ถึงเพื่อนๆในโซเชียล เราอยากขอความเห็น ความรู้สึก คำแนะนำหน่อยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราและครอบครัวมีความคิดที่จะขายบ้าน และหอพัก เพื่อจะเอาเงินไปลงหลักปักฐานที่บ้านเกิดและกลับไปอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เพราะเรากำลังท้องอ่อนๆ จึงคิดขายบ้านเพราะไม่อยากมีภาระที่ต้องดูหอพัก ในเมืองอีกแล้ว และวันหนึ่งมีคนเข้ามาติดต่อมากมาย จนมาถึงที่รายนึงเป็นผู้หญิงมีรายได้มากมายวันละเป็นแสน เข้ามาติดต่อผ่านนายหน้าที่สามีเราพอรู้จักกัน ขออธิยายก่อนว่าราคาที่ตกลงขายคือ บ้าน4.8ล้านบาท และหอพักในราคา3ล้านบาท(เป็นหอพักเล็กๆมีนักศึกษาเช่าอยู่ก่อนแล้ว) ผู้ซื้อต่อราคา จนทางเรายอมที่ 4.5ล้านบาท ส่วนราคาหอพักไม่ลดแล้ว และยังขอเวลาในสัญญายาวถึง 6เดือน นัดวันทำสัญญากันที่บ้านเรา เค้าบอกว่าจะรีบดำเนินการกู้ธนาคาร คาดว่าจะกู้เพียง 5ล้าน เพราะมีอยู่บ้างแล้ว จริงๆทางเราไม่ได้โอเคกับระยะเวลาสัญญาตั้ง 6เดือน เพราะที่ผ่านมาเราซื้อขายบ้านมาหลายครั้ง ทำเรื่องกันสิ้นสุดใช้เวลาไม่เกิน2เดือน ส่วนใหญ่ก็เดือนครึ่ง จบแล้ว แต่ด้วยทางเราอยากขายหอพักด้วย ให้จบเลยทีเดียว จึงยอมให้เวลาในสัญญาซื้อขายระหว่างเรากับเค้าถึง 6เดือน ในสัญญาระบุว่า ค่ามัดจำ500,000บาท และจะจ่ายให่อีกเดือนละ1แสน ในทุกวันที่2ของเดือน และจะต้องจ่ายให้ครบ7.5ล้านบาท ใน6เดือนถึงจะโอนบ้าน อธิบายข้อสำคัญนิดนึงค่ะ บ้านยังติดแบงค์ ยังมีหนี้อีก ประมาณ2.8ล้านบาท ซึ่งเราผ่อนบ้านอยู่ทุกเดือน จนมาถึง3เดือนหลังนับวันทำสัญญา ด้วยว่ารายได้ของทางครอบครัวลดลงๆเรื่อยๆ เพราะยังทำร้านไม่เสร็จ อีกทั้งการย้ายร้านที่ทำมาหากินก็กว่าจะขายได้ยอดเท่าเมื่อก่อนก็ต้องใช้เวลา รายได้ยังน้อยอยู่ ทำให้ไม่พอจ่ายค่าบ้านมา2งวด เราไม่เคยเป็นแบบนี้ จนธนาคารต้องมาคุยถึงที่บ้าน เราก็อธิบาย และพยายามจ่ายให้ได้ แต่เราก็โดนดอกเบี้ยปรับรวมยาวนาน มากถึง1แสนกว่าๆ ส่วนทางผู้ซื้อก็เข้ไปอยู่อาศัยและทำการปรับปรุงบ้านให้เป็นร้านค้า และบริหารหอพักเอง โดยที่เราก็ไม่ยุ่งแล้ว ย้อนนิดนึงค่ะ ในงวดแรกที่เค้าต้องจ่าย1แสนบาท เค้าก็เลทจ่ายไป1วัน บอกไม่ว่างไม่สบาย นู่นนี่นั่น สุดท้ายเราต้องไปเอาเงินเองถึงบ้านเค้า นั่นคืองวดแรกของการผ่อนจ่าย ซึ่งจ่ายให้กับมือเรา โดยลูกสาวของเค้าเป็นคนยื่นให้ นั่นหมายถึงไม่มีสลิปหรือหลักฐานใดๆ ต่อจากนั้น ทุกเดือนตรงวันกำหนดลูกสาวเค้าจะโอนมาให้ผ่านธนาคาร และไม่กี่วันหลังจากนั้นเค้าก็แจ้งมาว่า จะขอเปลี่ยนชื่อคนทำสัญญาใหม่เป็นชื่อลูกสาว อ้างเค้าไม่เคยมีบัญชีธนาคาร ไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ ทำให้แบงค์ไม่สามารถปล่อยกู้ได้ เราก็เฮ้อ โอเครีบๆทำ ในสัญญาแค่เปลี่ยนชื่อผู้ซื้อเท่านั้น ที่เหลือเหมือนเดิม
😐เวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆเค้าก็โอนเงินมาทุกเดือน แต่ต้องเตือนทุกครั้ง จนมาถึงเดือนที่จะหมดสัญญา ในช่วงที่ผ่านมาเราและแม่ ต่างก็ติดตามเรื่องมาตลอดเพราะถ้าจบเร็วยิ่งดี มาถึงวันใกล้หมดสัญญา จึงเรียกเค้ามาคุยกันอีกที เพราะ ณ วันนั้นเราได้เงินมา ทั้งหมด 1ล้านบาท เป็นเบี้ยหัวแตก พอมาคุยกันที่บ้าน ทางเค้าบอกขอยืดเวลาอีก ไม่กำหนดด้วยว่าเมื่อไหร่ ทางเราไม่ยอม บอกเอางี้ ให้เวลาอีกแค่1เดือน แต่ ตอนนี้ต้องจ่ายมาให้อีก5 แสน เค้าต่อรอง เราขอ3แสน สรุปวันรุ่งขึ้น เค้าโอน 1แสน อีก4-5วันโอนมาอีก 1แสน ระหว่างนั้นเราต้องโทรทวงตลอด ได้รับแต่ข้ออ้าง ขอความเห็นใจ ในขณะที่ทางบ้านเราเดือนร้อนไม่มีเงินจะกินอยู่แล้ว รายยได้ไม่พอ แล้ว กำลังจะคลอดลูกด้วย ความเครียดเข้ามามากมาย ในที่สุดในเดือนหลังหมดสัญญา เราได้มาอีก รวม ตั้งแต่แรกทำสัญญา ได้มาเป็นเงิน1200000บาท ก็คือ เดือนที่หมดสัญญานั้นเราได้รอบต้นเดือนเป็นปกติ กับปลายเดือน รวม2แสน สรุปได้มาแล้ว 1.2ล้านบาท จากนั้นเวลาล่วงเลย ทางเราก็ตามเรื่อง แต่ได้รับแค่คำขอโทษ อ้างไม่มีเงิน เงินยังไม่ออก แบงค์ดำเนินการช้าเพราะโน่นนี่นั่น สารพัด และเราก็คลอดลูก หลังคลอดไม่นานเราก็ทนไม่ไหว จึงไปสอบถามเรื่องราวกับธนาคารที่ผู้ซื้อติดต่อกู้เงิน ขอบอกว่าเป็นธนาคารที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยว ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่เป็นแบงค์เอื้อให้กับคนที่ทำธุรกิจโดยเฉพาะ ทราบเรื่องว่า เค้ายื่นเอกสารมาในเดือนที่3หลังจากที่เราซื้อ เอกสารมีการขอมาเรื่อยๆหลายรอบมากตอนนั่นเราจำได้ และเค้าขอกู้ 2สินเชื่อ คือกู้ซื้อเพื่อทำธุรกิจที่บ้านหลังนั่น และอีกยอดนึงกู้หมุนเวียนอีกธุรกิจ เราเข้าใจแค่นั้น จนท.แบงค์บอกว่า เคสนี้นาน เพราะรวมกู้ ทั้งหมด 10ล้าน จึงใช้เวลานาน ตอนแรกจะเอาแค่6ล้าน แต่เค้าขอเพิ่ม จึงใช้บ้านเค้าเองด้วยเป็นหลักทรัพย์ประกันกู้เพิ่มอีก4ล้าน สรุปใช้หลักทรัพย์ค้ำทั้งบ้านที่เราขายเค้าและบ้านเค้าเอง เรื่องอยู่ในขั้นตอนไปประเมินหละกประกันทั่ง2ที่ ซึ่งใช้เวลาอีก เราถามเรื่องจะจบอีกนานมั้ย เพราะทางเราขายบ้านเงินผ่อนมานานมากแล้ว เดือดร้อนมาก จนท.บอกว่าคาดว่าภายในเดือนนั้นน่าจะจบ เพราะนานมากแล้ว เราก็โอเค และจะตามเรื่องต่อไป ช่วยรับสายเราด้วย เพราะเราคุยกับผู้ซื้อไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว
😐สรุปเดือนนั้นเราก็ยังไม่ได้รับติดต่อจากจนท.แบงค์ มาเรื่อยๆถึงเดือนที่9 หลังทำสัญญา เราได้รับเงินอีก1แสนเป็นงวดสุดท้าย และติดตามมาตลอด ผู้ซื้อบอกว่า แบงค์ต้องการให้ไถ่ถอนโฉนดออกมาเป็นชื่อเราเอง ไม่ให้เป็นชื่อแบงค์เดิม เราถามว่า ตอนที่ทำสัญญานั้น ได้แจ้งแล้วว่าบ้านติดแบงค์ จะไถ่อนยังไง คนซื้อต้องกู้แล้วแบงค์ต้องออกแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้กับแบงค์เดิมก่อน และที่เหลือสั่งจ่ายให้กับผู้ขาย แต่จนท.แบงค์ของผู้ซื้อนั้นบอกว่า บ้านต้องปลอดภาระ😞 ทางแบงค์จะออกดราฟให้ชื่อผู้ขายโดยตรง 😡บ้าไปแล้ว ซื้อขายมาหลายครั้งไม่เป็นแบบนี้ มีแต่ที่นี่ ทำแบบนี้ เค้าบอก แบงค์นี้ เงื่อนไขจะไม่เหมือนแบงค์ทั่วไป ไม่มีการกู้ซื้อบ้าน มีแต่กู้ทำธุรกิจ 😥เฮ้อเหนื่อยใจกับจนท.แบงค์นี้จริงๆพูดแต่ละทีไม่เหมือนกัน เค้าบอกคุยกับผู้ซื้อแล้วว่า ให้ผู้ขายไปทำการไถ่ถอนโฉนดเพื่อให้บ้านปลอดภาระ แล้วถึงจะออกดราฟให้😒😒😒 ถามว่า แรกๆทำไมไม่บอกว่าเงื่อนไขเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ขายให้รายนี้ เคยแนะนำให้กู้ในแบงค์เดียวกันเพราะ เอกสารมีอยู่แล้วดำเนินการเร็ว จบเร็ว เค้าก็ไม่เชื่อ เค้าบอกไม่เคยกู้ อ้างเรื่องดอกเบี้ย สรุปมาช่วงนี้ จนท.บอก จะช่วยให้ดราฟของ4ล้านออกก่อนแต่เอาออกได้แค่1.5ล้าน เพราะถ้าไม่เกิน1.5ล้านสาขาสามารถอนุมัติให้ก่อนได้ อีกเกือบ1.5ล้านบอกให้เราหาเอง เพื่อไปเอาโฉนดออก เราบอกไม่ใช่หน้าที่เรา เพราะเราขายบ้าน ผู้ซื้อต้องนำเงินมาจ่าย แล้วไถ่ถอน และโอนบ้านในวันเดียวกัน เพราะเคยทำแบบนั่นมาแล้ว จนท.และผู้ซื้อต่างยืนกราน หลังจากนั้นจนท.ไม่รับสายเลยต้องใช้เบอร์อื่นโทรไปถึงรับสาย ส่อถึงว่าจนท.แบงค์นั้นมีนอกมีในยังไง ทำไมดูแปลกๆ พอรับสายจึงได้คุย เค้าก็บอกแบบเดิม เราถามว่าเคยอธิบายเงื่อนไขให้ผู้ซื้อทราบมั้ย จนท.ตอบ เคยอธิบายแต่ไม่แน่ใจว่าชัดเจนมั่ย หรือผู้ซื้อไม่เข้าใจเอง ทางเราบอกว่าถ้ายังจะซื้อ ก็หาเงินมาจ่าย เพราะการตามเรื่องทั้งหมดจากแบงค์ ไม่ใช่หน้าที่ผู้ขาย เราอดทนมามากแล้ว ไม่มีใครเค้าทำกันวิธีนี้ ให้ระยะเวลายาวนาน
😡จนมาถึงวันนี้ เราถามผู้ซื้อว่า ถึงไหนแล้ว เค้าบอกว่าเค้าจะช่วยหาเงินอีก1.5ล้านด้วยการขอยืมเพื่อน ส่วนอีก 1.5ล้านนั้นแบงค์จะช่วยออกดราฟมาให้ก่อน แต่ แต่ แต่ ให้เราเป็นคนจ่ายส่วนต่าง เราถาม ส่วนต่างอะไร? เค้าบอกว่าเค้าไปยืมเพื่อนมาก็ต้องมีส่วนต่าง เราถามว่า ส่วนต่างไม่มี มีแต่คำว่าดอกเบี้ย 😕😕😕คือจะใก้เราจ่ายดอกเบี้ยที่ยืมเงินเพื่อนมา เราขำ 😬ยังไง ใครยืมคนนั้นจ่ายไม่ใช่หรอ เค้าบอกว่า เราแค่ขอช่วยยืม แต่ก็เหมือนเรายืม เราต้องจ่าย อ้าว😬😬😬บ้าไปอีก เราว่า คุยไม่รู้เรื่องแล้ว เค้าก็ด่าว่าเรา เราก็ได้แต่อ้าว ยังไง แล้วนางก็วางหูใส่ และไม่ติดต่อมาเลย
ผ่านมาอีก2วัน เราก็ส่งไลน์ไป บอกว่า ตราบใดที่ยังไม่จบเรื่อง เราก็ต้องได้อีก1แสน ตามปกติ อันนี้คือเราคุยกับทนายแล้ว ทนายแนะนำแบบนี้ ให้เราขอ1แสนตามปกติ และนัดวันให้จ่ายครบ ถ้าไม่จ่ายเรามีสิทธิ์ขายคนอื่น
😒ณ เวลา ที่พิมเรื่องนี้ คือ ได้รับคำตอบจากผู้ซื้อในลักษณะไม่ดีว่า" จะขายหรือไม่ขาย พร้อมซื้อ แต่ให้เราไปจ่ายหนี้ก่อน " บ้านเราถูกเค้าทาสีปรับปรุงไป แต่เราก็ไม่ทราบว่ามากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ทางบ้านเราตัดสินใจไม่ขายให้กับเค้าแล้ว เงินทั้งหมด ณ ปัจจุบันได้รับเป็นเงิน 1,400,000บาท ซึ่งมันไม่เหลือแล้ว เพราะเป็นเบี้ยหัวแตก เราเองตอนนี้เดือนร้อนมาก มากที่สุดในชีวิต ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเรื่องถึงวันนี้ เป็นเวลา 10เดือน พอดี
😑มาถึงตอนนี้ อยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆในโซเชียล คำแนะนำ จะด่าก็ได้ค่ะ เรายินดีรับฟัง เราเองอาจจะผิดพลาดตรงไหน อยากได้ความเห็นจริงๆ หรือเราควรจะทำยังไงดี ตอนนี้ เวลานี้ เราแทบไม่มีเงินเลย ขายของในแต่ละวันก็ไม่ได้มากมาย เงินที่ได้ก็ต้องเลี้ยงดูทั้งบ้าน รวมทั้งรายจ่ายเดิมที่เป็นหนี้อยู่บ้างแล้ว เครียดที่สุดในชีวิต แถมลูกยังเล็กเพียง 3เดือนต้องดูแลเอง เราไม่ได้บอกเรื่องนี้เพื่อขอความเห็นใจ แต่อยากได้ความเห็น และคำแนะนำว่าควรทำอย่างไร
😐😐สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนที่อ่าน และทุกคนที่เม้นให้นะคะ วันใดที่เรื่องจบแล้วถ้ามีโอกาส จะมาอัพเดทนะคะ
ขายบ้านพร้อมหอ ยืดระยะเวลาให้คนซื้อแล้ว แต่ก็ไม่จบ ทำไงดี ขอความเห็นหน่อยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราและครอบครัวมีความคิดที่จะขายบ้าน และหอพัก เพื่อจะเอาเงินไปลงหลักปักฐานที่บ้านเกิดและกลับไปอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เพราะเรากำลังท้องอ่อนๆ จึงคิดขายบ้านเพราะไม่อยากมีภาระที่ต้องดูหอพัก ในเมืองอีกแล้ว และวันหนึ่งมีคนเข้ามาติดต่อมากมาย จนมาถึงที่รายนึงเป็นผู้หญิงมีรายได้มากมายวันละเป็นแสน เข้ามาติดต่อผ่านนายหน้าที่สามีเราพอรู้จักกัน ขออธิยายก่อนว่าราคาที่ตกลงขายคือ บ้าน4.8ล้านบาท และหอพักในราคา3ล้านบาท(เป็นหอพักเล็กๆมีนักศึกษาเช่าอยู่ก่อนแล้ว) ผู้ซื้อต่อราคา จนทางเรายอมที่ 4.5ล้านบาท ส่วนราคาหอพักไม่ลดแล้ว และยังขอเวลาในสัญญายาวถึง 6เดือน นัดวันทำสัญญากันที่บ้านเรา เค้าบอกว่าจะรีบดำเนินการกู้ธนาคาร คาดว่าจะกู้เพียง 5ล้าน เพราะมีอยู่บ้างแล้ว จริงๆทางเราไม่ได้โอเคกับระยะเวลาสัญญาตั้ง 6เดือน เพราะที่ผ่านมาเราซื้อขายบ้านมาหลายครั้ง ทำเรื่องกันสิ้นสุดใช้เวลาไม่เกิน2เดือน ส่วนใหญ่ก็เดือนครึ่ง จบแล้ว แต่ด้วยทางเราอยากขายหอพักด้วย ให้จบเลยทีเดียว จึงยอมให้เวลาในสัญญาซื้อขายระหว่างเรากับเค้าถึง 6เดือน ในสัญญาระบุว่า ค่ามัดจำ500,000บาท และจะจ่ายให่อีกเดือนละ1แสน ในทุกวันที่2ของเดือน และจะต้องจ่ายให้ครบ7.5ล้านบาท ใน6เดือนถึงจะโอนบ้าน อธิบายข้อสำคัญนิดนึงค่ะ บ้านยังติดแบงค์ ยังมีหนี้อีก ประมาณ2.8ล้านบาท ซึ่งเราผ่อนบ้านอยู่ทุกเดือน จนมาถึง3เดือนหลังนับวันทำสัญญา ด้วยว่ารายได้ของทางครอบครัวลดลงๆเรื่อยๆ เพราะยังทำร้านไม่เสร็จ อีกทั้งการย้ายร้านที่ทำมาหากินก็กว่าจะขายได้ยอดเท่าเมื่อก่อนก็ต้องใช้เวลา รายได้ยังน้อยอยู่ ทำให้ไม่พอจ่ายค่าบ้านมา2งวด เราไม่เคยเป็นแบบนี้ จนธนาคารต้องมาคุยถึงที่บ้าน เราก็อธิบาย และพยายามจ่ายให้ได้ แต่เราก็โดนดอกเบี้ยปรับรวมยาวนาน มากถึง1แสนกว่าๆ ส่วนทางผู้ซื้อก็เข้ไปอยู่อาศัยและทำการปรับปรุงบ้านให้เป็นร้านค้า และบริหารหอพักเอง โดยที่เราก็ไม่ยุ่งแล้ว ย้อนนิดนึงค่ะ ในงวดแรกที่เค้าต้องจ่าย1แสนบาท เค้าก็เลทจ่ายไป1วัน บอกไม่ว่างไม่สบาย นู่นนี่นั่น สุดท้ายเราต้องไปเอาเงินเองถึงบ้านเค้า นั่นคืองวดแรกของการผ่อนจ่าย ซึ่งจ่ายให้กับมือเรา โดยลูกสาวของเค้าเป็นคนยื่นให้ นั่นหมายถึงไม่มีสลิปหรือหลักฐานใดๆ ต่อจากนั้น ทุกเดือนตรงวันกำหนดลูกสาวเค้าจะโอนมาให้ผ่านธนาคาร และไม่กี่วันหลังจากนั้นเค้าก็แจ้งมาว่า จะขอเปลี่ยนชื่อคนทำสัญญาใหม่เป็นชื่อลูกสาว อ้างเค้าไม่เคยมีบัญชีธนาคาร ไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ ทำให้แบงค์ไม่สามารถปล่อยกู้ได้ เราก็เฮ้อ โอเครีบๆทำ ในสัญญาแค่เปลี่ยนชื่อผู้ซื้อเท่านั้น ที่เหลือเหมือนเดิม
😐เวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆเค้าก็โอนเงินมาทุกเดือน แต่ต้องเตือนทุกครั้ง จนมาถึงเดือนที่จะหมดสัญญา ในช่วงที่ผ่านมาเราและแม่ ต่างก็ติดตามเรื่องมาตลอดเพราะถ้าจบเร็วยิ่งดี มาถึงวันใกล้หมดสัญญา จึงเรียกเค้ามาคุยกันอีกที เพราะ ณ วันนั้นเราได้เงินมา ทั้งหมด 1ล้านบาท เป็นเบี้ยหัวแตก พอมาคุยกันที่บ้าน ทางเค้าบอกขอยืดเวลาอีก ไม่กำหนดด้วยว่าเมื่อไหร่ ทางเราไม่ยอม บอกเอางี้ ให้เวลาอีกแค่1เดือน แต่ ตอนนี้ต้องจ่ายมาให้อีก5 แสน เค้าต่อรอง เราขอ3แสน สรุปวันรุ่งขึ้น เค้าโอน 1แสน อีก4-5วันโอนมาอีก 1แสน ระหว่างนั้นเราต้องโทรทวงตลอด ได้รับแต่ข้ออ้าง ขอความเห็นใจ ในขณะที่ทางบ้านเราเดือนร้อนไม่มีเงินจะกินอยู่แล้ว รายยได้ไม่พอ แล้ว กำลังจะคลอดลูกด้วย ความเครียดเข้ามามากมาย ในที่สุดในเดือนหลังหมดสัญญา เราได้มาอีก รวม ตั้งแต่แรกทำสัญญา ได้มาเป็นเงิน1200000บาท ก็คือ เดือนที่หมดสัญญานั้นเราได้รอบต้นเดือนเป็นปกติ กับปลายเดือน รวม2แสน สรุปได้มาแล้ว 1.2ล้านบาท จากนั้นเวลาล่วงเลย ทางเราก็ตามเรื่อง แต่ได้รับแค่คำขอโทษ อ้างไม่มีเงิน เงินยังไม่ออก แบงค์ดำเนินการช้าเพราะโน่นนี่นั่น สารพัด และเราก็คลอดลูก หลังคลอดไม่นานเราก็ทนไม่ไหว จึงไปสอบถามเรื่องราวกับธนาคารที่ผู้ซื้อติดต่อกู้เงิน ขอบอกว่าเป็นธนาคารที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยว ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่เป็นแบงค์เอื้อให้กับคนที่ทำธุรกิจโดยเฉพาะ ทราบเรื่องว่า เค้ายื่นเอกสารมาในเดือนที่3หลังจากที่เราซื้อ เอกสารมีการขอมาเรื่อยๆหลายรอบมากตอนนั่นเราจำได้ และเค้าขอกู้ 2สินเชื่อ คือกู้ซื้อเพื่อทำธุรกิจที่บ้านหลังนั่น และอีกยอดนึงกู้หมุนเวียนอีกธุรกิจ เราเข้าใจแค่นั้น จนท.แบงค์บอกว่า เคสนี้นาน เพราะรวมกู้ ทั้งหมด 10ล้าน จึงใช้เวลานาน ตอนแรกจะเอาแค่6ล้าน แต่เค้าขอเพิ่ม จึงใช้บ้านเค้าเองด้วยเป็นหลักทรัพย์ประกันกู้เพิ่มอีก4ล้าน สรุปใช้หลักทรัพย์ค้ำทั้งบ้านที่เราขายเค้าและบ้านเค้าเอง เรื่องอยู่ในขั้นตอนไปประเมินหละกประกันทั่ง2ที่ ซึ่งใช้เวลาอีก เราถามเรื่องจะจบอีกนานมั้ย เพราะทางเราขายบ้านเงินผ่อนมานานมากแล้ว เดือดร้อนมาก จนท.บอกว่าคาดว่าภายในเดือนนั้นน่าจะจบ เพราะนานมากแล้ว เราก็โอเค และจะตามเรื่องต่อไป ช่วยรับสายเราด้วย เพราะเราคุยกับผู้ซื้อไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว
😐สรุปเดือนนั้นเราก็ยังไม่ได้รับติดต่อจากจนท.แบงค์ มาเรื่อยๆถึงเดือนที่9 หลังทำสัญญา เราได้รับเงินอีก1แสนเป็นงวดสุดท้าย และติดตามมาตลอด ผู้ซื้อบอกว่า แบงค์ต้องการให้ไถ่ถอนโฉนดออกมาเป็นชื่อเราเอง ไม่ให้เป็นชื่อแบงค์เดิม เราถามว่า ตอนที่ทำสัญญานั้น ได้แจ้งแล้วว่าบ้านติดแบงค์ จะไถ่อนยังไง คนซื้อต้องกู้แล้วแบงค์ต้องออกแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้กับแบงค์เดิมก่อน และที่เหลือสั่งจ่ายให้กับผู้ขาย แต่จนท.แบงค์ของผู้ซื้อนั้นบอกว่า บ้านต้องปลอดภาระ😞 ทางแบงค์จะออกดราฟให้ชื่อผู้ขายโดยตรง 😡บ้าไปแล้ว ซื้อขายมาหลายครั้งไม่เป็นแบบนี้ มีแต่ที่นี่ ทำแบบนี้ เค้าบอก แบงค์นี้ เงื่อนไขจะไม่เหมือนแบงค์ทั่วไป ไม่มีการกู้ซื้อบ้าน มีแต่กู้ทำธุรกิจ 😥เฮ้อเหนื่อยใจกับจนท.แบงค์นี้จริงๆพูดแต่ละทีไม่เหมือนกัน เค้าบอกคุยกับผู้ซื้อแล้วว่า ให้ผู้ขายไปทำการไถ่ถอนโฉนดเพื่อให้บ้านปลอดภาระ แล้วถึงจะออกดราฟให้😒😒😒 ถามว่า แรกๆทำไมไม่บอกว่าเงื่อนไขเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ขายให้รายนี้ เคยแนะนำให้กู้ในแบงค์เดียวกันเพราะ เอกสารมีอยู่แล้วดำเนินการเร็ว จบเร็ว เค้าก็ไม่เชื่อ เค้าบอกไม่เคยกู้ อ้างเรื่องดอกเบี้ย สรุปมาช่วงนี้ จนท.บอก จะช่วยให้ดราฟของ4ล้านออกก่อนแต่เอาออกได้แค่1.5ล้าน เพราะถ้าไม่เกิน1.5ล้านสาขาสามารถอนุมัติให้ก่อนได้ อีกเกือบ1.5ล้านบอกให้เราหาเอง เพื่อไปเอาโฉนดออก เราบอกไม่ใช่หน้าที่เรา เพราะเราขายบ้าน ผู้ซื้อต้องนำเงินมาจ่าย แล้วไถ่ถอน และโอนบ้านในวันเดียวกัน เพราะเคยทำแบบนั่นมาแล้ว จนท.และผู้ซื้อต่างยืนกราน หลังจากนั้นจนท.ไม่รับสายเลยต้องใช้เบอร์อื่นโทรไปถึงรับสาย ส่อถึงว่าจนท.แบงค์นั้นมีนอกมีในยังไง ทำไมดูแปลกๆ พอรับสายจึงได้คุย เค้าก็บอกแบบเดิม เราถามว่าเคยอธิบายเงื่อนไขให้ผู้ซื้อทราบมั้ย จนท.ตอบ เคยอธิบายแต่ไม่แน่ใจว่าชัดเจนมั่ย หรือผู้ซื้อไม่เข้าใจเอง ทางเราบอกว่าถ้ายังจะซื้อ ก็หาเงินมาจ่าย เพราะการตามเรื่องทั้งหมดจากแบงค์ ไม่ใช่หน้าที่ผู้ขาย เราอดทนมามากแล้ว ไม่มีใครเค้าทำกันวิธีนี้ ให้ระยะเวลายาวนาน
😡จนมาถึงวันนี้ เราถามผู้ซื้อว่า ถึงไหนแล้ว เค้าบอกว่าเค้าจะช่วยหาเงินอีก1.5ล้านด้วยการขอยืมเพื่อน ส่วนอีก 1.5ล้านนั้นแบงค์จะช่วยออกดราฟมาให้ก่อน แต่ แต่ แต่ ให้เราเป็นคนจ่ายส่วนต่าง เราถาม ส่วนต่างอะไร? เค้าบอกว่าเค้าไปยืมเพื่อนมาก็ต้องมีส่วนต่าง เราถามว่า ส่วนต่างไม่มี มีแต่คำว่าดอกเบี้ย 😕😕😕คือจะใก้เราจ่ายดอกเบี้ยที่ยืมเงินเพื่อนมา เราขำ 😬ยังไง ใครยืมคนนั้นจ่ายไม่ใช่หรอ เค้าบอกว่า เราแค่ขอช่วยยืม แต่ก็เหมือนเรายืม เราต้องจ่าย อ้าว😬😬😬บ้าไปอีก เราว่า คุยไม่รู้เรื่องแล้ว เค้าก็ด่าว่าเรา เราก็ได้แต่อ้าว ยังไง แล้วนางก็วางหูใส่ และไม่ติดต่อมาเลย
ผ่านมาอีก2วัน เราก็ส่งไลน์ไป บอกว่า ตราบใดที่ยังไม่จบเรื่อง เราก็ต้องได้อีก1แสน ตามปกติ อันนี้คือเราคุยกับทนายแล้ว ทนายแนะนำแบบนี้ ให้เราขอ1แสนตามปกติ และนัดวันให้จ่ายครบ ถ้าไม่จ่ายเรามีสิทธิ์ขายคนอื่น
😒ณ เวลา ที่พิมเรื่องนี้ คือ ได้รับคำตอบจากผู้ซื้อในลักษณะไม่ดีว่า" จะขายหรือไม่ขาย พร้อมซื้อ แต่ให้เราไปจ่ายหนี้ก่อน " บ้านเราถูกเค้าทาสีปรับปรุงไป แต่เราก็ไม่ทราบว่ามากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ทางบ้านเราตัดสินใจไม่ขายให้กับเค้าแล้ว เงินทั้งหมด ณ ปัจจุบันได้รับเป็นเงิน 1,400,000บาท ซึ่งมันไม่เหลือแล้ว เพราะเป็นเบี้ยหัวแตก เราเองตอนนี้เดือนร้อนมาก มากที่สุดในชีวิต ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเรื่องถึงวันนี้ เป็นเวลา 10เดือน พอดี
😑มาถึงตอนนี้ อยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆในโซเชียล คำแนะนำ จะด่าก็ได้ค่ะ เรายินดีรับฟัง เราเองอาจจะผิดพลาดตรงไหน อยากได้ความเห็นจริงๆ หรือเราควรจะทำยังไงดี ตอนนี้ เวลานี้ เราแทบไม่มีเงินเลย ขายของในแต่ละวันก็ไม่ได้มากมาย เงินที่ได้ก็ต้องเลี้ยงดูทั้งบ้าน รวมทั้งรายจ่ายเดิมที่เป็นหนี้อยู่บ้างแล้ว เครียดที่สุดในชีวิต แถมลูกยังเล็กเพียง 3เดือนต้องดูแลเอง เราไม่ได้บอกเรื่องนี้เพื่อขอความเห็นใจ แต่อยากได้ความเห็น และคำแนะนำว่าควรทำอย่างไร
😐😐สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนที่อ่าน และทุกคนที่เม้นให้นะคะ วันใดที่เรื่องจบแล้วถ้ามีโอกาส จะมาอัพเดทนะคะ