ข้าว หน้าเป็ดย่าง เป็นหนึ่งในเมนูผูกขาดของหนุ่ม สาว ชาวออฟฟิศรองจากข้าวราดแกง และ ก๋วยเตี๋ยว ในขณะที่พวกเรากำลังลิ้มรสความอร่อยกับเนื้อเป็ดคำโตๆ ข้าวหอมมะลิที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซอสเค็มๆหวานๆ โดยมีซ๊อสพริกเปรี้ยวๆหวานๆ เค็มๆ เป็นอีกเครื่องชูรสความอิ่มอร่อย แต่พลันทันใดเราต้องจุกคอหอยกลืนข้าวไม่ลง พร้อมกับรวบช้อนส้อมอิ่มท้องขึ้นมาอย่างทันที
ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อจู่ๆมี 2 หญิงสาวกลางวัยคุณป้า แต่งตัวคิขุอาโนะเนะกระชากวัยใส อุ้มน้องหมาเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับสั่งข้าวหน้าเป็ดย่างสำหรับ 2 คุณป้า จากนั้นก็พูดเสียงดังฟังชัด...น้องหิว น้องหิวจังเลย นู๋ทานข้าวหน้าเป็ดกับคุณแม่นะค่ะคุณลูกขา โดยมีเสียงคุณป้าวัยใสร้องตะโกนสั่งข้าวหน้าเป็ดเพิ่มอีกจานสำหรับน้องหมา
ในระหว่างรอข้าวหน้าเป็ดที่อาเจ๊คนขายกำลังสับเป็ดย่างดังดป๊ก โป๊ก เพื่อโป๊ะลงไปบนจานข้าว ก็มีลูกสาวของอาเจ๊คนขายเดินถือจานเมลามีนทรงกลมมา 1 ใบ (จานเปล่าที่วางเรียงซ้อนกันเป็นแถวสำหรับตักข้าวให้ผู้คนในร้าน) พร้อมกับ พูดคุยกับ 2 คุณป้าวัยใสว่า...มาแล้วคร่าาาาาาา จานเปล่าของน้องหมา วันนี้น้องทานข้าวหน้าเป็ดกับคุณแม่น่ะค่ะ น้องหิวไหม รอแปร๊บนะค่ะ (เราคิดในใจ...หากน้องหมาพูดได้เหมือนคน น้องหมาก็คงตอบใส้ลูกสาวเจ๊เจ้าของร้านว่า...เป็ดย่างอร่อย)
เราเห็นทุกอากัปกริยาเช่นนั้น ก็รีบเรียกอาแปะเจ้าของร้านเก็บตังค์ โดยที่ยังมีเป็ดและข้าวเหลือเต็ม จาน และมีเสียงอาแปะเจ้าของร้านถามว่า ทำไมวันนี้กินไม่หมด เห็นทุกครั้งจะต้องสั่งเบิ้นอีก 1 จาน (ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งร้านโปรดที่เราเลือกฝากท้องไว้กับ ร้านข้าวหน้าเป็ดย่าง) เราเลือกไม่ตอบอาแปะ แต่ส่งยิ้มอ่อนๆให้พร้อมกับเดินออกจากร้านไปในทันที ระหว่างทางก้าวเดินเราก็เกิดคำถามขึ้นในใจไปพร้อมๆกับตั้งปฏิญาณกับตนเองว่า !....นี่คงจะเป็นข้าวหน้าเป็ดย่างจานสุดท้ายของเราแล้วสินะสำหรับร้านเจ้า ประจำร้านนี้
เหตุผลคือ...แสดงว่าที่ผ่านมา (กี่ปี่ก็ไม่รู้) เรากินจานข้าวหน้าเป็ดย่างร่วมกับจานข้าวหน้าเป็ดย่างของน้องหมายั้งงั้นรึ เนี่ย แต่ประเด็นที่รับไม่ได้ก็คือ เพราะเหตุไร ???!!! ทั้งอาแปะ อาเจ๊ และลูกสาวไม่มีวิจารณญานในการขายของว่าอะไรควร หรือไม่ควร ที่เอาจานข้าวคนไปใช้ร่วมกับน้องหมา รวมถึงความไม่เหมาะสมของ 2 คุณป้าวัยใสที่ใช้จานข้าวคนร่วมกับจานข้าวน้องหมา เพราะตามความเป็นจริงแล้วหากคุณอุ้มน้องหมาเข้าร้านอาหาร คุณควรเตรียมภาชนะส่วนตัวของน้องหมามาด้วยทุกครั้ง นี่ตังหากคือความไม่เหมาะสมของผู้เป็นเจ้าของน้องหมา และความไม่เหมาะสมของเจ้าของร้านที่ต้องแยกแยะให้ออกว่า คุณกำลังขายข้าวหน้าเป็ดย่างให้ผู้คนรับประทาน หรือ ขายข้าวหน้าเป็ดย่างให้น้องหมา
ร้านข้าวหน้าเป็ดย่างนี้ เป็นร้านเจ้าอร่อยที่เราผูกขาดมานานหลายสิบปี เป็นตึกแถวริมถนนสุเทพหลังมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานที่เราต้องตัดใจลาขาด ส่วนลูกค้าโต๊ะอื่นที่กำลังตักข้าวหน้าเป็ดย่างจะรู้สึกเหมือนเราหรือไม่ นั้น!!!.... เราไม่ทราบ ???... เพราะเราเดินออกจากร้านไปแล้ว แต่ก็แอบใจคิดว่า...หลายคนคงจะคิดเหมือนเรา และ เราก็คงคิดถึงข้าวหน้าเป็ดย่างชิ้นโตๆ คิดถึงอัธยาศัยไมตรีของอาแปะ กับ อาเจ๊ ไปอีกนานแสนนาน ...ลาก่อน...เป็ดย่างน้ำผึ้ง...ย่านสุเทพ
รู้สึกอย่างไร ? เมื่อต้องคุณต้องกินจานข้าว+ช้อน ส้อม ร่วมกับน้องหมา
ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อจู่ๆมี 2 หญิงสาวกลางวัยคุณป้า แต่งตัวคิขุอาโนะเนะกระชากวัยใส อุ้มน้องหมาเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับสั่งข้าวหน้าเป็ดย่างสำหรับ 2 คุณป้า จากนั้นก็พูดเสียงดังฟังชัด...น้องหิว น้องหิวจังเลย นู๋ทานข้าวหน้าเป็ดกับคุณแม่นะค่ะคุณลูกขา โดยมีเสียงคุณป้าวัยใสร้องตะโกนสั่งข้าวหน้าเป็ดเพิ่มอีกจานสำหรับน้องหมา
ในระหว่างรอข้าวหน้าเป็ดที่อาเจ๊คนขายกำลังสับเป็ดย่างดังดป๊ก โป๊ก เพื่อโป๊ะลงไปบนจานข้าว ก็มีลูกสาวของอาเจ๊คนขายเดินถือจานเมลามีนทรงกลมมา 1 ใบ (จานเปล่าที่วางเรียงซ้อนกันเป็นแถวสำหรับตักข้าวให้ผู้คนในร้าน) พร้อมกับ พูดคุยกับ 2 คุณป้าวัยใสว่า...มาแล้วคร่าาาาาาา จานเปล่าของน้องหมา วันนี้น้องทานข้าวหน้าเป็ดกับคุณแม่น่ะค่ะ น้องหิวไหม รอแปร๊บนะค่ะ (เราคิดในใจ...หากน้องหมาพูดได้เหมือนคน น้องหมาก็คงตอบใส้ลูกสาวเจ๊เจ้าของร้านว่า...เป็ดย่างอร่อย)
เราเห็นทุกอากัปกริยาเช่นนั้น ก็รีบเรียกอาแปะเจ้าของร้านเก็บตังค์ โดยที่ยังมีเป็ดและข้าวเหลือเต็ม จาน และมีเสียงอาแปะเจ้าของร้านถามว่า ทำไมวันนี้กินไม่หมด เห็นทุกครั้งจะต้องสั่งเบิ้นอีก 1 จาน (ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งร้านโปรดที่เราเลือกฝากท้องไว้กับ ร้านข้าวหน้าเป็ดย่าง) เราเลือกไม่ตอบอาแปะ แต่ส่งยิ้มอ่อนๆให้พร้อมกับเดินออกจากร้านไปในทันที ระหว่างทางก้าวเดินเราก็เกิดคำถามขึ้นในใจไปพร้อมๆกับตั้งปฏิญาณกับตนเองว่า !....นี่คงจะเป็นข้าวหน้าเป็ดย่างจานสุดท้ายของเราแล้วสินะสำหรับร้านเจ้า ประจำร้านนี้
เหตุผลคือ...แสดงว่าที่ผ่านมา (กี่ปี่ก็ไม่รู้) เรากินจานข้าวหน้าเป็ดย่างร่วมกับจานข้าวหน้าเป็ดย่างของน้องหมายั้งงั้นรึ เนี่ย แต่ประเด็นที่รับไม่ได้ก็คือ เพราะเหตุไร ???!!! ทั้งอาแปะ อาเจ๊ และลูกสาวไม่มีวิจารณญานในการขายของว่าอะไรควร หรือไม่ควร ที่เอาจานข้าวคนไปใช้ร่วมกับน้องหมา รวมถึงความไม่เหมาะสมของ 2 คุณป้าวัยใสที่ใช้จานข้าวคนร่วมกับจานข้าวน้องหมา เพราะตามความเป็นจริงแล้วหากคุณอุ้มน้องหมาเข้าร้านอาหาร คุณควรเตรียมภาชนะส่วนตัวของน้องหมามาด้วยทุกครั้ง นี่ตังหากคือความไม่เหมาะสมของผู้เป็นเจ้าของน้องหมา และความไม่เหมาะสมของเจ้าของร้านที่ต้องแยกแยะให้ออกว่า คุณกำลังขายข้าวหน้าเป็ดย่างให้ผู้คนรับประทาน หรือ ขายข้าวหน้าเป็ดย่างให้น้องหมา
ร้านข้าวหน้าเป็ดย่างนี้ เป็นร้านเจ้าอร่อยที่เราผูกขาดมานานหลายสิบปี เป็นตึกแถวริมถนนสุเทพหลังมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานที่เราต้องตัดใจลาขาด ส่วนลูกค้าโต๊ะอื่นที่กำลังตักข้าวหน้าเป็ดย่างจะรู้สึกเหมือนเราหรือไม่ นั้น!!!.... เราไม่ทราบ ???... เพราะเราเดินออกจากร้านไปแล้ว แต่ก็แอบใจคิดว่า...หลายคนคงจะคิดเหมือนเรา และ เราก็คงคิดถึงข้าวหน้าเป็ดย่างชิ้นโตๆ คิดถึงอัธยาศัยไมตรีของอาแปะ กับ อาเจ๊ ไปอีกนานแสนนาน ...ลาก่อน...เป็ดย่างน้ำผึ้ง...ย่านสุเทพ