ตอนแรกแม่แฟนโอเคกับเราทุกอย่าง ตอนหลังไม่ แบบนี้ความคิดผู้ใหญ่จะกลับไปเหมือนเดิมได้ไหมคะ

กระทู้คำถาม
คือเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกสามคนค่ะ แต่เรายังสวยมากอยู่นะคะ หลังจากเลิกกับสามี เราก็ได้รู้จักกับลงรุ่นน้องคนหนึ่งที่ฟิตเนส ตอนแรกไม่คิดอะไรด้วยเลยคะ เพราะเค้าเด็กกว่า 12 ปี เข้ามาแนะนำการออกกำลังกาย เราก็ฟัง หลังๆ คุยกันมากขึ้น ด้วยความที่เราคิดว่าตัวเองแน่ คงไม่รักเด็กหรอก คือเราไม่ชอบเด็กด้วยอะคะ ไม่เป๊ก แต่พอนานๆ ไป ที่เริ่มสนิทและคุยเรื่องต่างๆ มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำงาน เค้าจะชอบฟังแนวคิดการทำงานของเรา เราก็เห็นว่าน้องเค้าคงอยากสร้างฐานะ เลยปล่อยมุขเด็ดความคิดไปเยอะ จนน้องเค้าคงเคลิ้มน่ะคะ หลังๆ เค้าเริ่มหยอดคำหวานมากขึ้น จนเราต้องปรามว่าอย่าปีนเกลียว เราคิดว่าน้องเค้าพูดเล่น แต่เราประเมินว่าตัวเองชักจะหวั่นไหวจริง
จนซักระยะ น้องเค้าเริ่มดูจริงจัง และเอ่ยปากขอคบเป็นแฟนในที่สุด เราเลยโป๊ะแตกว่าพี่มีลูกแล้วนะ 3 คนนะ เค้านั่งกุมขมับเลยคะ เราเลยลุกจากโต๊ะกินข้าว ประมาณว่าจบแล้วล่ะ เสียดายความสัมพันธ์พี่น้องเหมือนกัน
แต่พอคืนนั้น เค้าโทรมา เราไม่รับ บอกไม่พร้อม เค้าด็ไลน์มาว่า ผมมาปรึกษาแม่ แม่บอกว่า ถ้าตัดทุกอย่างออกไป ถามใจว่ารักไหม เค้าตอบว่ารัก แม่เลยโอเคให้คบกัน
จากนั้นพาเข้าบ้าน บลาๆๆ ไปเที่ยว ไปวัดทำบุญ ดูหนังกะลูกๆ ด้วย ทานข้าว ทุกอย่างเปิดเผยหมด เราอยากรู้ว่าเค้ารับเรากับลูกได้จริงหรือ ปรากฎว่าใสๆ เราไม่ข้องใจเลย ทีนี้เลยปล่อยใจรักไปเต็มที่ จากที่กั๊กมาตลอด
จนผ่านมา 1 ปี กับความสัมพันธ์แบบแฟน ซึ่งมีความสุขมาก แล้ววันหนึ่ง เค้าร้องไห้ โทรมาบอกว่าจริงๆ แล้วแม่ไม่โอเค
แม่บอกว่า เราเป็นคนดีมาก มีมารยาท ทำงานเก่ง ติดตรงที่มีลูก เค้ากลัวลูกเค้าต้องมารับภาระ และเราอายุมากกว่ามาก กลัวลูกเค้าลำบาก คงแบบ ถ้าแต่งไปไม่นาน คงต้องพาไปวัดความดันตรวจเบาหวานมั้ง
เรื่องมีอยู่ว่า เค้าไปบอกแม่เค้าว่สเค้าอยากขยับความสัมพันธ์กับเราโดยขอให้ไปหมั้นให้ก่อน ปีหน้าค่อยหาฤกษ์แต่ง  แม่เริ่มบ่ายเบี่ยง และพูดในที่สุดว่า ไม่โอเค
ตัวเขา เขาก็ต้องตามใจแม่ เพราะการแต่งงานสำหรับเค้าคือต้องอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว บ้านเขาระบบกงสีคะ อันที่จริงเราไม่ศรัทธา แต่ความที่รักเขาแล้ว เลยคิดว่า เอาน่ะ เราน่าจะช่วยงานเค้าได้เยอะ เพราะเราทำงานเก่ง
ตอนนี้เค้าเหมือนโดนจับแยกให้ไปอยู่กรุงเทพ และแม่บังคับให้เลิกติดต่อ เราไม่โทรหาเกือบเดือน เราร้องไห้ทุกวัน คิดถึง เป็นห่วง ทุกข์ใจ เมื่อวานตัดสินใจโทรไปฟังเสียง พอเค้าได้ยินเสียงเราเค้าร้องไห้ใหญ่เลย
จะบอกว่า บ้านเค้าเจอวิกฤติหนักคะ ล้มละลาย แม่เค้าคงเครียดมาก และเป็นมะเร็ง ยังต้องฉายแสงอยู่ เพิ้งคีโมครบไปไม่นาน
พ่อแม่เราเค้าก็บอกแล้ว ดีแล้วลูก เลิกเถอะ เค่าไม่คู่ควร แต่เราเองก็รักเค้ามากไปแล้ว ตอนนี้ทำใจลำบากมาก ได้แต่หวังว่า บ้านเค้าจะฟื้นตัวเร็วๆ ถ้าแม่หายเครียดได้ เผื่อว่าจะกลับมาได้ ถ้าเรายังรักกันอยู่
อยากถามว่า เราควรรอไหมคะ เอาจริงๆ เราไม่อยากมีใครอีกแล้ว เราว่ามีรักก็ทุกข์ ทรมานมากตอนจาก พยายามตัดใจ แต่ทำไม่ไหวจริงๆ จะทำใจรอ ก็กลัวว่าจะเก้อ พยายามเอาธรรมะเข้าข่มว่า รักแล้ว แม้ไม่อยู่ด้วยใกล้ ก็ขอให้ใจเป็นสุขที่ได้รัก
แต่มันสุกๆ ดิบๆ และเค้าเองก็เครียดมาก ถึงกับบ่นว่าอยากตายเลย เค้าบอกว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขาตอนนี้คือการจำต้องทิ้งเราไว้ และต้องพยายามใฝ่หาความสำเร็จให้ได้ อยากกลับมาเจอหน้า แต่ดูเหมือนว่าเค้าไม่กล้าบอกให้เรารอ เพราะเค้าคงไม่อยากผูกมัดเราด้วยสัญญาเลื่อนลอย ไม่รู้เข้าข้างตัวเองหรือเปล่านะคะ
เพื่อนๆ คิดว่ายังไงคะ ความรักนี่ แม้จะอายุเท่าไหร่ก็เป็นปัญหาหนักหนาได้มากเลยทีเดียวคะ ตอนนี้เศร้ามาก
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาความรัก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่