เรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว จนกระทั่งล่าสุดที่เกิดเรื่องแล้วเราทนไม่ไหว จึงต้องขอเล่าในนี้แทน
นับตั้งแต่เด็กตนโตมา เขาแทบไม่ได้ให้ความอบอุ่นเราเลย การที่เขาเลี้ยงเรา ทำดีกับเรา ก็เพื่อจะหวังให้เรากลับมาเลี้ยงเขา โดยที่เขาไม่ยอมทำมาหากินอะไรเลย เขาคอยสร้างหนี้สร้างสินจำนวนมาก ตั้งแต่เกิดมา เขารับค้าผ้าจากของโจรมาตลอด (เป็นของที่ได้มาไม่บริสุทธิ์น่ะ) ทั้งเล่นแชร์อีก
ในแรกเกิดเรามียายที่มักเรียกเขาว่า "อากู" คอยเลี้ยงดู อากูคอยเป็นคนเลี้ยงพ่อให้เติบโตมา ซึ่งเขามีศักดิ์เป็นหลานของอากู บ้านก็มีเป็นของตัวเอง
พ่อกับแม่มักเลี้ยงเราแบบไม่ให้เราไม่เที่ยวไหนกับเพื่อนฝูงเลย เขาให้เราอยู่แต่ในบ้าน คอยกรอกหูเสมอว่า "อย่าไปไว้ใจใคร" บางทีพ่อก็เจ้าอารมณ์ ชอบตะคอก ด่าเรา แช่งเราให้ตาย ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเรามากมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไมครอบครัวอื่นถึฃสุขสันต์จัง ถึงแม้ว่าเขาจะมีเรื่องที่มองไม่เห็น. เรื่องที่ไม่มีความสุขอยู่บ้าง แต่ครอบครัวเขาก็ดูมีความสุขกว่าครอบครัวเราตั้งเยอะ
จนกระทั่งอากูล้มหายตายจากไปตอนเราอยู่ ป.5 หลังจากนั้นบ้านก็เป็นของพ่อ เขาเริ่มค้าผ้าโจรที่เขารับมามากขึ้น ในตอนนั้นเราเด็กมาก จำความไม่ได้
เขาเริ่มเล่นแชร์จนเป็นหนี้ หนี้บัตรอีอ้อน จนท้ายที่สุดเขาเป็นหนี้จนเขาต้องหนีออกจากจังหวัดไป เอาบ้านไปจำนองกับเจ้าหนี หลังจากที่เราเข้าค่ายผู้นำตอนม.4 ได้ 3 วัน เขาขนของขึ้นรถออกจากบ้าน แล้วหลังจากกลับบ้าน คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่เราได้นอนที่บ้าน ก่อนวันรุ่งขึ้นที่ของจไนวนมาก จะถูกโยกย้ายไปขายให้คนรู้จักในราคาแสนถูก เราอยู่ในหอพักกับพี่มาตลอดจนถึงม.4
เราถูกรถชน ย้ายไปอยู่ที่สัตหีบนานปีจนเรียนจบมหาลัย อยู่กับลุงที่รู้จักจนเข้ามาที่กรุงเทพ จนได้มาอยู่กับเขาอีกรอบ
การอยู่กับพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แรกๆเขาเหมือนทำมาหากิน ขายกับข้าว แต่ยามมีก็ใช้เงินฟุ่มเฟือย ซึ่งตรงข้ามกับนิสัยเราที่เป็นคนประหยัด แล้วคิดว่าเราอยู่โดยไม่มีของแบบนั้นก็ได้ เขาเริ่มขอเงินจากญาติทีละแสน บอกกับญาติว่าจะเอาไปลงทุน แต่แสนนั้นทำไมละลายเร็วจัง เขาเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไรกันนะ ใช้หนี้ก็คงไม่เยอะขนาดนั้น
จนวันนึงที่เขาถูกไล่ที่ออกจากที่ขายเดิม เราเข้ามหาลัย เราต้องทำงานส่งตัวเองเรียนไป จะกู้กยศ.ก็ไม่กล้า เพราะเคยกู้ตอนมัธยมแล้วไม่ได้ เราก็เลยไม่กล้ากู้อีก บวกกัลคนที่ไม่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้วเลยพอ เอาจริงๆไหม เขาทิ้งเราให้อยู่คนเดียว คล้ายจะขับไสเราไม่ให้เขามาเลี้ยงเรา วันนั้นเขาไปหาที่อยู่ใหม่ที่ต่างจังหวัด พอเขาได้ที่อยู่แล้ว เราบอกว่าจัดการหาหอใหม่ให้เราได้ไหม เพราะถ้าไม่หาเราจะไม่มีที่อยู่ เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากที่ว่าเขาเคยอยู่บ้านเช่าเก่า แล้วเขาจ่ายเงินไม่ตรงเวลา แล้วถูกเจ้าของบ้านเช่าไล่ที่
เขาด่าเราว่า "นี่มันยุ่งจริงๆ" ทั้งที่เราก็ต้องอยู่เหมือนกัน แต่พอตอนที่เขาอยากได้เงินเราเขาก็จะมาทำเป็นพูดดี รู้ไหม? เขาแอบเอาชื่อของเราไปเซ็นเงินกู้เงินติดล้อ ถอยรถยนต์มาเพราะรถยนต์คันเก่าพังแล้ว แล้วมันพัฃในวันที่เขาส่ฃรถงวดสุดท้าย ...... หมด เหมือนเป็นเวรเป็นกรรม
เราต้องมีหนี้เป็นล้านตั้งแต่เรายังเรียนไม่จบ เขาสบายแฮ เราล่ะ ต้องลำบากกาย ลำบากใจ ล่าสุดเขาจะเอาเงินจากกรมธรรม์ที่เขาทำจากรถคืน
โดยก็ใช้ชื่อเราทำ เช่นเคย เหมือนเป็นโชคบางอย่าง ตอนทำเรื่องเขาไม่ได้เอาสมุดบัญชีมา แต่เผอิญเราเอามาพอดี เลยยื่นสมุดบัญชีของเราไป
ผลคือ เงินเข้าบัญชีเรา 2 หมื่น เราตัดแบ่งให้ตัวเองบางส่วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เขาทำโมโหเราที่ทำแบบนี้ เขาบอกว่าจะเอาเงินมาลงทุนกับจ่ายหนี้รถเรา แล้วก็จะไม่แบ่งเงินเราสักแดง แล้วก็อ้างความชอบธรรมว่า "เงินนั่น เป็นเงินเขา" ทั้งที่เงินนั่นเป็นเงินจากชื่อเรา ที่เขาเอามา งงไหมล่ะ?
แล้วในวันเกิดที่ผ่านมาร้อนๆ เขาตัดเราออกจากวงโคจร เขาบอกว่าจะไม่ส่งเราอีก "จะไม่ได้เงินจากกํ้ไปสักสลึงเดียว" เชื่อไหม. นั่นคือของขวัญที่เขาให้เราในวันเกิด เราไม่เข้าใจว่าเราจะเกิดมาทำไม เท่านั้นเองเขากดวางสาย เราโทรไปหาพี่สาวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ร้องไห้ด้วยความเจ็บใจ เขาทำกับเราได้นะ เขาเลี้ยงเราเพื่อเราโตแล้วจะได้กอบโกยผลประโยชน์ เราจะต่ย เาาจะเรียนจบหรือไม่ เขาไม่สน เขาสนแต่เพียงว่าตัวเขาจะรอดหรือเปล่า
ซึ้งใจในความรักของพ่อแม่ หลังจากไปร่วมบุญกับโรงเจนครปฐมก็เจอเรื่องซวยเลย เพื่อนบอกว่าเรียนหนักแล้วอยากตาย
ฉันนึกในใจ "กูต่างหากที่ควรจะพูดว่า'อยากตาย'" ทุกวันนี้เราอยู่ได้เพราะทำงานหาเงินด้วยตัวเอง เราหาเงินส่งตัวเองเรียน
เราพยายามนึกไปว่า จริงๆแล้วพ่อกับแม่ของเราตายไปแล้ว เรากำพร้า แล้วเราต้องอยู่คนเดียวได้ จะไม่นึกว่าเขาทิ้งเราเพื่อจะได้จดจำเวลาดีๆไว้ แต่ก็ทำไม่ได้เสียที เขาทำกับเราเยอะมาก เราเติบโตมาด้วยความรักของพ่อแม่ แต่เป็นความรักจอมปลอม
พ่อแม่ทิ้งลูก เขารักเราหรือเขาเลี้ยงเพราะหวังผลประโยชน์
นับตั้งแต่เด็กตนโตมา เขาแทบไม่ได้ให้ความอบอุ่นเราเลย การที่เขาเลี้ยงเรา ทำดีกับเรา ก็เพื่อจะหวังให้เรากลับมาเลี้ยงเขา โดยที่เขาไม่ยอมทำมาหากินอะไรเลย เขาคอยสร้างหนี้สร้างสินจำนวนมาก ตั้งแต่เกิดมา เขารับค้าผ้าจากของโจรมาตลอด (เป็นของที่ได้มาไม่บริสุทธิ์น่ะ) ทั้งเล่นแชร์อีก
ในแรกเกิดเรามียายที่มักเรียกเขาว่า "อากู" คอยเลี้ยงดู อากูคอยเป็นคนเลี้ยงพ่อให้เติบโตมา ซึ่งเขามีศักดิ์เป็นหลานของอากู บ้านก็มีเป็นของตัวเอง
พ่อกับแม่มักเลี้ยงเราแบบไม่ให้เราไม่เที่ยวไหนกับเพื่อนฝูงเลย เขาให้เราอยู่แต่ในบ้าน คอยกรอกหูเสมอว่า "อย่าไปไว้ใจใคร" บางทีพ่อก็เจ้าอารมณ์ ชอบตะคอก ด่าเรา แช่งเราให้ตาย ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเรามากมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไมครอบครัวอื่นถึฃสุขสันต์จัง ถึงแม้ว่าเขาจะมีเรื่องที่มองไม่เห็น. เรื่องที่ไม่มีความสุขอยู่บ้าง แต่ครอบครัวเขาก็ดูมีความสุขกว่าครอบครัวเราตั้งเยอะ
จนกระทั่งอากูล้มหายตายจากไปตอนเราอยู่ ป.5 หลังจากนั้นบ้านก็เป็นของพ่อ เขาเริ่มค้าผ้าโจรที่เขารับมามากขึ้น ในตอนนั้นเราเด็กมาก จำความไม่ได้
เขาเริ่มเล่นแชร์จนเป็นหนี้ หนี้บัตรอีอ้อน จนท้ายที่สุดเขาเป็นหนี้จนเขาต้องหนีออกจากจังหวัดไป เอาบ้านไปจำนองกับเจ้าหนี หลังจากที่เราเข้าค่ายผู้นำตอนม.4 ได้ 3 วัน เขาขนของขึ้นรถออกจากบ้าน แล้วหลังจากกลับบ้าน คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่เราได้นอนที่บ้าน ก่อนวันรุ่งขึ้นที่ของจไนวนมาก จะถูกโยกย้ายไปขายให้คนรู้จักในราคาแสนถูก เราอยู่ในหอพักกับพี่มาตลอดจนถึงม.4
เราถูกรถชน ย้ายไปอยู่ที่สัตหีบนานปีจนเรียนจบมหาลัย อยู่กับลุงที่รู้จักจนเข้ามาที่กรุงเทพ จนได้มาอยู่กับเขาอีกรอบ
การอยู่กับพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แรกๆเขาเหมือนทำมาหากิน ขายกับข้าว แต่ยามมีก็ใช้เงินฟุ่มเฟือย ซึ่งตรงข้ามกับนิสัยเราที่เป็นคนประหยัด แล้วคิดว่าเราอยู่โดยไม่มีของแบบนั้นก็ได้ เขาเริ่มขอเงินจากญาติทีละแสน บอกกับญาติว่าจะเอาไปลงทุน แต่แสนนั้นทำไมละลายเร็วจัง เขาเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไรกันนะ ใช้หนี้ก็คงไม่เยอะขนาดนั้น
จนวันนึงที่เขาถูกไล่ที่ออกจากที่ขายเดิม เราเข้ามหาลัย เราต้องทำงานส่งตัวเองเรียนไป จะกู้กยศ.ก็ไม่กล้า เพราะเคยกู้ตอนมัธยมแล้วไม่ได้ เราก็เลยไม่กล้ากู้อีก บวกกัลคนที่ไม่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้วเลยพอ เอาจริงๆไหม เขาทิ้งเราให้อยู่คนเดียว คล้ายจะขับไสเราไม่ให้เขามาเลี้ยงเรา วันนั้นเขาไปหาที่อยู่ใหม่ที่ต่างจังหวัด พอเขาได้ที่อยู่แล้ว เราบอกว่าจัดการหาหอใหม่ให้เราได้ไหม เพราะถ้าไม่หาเราจะไม่มีที่อยู่ เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากที่ว่าเขาเคยอยู่บ้านเช่าเก่า แล้วเขาจ่ายเงินไม่ตรงเวลา แล้วถูกเจ้าของบ้านเช่าไล่ที่
เขาด่าเราว่า "นี่มันยุ่งจริงๆ" ทั้งที่เราก็ต้องอยู่เหมือนกัน แต่พอตอนที่เขาอยากได้เงินเราเขาก็จะมาทำเป็นพูดดี รู้ไหม? เขาแอบเอาชื่อของเราไปเซ็นเงินกู้เงินติดล้อ ถอยรถยนต์มาเพราะรถยนต์คันเก่าพังแล้ว แล้วมันพัฃในวันที่เขาส่ฃรถงวดสุดท้าย ...... หมด เหมือนเป็นเวรเป็นกรรม
เราต้องมีหนี้เป็นล้านตั้งแต่เรายังเรียนไม่จบ เขาสบายแฮ เราล่ะ ต้องลำบากกาย ลำบากใจ ล่าสุดเขาจะเอาเงินจากกรมธรรม์ที่เขาทำจากรถคืน
โดยก็ใช้ชื่อเราทำ เช่นเคย เหมือนเป็นโชคบางอย่าง ตอนทำเรื่องเขาไม่ได้เอาสมุดบัญชีมา แต่เผอิญเราเอามาพอดี เลยยื่นสมุดบัญชีของเราไป
ผลคือ เงินเข้าบัญชีเรา 2 หมื่น เราตัดแบ่งให้ตัวเองบางส่วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เขาทำโมโหเราที่ทำแบบนี้ เขาบอกว่าจะเอาเงินมาลงทุนกับจ่ายหนี้รถเรา แล้วก็จะไม่แบ่งเงินเราสักแดง แล้วก็อ้างความชอบธรรมว่า "เงินนั่น เป็นเงินเขา" ทั้งที่เงินนั่นเป็นเงินจากชื่อเรา ที่เขาเอามา งงไหมล่ะ?
แล้วในวันเกิดที่ผ่านมาร้อนๆ เขาตัดเราออกจากวงโคจร เขาบอกว่าจะไม่ส่งเราอีก "จะไม่ได้เงินจากกํ้ไปสักสลึงเดียว" เชื่อไหม. นั่นคือของขวัญที่เขาให้เราในวันเกิด เราไม่เข้าใจว่าเราจะเกิดมาทำไม เท่านั้นเองเขากดวางสาย เราโทรไปหาพี่สาวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ร้องไห้ด้วยความเจ็บใจ เขาทำกับเราได้นะ เขาเลี้ยงเราเพื่อเราโตแล้วจะได้กอบโกยผลประโยชน์ เราจะต่ย เาาจะเรียนจบหรือไม่ เขาไม่สน เขาสนแต่เพียงว่าตัวเขาจะรอดหรือเปล่า
ซึ้งใจในความรักของพ่อแม่ หลังจากไปร่วมบุญกับโรงเจนครปฐมก็เจอเรื่องซวยเลย เพื่อนบอกว่าเรียนหนักแล้วอยากตาย
ฉันนึกในใจ "กูต่างหากที่ควรจะพูดว่า'อยากตาย'" ทุกวันนี้เราอยู่ได้เพราะทำงานหาเงินด้วยตัวเอง เราหาเงินส่งตัวเองเรียน
เราพยายามนึกไปว่า จริงๆแล้วพ่อกับแม่ของเราตายไปแล้ว เรากำพร้า แล้วเราต้องอยู่คนเดียวได้ จะไม่นึกว่าเขาทิ้งเราเพื่อจะได้จดจำเวลาดีๆไว้ แต่ก็ทำไม่ได้เสียที เขาทำกับเราเยอะมาก เราเติบโตมาด้วยความรักของพ่อแม่ แต่เป็นความรักจอมปลอม