ปัจจุบันหลายคนสนใจที่จะทำอาชีพเสริมกันมากขึ้น โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน เรียกได้ว่าเป็น “เทรนด์แรงแซงโค้ง” เลยก็ว่าได้ เหมือนที่เรามักจะเห็นแม่ค้าไลฟ์ขายของกันใน Facebook มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนสนใจทำอาชีพเสริมมากขึ้นนั้นมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อให้มีรายได้ที่มากขึ้น สามารถปลดภาระหนี้สินได้ หรือ หาความท้าทายนอกเหนือจากงานประจำ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ บางคนอาจจะสนใจทำอาชีพเสริม แต่ยังไม่รู้ว่าอาชีพเสริมแบบไหน “ที่เหมาะกับเรา” วันนี้ K-Expert จะพาไปดูกันครับว่า เรานั้นเหมาะกับอาชีพเสริมแบบไหน สไตล์ไหนกัน
1. แนวให้บริการอย่างประทับใจ
หากเรามีความเชี่ยวชาญในแบบฉบับจำเพาะของตัวเอง ก็ไม่ยากเลยที่จะนำความเชี่ยวชาญนั้นมาสร้างเงินครับ มากไปกว่านั้น ยิ่งเราแข็งแกร่งมีวิทยายุทธ์แรงกล้า ค่าตัวเราก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยตัวอย่างงานสไตล์นี้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การรับถ่ายภาพรับปริญญา ติวเตอร์สอนพิเศษ โปรแกรมเมอร์อิสระ หรือ นายหน้า เป็นต้น ยิ่งเพื่อนๆ รับงานมากขึ้น หากผลงานเราดี ลูกค้าก็จะรีเฟอร์กันปากต่อปากมากขึ้น นอกจากนี้ ในอินเทอร์เน็ตก็มีเว็บไซต์หลากหลายที่เป็นเหมือนตัวกลาง (Platform) ต่างๆ เชื่อมระหว่างเรากับลูกค้า ทำให้ยิ่งง่ายในการหาลูกค้า เพียงแค่เพื่อนๆ วางประวัติไว้บนนั้น หากว่ามีลูกค้าสนใจขอรับบริการ ก็จะเจอกันได้อย่างง่ายดาย
**ข้อควรระวัง** หากทำอาชีพเสริมที่ต่อยอดจากงานประจำ เพื่อนๆ ต้องระวังอย่าให้ขัดแย้งในด้านผลประโยชน์กับงานประจำที่ทำอยู่ ซึ่งต้องลองดูในเงื่อนไขการจ้างงานให้ละเอียดก่อนนะครับ
2. ขายของออนไลน์
หากเพื่อนๆ มีความชอบในเรื่องการหาผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะอินเทรนด์ และสามารถจับความชอบลูกค้าได้ เราแนะนำว่าการขายของออนไลน์น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สร้างเงินได้อย่างงาม ซึ่งแนวทางในการขายของออนไลน์ในปัจจุบันแบ่งง่ายๆ เป็น
a. ขายของออนไลน์ผ่านทาง Website หรือ Platform ออนไลน์ต่างๆ : นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มาก เรียกว่าสามารถ Go Inter ไปได้ทั้งโลก โดยเราสามารถโพสต์ขายของบน Platform ต่างๆ ได้เลย เช่น Instagram, 11street, Lazada, Shopee, Amazon ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ต้นทุนน้อย แต่คนเห็นมาก
b. ขายของออนไลน์แบบ Pre-Order : การสั่งจองซื้อล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ : วิธีการนี้จะทำให้เราสามารถรู้ได้ก่อนว่าลูกค้าต้องการสินค้าจำนวนเท่าไหร่ จึงไม่เกิดอาการ
สต๊อกสินค้ามากจนเกินไป เพราะถ้าสินค้าของเรา “ตกเทรนด์ “ ขึ้นมาแล้วล่ะก็ เราจะขายสินค้าไม่ออก
** ข้อควรระวัง** หากยิ่งทำง่ายเท่าไหร่ การแข่งขันย่อมสูงตาม เพราะเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ (Me-too Business) ดังนั้น งานนี้อาจต้องงัดหมัดเด็ด สวมวิญญาณของ “นักการตลาด” เพื่อทำให้สินค้าเราโดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยการทำกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์รูปแบบต่างๆ ครับ
3. สร้างสรรค์สิ่งใหม่
คงน่าสนใจไม่น้อยหากเพื่อนๆ สามารถนำ “ไอเดีย” มาสร้างให้กลายเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งวิธีการนี้ อาจจะยากซักหน่อย แต่การบ่มเพาะประสบการณ์หรือทักษะจะช่วยให้เราสร้างธุรกิจขึ้นมาได้อย่างยั่งยืน เพื่อนๆ อาจต้อง “ตีโจทย์” ให้ออก แล้วสร้างจุดแข็งของการทำธุรกิจออกมา เช่น การสร้าง Application มาวางขาย ที่ต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและความง่ายของการใช้งาน หรือหากใครเป็นสายหวาน เป็นไปได้ที่จะออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ ซึ่งสุดท้ายแล้วเพื่อนๆ ก็จะมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้ในวันหนึ่ง
** ข้อควรระวัง** เราอาจต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในช่วงแรกรอบด้าน ดังนั้น อยากให้เราอดทน และต่อสู้ครับ เพราะว่าโลกหมุนไวมาก ดังนั้น เราต้องรู้ทันปัญหาและหาแนวทางแก้ใหม่ๆ เสมอ เพราะถ้าหากเรายึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือทำตามตำรามากเกินไปอาจจะเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดายครับ
K-Expert หวังว่า ทุกคนจะเริ่มพบอาชีพเสริมที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบกันนะครับ ยิ่งเราชอบ ยิ่งเราถนัดอะไร เราก็จะยิ่งมีไฟไปกับมัน แล้วที่มากไปกว่านั้นคือ เพื่อนๆ จะมีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลยนะครับ
** หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากแบ่งปันประสบการณ์มันๆ เกี่ยวกับการทำอาชีพเสริมแบบต่างๆ ก็ลองโพสต์กันมาได้เลยครับ ยิ่งแชร์มาก ยิ่งได้มากนะครับ ***
ค้นหาอาชีพเสริมที่ใช่ สร้างเงินในแบบที่ชอบ #มนุษย์เงินเดือน 2018
ปัจจุบันหลายคนสนใจที่จะทำอาชีพเสริมกันมากขึ้น โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน เรียกได้ว่าเป็น “เทรนด์แรงแซงโค้ง” เลยก็ว่าได้ เหมือนที่เรามักจะเห็นแม่ค้าไลฟ์ขายของกันใน Facebook มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนสนใจทำอาชีพเสริมมากขึ้นนั้นมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อให้มีรายได้ที่มากขึ้น สามารถปลดภาระหนี้สินได้ หรือ หาความท้าทายนอกเหนือจากงานประจำ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ บางคนอาจจะสนใจทำอาชีพเสริม แต่ยังไม่รู้ว่าอาชีพเสริมแบบไหน “ที่เหมาะกับเรา” วันนี้ K-Expert จะพาไปดูกันครับว่า เรานั้นเหมาะกับอาชีพเสริมแบบไหน สไตล์ไหนกัน
หากเรามีความเชี่ยวชาญในแบบฉบับจำเพาะของตัวเอง ก็ไม่ยากเลยที่จะนำความเชี่ยวชาญนั้นมาสร้างเงินครับ มากไปกว่านั้น ยิ่งเราแข็งแกร่งมีวิทยายุทธ์แรงกล้า ค่าตัวเราก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยตัวอย่างงานสไตล์นี้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การรับถ่ายภาพรับปริญญา ติวเตอร์สอนพิเศษ โปรแกรมเมอร์อิสระ หรือ นายหน้า เป็นต้น ยิ่งเพื่อนๆ รับงานมากขึ้น หากผลงานเราดี ลูกค้าก็จะรีเฟอร์กันปากต่อปากมากขึ้น นอกจากนี้ ในอินเทอร์เน็ตก็มีเว็บไซต์หลากหลายที่เป็นเหมือนตัวกลาง (Platform) ต่างๆ เชื่อมระหว่างเรากับลูกค้า ทำให้ยิ่งง่ายในการหาลูกค้า เพียงแค่เพื่อนๆ วางประวัติไว้บนนั้น หากว่ามีลูกค้าสนใจขอรับบริการ ก็จะเจอกันได้อย่างง่ายดาย
**ข้อควรระวัง** หากทำอาชีพเสริมที่ต่อยอดจากงานประจำ เพื่อนๆ ต้องระวังอย่าให้ขัดแย้งในด้านผลประโยชน์กับงานประจำที่ทำอยู่ ซึ่งต้องลองดูในเงื่อนไขการจ้างงานให้ละเอียดก่อนนะครับ
หากเพื่อนๆ มีความชอบในเรื่องการหาผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะอินเทรนด์ และสามารถจับความชอบลูกค้าได้ เราแนะนำว่าการขายของออนไลน์น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สร้างเงินได้อย่างงาม ซึ่งแนวทางในการขายของออนไลน์ในปัจจุบันแบ่งง่ายๆ เป็น
a. ขายของออนไลน์ผ่านทาง Website หรือ Platform ออนไลน์ต่างๆ : นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มาก เรียกว่าสามารถ Go Inter ไปได้ทั้งโลก โดยเราสามารถโพสต์ขายของบน Platform ต่างๆ ได้เลย เช่น Instagram, 11street, Lazada, Shopee, Amazon ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ต้นทุนน้อย แต่คนเห็นมาก
b. ขายของออนไลน์แบบ Pre-Order : การสั่งจองซื้อล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ : วิธีการนี้จะทำให้เราสามารถรู้ได้ก่อนว่าลูกค้าต้องการสินค้าจำนวนเท่าไหร่ จึงไม่เกิดอาการ
สต๊อกสินค้ามากจนเกินไป เพราะถ้าสินค้าของเรา “ตกเทรนด์ “ ขึ้นมาแล้วล่ะก็ เราจะขายสินค้าไม่ออก
** ข้อควรระวัง** หากยิ่งทำง่ายเท่าไหร่ การแข่งขันย่อมสูงตาม เพราะเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ (Me-too Business) ดังนั้น งานนี้อาจต้องงัดหมัดเด็ด สวมวิญญาณของ “นักการตลาด” เพื่อทำให้สินค้าเราโดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยการทำกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์รูปแบบต่างๆ ครับ
คงน่าสนใจไม่น้อยหากเพื่อนๆ สามารถนำ “ไอเดีย” มาสร้างให้กลายเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งวิธีการนี้ อาจจะยากซักหน่อย แต่การบ่มเพาะประสบการณ์หรือทักษะจะช่วยให้เราสร้างธุรกิจขึ้นมาได้อย่างยั่งยืน เพื่อนๆ อาจต้อง “ตีโจทย์” ให้ออก แล้วสร้างจุดแข็งของการทำธุรกิจออกมา เช่น การสร้าง Application มาวางขาย ที่ต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและความง่ายของการใช้งาน หรือหากใครเป็นสายหวาน เป็นไปได้ที่จะออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ ซึ่งสุดท้ายแล้วเพื่อนๆ ก็จะมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้ในวันหนึ่ง
** ข้อควรระวัง** เราอาจต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในช่วงแรกรอบด้าน ดังนั้น อยากให้เราอดทน และต่อสู้ครับ เพราะว่าโลกหมุนไวมาก ดังนั้น เราต้องรู้ทันปัญหาและหาแนวทางแก้ใหม่ๆ เสมอ เพราะถ้าหากเรายึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือทำตามตำรามากเกินไปอาจจะเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดายครับ
K-Expert หวังว่า ทุกคนจะเริ่มพบอาชีพเสริมที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบกันนะครับ ยิ่งเราชอบ ยิ่งเราถนัดอะไร เราก็จะยิ่งมีไฟไปกับมัน แล้วที่มากไปกว่านั้นคือ เพื่อนๆ จะมีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลยนะครับ
** หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากแบ่งปันประสบการณ์มันๆ เกี่ยวกับการทำอาชีพเสริมแบบต่างๆ ก็ลองโพสต์กันมาได้เลยครับ ยิ่งแชร์มาก ยิ่งได้มากนะครับ ***