อยากชวนเพื่อนๆสมาชิกมาแชร์ ชีวิตหลังเกษียณหรือออกจากงานประจำ หลังจากคร่ำเคร่งทำงาน
กันมานานหลายสิบปี เป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ไหมครับ 5555 ผมว่าหลายท่าน
คงไม่เป็นไปดังที่หวังไว้ ไม่เป็นไรนะครับ เพราะสิ่งที่ผมคิดไว้ กับสิ่งที่เป็นจริงในเวลาต่อมาก็ไม่เหมือนกันมากนัก
แนะนำตัวเองก่อนว่าผมรับราชการอยู่ใน กทม. มานาน 30 ปี ยื่นใบลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 2-3 ปี
เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพครับ ยื่นใบลาออกธันวาคม ปี 67 ใบลาออกมีผล 1 มกราคม 68 ใช่แล้วครับ
ผมได้ลาออกจากราชการมาเกือบ 1 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้คิดทบทวนอยู่นานพอสมควรว่าเราควรออกมาพักผ่อน
ดูแลสุขภาพตัวเอง ดูแลครอบครัวดีไหม ผมจะไม่ต้องตื่นเช้าๆ ชับรถมาไกล 30 กม. เพื่อมาทำงานและส่งลูกมาเรียน
สิ่งที่ผมหวั่นเกรงคือผมจะทนเหงาไหวไหมนะ เพราะภรรยากับลูกจะต้องออกมาพร้อมกันในตอนเช้า
และรอกลับบ้านพร้อมกันอีกในตอนค่ำ แน่นอนว่าต่อไปนี้ผมต้องอยู่บ้านคนเดียวจนกว่าคนในครอบครัวจะกลับมาบ้าน
แต่เนื่องจาก หน่วยงานที่ผมทำงานและงานที่รับผิดชอบได้หล่อหลอมให้ผมอยู่กับตัวเองได้ ก่อนหน้านี้ผมไปทานกลางวันคนเดียวบ่อยๆ
และผมได้เตรียมตัวมาพอสมควร กับการลาออกจากราชการในครั้งนี้ คือวางแผนออกกำลังกายในตอนเช้าและเย็น
ภายในหมู่บ้าน การได้อยู่กับตัวเองนานๆขนาดนี้ ทำให้ผมค้นพบอะไรบางอย่าง สิ่งที่เราคิดสิ่งที่วาดภาพไว้
ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ได้แย่นี่นา ผมพบว่าสิ่งที่ผู้เกษียณหรือออกจากงานก่อนครบกำหนดนั้น
ต้องระวังไว้มีเพียงสองสามเรื่องเท่านั้น คือ เรื่องการออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ต้องพยายามทำให้ได้ต่อเนื่อง
เพราะตอนนี้เรามีเวลาแล้วล่ะ สองคือ หาอะไรเล็กๆน้อยๆทำ อย่าปล่อยให้ว่างเกินไปนัก สิ่งที่ทำนั้นไม่จำเป็นต้องได้เงินทอง
อาจเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข เช่น ปลูกต้นไม้รดน้ำต้นไม้ สะสมแสตมป์ ดูแลซ่อมแซมบ้าน ทำความสะอาด
แรกๆยอมรับว่าไม่ชินกับชีวิตแบบนี้เลย ภรรยาโทรมาคุยด้วยบ่อยๆกลัวว่าผมจะเหงา
แต่พอเห็นผมเป็นปกติ เธอก็เบาใจ เนื่องจากผมชอบฟังและดูข่าวการเมืองพอเกิดกรณีไทย - กัมพูชา
ทำให้ชีวิตมีสีสรรมากขึ้น พลอยลุ้นไปกับเขาด้วย อยากบอกเพื่อนสมาชิกที่อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะออกมาพักดี
หรือทนทำงานไปจนเกษียณครบกำหนดตามวาระ หากท่านได้วางแผนเรื่องสุขภาพ การปรับตัว การปล่อยวาง
หรือปลดปลงภาระต่างๆลง ท่านจะออกมาอย่างสบายใจ สักพักท่านจะปรับตัวได้เองและอาจจะเริ่มมองหาอะไรใหม่ๆที่ท้าทายทำดู
สำหรับผมกับงานราชการ ถือว่าพอแล้ว บางที บางทีนะครับเราไม่ต้องประสบความสำเร็จทุกอย่าง
เราก็สามารถมีความสุขได้ครับ เชื่อผมเถอะว่าไม่มีใครสนใจเราเท่าตัวเราเองหรอก ทำอะไรแล้วไม่ได้เดือดร้อนใครก็ทำได้เลยครับ
ไม่ต้องคิดมาก ทำใจสบายๆ
ตบท้ายข้อเขียนนี้ อยากบอกทุกท่านว่า ชีวิตเป็นของเราเอง ใช้ซะ
ว่างๆก็หาเวลาไปพักผ่อนตามธรรมชาติบ้าง ช่วงนี้อากาศเย็นลงเป็นใจให้ออกไปเที่ยวเสียด้วยสิครับ
เพื่อนๆสมาชิก มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างครับ ขอให้เดินทางท่องเที่ยวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โชคดีนะครับ
ชีวิตหลังเกษียณ เป็นแบบนี้เอง หลังออกจากงานหรือเกษียณเป็นอย่างไรกันบ้างเหมือนที่คิดไว้ไหมครับ
กันมานานหลายสิบปี เป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ไหมครับ 5555 ผมว่าหลายท่าน
คงไม่เป็นไปดังที่หวังไว้ ไม่เป็นไรนะครับ เพราะสิ่งที่ผมคิดไว้ กับสิ่งที่เป็นจริงในเวลาต่อมาก็ไม่เหมือนกันมากนัก
แนะนำตัวเองก่อนว่าผมรับราชการอยู่ใน กทม. มานาน 30 ปี ยื่นใบลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 2-3 ปี
เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพครับ ยื่นใบลาออกธันวาคม ปี 67 ใบลาออกมีผล 1 มกราคม 68 ใช่แล้วครับ
ผมได้ลาออกจากราชการมาเกือบ 1 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้คิดทบทวนอยู่นานพอสมควรว่าเราควรออกมาพักผ่อน
ดูแลสุขภาพตัวเอง ดูแลครอบครัวดีไหม ผมจะไม่ต้องตื่นเช้าๆ ชับรถมาไกล 30 กม. เพื่อมาทำงานและส่งลูกมาเรียน
สิ่งที่ผมหวั่นเกรงคือผมจะทนเหงาไหวไหมนะ เพราะภรรยากับลูกจะต้องออกมาพร้อมกันในตอนเช้า
และรอกลับบ้านพร้อมกันอีกในตอนค่ำ แน่นอนว่าต่อไปนี้ผมต้องอยู่บ้านคนเดียวจนกว่าคนในครอบครัวจะกลับมาบ้าน
แต่เนื่องจาก หน่วยงานที่ผมทำงานและงานที่รับผิดชอบได้หล่อหลอมให้ผมอยู่กับตัวเองได้ ก่อนหน้านี้ผมไปทานกลางวันคนเดียวบ่อยๆ
และผมได้เตรียมตัวมาพอสมควร กับการลาออกจากราชการในครั้งนี้ คือวางแผนออกกำลังกายในตอนเช้าและเย็น
ภายในหมู่บ้าน การได้อยู่กับตัวเองนานๆขนาดนี้ ทำให้ผมค้นพบอะไรบางอย่าง สิ่งที่เราคิดสิ่งที่วาดภาพไว้
ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ได้แย่นี่นา ผมพบว่าสิ่งที่ผู้เกษียณหรือออกจากงานก่อนครบกำหนดนั้น
ต้องระวังไว้มีเพียงสองสามเรื่องเท่านั้น คือ เรื่องการออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ต้องพยายามทำให้ได้ต่อเนื่อง
เพราะตอนนี้เรามีเวลาแล้วล่ะ สองคือ หาอะไรเล็กๆน้อยๆทำ อย่าปล่อยให้ว่างเกินไปนัก สิ่งที่ทำนั้นไม่จำเป็นต้องได้เงินทอง
อาจเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข เช่น ปลูกต้นไม้รดน้ำต้นไม้ สะสมแสตมป์ ดูแลซ่อมแซมบ้าน ทำความสะอาด
แรกๆยอมรับว่าไม่ชินกับชีวิตแบบนี้เลย ภรรยาโทรมาคุยด้วยบ่อยๆกลัวว่าผมจะเหงา
แต่พอเห็นผมเป็นปกติ เธอก็เบาใจ เนื่องจากผมชอบฟังและดูข่าวการเมืองพอเกิดกรณีไทย - กัมพูชา
ทำให้ชีวิตมีสีสรรมากขึ้น พลอยลุ้นไปกับเขาด้วย อยากบอกเพื่อนสมาชิกที่อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะออกมาพักดี
หรือทนทำงานไปจนเกษียณครบกำหนดตามวาระ หากท่านได้วางแผนเรื่องสุขภาพ การปรับตัว การปล่อยวาง
หรือปลดปลงภาระต่างๆลง ท่านจะออกมาอย่างสบายใจ สักพักท่านจะปรับตัวได้เองและอาจจะเริ่มมองหาอะไรใหม่ๆที่ท้าทายทำดู
สำหรับผมกับงานราชการ ถือว่าพอแล้ว บางที บางทีนะครับเราไม่ต้องประสบความสำเร็จทุกอย่าง
เราก็สามารถมีความสุขได้ครับ เชื่อผมเถอะว่าไม่มีใครสนใจเราเท่าตัวเราเองหรอก ทำอะไรแล้วไม่ได้เดือดร้อนใครก็ทำได้เลยครับ
ไม่ต้องคิดมาก ทำใจสบายๆ
ตบท้ายข้อเขียนนี้ อยากบอกทุกท่านว่า ชีวิตเป็นของเราเอง ใช้ซะ
ว่างๆก็หาเวลาไปพักผ่อนตามธรรมชาติบ้าง ช่วงนี้อากาศเย็นลงเป็นใจให้ออกไปเที่ยวเสียด้วยสิครับ
เพื่อนๆสมาชิก มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างครับ ขอให้เดินทางท่องเที่ยวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โชคดีนะครับ