณ์นี้เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราสังเกตว่าพอเรารู้ว่ากระดูกเราหักเราอารมดี ขึ้นผิดปกติทั้งๆที่ยังไม่ได้ดีกับแฟนเลยด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นเราเลยไปหาหมอจริงจังที่ รพ.ศรีธัญญา ตรงกระทรวงสาธารณะสุข แยกแคราย ก็ไปพบนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตบำบัดแล้วก็จิตแพทย์ ตอนนั้นบอกหมอว่าทำร้ายตัวเองมา หมอบอกควรนอน รพ สักเดือนนึง หมอกลัวเราทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย แต่เรามีเรียนเลยต้องปฏิเสธแล้วเซ็นเอกสานว่าไม่ยินยอมนอน รพ ตามคำสั่งจิตแพทย์ ส่วนใหญ่เราจะได้เล่าให้นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตบำบัดฟังเรื่องอาการ ตอนพบหมอ เหมือนเราไม่ได้เล่าอาการอะไรมาก หมอจะถามคำถามให้เราตอบมาตรงจุดสำคัญแล้วก็วินิจฉัยโรคได้เลย หมอดูมีอายุมีประสบการณ์ ตอนเข้าหาหมอตอนนั้นลืมบอกหมอว่ามีอาการร่าเริงด้วย หมอเลยบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ให้ยาต้านเศร้ามากิน หมอนัด 1สัปดาห์

จากนั้นพบหมอครั้งที่สองเลยตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องอาการร่าเริงให้เค้าฟัง ว่ามีอาการ อารมณ์ดีผิดปกติ อารมณ์ดีไม่มีเหตุผล ความคิดแล่น ไม่หลับไม่นอนกลางคืน มีโปรเจคเยอะ พูดคุยเก่ง หมอเลยเปลี่ยนคำวินิจฉัยบอกว่าเป็นไบโพล่า แล้วให้ยาปรับอารมณ์มา จริงๆก่อนมาหาหมอแล้วรู้ว่าเป็นไบโพล่า เราเคยอ่านแล้วทำแบบทดสอบตามที่เค้าแชร์กันมาแล้ว เราเป็นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ตรงทุกข้อ แล้วที่บอกคนส่วนใหญ่จะเป็นโรคซึมเศร้าก่อนค่อยกลายมาเป็นไบโพล่านี้ใช่เลย

จากนั้นเราทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ รพ เรื่องสิทธิการจ่ายยา โดยให้เอาใบส่งตัวแพทย์ไปให้ที่ รพ สายไหม (ใกล้บ้านเรา) ให้ส่งตัวกลับมาที่ศรีธัญญาเพื่อจะได้เบิกประกันสังคมได้ แต่พอเอาใบส่งตัวไปให้ที่ รพ สายไหม เค้าบอกว่า ที่ รพ มีแพทย์ที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ เลยจะไม่ส่งตัวไปศรีธัญญาให้แต่จะให้ย้ายมารักษาที่ รพ สายไหม แทน เราก็โอเคร จนพบหมอครั้งแรกที่ รพ สายไหม เราใช้สิทธิประกันสังคม พอเข้าไปในห้องหมอยังไม่ถามถึงอาการเราก็เป็นคนเล่าอาการที่เป็นอยู่และอาการที่เคยเป็นจนประวัติการรักษาที่ศรีธัญญาให้หมอฟังแบบละเอียดว่าเราเศร้ายังไง เพราะรู้ว่าหมอต้องถามอะไรบ้าง หมอเลยถามต่อว่าเดิมเราเป็นคนยังไง เราเลยบอกว่าร่าเริง อารมดี เฮฮา บ้าบอ ไม่ใช้เศร้าและหงุดหงิดเกรี้ยวกราด วันนั้นพาแม่ไปด้วยแม่ก็ยืนยันให้ว่าเราเป็นแบบนั้น หมอเห็นใบส่งตัวก็รู้ว่าหมอเดิมวินิจฉัยว่าเป็นไบโพล่าแต่หมอคนนี้กลับตอบมาว่า คุณไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดไปเอง หมอก็ไม่รู้จะรักษาคุณยังไง เพราะหมอไม่เคยรักษาคุณมาก่อนแล้วหมอก็ไม่รู้ประวัติคุณด้วย แล้วก็ให้ยามา คือเรานี่งงไปเลย ก็เล่าให้ฟังหมดแล้วบอกไม่รู้จะรักษายังไง เราเลยไม่ไปหาหมออีกเลย ไม่กินยาด้วย แล้วหาหมอ รพ ธรรมศาสตร์ใกล้มหาลัยแทนแต่กลับไม่ได้คิวง่ายๆคิวเป็นเดือน ไม่อยากไปที่ศรีธัญญาเพราะไกลบ้านอีก เลยขาดยาไปเลยไม่ได้รักษา

จนมาถึงตอนที่เราได้เข้า รพ อีกรอบ รพ ธรรมศาสตร์ เพราะทำร้ายตัวเอง เราทะเลาะกับแฟนแล้วเครียดแล้วคุมอารมณ์ไม่ได้ เอากรรไกรมาแทงต้นขา ตอนแทงเราแทงรัวไม่ยั้งมือ เคยทำมาสองสามครั้ง แต่เป็นแผลเบาๆ ครั้งนี้เข้าเนื้อเย็บไปสามเข็ม เราไป รพ เอง ขี่จักรยานไปเพราะเลือดไหลไม่หยุด แล้วบอกหมอว่าเราเป็นไบโพล่า เราแทงเอง หมอเลยทำแผลให้แล้วก็มีจิตแพทย์สองคนมาหาเราที่ห้องฉุกเฉิน ก็เราอาการให้เค้าฟังว่าเราเคยทำมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ทะเลาะกับแฟนเครียด อาการเศร้าต่างๆ และตอนที่ร่าเริงโปรเจคเยอะสมองแล่น เล่าเรื่องที่เคยกลัวตัวเองในกระจก อยู่ดีๆก็หวาดผวากลัวลมพัด หวาดระแวงสิ่งรอบตัว กลัวตัวร้ายในตัวเราจะมาครอบงำเรา แล้วก็เล่าว่าเคยรู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่รู้บินอยู่ในห้องแล้วอยากเห็นเลือดเรา มันหัวเราะเราตอนเราเศร้า ถ้ามันเห็นเลือดเรามันจะไป ถ้าเราอยากให้มันไปเราต้องทำร้ายตัวเองให้เลือดไหล ตอนนั้นเราบอกหมอไปด้วยว่าเราเทคฮอร์โมนชายด้วยแบบฉีด

เพราะเราเข้า รพ แบบฉุกเฉินเลยได้คิวรักษากับจิตแพทย์ต่อเลย เราเลยได้รักษาต่อเนื่องยาวแบบไม่ขาดยาถึงทุกวันนี้ หมอที่ธรรมศาสตร์ส่วนมากเป็นหมออายุยังน้อย ไม่ค่อยเจอหมอแก่ๆ หมอที่รักษาเราตอนแรกเค้ายังไม่บอกว่าเป็นโรคอะไร เค้าให้ยาต้านเศร้ามากิน หมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนชายที่ฉีดเข้าไปเลยทำให้อารมณ์รุนแรง ตอนนั้นเราฉีดได้ประมาณปีนึงได้ แล้วสิวขึ้นเยอะมาก จากขึ้นที่หลังกับอกพอรับได้ แต่ขึ้นหน้านี่หนักมาก เราเลยตัดสินใจเลิกฉีด แล้วก็บอกจิตแพทย์ด้วยว่าเราเลิกฉีด สุดท้ายอาการเราก็เหมือนเดิมแค่ไม่มีอาการหงุดหงิด โมโหง่ายเกิดขึ้น อาการเศร้าก็เหมือนเดิม ตอนรักษาแล้วกินยาไม่ขาดแล้วเราก็ยังทำร้ายตัวเองเรื่อยๆ ทั้งตอนทะเลาะกับแฟน ตอนเครียด หรือแม้กระทั่งอยู่เฉยๆก็ทำเองไม่มีเหตุผลก็มี จนมาถึงช่วงที่มันเปลี่ยนขั้ว เมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เราแทบไม่เศร้าเลย ไม่มีเหตุผลที่ทำให้อารมณ์ดีด้วย มีอารมณ์ทางเพศสูง(จนเกือบมั่วเซ็กส) อยากคุยกับเพื่อนตลอดเวลา พูดมาก ใช้เงินเก่ง มีโปรเจคเยอะ คุยกับตัวเองได้นาน 4-5 ชั่วโมง อยากเข้าสังคมไปเจอเพื่อนทั้งๆที่ปกติรักสันโดษ หมอเลยบอกว่าอาการไบโพล่าชัดเจนแล้ว เลยให้ยาปรับอารมณ์มา ให้อารมณ์เสถียร และลดความต้องการทางเพศด้วย

ส่วนใหญ่เราจะเป็นซึมเศร้ายาวนานกว่าร่าเริง บางคนถามว่าทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้หรอ มันยากมากๆเลย ทรมานมากๆด้วย เริ่มจากเราเห็นภาพเราทำร้ายตัวเองรวมไปถึงฆ่าตัวตายในรูปแบบต่างๆ อยากว่างออกไปให้รถชนงี้ อยากกระโดดลงจากตึกงี้ เรากลัวมาก เรากลัวเราทำโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เหมือนร่างกายมันอยู่ใต้อำนาจจิตใจแล้วเราควบคุมจิตเราตามสมองไม่ได้ แล้วเราก็เริ่มทำตามภาพในหัว โดยเริ่มจากตัวเกร็ง จิกตัว หวาดกลัว หวาดระแวง มือจิกกัน ถ้าเราไม่กรีดข้อมือหรือเอากรรไกรแทงให้เราตื่นหรือให้เราอารมณ์ดี อารมณ์ชั่ววูบอาจทำให้เราถึงตายได้ เรากลัวมากๆ เพราะฉะนั้นไอ้สิ่งที่เราทำให้เลือดไหล มันทำให้เราไม่ทำอะไรรุนแรง จะมีสติขึ้นมา ตอนนี้เราตอนที่เห็นเลือดตัวเองไหลเรารู้สึกดีมากๆ ยิ่งเยอะมันยิ่งสบายใจ แต่เราบอกตรงๆว่าเราไม่อยากทำเลย เพราะแม่เราเสียใจ แฟนเราก็สงสารเราที่เป็นแบบนี้ เราพยายามไม่ทำร้ายตัวเองแล้วหลายครั้งเราชนะแต่หลายครั้งเราก็แพ้ ก่อนจะทำมันเครียดมันเศร้ามันหวาดกลัวหวาดระแวงคล้ายคนบ้า ไม่มีสติ ทรมาน อึดอัดในใจจนอยากจะตายๆไป เลยอยากทำร้ายตัวเองให้รู้สึกเจ็บจะได้ตื่นขึ้นมา เลิกเศร้าสักที บางคนบอกให้ดึงตัวเองออกมา แต่ตอนเป็นมันเหมือนตกขุมนรกมันขึ้นมาไม่ได้

เราเคยคลั่งครั้งนึงจนต้องไปฉีดยานอนหลับที่ รพ อาการเหมือนคนบ้ามีแรงมาก โวยวายเสียงดัง ไม่มีสติ อยากทำร้ายตัวเองแล้วไม่ได้ทำ แม่มาจับมือไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง เลยยิ่งโวยวาย เป็นแบบนั้นอยู่เกือบชั่วโมง ทุกวันนี้อยู่ดีๆไม่ได้ทะเลาะกับใครก็มักมีแวบๆว่าสติจะหลุด อยากจะทำร้ายตัวเองไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยครั้ง ต้องพยายามคุมตัวเองให้มีสติอยู่เสมอ

ทั้งนี้เราอยากเอาแผลที่ทำไว้มาให้ดู แต่ไม่ได้ยืนยันตัวตนแนบรูปไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่