ปตท.ให้ GPSC ซื้อหุ้น GLOW ขัดรัฐธรรมนูญ คุณ กรณ์ ตกสาระสำคัญอะไรไปหรือปล่าวครับ ?


10 ก.ย. 60 (เมื่อวาน) เห็นคุณ กรณ์ จาติกวณิช จากพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี คัดค้านกรณี บริษัท ปตท. มีมติให้บริษัทลูก (GPSC) เตรียมจัดซื้อหุ้นของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) โดยให้เหตุผลว่าอาจเข้าข่ายเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 75 ที่ระบุว่าห้าม “รัฐทำธุรกิจแข่งขันกับเอกชน”

ลำพังอาศัยแค่ข้อความตามรัฐธรรมนูญนี้ก็เกิดความสงสัยแล้วว่า คุณ กรณ์ ได้ทำความเข้าใจต่อเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ มาตรา 75 อย่างชัดเจนหรือไม่ และคุณ กรณ์ เข้าใจสถานะของ บริษัท GPSC ที่ถูกพาดพิงอย่างไร? GPSC มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือว่าเป็นเอกชน เพราะถ้าไม่ได้มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจมันก็ไม่เข้าข่ายว่าขัดรัฐธรรมนูญ และตัวบริษัท ปตท.ก็ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GPSC แต่อย่างใด อย่าว่าแต่ GPSC แต่เดิมก็ประกอบกิจการในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าซึ่งก็มีเอกชนรายอื่นๆดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นถ้าจะบอกว่าการประกอบธุรกิจของ GPSC เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมันก็ต้องขัดมาตั้งแต่แรกดำเนินกิจการแล้วไม่ใช่พึ่งจะมาขัดเอาตอนที่เข้าไปซื้อหุ้นของ GLOW ใช่หรือไม่?

อีกทั้งข้อความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 75 ยังระบุข้อความที่เป็นข้อยกเว้นไว้ด้วยว่า การประกอบกิจการของรัฐนั้นยกเว้นใน ”กรณีที่มีความจําเป็น เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ การรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม การจัดให้มีสาธารณูปโภค หรือการจัดทําบริการสาธารณะ”

คำถามที่ตามมาคือการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าอันเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมันไม่ได้เป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐหรืออย่างไร? ข้อสังเกตุเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่คนทั่วไปสามารถทำความเข้าใจได้โดยง่ายไม่ซับซ้อน
แต่คนระดับอย่าง คุณ กรณ์ จาติกวณิช ที่เคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีคลังมาแล้ว กลับพลาดตกในเรื่องสาระสำคัญแบบง่ายๆมันเป็นไปได้หรือ?

การกระทำของคุณ กรณ์ ต่อเรื่องนี้ในฐานะนักการเมืองนั้นสามารถทำได้และเป็นสิ่งที่สมควรทำด้วยเพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับประชน แต่ด้วยความที่เป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงการแสดงความคิดเห็นหรือการดำเนินการใดๆย่อมต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบกว่านี้ การวิพากษ์วิจารณ์ของ คุณ กรณ์ต่อเรื่องนี้ดูแล้วเป็นการแสดงข้อคิดเห็นต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญแบบฉาบฉวยแต่ขาดนำข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้านมาพิจารณา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ถูกพาดพิงได้ โดยที่ตัวคนพูดอาจไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแต่มันคงไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่ถูกพาดพิงถูกต้องมั๊ยครับ??

ไม่อยากจะมองในแง่ร้ายแต่ด้วยพฤติการณ์ของนักการเมืองมันทำให้อดนึกไม่ได้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจไม่ได้หวังผลให้เกิดผลในทางกฎหมายใดๆ เพียงแต่ต้องการช่วงชิงพื้นที่ข่าว ในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในอนาคตข้างหน้าแค่นั้นหรือไม่ ผมเชื่อว่า คุณ กรณ์ คงจะไม่เป็นแบบนั้นแต่อยากฝากไว้สักนิดว่าก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรคราวหน้า คุณ กรณ์ ควรต้องทำความเข้าใจในเรื่องที่ตัวเองจะพูดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนไม่เช่นนั้นแล้วสุดท้ายมันจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของคุณ กรณ์ จาติกวณิช หรือแม้แต่กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์เองครับ ทุกวันนี้การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันกันอยางสูง แม้แต่รัฐวิสาหกิจของรัฐเองก็ต้องมีการปรับตัว ไม่สามารถยึดรูปแบบการดำเนินการอย่างเดิมๆได้ นักการเมืองที่มีก้าวหน้าก็ควรต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตามด้วย ถ้านักการเมืองที่โดนเด่นของพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ยังมีวิสัยทัศน์ที่แคบสั้นแบบนี้ผมว่าอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์คงจบเห่แล้วล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่