ผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ลงญี่ปุ่นทำไมหมดเร็ว

เคยอ่านพบว่า ระเบิดนิวเคลียร์ลงที่ใดที่นั่นจะมีบรรยากาศเป็นพิษ ไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เป็นร้อยเป็นพันปี
อาจเป็นมะเร็งตายทำนองนี้  แต่ทำไมของญี่ปุ่นถูกปรมาณูลงสองเมือง แต่ทั้งสองเมืองปัจจุบันกลายเป็น
แหล่งท่องเที่ยวในระยะเวลาเพียง 60 ปี  เขาใช้วิธีไหนแก้ไขปัญหาพิษของปรมาณุจึงรวดเร็วมาก.
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ที่ จขกท.บอกว่า  ระเบิดนิวเคลียร์ลงที่ใดที่นั่นจะมีบรรยากาศเป็นพิษ ไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เป็นร้อยเป็นพันปี
อันนี้  คาดว่า  จขกท.จำสับสนระหว่างการรั่วไหลของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กับ ระเบิดนิวเคลียร์ ครับ

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์  จะมีสารตั้งต้นเป็นยูเรเนียม หรือ พลูโตเนียม  หากมันเกิดอุบัติเหตุระเบิดจากความร้อนเกิน
พวกละอองธาตุเหล่านี้ก็จะแพร่กระจายออกไปหลายสิบกิโลเมตร  ไปตกตามที่ต่าง ๆ  และเนื่องจาก "ละออง" เหล่านั้น
เป็นธาตุกัมมันตรังสีล้วน ๆ  มันจึงแพร่อนุภาค decay ออกมาตลอดเวลาที่เราเรียกกันว่า "แพร่กัมมันตภาพรังสี" นั่นเองครับ
การแพร่กัมมันตรังสีของพวกละอองเหล่านี้  จะมีค่า Half-life นานมาก ๆ  ดังนั้น  พื้นที่ที่ฝุ่นละอองเหล่านั้นตกไปถึง
จึงอยู่ไม่ได้นานหลายสิบปี  หรือ  อาจเป็นร้อยปีได้ครับ

แต่ .... ระเบิดนิวเคลียร์ นั้น  จะมีกลไกของการแพร่กัมมันตรังสีที่แตกต่างจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้ามาก
เพราะระเบิดนิวเคลียร์จะใช้ธาตุกัมมันตรังสีที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก  เมื่อมันระเบิด .... ปฏิกิริยา Fission ของมัน
จะมีธาตุกัมมันตรังสีชนิดใหม่ (Fission product) หลงเหลืออยู่  ซึ่งธาตุใหม่นี้แหละครับที่จะ decay ไปเร็วมาก
ภายใน 20 - 300 วัน (โดยประมาณ)  ดังนั้น  หลังการระเบิดของระเบิดทั้ง 2 ลูก (Fat man และ Little boy)  
แค่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น  ก็จะไม่มีการ decay ของธาตุใด ๆ อีก  เพราะมัน decay จนหมดไปแล้วครับ  

อีกอย่างที่สำคัญก็คือ  ทั้ง 2 ลูกเป็นการระเบิดแบบ Air blast (ระเบิดกลางอากาศ)  ทำให้พวก Fallout
พุ่งขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ Stratosphere (เหนือชั้นความสูงของเครื่องบิน) ทำให้ Fallout ที่พื้นดินยิ่งน้อยลงอีกครับ  
แต่ ณ วินาทีที่ระเบิด  จะมี Neutron และ Gamma แพร่ออกมาอย่างเข้มข้น  ซึ่งคนญี่ปุ่นจะตายจากการถูก Neutron นี้ก็มาก
แต่จะไม่มีการตกค้างเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่