ถาม-ตอบ เรื่องโรคซึมเศร้า/ไบโพล่าร์/เครียดมาก ทำอย่างไรดี

ผมห่างหายไปนานจากพันทิป พอเข้ามาดูอีกที มีอินบ้อกมามากมายจากกระทู้เดิมเมื่อปี 2557
ที่เคยโพสไว้เกี่ยวเรี่องโรคซึมเศร้าที่ผมเผขิญและวิธีหลีกหนีจากมันครับ
( โปรดใช้วิจารญานในการอ่าน )

     ยุตนี้ เรื่องโรคซึมเศร้า กลายเป็นกระแสโด่งดัง เมื่อมีศิลปิน/นักร้องขื่อดัง มาจากไปด้วยการฆ่าตัวตาย โดยเมื่อถูกขุดคุ้ยจากสื่อต่างๆ ด้วยความกระะหายใคร่รู้ จะต้องการเกาะกระแส เรียกเรตติ้ง ให้ความรู้ความเข้าใจ หรือเพื่อการใดก็แล้วแต่

     หลังจากนั้น ความสนใจก็จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

     เริ่มกันตรงนี้ดีกว่า ลองทำแบบทดสอบคัดกรองของกรมสุขภาพจิต รวมถึงจากการสังเกตคนใกล้ชิด ( จากพฤติกรรมที่คุณพบเห็น )
ตามลิงก์ข้างล่างนี้

http://www.prdmh.com/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2-9-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1-9q.html

     เมื่อลองทำแบบทดสอบทดสอบคัดกรองแล้ว ให้ดูคำแนะนำวินิจฉัยเบื้องต้นจากกรมสุขภาพจิตครับ

     ทำความเข้าใจกันก่อนว่า ดวามเครียด/ความซึม/ความเศร้า ต่างๆเหล่านั้น มีได้ทุกคน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้า/ไบโพล่าร์

     คำถามคือ แล้วมันต่างกันตรงไหนหล่ะ ถึงจะเรียกว่าเป็นหรือไม่เป็นโรค? อมยิ้ม19

     ถ้าอารมณ์ต่างๆเหล่านั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ก่อกวนวนเวียนในจิตใจคุณ จนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคือ อารมณ์ของคนปกติครับ สังคมในโลกโซเซียลยุคปัจจุบัน มีทั้งด้านบวกและลบ เสพได้ แต่อย่าอินตาม จนเอามาใช้กับชีวิตจริงครับ

     แต่ถ้าอารมณ์ต่างๆเหล่านั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันก่อกวนวนเวียนในจิตใจคุณ จนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคือ อารมณ์ของโรคครับ ย้ำว่า *เป็นอาการของโรค*

     ช่วงแรกๆที่คุณเริ่มป่วย คนรอบกายทุกคนจะระดมคำถามคำแนะนำ ต่างๆนานา ที่มันทำร้ายจิตใจคุณอย่างมาก อาทิเช่น คิดมากเกินไปรึเปล่า?/เฮ้ย อย่าคิดมากสิ!/ปล่อยวางเป็นป่ะ!/ไร้สาระน่า/จะดราม่าไปถึงไหน? บลาๆๆๆๆ

     ขออนุญาติทำความเข้าใจพร้อมกันทั้ง 2 ฝ่ายครับ

     ตำพูดทั้งหลายนั้น ล้วนมาจากเจตนาที่ดีทั้งสิ้น สาส์นที่เขาส่งมาล้วนเป็นวิธีการที่ดี สำหรับผู้พูด รบกวนอีกนิดครับ ช่วยสังเกตปฏิกิริยาของผู้ฟังด้วยว่า การตอบสนองกลับหลังจากนั้น ดีขึ้น ยิ้ม หรือแย่ลง เศร้า

     สำหรับผู้ที่เริ่มป่วยหรือป่วยมานาน ผมขออนุญาติแนะนำว่า ถ้าคำพูดเหล่านั้นทำให้คุณรู้สึกแย่ลงมากๆ อย่าระเบิดอารมณ์ใส่เขาทันที ( ผมเองก็เคยเป็น หัวเราะ ) หลีกห่างออกมาจากพื้นที่ตรงนี้นก่อน

     หาที่คุณรู้สึกสบายใจมากๆ *แล้วค่อยๆใช้สติ* พิจารณาในสาระสำคัญจากคำพูดต่างๆเหล่านั้น และอีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกคุณว่า คุณเป็นคนที่โชคดีอย่างมากที่มีคนใส่ใจในความเปลี่ยนแปลงของคุณ

     เปลี่ยนความรู้สึกไม่ดี/ไม่ชอบ มาเป็น รู้สึกดีใจ/ขอบใจ แทนครับ จะบอกตอนไหนก็แล้วแต่คุณ แต่คุณควรบอกเขาครับ

     ( ยกเว้นคนที่ประชดประชัน หรือ ใข้คำที่ดูถูกเหยียดหยามคุณ=>ปล่อยคนเหล่านั้น ทิ้งออกจากวงโคจรรอบกายคุณสักพัก ราวกับประหนึ่งว่า *ขอโทษ คุณไม่ได้ไปต่อ เชิญครับ/เชิญค่ะ* )

      ถาม-ตอบ ( ส่วนหนึ่ง จาก อินบ้อกผม )

     1. ขอทราบโรงพยาบาลที่พี่เข้ารับการรักษาได้หรือเปล่าคะ พอดีตอนนี้รักษาอยู่แต่เกิดอาการทั้งๆที่กินยาบ่อย อยากลองเปลี่ยนโรงพยาบาลดูค่ะ เผื่อว่ามันจะดีขึ้น   

     ตอบ : รพ.ที่ผมรักษาอยู่ เป็นเอกชนครับ ขออนุญาติไม่บอก
     รพ.เอกชนที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ คือ รพ.มนารมย์ , ...
     รพ.รัฐ ที่แนะนำคือ รพ.รามา กับ รพ.ศิริราช ครับ รพ.อื่นผมไม่กล้าแนะนำครับ
     ที่สำคัญ การเปลื่ยนรพ. เปลี่ยนหมอ เพื่อที่ถูกจริตกับผลจากโรคนี้ที่แต่ละคนได้รับ สมควรอย่างยิ่ง
และสำคัญสุด คือ สู้กับโรคนี้ด้วยกำลังใจของตัวเราเอง ต้องใช้ความเข้มแข็งในตัวเราที่มีออกมาสู้ครับ

     2.สวัสดีค่ะ พอดีได้อ่านกระทู้ของคุณและได้ทราบว่าคุณหายจากการเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว
เลยอยากจะขอปรึกษาค่ะ
     คือเมื่อเดือนที่แล้วได้ไปหาหมอและหมอบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องรักษาโดยการกินยาควบคู่กับการทำจิตบำบัด
สิ่งที่จะปรึกษาคือเราเลือกรักษาโดยไม่ทานยาได้ไหมคะ
     อันนี้ยังไม่ได้ปรึกษาหมอนะคะ แค่อยากทราบจากคนที่เคยเป็นก่อนค่ะว่ายามีผลมากน้อยแค่ไหน

     ตอบ : ยามีผลมากครับ ต้องควบคู่กันไป ยาส่งผลต่อการสร้างสมดุลเคมีในสมอง เช่น พวกเซโรโทนิน โดปามีน เป็นต้น
ทางกายพึ่งพายา ทางใจพึ่งพาสติ จะจากทางใดก็ได้ที่คุณจะรับรู้ได้เองว่าไปเส้นทางนั้นแล้วรู้สึกดี ไม่ใช่ทุกทางไม่ดี แต่มีแค่บางทางที่เหมาะกับคนแต่ละคนครับ

     3.ตอนนี้อาการนอนไม่หลับเป็นยังไงบ้างคะ  เราเป็นโรคซึมเศร้า อาการดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว แต่ยังคงนอนไม่หลับเหมือนกันค่ะ

     ตอบ : ผมยังต้องใช้ยานอนหลับครับ แต่ปริมาณลดลงจนน้อยมาก ถ้ายังไม่ได้พบจิตแพทย์ ผมแนะนำว่าไปพบเถอะครับ ยุคนี้การรักษาดีกว่าอดีตมากมาย
     ปัจจุบันคนไทยเครียดเยอะมาก ซึมเศร้าเยอะมาก ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน (ล่าสุด) ยังไม่นับคนที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่ยอมรับว่าเป็นอีกจำนวนไม่น้อยครับ

     4.สวัสดีครับ  คือแฟนผมเป็นโรคซึมเศร้า  ต้องหาหมอทุก2สัปดาห์ และได้ยานอกเพิ่มด้วยแต่มันทำให้เธอนอนตื่นตี3ทุกคืน (ซึ่งปกติเธอจะนอนเที่ยงคืน-ตี1ประจำ)
     และอาทิตย์นี้เธอไม่ได้ไปหาหมอ เพราะติดสอบ เรื่องยาเธอมักลืมกืนยาตอนเช้าและลดยาเองด้วย ผมอยู่ไกลกับเธอ เรียนคนละที่  ผมควรทำไงดี  
     ปล.ผมไม่กล้าไปด่าเธอให้ไปหาหมอ เพราะเธอมักขี้หงุดหงิดง่าย ยาที่เธอได้มีvaloxan25mg flu-oxe-tine20mg clonazeoam0.5mgมีอีกนะแต่ขอมาได้แค่นี้ ปกติยาฟรีเพราะเป็นนักศึกษา  แต่หมอเพิ่มยานอกให้อีก900บาท เธอไม่ค่อยมีเงินด้วย น่าจะเป็นอีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยไปพบหมอ

     ตอบ : ยา 2 ตัวแรก ช่วยต้านซึมเศร้า ห้ามลดเอง ค่อยๆหาวิธีแนะนำเธอไปครับ สำคัญมาก ยาตัวที่ 3 เป็นยานอนหลับ ปริมาณที่หมอให้จัดว่าน้อยมากครับ ไม่ต้องกังวลว่าจะมากไป
     หมอมักจะสอบถามว่า นอนกี่โมง ตื่นกี่โมง นั่นแค่ประเด็นย่อย ประเด็นหลัก หมอจะถามต่ออีกว่า หลังจากตื่นรู้สึกยังไง นั่นคือจุดสำคัญ
     อีกอย่าง เธอตื่นตีสาม อาจเพราะยานอนหลับที่ใช้โดสน้อยไป แต่ถ้าใช้เวลาทำอะไรบ้าง เช่นลุกไปเข้าห้องน้ำ อ่านหนังสือ ดูทีวี แล้วนอนต่อได้ ตื่นมาไม่เพลีย ถือว่า ใช้ได้ครับ
     แต่ถ้าไม่ แล้วทำให้ตื่นมาเพลียมาก ผมขออนุญาติแนะนำว่า ลองปรึกษาหมอในจุดนี้
     และถ้าจะให้คำปรึกษาเธอจริงๆ ผมแนะนำว่า อย่าใช้อารมณ์ ต้องทนรับให้ได้ว่า อาการของโรคนี้ มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่เป็น เธอต้องการคนเข้าใจมากๆ อย่างน้อยก็อยู่รับฟังในสิ่งที่เธอระบายออกมา โดยไม่ตัดสินใจแทนเธอ อย่าแนะนำแล้วทำให้เธอตีความไปว่า เป็นการต่อว่าเธอ เช่น ทำไมไม่ทำอย่างนี้ หรือทำไมทำอย่างนี้ เป็นต้น
     ถ้ารู้ว่าคุณไม่สามารถดึงเธอขึ้นมาได้ แนะนำว่า คุณควรหาโอกาสพาเธอไปพบหมอ และคุณควรขอเข้าไปพบด้วยว่าคุณควรปฏิบัติกับเธออย่างไร

     5.พอดีกำลังเป็นอยู่นะคะ เคยเป็นหนักๆเมื่อปีก่อน เพราะเจอมรสุมชีวิตหนักมาก กลายเป็นอาการซึมเศร้า อยากตาย กลัวการมีชีวิต แล้วเหมือนพอเจอเรื่องแย่ๆอีก อาการเก่ากำเริบ ควรไปพบจิตแพทย์ที่ไหนดีอะคะ ใช้ประกันสังคมได้มั้ย  เพราะไม่อยากใช้เงินนะคะ ต้องเซฟไว้ รบกวนตอบกลับหน่อยนะคะ
     อาการที่เป็นคือ ชอบเก็บตัว นอนผวาตื่นตอนเช้า หายใจเร็วและแรง กลัวไปหมดทุกสิ่ง ทรมานมากเลยนะคะ ขนาดที่ว่าเป็นคนสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ

     ตอบ : เรื่องการใช้ประกันสังคม ลองติดต่อสายด่วนกรมสุขภาพจิตครับ 1323 บริการตลอด 24 ช.ม.ครับ
     ขออนุญาติถามเพิ่มเติมและแนะนำครับ
     1.นอนผวาตื่นตอนเข้า เกิดอาการผวาเพราะตกใจอะไรครับ
     2.เข้านอนกี่ทุ่ม ตื่นกลางดึกบ่อยแค่ไหน ตื่นแล้วสามารถนอนต่อได้มั้ย ( ถึงแม้จะใช้เวลากี่ช.ม.ก็ตาม )
     3.การนั่งสมาธิ ถ้านั่งแล้ววนเวียนในสมองว่าต้องหายๆๆๆๆๆ ไม่เวิร์คครับ ต้องนั่งแล้วอย่าจดจ่อแค่ลมหายใจเข้าออกตามปกติทั่วไป มันใช้ไม่ได้ผลกับกรณีที่ป่วยด้วยโรคแบบนี้ครับ เมื่อออกจากสมาธิ สมองคุณโปร่งโล่งจากสิ่งที่รุมเร้าในทุกๆวันรึเปล่า นั่นคือคำตอบจากการนั่งสมาธิของแต่ละคน
     การนั่งสมาธิที่เหมาะกับผู้ที่ตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ผมเองก็เคย ใช้วิธีตั้งสติครับ ขอให้มีสติรับรู้ว่าสิ่งเร้านั้นมากระทบให้โกรธ โมโห ไม่พอใจ แล้วก็ให้จบไปแค่นั้น ไม่มโนเพิ่มเติมครับ เหมือนโฆษณาสั้นๆมากระทบใจเรา ปล่อยผ่านหรือวางลงหรือปาทิ้งไปเลยครับ ผมก็ยังต้องทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆครับ
     4.เรื่องเก็บตัว นี่สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ ( ผมก็เป็นเลยทราบดีกว่าทฤษฎีครับ ) ไม่ต้องกังวลครับ การเก็บตัวนี้ เรียกว่า คอมฟอตโซน ( Comfort Zone )
     ส่วนผมเรียกเองว่า ( Safety Zone ) มันคือบริเวณที่เรารู้สึกปลอดภัย หลีกเลี่ยงจากสิ่งเร้า จะนั่ง จะนอน จะทำกิจกรรมอะไรที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ ทำเลยครับ ยกเว้น การนำสิ่งเร้าต่างๆเหล่านั้นเข้ามาด้วย อย่าไปคิดถึงมันครับ คิดว่า เราจะตั้งรับ แก้ไข หนือ ป้องกัน ในครั้งต่อไปอย่างไร จะเกิดประโยชน์กว่าครับ
     5.ความทรมานที่เกิดขึ้น มีแต่ผู้ป่วยด้วยโรคแบบเดียวกันเท่านั้นที่เข้าใจอย่างสุดซึ้ง มองตากันก็แทนคำพูดนับร้อยนับพันครับ การดึงสติตัวเองขึ้นมาพร้อมสู้ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกคนทำได้ครับ ด้วยหลากหลายวิธีการที่เหมาะกับจริตในแต่ละคน ลองหาดูในยูทูปนะครับ ไม่ใช่ทุกคลิปจะถูกจริต จะมีแค่บางคลิป ที่พอฟังแล้ว ok ใช่เลย เลือกคลิปนั้นฟังครับ

     หมายเหตุ : ถาม-ตอบ ทางอินบ้อกส่วนตัวผม มีมาเยอะมาก (ก่อนหน้านั้นหลังโพสต์ครั้งก่อนๆ)
     ขออนุญาตินำมาลงแค่ส่วนเสี้ยวนึง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ และผู้คนใกล้ชิดรอบกาย ได้เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่กำลังประสบปัญหาเหล่านั้น ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการต่อสู้กับโรคเหล่านี้

     พวกเขาไม่ใช่คนอ่อนแอ หากแต่ว่า เข้มแข็งมากกว่าที่พวกคุณคิด เยี่ยม

     ด้วยความปรารถนาดีและเป็นกำลังใจอย่างยิ่งยวด หัวใจ
ให้กับทุกท่าน ทั้งผู้ที่ต้องดูแลช่วยเหลือเคียงข้าง และตัวของผู้ป่วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่