สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
จะบอกว่าวลีนี้ใช่ครับ ขยันผิดที่ผิดทางไม่มีทางรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นลูกจ้างแล้วจะไม่รวยนะครับ บางคนการศึกษาดีมาก ย้ำนะครับว่าการศึกษาต้องดีมาก การเป็นลูกจ้างทำงานกินเงินเดือน สบายกว่ามากแล้วก็เก็บเงินได้เยอะแยะ แต่บางคนการศึกษาไม่ได้ดีมากแค่ระดับกลางลงไป ทำงานไปกินเงินเดือนเล็กน้อย ๆ ตลอดจะหวังรวยไม่มีทาง ที่ผมจะบอกว่าการศึกษาดีมันเปลี่ยนฐานะได้จริงให้ดูคนที่การศึกษาดีมากทำงานแล้วสามารถเปลี่ยนฐานะจากชนชั้นล่างมาสู่ชนชั้นกลางได้ในเวลาไม่นานนั่นละครับ จึงจะเรียกได้ว่าพวกการศึกษาดี นั่นละครับ เช่น
1. ครอบครัวแฟนผม ไม่ได้ร่ำรวยนะครับ ลำบากยากจนมาก่อน ติดหนี้เยอะ พ่อตาเกษียณได้เงินก้อนมาก็ต้องเอาไปใช้หนี้ แต่ลูก ๆ เขาการศึกษาดีทุกคนเป็นนายทหาร จบเตรียมทหารคนนึง ตอนนี้ระดับชั้นกลางไปแล้ว แฟนผมจบทางด้านสายสุขภาพมาแต่งงานกับผมช่องทางทำมาหากินเยอะ มาแต่งงานกับผมก็สร้างฐานะกันจนขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง น้องสาวแฟนก็จบมหาลัยได้งานเป็นเลขาแล้วลาออกมาแต่งงานกับเจ้าของธุรกิจก่อสร้างรายเล็ก ๆ มูลค่า 100 ล้าน
2. ถ้าการศึกษาไม่ดี ทำงานไปจะเห็นว่าเปลี่ยนฐานะครอบครัวไม่ได้ การศึกษาจะดีไม่ดีดูแค่ว่าสามารถเปลี่ยนฐานะได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง เราจะเห็นได้ว่าคนจบการศึกษาดีหลาย ๆคนเงินเดือนค่าตอบแทนสูง ชีวิตจะเปลี่ยนไปอีกแบบนึงเลย นั่นละที่ผมบอกว่าการศึกษาดี
ผมขอนุญาตเล่าชีวิตส่วนตัวนิดหน่อยให้ ผมเคยตั้งกระทู้มาแล้ว มีใคร จบ ป.ตรีไม่โดดเด่น แต่เงินเดือนตอนนี้เกิน 2 แสนบ้างครับ
https://pantip.com/topic/37029020 คำตอบคือ ปัจจุบันนี้แทบไม่มีแล้วที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ เรียน ป.ตรีธรรมดา หรือโทแบบธรรมดา จะก้าวไปถึงเงินเดือนเกิน 2 แสน คิดว่าไม่มีทางครับ ถ้าหลักแสนสำหรับ ป.ตรีทั่วไปมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ถ้าเกิน 2 แสนคงไม่มีแล้ว
[code]เหตุที่ผมมาตั้งคำถามแบบนี้
ในอดีตตั้งแต่ผมทำงานบริษัทระดับใหญ่ ผมก็เห็นคนกลุ่มนี้ที่ผมแจ้งไว้ด้านบนมีรายได้ ฐานะหน้าที่การงานดี
คนกลุ่มอื่น โปรไฟล์ธรรมดาจะให้ไปถึงจุดนั้นยากมากหรือไม่มีโอกาสเลย ผมก็ได้รับการสั่งสอนมาจากหัวหน้างานที่มีความสามารถ แต่ผมมองตัวเองการจะไปถึงจุดนั้น สำหรับเรายากมาก คนเงินเดือน 2 แสน - 5 แสน มีเยอะครับไม่เถียงผมก็เห็นอยู่ทุกวัน เพียงแต่มันไม่ใช่เรา เรื่องพวกนี้ให้เราลองถามตัวเองก็จะรู้ว่าเรามีโอกาสไปยืนอยู่จุดนั้นไหม เรื่องงานทำเต็มที อาจมีอู้บ้างพักบ้าง ธรรมดาครับ ผมเองสมัยก่อนก็อยากมีรายได้เหมือนคนอื่นเขาอยากมีเงินเดือนหลักแสนแบบเค้า แต่เรามองโปรไฟล์ตัวเอง คำตอบคือมันไม่ได้ครับที่จะไปยืนแถวหน้าเงินเดือน 2 แสน up เพราะฉะนั้นผมเลยเปลี่ยนวิธีคิดครับ คือทำงานเต็มที่เหมือนเดิม แต่ไม่แสดงออกเกินหน้าที่มากเกินไป วันหยุดคือหยุด ลาพักร้อนก็ต้องตามสิทธิ์ เรื่องความก้าวหน้าและตำแหน่งไม่เคยคิดหวังอีกเลยจะได้ไม่ผิดหวัง เพราะขยับเป็นแค่ ผจก เงินเดือนก็อยู่ระดับไม่เกิน 1 แสนบวกลบ แต่วันนี้เราทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ในฐานะลูกจ้างเท่านั้นพอ ผจก ให้งานอะไรมาทำหมด ไม่เกี่ยง ให้ไปทำงานภาคสนามแดดร้อนก็ไม่บ่นครับ แต่ให้พรีเซนต์หรือเสนอผลงานขอผ่านครับไม่อยากปวดหัว เราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เราก้าวไปไม่ถึง แต่ให้เรียนรู้ในสิ่งที่เราจะทำงานเพื่อหาเงินวันนี้ดีกว่า
ในเมื่อเราอยากมีรายได้แบบนั้นเกิน 2 แสน แต่การเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่มีทางถึงจุดนั้นแน่ผมก็เลยทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ลองผิดลองถูกเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตั้งตัวได้ในที่สุด วันนี้ผมมีรายได้เกินเดือนละ 2 แสนบาทแล้ว ผมไม่ได้มาขายของ ขายตรง หรือมาหาแชร์ลูกโซ่ ผมแนะนำคนอื่นเสมออย่าเสียเวลาไปขายตรงหรือขายครีม สุดท้ายคุณจะรู้ว่าเสียไปทั้งเวลาหรืออาจเสียเพื่อนไปด้วย และผมก็แนะนำลูกน้องผมเสมอเพราะวันนี้ผมก็ยังทำงานบริษัทอยู่ คุณมีโอทีก็ทำไปอย่าเสียเวลาไปเฉย ๆ อย่างน้อยก็มีรายได้ ถ้าไม่มีโอทีก็รีบกลับบ้านจะมานั่งอยู่บริษัททำไม แต่ถ้ามีโอกาสหารายได้นอกเหนือจากโอทีก็รีบไปทำ ลูกน้องผมหลายคนก็ขับวิน ขับแท๊กซี่ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายลูกชิ้น ขายผลไม้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เดี๋ยวนี้ผมหารายได้ส่วนตัวได้เยอะควบคู่กับทำงานบริษัท หัวหน้าใช้อะไรมาเราก็ทำหมด ทำเต็มที่ในส่วนของเรานั่นละ แต่ถ้าหัวหน้าใช้เราไปทำงาน ต่างประเทศ เราเคยปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง เราบอกเขาว่าเราติดเรื่องทำงานที่บ้านมีภาระต้องดูแล ไม่สามารถไปทำงานตปท ได้
จนตอนหลังหัวหน้าก็เลยให้คนอื่นไป งานบริษัทก็หน้าที่นึง บริบทคือคุณต้องทำหน้าที่นั้นไป พอจบก็เลิกกันในฐานะลูกจ้าง สิ่งสำคัญคือตัวเอง
การพัฒนาตนเองนะใช่ คนเราจะหยุดพัฒนาได้ไงจริงมะ แต่ควรดูบริบทตัวเองให้ดีควรพัฒนาด้านไหนให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น คนเรามีทางเลือกให้เดินหลายทางเลือกให้เหมาะกับตัวเองดีที่สุด สิ่งสำคัญดูโปรไฟล์ดูความสามารถตัวเองเป็นหลัก เราทำอะไรทำได้แค่ไหนอย่าไปดูคนอื่น คนอื่นเงินเดือน 2 แสนขึ้นมีเยอะเรามีโอกาสไปยืนที่ของเขาได้หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องหาทางพัฒนาตนเองแต่จะพัฒนาแบบไหน นั่นละส่องกระจกพัฒนาตนเองให้ถูกที่ถูกทางจะดีที่สุด เราตามคนโปรไฟล์สูงไม่ได้ทั้งหมดหรอกแต่พอเป็นแนวอ่ะได้ [/code]
มีเวลาเดี๋ยวมาเล่าต่อ
1. ครอบครัวแฟนผม ไม่ได้ร่ำรวยนะครับ ลำบากยากจนมาก่อน ติดหนี้เยอะ พ่อตาเกษียณได้เงินก้อนมาก็ต้องเอาไปใช้หนี้ แต่ลูก ๆ เขาการศึกษาดีทุกคนเป็นนายทหาร จบเตรียมทหารคนนึง ตอนนี้ระดับชั้นกลางไปแล้ว แฟนผมจบทางด้านสายสุขภาพมาแต่งงานกับผมช่องทางทำมาหากินเยอะ มาแต่งงานกับผมก็สร้างฐานะกันจนขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง น้องสาวแฟนก็จบมหาลัยได้งานเป็นเลขาแล้วลาออกมาแต่งงานกับเจ้าของธุรกิจก่อสร้างรายเล็ก ๆ มูลค่า 100 ล้าน
2. ถ้าการศึกษาไม่ดี ทำงานไปจะเห็นว่าเปลี่ยนฐานะครอบครัวไม่ได้ การศึกษาจะดีไม่ดีดูแค่ว่าสามารถเปลี่ยนฐานะได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง เราจะเห็นได้ว่าคนจบการศึกษาดีหลาย ๆคนเงินเดือนค่าตอบแทนสูง ชีวิตจะเปลี่ยนไปอีกแบบนึงเลย นั่นละที่ผมบอกว่าการศึกษาดี
ผมขอนุญาตเล่าชีวิตส่วนตัวนิดหน่อยให้ ผมเคยตั้งกระทู้มาแล้ว มีใคร จบ ป.ตรีไม่โดดเด่น แต่เงินเดือนตอนนี้เกิน 2 แสนบ้างครับ
https://pantip.com/topic/37029020 คำตอบคือ ปัจจุบันนี้แทบไม่มีแล้วที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ เรียน ป.ตรีธรรมดา หรือโทแบบธรรมดา จะก้าวไปถึงเงินเดือนเกิน 2 แสน คิดว่าไม่มีทางครับ ถ้าหลักแสนสำหรับ ป.ตรีทั่วไปมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ถ้าเกิน 2 แสนคงไม่มีแล้ว
[code]เหตุที่ผมมาตั้งคำถามแบบนี้
ในอดีตตั้งแต่ผมทำงานบริษัทระดับใหญ่ ผมก็เห็นคนกลุ่มนี้ที่ผมแจ้งไว้ด้านบนมีรายได้ ฐานะหน้าที่การงานดี
คนกลุ่มอื่น โปรไฟล์ธรรมดาจะให้ไปถึงจุดนั้นยากมากหรือไม่มีโอกาสเลย ผมก็ได้รับการสั่งสอนมาจากหัวหน้างานที่มีความสามารถ แต่ผมมองตัวเองการจะไปถึงจุดนั้น สำหรับเรายากมาก คนเงินเดือน 2 แสน - 5 แสน มีเยอะครับไม่เถียงผมก็เห็นอยู่ทุกวัน เพียงแต่มันไม่ใช่เรา เรื่องพวกนี้ให้เราลองถามตัวเองก็จะรู้ว่าเรามีโอกาสไปยืนอยู่จุดนั้นไหม เรื่องงานทำเต็มที อาจมีอู้บ้างพักบ้าง ธรรมดาครับ ผมเองสมัยก่อนก็อยากมีรายได้เหมือนคนอื่นเขาอยากมีเงินเดือนหลักแสนแบบเค้า แต่เรามองโปรไฟล์ตัวเอง คำตอบคือมันไม่ได้ครับที่จะไปยืนแถวหน้าเงินเดือน 2 แสน up เพราะฉะนั้นผมเลยเปลี่ยนวิธีคิดครับ คือทำงานเต็มที่เหมือนเดิม แต่ไม่แสดงออกเกินหน้าที่มากเกินไป วันหยุดคือหยุด ลาพักร้อนก็ต้องตามสิทธิ์ เรื่องความก้าวหน้าและตำแหน่งไม่เคยคิดหวังอีกเลยจะได้ไม่ผิดหวัง เพราะขยับเป็นแค่ ผจก เงินเดือนก็อยู่ระดับไม่เกิน 1 แสนบวกลบ แต่วันนี้เราทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ในฐานะลูกจ้างเท่านั้นพอ ผจก ให้งานอะไรมาทำหมด ไม่เกี่ยง ให้ไปทำงานภาคสนามแดดร้อนก็ไม่บ่นครับ แต่ให้พรีเซนต์หรือเสนอผลงานขอผ่านครับไม่อยากปวดหัว เราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เราก้าวไปไม่ถึง แต่ให้เรียนรู้ในสิ่งที่เราจะทำงานเพื่อหาเงินวันนี้ดีกว่า
ในเมื่อเราอยากมีรายได้แบบนั้นเกิน 2 แสน แต่การเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่มีทางถึงจุดนั้นแน่ผมก็เลยทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ลองผิดลองถูกเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตั้งตัวได้ในที่สุด วันนี้ผมมีรายได้เกินเดือนละ 2 แสนบาทแล้ว ผมไม่ได้มาขายของ ขายตรง หรือมาหาแชร์ลูกโซ่ ผมแนะนำคนอื่นเสมออย่าเสียเวลาไปขายตรงหรือขายครีม สุดท้ายคุณจะรู้ว่าเสียไปทั้งเวลาหรืออาจเสียเพื่อนไปด้วย และผมก็แนะนำลูกน้องผมเสมอเพราะวันนี้ผมก็ยังทำงานบริษัทอยู่ คุณมีโอทีก็ทำไปอย่าเสียเวลาไปเฉย ๆ อย่างน้อยก็มีรายได้ ถ้าไม่มีโอทีก็รีบกลับบ้านจะมานั่งอยู่บริษัททำไม แต่ถ้ามีโอกาสหารายได้นอกเหนือจากโอทีก็รีบไปทำ ลูกน้องผมหลายคนก็ขับวิน ขับแท๊กซี่ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายลูกชิ้น ขายผลไม้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เดี๋ยวนี้ผมหารายได้ส่วนตัวได้เยอะควบคู่กับทำงานบริษัท หัวหน้าใช้อะไรมาเราก็ทำหมด ทำเต็มที่ในส่วนของเรานั่นละ แต่ถ้าหัวหน้าใช้เราไปทำงาน ต่างประเทศ เราเคยปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง เราบอกเขาว่าเราติดเรื่องทำงานที่บ้านมีภาระต้องดูแล ไม่สามารถไปทำงานตปท ได้
จนตอนหลังหัวหน้าก็เลยให้คนอื่นไป งานบริษัทก็หน้าที่นึง บริบทคือคุณต้องทำหน้าที่นั้นไป พอจบก็เลิกกันในฐานะลูกจ้าง สิ่งสำคัญคือตัวเอง
การพัฒนาตนเองนะใช่ คนเราจะหยุดพัฒนาได้ไงจริงมะ แต่ควรดูบริบทตัวเองให้ดีควรพัฒนาด้านไหนให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น คนเรามีทางเลือกให้เดินหลายทางเลือกให้เหมาะกับตัวเองดีที่สุด สิ่งสำคัญดูโปรไฟล์ดูความสามารถตัวเองเป็นหลัก เราทำอะไรทำได้แค่ไหนอย่าไปดูคนอื่น คนอื่นเงินเดือน 2 แสนขึ้นมีเยอะเรามีโอกาสไปยืนที่ของเขาได้หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องหาทางพัฒนาตนเองแต่จะพัฒนาแบบไหน นั่นละส่องกระจกพัฒนาตนเองให้ถูกที่ถูกทางจะดีที่สุด เราตามคนโปรไฟล์สูงไม่ได้ทั้งหมดหรอกแต่พอเป็นแนวอ่ะได้ [/code]
มีเวลาเดี๋ยวมาเล่าต่อ
แสดงความคิดเห็น
ขยันผิดที่10ปีก็ไม่รวย ใครมีโมเม้นอย่างนี้บ้าง เมื่อรู้ตัวแล้ว หาทางออกจุดนี้ในปีที่เท่าไหร่ ผลเป็นยังไง
แล้วคุณละ อยู่ต่อปีที่ 11 จนเกษียณ
หรือเลือกเดินออกจากจุดนี้ในปีที่ 11 กันบ้าง
ลองมาเล่ามาแชร์กันหน่อยเป็นไร
ว่าอยู่ต่อแล้วเป็นไง
ออกมาแล้วเป็นไง