สากเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ใช้ในการทำอาหารของคนไทย และเป็นอุปกรณ์ที่มีใช้กันแทบทุกบ้าน แต่สากที่มีใช้กันอยู่แทบทุกบ้านนั้นไม่มีการปรับปรุงแก้ไขแบบและรูปร่างมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานแล้ว ผมจึงได้ออกแบบรูปแบบสากแบบใหม่ โดยพยายามนำข้อด้อยต่างๆที่มีในปัจจุบันมาปรับปรุงให้มาเป็นสาก4.0 ซึ่งเป็นสากที่นำข้อดีต่างๆที่ผมคิดได้มารวมกันเป็นสาก4.0 แบบใหม่นี้ กล่าวคือ
1.ความยาวสากของผมเพิ่มความยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 2 นิ้วจากความยาวของสากขนาดทั่วไปที่เท่าๆกัน เนื่องจาก จากการใช้งานสากทั่วไปนั้นหลายครั้งเมื่อเวลาเราตำ ส่วนล่างของท้องอุ้มมือเราจะไปชนกับขอบสันครก ผมจึงได้เพิ่มความยาวของก้านสากให้ยาวขึ้น
2.สากโดยทั่วไปตัวตุดสากหรือบริเวณที่ตำกับครกจะมีลักษณะทรงโค้ง ซึ่งทำให้เวลาตำจะมีพื้นผิวบริเวณส่วนน้อยเท่านั้นที่มีพื้นที่สัมผัสกับตัวครก สาก4.0ของผมได้ออกแบบให้ตัวตูดสากมีลักษณะแนวราบเพื่อให้แนบขนานกับตัวก้นครก ส่งผลให้มีพื้นที่ที่สัมผัสระหว่างตุดสากกับครกมีพื้นที่มากขึ้นเป็นผลให้เวลาตำ วัสดุที่ถูกตำจะมีพื้นที่สัมผัสที่มากขึ้น
3.ส่วนปลายของสาก4.0 มีหัวหมุดกลึงเพื่อป้องกันการลื่นไหลของมือ และยังช่วยให้มีความสมดุลในเวลาที่ใช้สากตำอีกด้วย การที่มีหัวหมุดอยู่ที่ส่วนปลายของสากทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นจะต้องออกแรงในการกำสากให้แน่นเพื่อป้องกันสากลื่นไหล และเมื่อเราไม่ต้องออกแรงกำสากให้แน่นเวลาตำ ส่งผลให้การตำของเราจะใช้แรงตำที่น้อยลงและคล่องตัวเพิ่มขึ้นจากการที่เราออกแรงจับสากที่น้อยลง จุกหัวหมุดที่ปลายสากนอกจากป้องกันการลื่นไหลของการจับสากแล้วจุกหัวหมุดนี้ยังมีส่วนช่วยให้เวลาเราตำ แรงที่เราใช้ยกสากขึ้น-ลงในการตำ เราจะรู้สึกได้ว่ามันจะดูสมดุลกว่าสากที่ไม่มีจุกหัวหมุดสากถ่วงไว้ที่ปลายด้ามสาก
4.รูปแบบสาก ผมได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของสากจากโดยทั่วๆไปที่มีใช้กัน โดยคำนึงถึงเส้นสายของสากต้องไม่มีลวดลายที่มาก เนื่องจากถ้าสากมีลวดลายมากข้อเสียคืออาจมีเศษอาหารเข้าไปติดตามร่อง ทำความสะอาดได้ยาก และต้นทุนในการทำจะสูงเพราะช่างต้องใช้เวลาและฝีมือเพิ่มขึ้นในการที่จะทำลวดลายลงบนสาก รวมถึงโอกาสแตกหักของลวดลายในเวลาที่มีการใช้งานจริง ดังนั้นรูปแบบสากที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือไม่เพิ่มขึ้นก็ลดลง ซึ่งก็เป็นหลักการทางธรรมชาติอยู่แล้ว โดยสาก4.0 มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ
1.ตัวสากทั่วไป คือรูปแบบสากทั่วๆไป ปลายด้ามสากมีจุกกันการลื่น กับตุดสากที่เป็นแนวระนาบ
2.ตัวสากลูกตุ้ม คือการออกแบบให้ตัวหัวสากหรือส่วนที่ต้องโดนกับตัวครกมีขนาดของส่วนหัวที่โตขึ้นกว่าปกติ
3.ตัวสากก้านเว้า คือการออกแบบให้สากมีส่วนเว้าตรงบริเวณที่ติดกับหัวสากเว้าเข้ามา
ด้วยหลักการที่ได้กล่าวมาแล้ว ตัวสาก4.0 ของผมจึงสามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับสากที่ทำจากหิน และสากที่ทำมาจากไม้ จะแตกต่างกันที่ความยาวและขนาดของหัวสาก โดยสากไม้นั้นส่วนหัวสากจะทำให้มีขนาดอ้วนมากไม่ได้เนื่องจากลักษณะหลุมของตัวครกไม้จะเป็นหลุมลึกลงไปไม่ได้เว้าป้านเหมือนตัวครกหิน รวมถึงความยาวของสากไม้นั้นต้องมีขนาดความยาวให้ยาวมากกว่าสากหิน เนื่องจากลักษณะของตัวครกไม้จะลึกกว่าตัวครกหิน ส่วนหลักการอื่นๆ ก็อ้างถึงลักษณะที่ใช้อ้างอิงกับตัวสากหินได้ (ตัวสากไม้ต้นแบบของข้าพเจ้าทำจากไม้ประดู่เป็นการเปลี่ยนแปลงและยกระดับของสากไม้ที่มีขายกันในบ้านเราโดยใช้ไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมาทำ ไม่ได้ทำจากไม้หาง่ายๆตามท้องถิ่นทั่วไป เป็นแนวทางสร้างความแปลกใหม่และมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสากไม้ที่มีขายในบ้านเรา)
หวังว่าข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้สาก4.0 ของผมได้สร้างความรู้สึกอยากลองใช้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป็นการเปลื่ยนแปลงของพื้นบ้านที่มีใช้กันมายาวนาน มีใช้อยู่ในครัวเรือนแทบทุกบ้าน เป็นการปรับปรุงการใช้งานเพื่อที่ให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ตัวสาก4.0 ของผมนี้ได้ทำการจดอนุสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองการลอกเลียนแบบไว้แล้ว จึงอยากมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองติชมดูว่า จากรูปร่างที่เห็น มันจะเป็นเหมือนที่ผมได้กล่าวไว้ในข้างต้นหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
สาก 4.0 สากแบบใหม่ เท่ห์ ไม่ต้องเหมือนใคร
1.ความยาวสากของผมเพิ่มความยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 2 นิ้วจากความยาวของสากขนาดทั่วไปที่เท่าๆกัน เนื่องจาก จากการใช้งานสากทั่วไปนั้นหลายครั้งเมื่อเวลาเราตำ ส่วนล่างของท้องอุ้มมือเราจะไปชนกับขอบสันครก ผมจึงได้เพิ่มความยาวของก้านสากให้ยาวขึ้น
2.สากโดยทั่วไปตัวตุดสากหรือบริเวณที่ตำกับครกจะมีลักษณะทรงโค้ง ซึ่งทำให้เวลาตำจะมีพื้นผิวบริเวณส่วนน้อยเท่านั้นที่มีพื้นที่สัมผัสกับตัวครก สาก4.0ของผมได้ออกแบบให้ตัวตูดสากมีลักษณะแนวราบเพื่อให้แนบขนานกับตัวก้นครก ส่งผลให้มีพื้นที่ที่สัมผัสระหว่างตุดสากกับครกมีพื้นที่มากขึ้นเป็นผลให้เวลาตำ วัสดุที่ถูกตำจะมีพื้นที่สัมผัสที่มากขึ้น
3.ส่วนปลายของสาก4.0 มีหัวหมุดกลึงเพื่อป้องกันการลื่นไหลของมือ และยังช่วยให้มีความสมดุลในเวลาที่ใช้สากตำอีกด้วย การที่มีหัวหมุดอยู่ที่ส่วนปลายของสากทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นจะต้องออกแรงในการกำสากให้แน่นเพื่อป้องกันสากลื่นไหล และเมื่อเราไม่ต้องออกแรงกำสากให้แน่นเวลาตำ ส่งผลให้การตำของเราจะใช้แรงตำที่น้อยลงและคล่องตัวเพิ่มขึ้นจากการที่เราออกแรงจับสากที่น้อยลง จุกหัวหมุดที่ปลายสากนอกจากป้องกันการลื่นไหลของการจับสากแล้วจุกหัวหมุดนี้ยังมีส่วนช่วยให้เวลาเราตำ แรงที่เราใช้ยกสากขึ้น-ลงในการตำ เราจะรู้สึกได้ว่ามันจะดูสมดุลกว่าสากที่ไม่มีจุกหัวหมุดสากถ่วงไว้ที่ปลายด้ามสาก
4.รูปแบบสาก ผมได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของสากจากโดยทั่วๆไปที่มีใช้กัน โดยคำนึงถึงเส้นสายของสากต้องไม่มีลวดลายที่มาก เนื่องจากถ้าสากมีลวดลายมากข้อเสียคืออาจมีเศษอาหารเข้าไปติดตามร่อง ทำความสะอาดได้ยาก และต้นทุนในการทำจะสูงเพราะช่างต้องใช้เวลาและฝีมือเพิ่มขึ้นในการที่จะทำลวดลายลงบนสาก รวมถึงโอกาสแตกหักของลวดลายในเวลาที่มีการใช้งานจริง ดังนั้นรูปแบบสากที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือไม่เพิ่มขึ้นก็ลดลง ซึ่งก็เป็นหลักการทางธรรมชาติอยู่แล้ว โดยสาก4.0 มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ
1.ตัวสากทั่วไป คือรูปแบบสากทั่วๆไป ปลายด้ามสากมีจุกกันการลื่น กับตุดสากที่เป็นแนวระนาบ
2.ตัวสากลูกตุ้ม คือการออกแบบให้ตัวหัวสากหรือส่วนที่ต้องโดนกับตัวครกมีขนาดของส่วนหัวที่โตขึ้นกว่าปกติ
3.ตัวสากก้านเว้า คือการออกแบบให้สากมีส่วนเว้าตรงบริเวณที่ติดกับหัวสากเว้าเข้ามา
ด้วยหลักการที่ได้กล่าวมาแล้ว ตัวสาก4.0 ของผมจึงสามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับสากที่ทำจากหิน และสากที่ทำมาจากไม้ จะแตกต่างกันที่ความยาวและขนาดของหัวสาก โดยสากไม้นั้นส่วนหัวสากจะทำให้มีขนาดอ้วนมากไม่ได้เนื่องจากลักษณะหลุมของตัวครกไม้จะเป็นหลุมลึกลงไปไม่ได้เว้าป้านเหมือนตัวครกหิน รวมถึงความยาวของสากไม้นั้นต้องมีขนาดความยาวให้ยาวมากกว่าสากหิน เนื่องจากลักษณะของตัวครกไม้จะลึกกว่าตัวครกหิน ส่วนหลักการอื่นๆ ก็อ้างถึงลักษณะที่ใช้อ้างอิงกับตัวสากหินได้ (ตัวสากไม้ต้นแบบของข้าพเจ้าทำจากไม้ประดู่เป็นการเปลี่ยนแปลงและยกระดับของสากไม้ที่มีขายกันในบ้านเราโดยใช้ไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมาทำ ไม่ได้ทำจากไม้หาง่ายๆตามท้องถิ่นทั่วไป เป็นแนวทางสร้างความแปลกใหม่และมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสากไม้ที่มีขายในบ้านเรา)
หวังว่าข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้สาก4.0 ของผมได้สร้างความรู้สึกอยากลองใช้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป็นการเปลื่ยนแปลงของพื้นบ้านที่มีใช้กันมายาวนาน มีใช้อยู่ในครัวเรือนแทบทุกบ้าน เป็นการปรับปรุงการใช้งานเพื่อที่ให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ตัวสาก4.0 ของผมนี้ได้ทำการจดอนุสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองการลอกเลียนแบบไว้แล้ว จึงอยากมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองติชมดูว่า จากรูปร่างที่เห็น มันจะเป็นเหมือนที่ผมได้กล่าวไว้ในข้างต้นหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ