เจอเพื่อนบ้านแบบนี้ ... ทำไงดี

เราอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว ประมาณ6ปีแล้ว เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านเพิ่งซื้อบ้านต่อจากเจ้าของเดิมแล้วย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ มีพ่อ แม่ พี่ชาย น้องชาย ป้า รวม5คน

     ปัญาหาที่จะเล่าเกิดจาก น้องชาย อายุประมาณ 10ปี เป็นเด็กพิเศษ (ดาวน์ซินโดรม) ชอบโยนของมาที่สนามหญ้าที่บ้าน มีทั้งรองเท้า ถุงเท้า แก้วน้ำ ขวดน้ำ ช้อนส้อม ขวดแบรนด์ กล่องนม ตะแกรงปิ้ง และอื่นๆอีกสารพัด

     แรกๆแม่ของเด็กมาพูดคุยเล่าให้ฟังถึงอาการผิดปกติของลูก  เราก็เข้าใจและไม่คิดอะไร ถ้ามีของโยนมาเยอะมากๆ เราก็จะตามเพื่อนบ้านให้มาเก็บ

    ปกติบ้านเราไม่มีใครอยู่บ้าน ออกแต่เช้ากลับมาก็เย็น กลับมาบ้านก็จะเจอแต่สิ่งของที่เด็กโยนมาเต็มสนาม แต่ช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา เราออกจากงานเลี้ยงลูกอยู่บ้านทั้งวัน จึงได้รู้ว่า....

    แต่ละครั้งที่เด็กคนนี้โยนของมาที่บ้านเรานั้น จะโยนมาโดนหน้าต่างที่เป็นกระจกบานเลื่อน ขอบกระจกสีขาวนั้นเป็นรอยดำ จากรองเท้า ตรงขอบปูนก็เริ่มมีรอยแตก เราก็ไปบอกกับป้าและแม่ให้รับรู้ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าลูกเค้า หลานเค้าป่วยต้องสงสารเด็กนะ พูดก็ไม่ได้ บลาๆๆๆ เราก็บอกว่าเข้าใจนะว่าน้องป่วย สงสารก็สงสาร แต่โยนมาแบบนี้ ถ้ากระจกแตกขึ้นมามันจะเป็นปัญหา ได้รับคำตอบมาว่าแตกก็จะเปลี่ยนให้ เดี๋ยวขอเข้าไปเก็บของนะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      เรากับสามีก็พยายามจะเข้าใจและไม่คิดอะไร แต่ก็เจอปัญหาแบบเดิมแทบทุกๆวัน จนตัดสินใจไปคุยอีกครั้ง ได้รับคำตอบมาว่าล๊อคประตูแล้ว แต่เด็กหนีออกมา เพราะพ่อติดเล่นเน็ตเลยปล่อยไม่ได้ดูแล เราก็เฮ้ย.... ตอบแบบนี้หรอ ก็ได้แต่อึ้งๆแล้วก็จากมา

     แล้วปัญหาแบบเดิมก็เกิดเรื่อยๆ แต่ละครั้งก็เริ่มโยนมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้านั่งอยู่ตรงนั้นจะสะดุ้งเลย ถ้าลูกนอนอยู่ก็ตกใจตื่นทุกครั้ง บางทีก็โยนมาตอนหกโมงเช้าในวันหยุด ตื่นกันทั้งบ้าน บางทีแค่เราเดินเข้าบ้านแล้วหันไปมองสบตาเด็ก สักพักจะมีรองเท้าลอยมาทันที

    เราเองก็พยายามไม่คิดมาก ปรึกษาเพื่อนว่าเจอแบบนี้ทำยังไงดี แล้วก็พยายามไปพูดคุยกับป้าและแม่ ให้ช่วยเก็บของ ให้ช่วยดูแลเด็ก กลัวว่าต่อไปจะไม่ใช่แค่รองเท้า กลัวจะเป็นอิฐเป็นกระถาง ที่วางอยู่เกลื่อนบ้าน

    แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนตัดสินใจแจ้งทางนิติ ให้มาช่วยเคลียร์ให้หน่อย นิติก็มาพูดคุย เราก็คิดว่า จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่....ผ่านไป2วัน รองเท้าลอยมาอีกแล้วจ้า

    เรากะสามี เริ่มปลงๆ ว่าจะปล่อยผ่านไปละกัน ไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว แต่รองเท้า ของต่างๆ ที่โยนมาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและไม่มีใครมาเก็บ จะตัดหญ้าทีไรก็ต้องมาเก็บของพวกนี้ทุกครั้ง
     
    วกกลับมา เล่าเรื่องเราให้ฟังบ้างนะคะ เราเป็นแม่ฟูลไทม์ เลี้ยงลูก2คน เพียงคนเดียว สามีทำงานออกเช้ากลับมืด ซึ่งทั้งเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน และทำอาชีพเสริมขายของออนไลน์ เวลาในแต่ละวันของเราจะยุ่งวุ่นวายมาก แล้วลูกเราก็หลับยากมาก นอนวันละครั๊งๆนึง 2ชม. เวลาลูกหลับคือนาทีทอง ที่เราจะได้ทำงานบ้าน โพสขายของ ตอบแชทลูกค้า

     และหลายๆครั้ง ที่เด็กโยนของมาช่วงที่ลูกเราหลับ เสียงดังจนลูกเราตกใจสะดุ้งตื่น เราเริ่มที่จะหมดความอดทนกับเรื่องนี้ไปทุกที

    และวันนี้ ลูกเรานอนไปครึ่งชม. เราก็กำลังจะทำงานบ้าน ก็มีเสียงดังกระแทกหน้าต่าง ลูกร้องไห้ตื่นอีกแล้ว กล่อมอีกรอบก็ไม่ยอมนอน เราเลยอุ้มลูกเดินไปบอกป้าข้างบ้าน แกก็กำลังปลูกต้นไม้  เรารับคำตอบมาว่า ชั้นทำอย่างอื่นอยู่ พ่อเด็กก็นอนหลับ เด็กคงหนีออกมา     

    เรานี่ปรี๊ดเลย ก็ตอบไปว่าลูกเราก็นอนเหมือนกัน เราก็มีอย่างอื่นต้องทำเหมือนกัน ช่วยเกรงใจกันบ้าง ช่วยดูแลเด็กให้ดีกว่านี้ได้มั้ย หรือถ้าคุมเด็กไม่ได้ จะช่วยทำที่กั้นตรงกำแพงได้มั้ย ป้าก็หันไปด่าๆๆๆๆๆเด็ก เราก็เลยเดินกลับมาแบบเซ็งๆ

   สักพัก แม่เด็กเดินมาขอเก็บรองเท้า เราก็พูดว่าทำไงดี ช่วยดูแลเด็กหน่อย เพราะตอนนี้สร้างปัญหาให้เรามาก ลูกไม่ได้นอน แล้วหน้าต่างบ้าน ขอบปูนนี่แตกหมดแล้ว แม่เด็กก็พร่ำพรรณนาถึงอาการป่วย ต้องเข้าใจ เด็กไม่มีอารมณ์มาโกรธหรือเกลียดใครหรอก เค้าจะเล่นสนุกเป็นเด็กตลอด ควบคุมเค้าไม่ได้

     เราก็บอกไม่ต้องบอกถึงอาการป่วย เราเข้าใจดี เด็กป่วยคุมตัวเองไม่ได้ แต่ พ่อ แม่ พี่ ป้า ที่สภาพปกติทั้งร่างกายและจิตใจทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่ดูแล ถ้าควบคุมเด็กไม่ได้ ก็ทำที่กั้นเสริมขึ้นมาดีมั้ย แล้วอนาคตถ้าเด็กโตขึ้น แล้วจะมีใครคุม ใครดูแลมั้ย

    แม่เด็กก็ยังมีหน้ามาบอกว่าคุมได้  ไม่ต้องทำหรอก แถมมาเล่าให้ฟังว่าบ้านอื่นอีกฝั่งก็โดน แต่บ้านอื่นเก็บของมาคืนให้และบอกไม่เป็นไร ซึ่งบ้านอื่นที่พูดถึงเนี่ย เค้าก็ไม่ได้อยู่บ้านช่วงที่เด็กโยน  พูดแบบว่า เราดูเยอะกะลูกเค้าอยู่คนเดียวอ่ะ แล้วก็เม๊าเรื่องลูก เรื่องพ่อ เรื่องป้าให้ฟัง

    ซึ่งในอารมณ์นั้น ใครจะอยากมาฟัง เด็กพิเศษจะทำอะไรก็ได้หรอ แล้วคนอื่นในครอบครัวที่ปกติล่ะ อยู่เฉยๆกันก็ได้หรอ ช่วยเคารพสิทธิส่วนบุคคลกันบ้างได้ มั้ย แล้วลูกเราล่ะ ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ลูกคนเล็กไม่ได้นอน ลูกคนโต เพิ่งจะ6ขวบ ก็เริ่มสงสัย เริ่มมีคำถามว่าเด็กบ้านนั่นเป็นอะไร ทำไมต้องโยนมา อะไร ยังไง เยอะแยะ เราเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง ไม่อยากให้ลูกเห็น ไม่อยากให้ลูกเจอเรื่องแบบนี้เลย

   ก็เลยมาเล่าให้เพื่อนๆในพันทิปฟัง และขอความคิดเห็นว่าเราเยอะไปรึป่าว แล้วเราควรจะทำยังไงดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
จริงๆ​ ควรพูดความต้องการให้ตรงชัดเลย​ มัดมือชก

พื้นร้าวอ่ะค่ะ​ เพราะลูกคุณโยนบ่อย​ ซ่อมให้ด้วยนะคะ​ เดือนหน้าดีมั้ยคะ​ จะได้มีเวลาเตรียมตัว
หันไปมองนิตินิดนึง... เอ.. แบบนี้ต้องแจ้งความมั้ยคะคุณนิติ​

ลูกคุณโยนของบ่อยกระแทกเสียดัง​ลูกเราตกใจตื่นบ่อย คุณช่วยทำระแนงเป็นไนลอนกั้นนะคะ​ จะได้ลดเรื่องพวกนี้​ ถ้าไม่มีช่างเดี๋ยวให้นิติจัดการให​้เดือนไหนดีคะ​ สัก​ ตุลา​ ดีมั้ยคะ
บ้านนู้นไม่มีลูกอ่อน​ ทำแค่ฝั่งนี้ก็ได้ค่ะ​
หันไปมองนิติ.เอ...​แบบนี้ต้องแจ้งมูลนิธิดูอาการเด็กอะไรแบบนี้รึเปล่าคะ​ นี่ขนาดคุณแม่ล็อคห้องช่วยแล้วนะนี่​ ยังเก่งขนาดหนีออกมาได้


ยิ้มๆ​ นางฟ้า​ ล่องลอย​
ความคิดเห็นที่ 5
1. หาตาข่ายมาขึงให้ติดรั้ว (ดูสบายตากว่าไม้ระเเนง)
2. รองเท้าหรืออะไรที่เด็กโยนมา เก็บทิ้งให้หมด ทิ้งไกลๆ เลยนะอย่าทิ้งแถวหน้าบ้าน
3. โยนกลับเข้าไปทันที ถ้าเขามาถามว่าทำไมทำแบบนี้ก็บอกไปว่าคุณเริ่มเป็นโรคประสาท ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
ความคิดเห็นที่ 13
แนะนำให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันด้วยค่ะ ร่องรอยความเสียหายเก็บให้หมด อย่าลืมเก็บรูปของที่มาตกในบ้านด้วย ถ้ามีกล้องวงจรปิดจะดีมาก

อนาคตถ้ามีโยนของหนักหรือของมีคมมาจะยิ่งกว่านี้ ไหนจะพวกฟืนไฟอะไรอีก
ความคิดเห็นที่ 44
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ

    ตอนนี้กำลังรอทางนิติแจ้งกลับมาว่าดำเนินการอย่างไรผลเป็นยังไงบ้าง

    รองเท้าที่โยนมา เราเคยเก็บทิ้งไปแล้ว2-3ครั้ง แต่เขาก็ซื้อใหม่แล้วโยนมาอีกเรื่อยๆค่ะ ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมานี้เราเจอศึกหนักเลยค่ะ โยนกันทั้งวันรองเท้าเต็มบ้านไปหมด. ทิ้งไปก็มาใหม่

ขอเล่าเพิ่มเติมที่เคยคุยกับแม่เด็กให้อ่านกันนะคะ

   แม่เด็กบอกว่าลูกเค้าเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา คือมีความรู้สึกแค่กิน นอนแล้วก็เล่นแค่นั้น ไม่มีอารมณ์โกรธ ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ไม่มีความรู้สึกพยาบาทใคร การที่โยนลงเท้ามาเหมือนเป็นการเล่นของเค้าอย่างหนึ่ง ลูกเค้าอยากจะเล่นกับลูกเราแต่เล่นไม่ถูกวิธีแค่นั้นเอง ตัวเค้าศึกษาเรื่องนี้มาเค้ารู้ว่าเป็นยังไง แล้วแม่มีอาชีพขายของและนอนอีกบ้านนึง จึงให้ลูกมาอยู่บ้านนี้กับพ่อ
    พ่อเด็กก็ไม่ได้ทำงานแล้วเป็นนายพล นายทหาร ปลดเกษียณกินบำนาญอยู่บ้านเฉยๆ แม่เด็กบอกกะเราว่าผู้ชายก็เป็นอย่างนี้ไม่ค่อยใส่ใจดูแลลูกเท่าไร ไม่เหมือนผู้หญิง บางทีก็ปล่อยลูกไม่สนใจลูก. นอนหลับบ้าง เล่นเน็ตบ้าง
    ส่วนป้าก็ออกไปทำงานบ้าง เป็นบางวัน มีอาชีพเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลหลานแล้วไม่เข้าใจอาการป่วยและความรู้สึกของหลานเหมือนกัน
     ส่วนพี่ก็เรียนมัธยมไม่ค่อยได้อยู่บ้าน

     แล้วก็เล่าว่าตอนพวกเค้าอยู่บ้านเก่า ลูกเค้านอนหลับ เด็กข้างบ้านเตะฟุตบอลเสียงดังเค้าก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลย. เค้าก็เฉยๆคิดว่าเด็กมันเล่นกัน
    เรามองว่าบ้านนี้ตรรกะเพี้ยนจริงๆ คือเค้าคิดว่าลูกตัวเองป่วยแล้วทุกคนต้องสงสาร ทำอะไรลงไปเพราะว่ายับยั้งตัวเองไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจลูกเค้า อย่าถือสาลูกเค้า
    แล้วข้ออ้างเรื่องสมาชิกคนอื่นภายในบ้าน คือทุกคนสภาพร่างกายและจิตใจปกติ แต่ที่ไม่ได้ดูแลเด็ก. เพราะพวกเขามีอย่างอื่นต้องทำ

     เดี๋ยวมาอัพเดทต่อให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่