#บันทึกของเจมส์
3-5 มกราคม 2561
รีวิวนี้ อาจจะผ่านเวลามาเนิ่นนาน แต่ฉันก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ของผู้หญิงที่ท่องเที่ยวโดยการ backpack เช่ารถมอไซต์เวฟร้อยกว่า เที่ยวบนเส้นทางที่เราเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะหวาดเสียว โดยที่เราจะไปได้ ไปถึง และปลอดภัย
เพราะคนหนึ่งคือพอขับได้ แต่ไม่ถนัดเลี้ยวกับจอด อีกคนหนึ่งขับไม่ได้เลย แล้วก็ใช้ google map กันตลอดทริป
มันเลยเป็นทริปที่ทั้งเสียว ทั้งสนุก และมีความสุขอย่างไม่รู้ลืม
เราเลือกท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะอยากลอง และเพราะเราทั้งคู่ขับรถยนต์ไม่เป็นจ้าาาาาาา
ทริปนี้เราเน้นเป็นหลักที่
อ.ปัว เราจะเที่ยวที่ ลำดวนผ้าทอ และกาแฟบ้านไทยลื้อ
อ.บ่อเกลือ เราจะเที่ยวที่ บ่อเกลือ และ หมู่บ้านสะปัน พักที่ เฮือนฮิมมาง
อ.เมืองน่าน เน้นที่ บ้านๆน่านๆ โฮมเสตย์ เพราะเราติดตามเพจมานานมาก และอยากมานอนสุด ที่เหลือคือของแถมที่แสนจะโชคดี
อ่ะ รถพร้อมคนพร้อม ปะ!! เกาะล้อเกาะหลังไปด้วยกันเลย แต่เดี๋ยวก่อนจะเลื่อนลงไป ต้องขออภัยไว้ก่อน มันอาจจะดูเก้ๆกังๆ เพราะน่าจะเป็นการรีวิวรอบที่ 4 ในรอบ 5 ปี ผิดพลาดตรงไหน ปราณีด้วยเด้อ
คืน
วันที่ 02 มกราคม เดินทางด้วยรถทัวร์
ใช้บริการของ Bangkok Green Line ในเครือของสมบัตรทัวร์

จองตั๋วกันวันที่ 2
ตั๋วเต็มทุกที่ยกเว้นที่นี่
ฉันยากเที่ยวน่านมานานล่ะ
และฉันเองเคยมาน่านก่อนหน้านี่ แต่มาด้วยอีกความทรงจำ และ ความรู้สึกที่แตกต่าง
รอบนั้นมาเดินป่า มันยับเยินเกินไป เลยอยากกลับมาใหม่
มาซึบซับความรู้สึกกับน่านแบบใหม่ ที่ละมุนละไมกว่าเดิม
เนี่ย เผื่อนึกภาพไม่ออกว่ายับยังไง
03/01
การเดินทาง - เราใช้ Google Map ตลอดทริป
ถึงขนส่งน่านตอน 6 โมงเช้า อากาศถือว่ากำลังพอดีๆ ที่ 17 องศา ต้อนรับกันอย่างเย็นๆ
รอเวลาร้านเช่ามอไซต์เปิด ตอน 8 โมง
เราเช่ามอไซต์เวฟ ราคา 250/วัน มัดจำ 1000 พร้อมบัตรประชาชน คนให้เช่าดูจะไม่ค่อยเชื่อใจในสมรรถภาพการขับของเรา เลยทำการเช็ครถให้นานหน่อย
พอจับรถปุ๊ป " เข้าเกียร์ยังไงอ่ะพี่ "
เงิบ........ คนเช็ครถให้เงิบเลย มันจะรอดกันมั้ย คือตอนนั้นแค่งง มันมันกดลงอย่างเดียวหรือมีงัดด้วย ก็แหม่ ปีนึงจะจับรถแค่ครั้งสองครั้งแค่ตอนกลับบ้าน
ขับไปได้ไม่ถึงไหน ต้องกลับมาที่ร้านใหม่
คนนึงลืมเป๋าตังค์ อีกคนกระจกหมวกตีหน้า
เจริญ....แค่เริ่มก็สนุกล่ะ
เราเริ่มต้นที่สนามบิน เลี้ยวซ้ายขับตรงไป จอวงกลม วนขวา แล้วขับตรงยาวๆ
เริ่มขับรถไปได้ซักแป๊ป หนาวโว้ย...
เราแพลนจะไปนอนกันที่ปัว แต่ก็ตกลงกันว่าถ้าไปบ่อเกลือทันก็ไปนอนที่นั่น เพราะจะได้ไม่ต้องย้ายที่
ขับมาสักแป๊ป หน้ากำลังชาได้ที่ เราเจอ หอศิลป์ริมน่าน แวะ แวะ เอ้าแวะ พักก่อนๆ อยากกินกาแฟ แต่เอ๊ะทำไมเงียบจัง แล้วทำไมไม้กัน อ่านป้ายใกล้ๆ เอ้า ปิดวันพุธ!!! ทูลลา
" อ. ปัว "
ระหว่างทางจากตัวเมือง ไปปัว ทางราบเรียบไม่หวือหวา ขับสบาย เราก็แวะข้างทางกันไปเรื่อย มันสวยไปหมดอ่ะ ถึงจะไม่มีทุ่งข้าว แต่พื้นที่ก็ยังเขียวไปด้วยพื้นคลุมดิน


มีแวะเติมน้ำมัน แล้วก็ขับต่อไปดูโรงเรียนชาวนา ต.ศิลาเพชร
~ กาแฟบ้านไทยลือ ลำดวนผ้าทอ ~
บริเวรโดยรอบ

ร้านขายจะมีผ้าเยอะมาก ราคาไม่เกรี้ยวกราดบาดเนื้อเหมือนแหล่งท่องเที่ยวที่เคยเจอ
กาแฟเข้มข้นมาก ดีดดี ข้าวซอยก็อร่อย

ถ้าอากาศเย็น ลมพัดดี การนั่งจิบกาแฟ เอนนอนในศาลา นั่งชิล คุยกับเพื่อน มองภูเขา มองทุ่งผักเสี้ยน ถ่ายรูปเดินเล่นก็เพลิดเพลินดีนะ ช่วงที่ไปดอกผักเสี้ยมงามเชียว แต่แดด แรงเหลือคณา


" อ. บ่อเกลือ "
ออกจากลำดวนผ้าทอมาตอน บ่ายสอง ก็ขับตาม แผนที่ ตอนก่อนออกจากร้านเช่ามอไซต์ เขาก็บอกอยู่แหละ ว่ามีทางไปบ่อเกลือแบบไม่โค้งมาก ไม่สูงมาก

ก็ไว้ใจแผนที่ ยังไงต้องใช่ทางที่ใครก็พูดกัน
ขับไปเรื่อย สูงขึ้นเรื่อยๆ โค้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งเห็นป้าย......

"อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" เท่านั่นแหละ อิผี!!!! โดนเข้าล่ะ ตอนไม่รู้ไม่เป็นไรนะ พอรู้ปุ๊ปอาการออกปั๊ป โอยคนนั่งหลังก็เกร็งจนสันนิบาติจะกิน ส่วนไอ้คนขับก็แบบ ท่องนะโมเรียนสติตลอดทาง มันถอยไม่ได้ล่ะ ต้องไปให้ถึง วิวถนนลอยฟ้าอะไรที่เขาว่าสวยกัน ไม่ได้ถ่ายหรอก ไม่กล้าจอด จอดแล้วกลัวขึ้นไม่ไหว ขับไปเสียวไป ทางก็โค้งดี๊ดี
ขับความเร็วแบบพอดี
สติต้องมาก มีบ้างช่วง ที่เป็นป่าทึบมีเพียงทางแคบ แสงรำไร เงียบมาก ก็เออ หวิวๆดี ล่ะคือหนาวจนหูจะหลุด จอดรถทีต้องเช็คหูก่อนว่ายังอยู่มั้ย
จนมาพบแสงสว่าง เหมือนเป็นจุดพักรถและให้ชมวิวด้วย ตรงนี้กางเต๊นได้ด้วยนะ พี่เจ้าหน้าที่บอก เอาล่ะแวะพักตูดให้หายชาตรงจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เจอดอกพญาเสือโคร่งกำลังบาน เนี่ยก็เพิ่งคอยเห็นครั้งแรก มันดูมิ้งมิ้งดีแฮะ ถึงว่าใครๆก็ชอบกัน
ขับต่อมาอีกสักพัก ฟ้าเริ่มมืด รถเริ่มไม่มี พอเริ่มเห็นหมู่บ้าน เริ่มโห่ร้องกับเพื่อน มันโล่ง มันดีใจจริงนะตอนนั้น ได้พักได้กินซะที หิวมาก
เอาล่ะและเแล้วเราก็ผ่านถึงบ่อเกลือย่างปลอดภัย
~ เฮือนฮิมมาง ~
คือที่พักของเรา 2 คืน ที่น่าน ม้นคือเวลา 17.20 น. โดยประมาณเมื่อเรามาถึง
ที่พักมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นกระโจมติดริมน้ำแต่ไม่มีห้องน้ำในตัว มีเพียงห้องอาบน้ำรวม และบ้านพักแบบเป็นหลัง เราเลือกเป็นบ้านพัก เพราะจะได้สะดวกเรื่องอาบน้ำ ถ้าเลือกเป็นกระโจมริมน้ำ ขี้เกียจเดินออกมาหนาวไปเข้าห้องน้ำอีก
ลักษะห้องพัก เห็นอย่างนี้อุ่นนะ แล้วก็สะอาดมากด้วย

ที่นี่เงียบสงบ พี่เจ้าของใจดีมาก ห้องน้ำสะอาดแบบอาบไปเย็นตูดไป เพราะลมพัดเข้ามาได้ ส่วนหน้าห้องก็มีระเบียง มีเตาถ่าน หากใครอยากหาอาหารมาทำปิ้งย่างพี่เขาก็มีอุปกรณ์ให้เช่า หรือจะกินหมูกระทะก็แจ้งพี่เขาได้ บอกเลยว่าหมูกระทะที่นี่คือทีเด็ด ไว้ค่อยอวดตามลำดับท้ายๆ
ส่วนเย็นวันนี้เราไปกินข้าวที่ร้าน หัวตะพาน อยู่ไม่ไกลจากที่พัก จะเดินลัดริมน้ำไปข้ามสะพานไม้ก็ได้ หรือจะเดินอ้อมไปทางถนนใหญ่ก็ได้ เอาที่สะดวกอ่ะไป
บรรยากาศร้านคือ กล่อมเกลาต๊ะต๊อนยอนตามแบบฉบับบชาวเหนือ แต่อาหารเสริฟเร็วนะจ้ะ ไม่ช้า รสชาติก็ไม่ได้เนิบอย่างที่คิด แซ่บซี๊ดอยู่

คืนนั้นเราเข้านอนกันค่อนข้างเร็ว ไม่ไหวแล้วหมดแรงปวดเนื้อปวดตัวไปหมด
[CR] #บันทึกของเจมส์ : 2 หญิง เที่ยว 'น่าน' แบบเสียว เสียว 3 วัน 2 คืน : กลายร่างเป็นสิงห์มอไซต์ บิดไปถึง อ.ปัว - อ.บ่อเกลือ
#บันทึกของเจมส์
3-5 มกราคม 2561
รีวิวนี้ อาจจะผ่านเวลามาเนิ่นนาน แต่ฉันก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ของผู้หญิงที่ท่องเที่ยวโดยการ backpack เช่ารถมอไซต์เวฟร้อยกว่า เที่ยวบนเส้นทางที่เราเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะหวาดเสียว โดยที่เราจะไปได้ ไปถึง และปลอดภัย
เพราะคนหนึ่งคือพอขับได้ แต่ไม่ถนัดเลี้ยวกับจอด อีกคนหนึ่งขับไม่ได้เลย แล้วก็ใช้ google map กันตลอดทริป
มันเลยเป็นทริปที่ทั้งเสียว ทั้งสนุก และมีความสุขอย่างไม่รู้ลืม
เราเลือกท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะอยากลอง และเพราะเราทั้งคู่ขับรถยนต์ไม่เป็นจ้าาาาาาา
ทริปนี้เราเน้นเป็นหลักที่
อ.ปัว เราจะเที่ยวที่ ลำดวนผ้าทอ และกาแฟบ้านไทยลื้อ
อ.บ่อเกลือ เราจะเที่ยวที่ บ่อเกลือ และ หมู่บ้านสะปัน พักที่ เฮือนฮิมมาง
อ.เมืองน่าน เน้นที่ บ้านๆน่านๆ โฮมเสตย์ เพราะเราติดตามเพจมานานมาก และอยากมานอนสุด ที่เหลือคือของแถมที่แสนจะโชคดี
อ่ะ รถพร้อมคนพร้อม ปะ!! เกาะล้อเกาะหลังไปด้วยกันเลย แต่เดี๋ยวก่อนจะเลื่อนลงไป ต้องขออภัยไว้ก่อน มันอาจจะดูเก้ๆกังๆ เพราะน่าจะเป็นการรีวิวรอบที่ 4 ในรอบ 5 ปี ผิดพลาดตรงไหน ปราณีด้วยเด้อ
คืนวันที่ 02 มกราคม เดินทางด้วยรถทัวร์
ใช้บริการของ Bangkok Green Line ในเครือของสมบัตรทัวร์
จองตั๋วกันวันที่ 2
ตั๋วเต็มทุกที่ยกเว้นที่นี่
ฉันยากเที่ยวน่านมานานล่ะ
และฉันเองเคยมาน่านก่อนหน้านี่ แต่มาด้วยอีกความทรงจำ และ ความรู้สึกที่แตกต่าง
รอบนั้นมาเดินป่า มันยับเยินเกินไป เลยอยากกลับมาใหม่
มาซึบซับความรู้สึกกับน่านแบบใหม่ ที่ละมุนละไมกว่าเดิม
เนี่ย เผื่อนึกภาพไม่ออกว่ายับยังไง
03/01
การเดินทาง - เราใช้ Google Map ตลอดทริป
ถึงขนส่งน่านตอน 6 โมงเช้า อากาศถือว่ากำลังพอดีๆ ที่ 17 องศา ต้อนรับกันอย่างเย็นๆ
รอเวลาร้านเช่ามอไซต์เปิด ตอน 8 โมง
เราเช่ามอไซต์เวฟ ราคา 250/วัน มัดจำ 1000 พร้อมบัตรประชาชน คนให้เช่าดูจะไม่ค่อยเชื่อใจในสมรรถภาพการขับของเรา เลยทำการเช็ครถให้นานหน่อย
พอจับรถปุ๊ป " เข้าเกียร์ยังไงอ่ะพี่ "
เงิบ........ คนเช็ครถให้เงิบเลย มันจะรอดกันมั้ย คือตอนนั้นแค่งง มันมันกดลงอย่างเดียวหรือมีงัดด้วย ก็แหม่ ปีนึงจะจับรถแค่ครั้งสองครั้งแค่ตอนกลับบ้าน
ขับไปได้ไม่ถึงไหน ต้องกลับมาที่ร้านใหม่
คนนึงลืมเป๋าตังค์ อีกคนกระจกหมวกตีหน้า
เจริญ....แค่เริ่มก็สนุกล่ะ
เราเริ่มต้นที่สนามบิน เลี้ยวซ้ายขับตรงไป จอวงกลม วนขวา แล้วขับตรงยาวๆ
เริ่มขับรถไปได้ซักแป๊ป หนาวโว้ย...
เราแพลนจะไปนอนกันที่ปัว แต่ก็ตกลงกันว่าถ้าไปบ่อเกลือทันก็ไปนอนที่นั่น เพราะจะได้ไม่ต้องย้ายที่
ขับมาสักแป๊ป หน้ากำลังชาได้ที่ เราเจอ หอศิลป์ริมน่าน แวะ แวะ เอ้าแวะ พักก่อนๆ อยากกินกาแฟ แต่เอ๊ะทำไมเงียบจัง แล้วทำไมไม้กัน อ่านป้ายใกล้ๆ เอ้า ปิดวันพุธ!!! ทูลลา
" อ. ปัว "
ระหว่างทางจากตัวเมือง ไปปัว ทางราบเรียบไม่หวือหวา ขับสบาย เราก็แวะข้างทางกันไปเรื่อย มันสวยไปหมดอ่ะ ถึงจะไม่มีทุ่งข้าว แต่พื้นที่ก็ยังเขียวไปด้วยพื้นคลุมดิน
มีแวะเติมน้ำมัน แล้วก็ขับต่อไปดูโรงเรียนชาวนา ต.ศิลาเพชร
~ กาแฟบ้านไทยลือ ลำดวนผ้าทอ ~
บริเวรโดยรอบ
ร้านขายจะมีผ้าเยอะมาก ราคาไม่เกรี้ยวกราดบาดเนื้อเหมือนแหล่งท่องเที่ยวที่เคยเจอ
กาแฟเข้มข้นมาก ดีดดี ข้าวซอยก็อร่อย
ถ้าอากาศเย็น ลมพัดดี การนั่งจิบกาแฟ เอนนอนในศาลา นั่งชิล คุยกับเพื่อน มองภูเขา มองทุ่งผักเสี้ยน ถ่ายรูปเดินเล่นก็เพลิดเพลินดีนะ ช่วงที่ไปดอกผักเสี้ยมงามเชียว แต่แดด แรงเหลือคณา
" อ. บ่อเกลือ "
ออกจากลำดวนผ้าทอมาตอน บ่ายสอง ก็ขับตาม แผนที่ ตอนก่อนออกจากร้านเช่ามอไซต์ เขาก็บอกอยู่แหละ ว่ามีทางไปบ่อเกลือแบบไม่โค้งมาก ไม่สูงมาก
ก็ไว้ใจแผนที่ ยังไงต้องใช่ทางที่ใครก็พูดกัน
ขับไปเรื่อย สูงขึ้นเรื่อยๆ โค้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งเห็นป้าย......
"อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" เท่านั่นแหละ อิผี!!!! โดนเข้าล่ะ ตอนไม่รู้ไม่เป็นไรนะ พอรู้ปุ๊ปอาการออกปั๊ป โอยคนนั่งหลังก็เกร็งจนสันนิบาติจะกิน ส่วนไอ้คนขับก็แบบ ท่องนะโมเรียนสติตลอดทาง มันถอยไม่ได้ล่ะ ต้องไปให้ถึง วิวถนนลอยฟ้าอะไรที่เขาว่าสวยกัน ไม่ได้ถ่ายหรอก ไม่กล้าจอด จอดแล้วกลัวขึ้นไม่ไหว ขับไปเสียวไป ทางก็โค้งดี๊ดี
ขับความเร็วแบบพอดี
สติต้องมาก มีบ้างช่วง ที่เป็นป่าทึบมีเพียงทางแคบ แสงรำไร เงียบมาก ก็เออ หวิวๆดี ล่ะคือหนาวจนหูจะหลุด จอดรถทีต้องเช็คหูก่อนว่ายังอยู่มั้ย
จนมาพบแสงสว่าง เหมือนเป็นจุดพักรถและให้ชมวิวด้วย ตรงนี้กางเต๊นได้ด้วยนะ พี่เจ้าหน้าที่บอก เอาล่ะแวะพักตูดให้หายชาตรงจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เจอดอกพญาเสือโคร่งกำลังบาน เนี่ยก็เพิ่งคอยเห็นครั้งแรก มันดูมิ้งมิ้งดีแฮะ ถึงว่าใครๆก็ชอบกัน
ขับต่อมาอีกสักพัก ฟ้าเริ่มมืด รถเริ่มไม่มี พอเริ่มเห็นหมู่บ้าน เริ่มโห่ร้องกับเพื่อน มันโล่ง มันดีใจจริงนะตอนนั้น ได้พักได้กินซะที หิวมาก
เอาล่ะและเแล้วเราก็ผ่านถึงบ่อเกลือย่างปลอดภัย
~ เฮือนฮิมมาง ~
คือที่พักของเรา 2 คืน ที่น่าน ม้นคือเวลา 17.20 น. โดยประมาณเมื่อเรามาถึง
ที่พักมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นกระโจมติดริมน้ำแต่ไม่มีห้องน้ำในตัว มีเพียงห้องอาบน้ำรวม และบ้านพักแบบเป็นหลัง เราเลือกเป็นบ้านพัก เพราะจะได้สะดวกเรื่องอาบน้ำ ถ้าเลือกเป็นกระโจมริมน้ำ ขี้เกียจเดินออกมาหนาวไปเข้าห้องน้ำอีก
ลักษะห้องพัก เห็นอย่างนี้อุ่นนะ แล้วก็สะอาดมากด้วย
ที่นี่เงียบสงบ พี่เจ้าของใจดีมาก ห้องน้ำสะอาดแบบอาบไปเย็นตูดไป เพราะลมพัดเข้ามาได้ ส่วนหน้าห้องก็มีระเบียง มีเตาถ่าน หากใครอยากหาอาหารมาทำปิ้งย่างพี่เขาก็มีอุปกรณ์ให้เช่า หรือจะกินหมูกระทะก็แจ้งพี่เขาได้ บอกเลยว่าหมูกระทะที่นี่คือทีเด็ด ไว้ค่อยอวดตามลำดับท้ายๆ
ส่วนเย็นวันนี้เราไปกินข้าวที่ร้าน หัวตะพาน อยู่ไม่ไกลจากที่พัก จะเดินลัดริมน้ำไปข้ามสะพานไม้ก็ได้ หรือจะเดินอ้อมไปทางถนนใหญ่ก็ได้ เอาที่สะดวกอ่ะไป
บรรยากาศร้านคือ กล่อมเกลาต๊ะต๊อนยอนตามแบบฉบับบชาวเหนือ แต่อาหารเสริฟเร็วนะจ้ะ ไม่ช้า รสชาติก็ไม่ได้เนิบอย่างที่คิด แซ่บซี๊ดอยู่
คืนนั้นเราเข้านอนกันค่อนข้างเร็ว ไม่ไหวแล้วหมดแรงปวดเนื้อปวดตัวไปหมด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้