เงินเดือน 18k-20k ควรออกรถราคาเท่าไหร่

คือ ตอนนี้ผมไปทำงานเสียค่าเดินทางประมาณ 4000 ทุกเดือน(ค่าวินซะส่วนมาก) เลยคิดจะออกรถมาใช้ อยากสอบถามครับว่า
1.เงินเดือนเท่านี้ออกรถอะไรได้บ้าง (กระบะออกได้ไหม ) คือผมไม่กินเที่ยวดื่มครับ ใช้เดือนๆหนึ่งอย่างมากสุด 7000 (รวมทุกค่าใช้จ่าย แต่ไม่รวมค่ารถไปทำงาน)เงินที่เหลือนี่พอจะส่งรถได้ไหม
2.ภรรยาอยากให้ออก ปิ๊กอัพ 4  ประตูโดยใช้เงินเดือนผมส่งค่างวด ส่วนค่าน้ำมัน อื่นๆ ภรรยาผมจะเป็นคนออก ถ้าเป็นแบบนี้พอจะส่งไหวไหมครับ
3.ถ้าจะออก ปิ๊กอัฟ 4 ประตู ควรใช้เงินดาวน์เท่าไหร่ ตอนนี้มี 150000 หรือเก็บเงินดาวน์ต่อให้มากขึ้น ไม่อยากเสียดอกเบี้ยส่งรถสูง เห็นมือ 1 หลายที่ดอก 4-5 เปอร์เซ็น รถมือสองก็ส่งเท่ามือ 1 เลยไม่เอารถมือสอง ( คือถ้าดอก2-3เปอเซน หรือ 0 เปอร์เซ็นถ้ามีผมรับได้นะค้าข้ายต้องมีกำไรผมเข้าใจ แต่ดอก 4-5เปอร์ผมว่าสูงเกินไป )
4.รถป้ายแดง ดอกเบี้ย 4-5 เปอร์เซ็นนี่คือปกติหรือป่าวครับถ้าปกติจะได้ทำใจยอมรับ บางที่ดอก 5.2 เปอร์เซ็น (ไม่เคยออกรถมาก่อนเลยไม่ทราบ )
5.แนะนำรถปิ๊กอัพ 4 ประตูที่ใช้ได้ 10 ปีขึ้นหน่อยครับ mazda bt-50 หรือ isuzu



ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
เข้าใจหัวอกคนที่อยากมีรถนะ เพราะตอนเราออกรถคันแรก ก็อารมณ์ประมาณนี้แหละค่ะ
อยากได้ยี่ห้อนู้น ยี่ห้อนี้ ดี ๆ แพง ๆ แต่พอมาดูเงินในกระเป๋าและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว เราเลยตัดสินใจออกรถเก๋งเล็กมาแทน
ซึ่งดีใจที่คิดไม่ผิด เพราะพอมีรถแล้ว ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิด มันตามมาอีกเพียบเลยค่ะ เช่น
พอมีรถแล้ว จากที่ไม่เที่ยว เราก็จะชอบไปนู่น ไปนี่มากขึ้น เพราะมันไปไหนสะดวกกว่าตอนไม่มีรถ (เชื่อเถอะ ไม่มีทางที่ชีวิตจะเหมือนเดิมหรอก)
หรือ เห็นของแต่งรถน่ารัก ๆ ก็อดซื้อมาประดับรถไม่ได้ เป็นต้น

ถ้าพิจารณาจากเงินเดือน จขกท คนเดียว ถือว่า น้อยไปนิดนึง มีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาการเงินในครอบครัวในอนาคต
การที่เอาเงินเก็บที่ควรจะเก็บไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินมาลงไปกับการซื้อรถแล้ว
หากมีเรื่องที่จะต้องใช้เงินก้อนขึ้นมาจริง ๆ จะลำบากนะ
สมัยนี้อย่าไปหวังว่า ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงจะมาช่วยเหลือได้ แค่ไม่มาขอยืมเงินเรา ก็นับว่า เป็นญาติ เป็นเพื่อนอันประเสริฐแล้วค่ะ 55555555

การมีรถ มันไม่ใช่แค่ค่างวด ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าภาษี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เราเห็นได้ชัดเจนเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงค่าทางด่วน ค่าซ่อมบำรุงรถ ค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จิปาถะด้วยค่ะ
ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ มันไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนเหมือนอันข้างบน ควรต้องเตรียมเผื่อไว้อีกประมาณ 5%-10% ของเงินเดือนด้วยค่ะ

แต่ถ้าภรรยา จขกท มีเงินเดือนใกล้เคียงกัน ก็ยังพอกล้อมแกล้มออกรถได้ แต่คงต้องประหยัดอดออมกันพอดู
ถ้าใช้ในเมืองมากกว่า แนะนำให้เลือกรถ Eco Car ซึ่งจะดีกว่ากระบะ
เหตุผลคือ ถ้า จขกท ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์และความชำนาญในการขับรถมากนัก
การขับรถกระบะซึ่งมีตัวถังใหญ่และยาว อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่ารถเก๋งค่ะ
ไอ้ที่อ้างว่า จะเอาไว้ใส่ของ บรรทุกของ จขกท ก็ต้องพิจารณาว่า ปีหนึ่ง ๆ เราจะบรรทุกของกันสักกี่วันเชียว
แล้วถ้าบ้าน จขกท ไม่มีที่จอดรถส่วนตัว มันจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถตามมาอีกนะ
อีกอย่างคือ พอมีรถที่บรรทุกของได้มาก ก็จะมีคนมาขอให้ช่วยขับไปซื้อของ บรรทุกของนั่น นู่น นี่ มากขึ้น
ตอนนี้ น้ำมันดีเซล ลิตรละ เกือบ 30 บาท รถกระบะ ถังหนึ่ง ก็ไม่ต่ำกว่า 35 ลิตรแล้ว เติมทีพันนึง 5% ของเงินเดือน จขกท แล้วนะ
เรากินน้ำมันแทนข้าวไม่ได้นะคะ ขับรถหรูดูดี แต่กินมาม่าแทบทุกมื้อ เพื่อรถคันเดียว ทำไมต้องสร้างความรันทดให้กับชีวิตเราขนาดนั้น
สู้เอาเงินค่าน้ำม้นไปกินอาหารดี ๆ บำรุงร่างกายเราเองมิดีกว่าเหรอ การซื้อรถ ก็คือ "เงินลด" มีแต่ขาดทุน

เราอยากให้ จขกท ค่อย ๆ เริ่มต้นไปทีละขั้น ด้วยการซื้อรถ Eco Car มาใช้ให้ชำนาญการขับขี่ก่อนดีกว่า
ใช้งานไปสักพัก จนมีประสบการณ์เรื่องรถยนต์พอสมควรแล้ว ถึงค่อยเปลี่ยนใหม่

การเลือกรถยนต์ ก็เน้นที่มันประหยัดน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุงไม่แพงมากนัก ดูแลรักษาง่าย ซึ่งก็มีหลายรุ่น
ทั้ง ยาริส แจ๊ส โมบิลิตี้ มิราจ มาร์ช มาสด้า 2 ฯลฯ ตามโชว์รูม เขามีรถให้ลองขับอยู่แล้ว
จขกท ควรไปลองขับให้มั่นใจก่อนว่า เคมีมันต้องกันกับเราจริง ๆ ค่อยตัดสินใจ
ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ย ที่มันแพงขนาดนั้น คงเป็นเพราะทางลิสซิ่งเขาคงพิจารณาถึง ความมั่นคงทางรายได้/การเงิน ความสามารถในการจ่าย
และระยะเวลาในการผ่อน ของ จขกท ลองให้เซลล์คำนวณยอดผ่อนให้ดูก่อน ค่อยตัดสินใจก็ได้
แต่อย่าไปหลงคารม เชื่อน้ำคำของเซลล์มากนัก ให้เอาสัญชาติญาณของเราพิจารณาเอง เขาอยากขาย ได้ค่าคอมมิชชั่น อะไรก็ดีไปหมด

ขอให้หารถที่ถูกใจได้ในเร็ววันค่ะกำเงินแน่นมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่